"มะละกาเมืองเก่าซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวของประวัติศาสตร์ นำท่านเดินทางไปชมความงดงามของ Stadthuys ,Victoria Fountain, Christ Church หอนาฬิกา กังหันแถบ Duch Square และย่านอาณาจักรสีแดง ซึ่งเคยเป็นดินแดนของดัตช์ จากนั้น นำท่านเดินขึ้นเขา St. Paul Hill สักการะรูปปั้นนักบุญ St Fracis ที่ศักดิ์สิทธิ์ ชมทิวทัศน์บนยอดเขา ดูจุดยุทธศาสตร์จากยอดเขา จากนั้นเดินลงจากเขาชมป้อม A Famosa นำท่านเดินชมย่านของเก่าบน ถนน Jonker Street ชมย่านการค้าผสมผสาน บนถนนเดียวกัน ชมวัดจีนที่เก่าแก่ที่สุดในมาเลเซีย Cheng Hoon Teng Temple จากนั้นก่อนอำลามะละกา"
"นำท่านสัมผัสร่องรอยอารยธรรมของชาติต่างๆ ที่เคยปกครองดินแดนแห่งนี้ ชม Dutch Square อดีตย่านที่อยู่ของชาวฮอลันดา ชมความงดงามของ Stadthuys, Victoria Fountain, Christ Church จากนั้นนำท่านชมทัศนียภาพของช่องแคบมะละกา จากเนินเขา St. Paul Hill และสักการะรูปปั้นนักบุญเซนต์ฟรานซิสซาเวียร์อันศักดิ์สิทธิ์ ที่วิหารเซนต์ปอล ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งร่างของท่าน ก่อนย้ายไปฝังที่เมืองกัว ประเทศอินเดีย ชมป้อมปืนใหญ่ เอฟาโมซา ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1511 หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองมะละกา"
ข้อความข้างต้นนี้ เราคัดลอกมาจากโปรแกรมเดินทางของบริษัทนำเที่ยวต่างๆ ที่นำเที่ยวประเทศมาเลเซีย โดยบรรจุเมืองมะละกาไว้ในโปรแกรมเพียง 1 วันจบ แต่ที่พวกเรา สาว (ไม่) น้อยทั้งสี่เดินทางมาเที่ยวกันเองนี้ ค้างในมะละกาเมืองเดียวทั้ง 3 คืนเลยที่เดียว วันแรก หมดไปกับการเดินทาง : Part I / Part II / Part III การเที่ยวชมเมือง จัดไว้ในวันที่ 2 และ 3 ส่วนวันสุดท้าย ตัวใครตัวมัน ตามอัธยาศัย
และเช้าแรก พวกเรากางแผนที่เลือกเที่ยวย่านชาวตะวันตก พื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำมะลากากันก่อน : Part IV
ใช้โทนสีอบอุ่นดีด้วยสิ