|
ทอดน่องท่อง "มะละกา" Part VII : พิพิธภัณฑ์แสตมป์
ความเดิมตอนที่แล้ว
อันว่าเมืองมะละกาแห่งนี้นั้น ตามประวัติศาสตร์แล้ว เคยเป็นศูนย์กลางการค้า เป็นเมืองท่าสำคัญของแผ่นดินสุวรรณภูมิ พ่อค้าวานิชทั้งชาวจีน ชาวอินเดีย และชาวอาหรับ ผู้ชำนาญการเดินเรือ ต่างแวะพักที่เมืองท่านี้ เพื่อหลบลมมรสุมที่เกิดขึ้นเสมอในฝั่งทะเลจีนใต้และอ่าวเบงกอล และใช้รอลมมรสุมแห่งฤดูกาล ที่จะช่วยพัดพาเรือทะเลให้เดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางได้
เมื่่อกระแสอำนาจทางตะวันตก พัดเข้ามากระหน่ำอย่างรุนแรง ทั้งโปรตุเกส ฮอลันดา และอังกฤษ เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและเศรษฐกิต รวมไปถึงแลกเปลี่ยนทางศิลปวัฒนธรรม และการแย่งยิงอำนาจครอบครองดินแดนมะละกาทำให้เมืองท่าที่เคยสงบ ..หยุดการเติบโตไปชั่วขณะนึง
ในปัจจบันนี้ อดีตที่เคยรุ่งเรือง ก็หวนคืนกลับมา ตามกระแสการท่องเที่ยว รัฐบาลประเทศมาเลเซียอาศัยเรื่องนี้ พัฒนาเมืองมะละกาขึ้น เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันหลากหลายของประเทศ "Malaysian's Multicultural City" อาคารและสิ่งปลูกสร้างจากอดีต ดัดแปลง ปรับปรุง และสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์มากมายหลายเรื่อง เรียงรายโดยรอบเนินเซนต์ปอลล์
หลังจากพวกเราทั้งสี่ อิ่มหนำสำราญกันถ้วนหน้าแล้ว ก็พากันออกเดินกันต่อ ตรงข้ามกับฟู้ดคอร์ทมีพิพิธภัณฑ์อะไรไม่รู้ (ในหนังสือคู่มือของเราไม่ได้ระบุไว้) มีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการลงทัณฑ์ (ประมาณนั้น) ค่าเข้าชมตั้ง 10 ริงกิต ..แพงไป ... ไม่เข้า อาคารติดกันคือ "พิพิธภัณฑ์แสตมป์" อันนี้สิ น่าสนใจ จ่ายคนละ 2 ริงกิต แล้วเข้าไปชมกันเถอะ
ภายในอาคาร 2 ชั้นแห่งนี้ จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับแสตมป์ของประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่แรกเริ่มเดิมทีมาจนถึงปัจจุบัน
วิธีการจัดแสดงแบบนี้ เราเรียกว่านิทรรศการ "แห้ง" คือมีเนื้อหาจัดทำกราฟฟิค สวยงาม เป็นแผ่นโปสเตอร์รูปแบบต่างๆ คนชมก็มีหน้าที่ อ่านเก็บสาระกันไป มีข้าวของหรือสิ่งสะสมจากอดีตให้ดูนิดๆ หน่อยๆ
ที่เราชอบมากคือ การจัดลิ้นชักแสดงแสตมป์ที่เคยจัดพิมพ์ใช้งาน แยกเป็นปีๆ นี่แหละ แม้จะไม่ใช้ทั้งหมดที่ออกให้แต่ละปี แต่ไอเดียการนำเสนอแบบนี้ ชอบค่ะ
นอกจากเรื่องแสตมป์ของประเทศมาเลเซียแล้ว ยังเล่าเรื่องการไปรษณีย์ในประเทศและระหว่างประเทศ รวมทั้งเรื่องราวของแสตมป์โลกด้วย
เรียกได้ว่า ..นักสะสมแสตมป์สามารถมาศึกษาประวัติของแสตมป์กันได้ที่นี่ มาที่เดียวได้รู้ทั้งโลกเลยด้วย รู้ถึงขั้นตอนการทำแสตมป์เลยด้วยนะ เพราะเขาจัดแสดงขั้นตอนการผลิตแสตมป์ในปัจจุบันให้ดูด้วย
ใช้เวลาตื่นเต้นกับวิธีการนำเสนอในพิพิธภัณฑ์ไปพักใหญ่ ..ก็เกือบชั่วโมงเลยล่ะ แล้วก็เลี้ยวเข้าไปดูในร้านค้าจำหน่ายแสตมป์ที่ระลึก ไม่ได้แสตมป์ของมะละกาหรือมาเลเซีย แต่ได้แสตมป์สะสมรูปปีนักษัตรของประเทศจีนมาแทน
เพื่อนเราชวนคนขายคุย..ได้ความรู้มาอีกว่า
Teh "O" / Kopi "O" ที่ได้เห็นตามร้านขายเครื่องดื่มนั้น หมายถึงว่า ชา หรือ กาแฟ แบบ "ไม่"ใส่นม นั่นเอง ... แม้จะรู้แล้ว แต่หลังจากนั้นพวกเราก็ยังมั่นคงกับ Teh อยู่ดี เพราะชาชงใส่นมแบบมาเลย์ อร่อยดี
ลุงคนขายคงไม่ค่อยมีใครหลงมาคุยด้วย แกก็เลยตอบทุกคำถาม ทั้งแนะนำร้านอาหาร แนะนำของฝากที่ควรซื้อให้ด้วย เสร็จสรรพ์ เห็นเวลาจะเลยไปมาก ...แสตมป์ก็ซื้อแล้ว ก็เลยโบกมือ bye bye ออกจากพิพิธภัณฑ์
โปรดติดตามตอนต่อไป
Create Date : 20 มกราคม 2553 |
Last Update : 20 มกราคม 2553 22:40:26 น. |
|
20 comments
|
Counter : 1369 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: nikanda วันที่: 21 มกราคม 2553 เวลา:0:08:29 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 21 มกราคม 2553 เวลา:7:17:47 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 21 มกราคม 2553 เวลา:19:12:00 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 21 มกราคม 2553 เวลา:21:42:04 น. |
|
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 21 มกราคม 2553 เวลา:23:32:49 น. |
|
โดย: นู๋เมี่ยง IP: 203.144.144.165 วันที่: 23 มกราคม 2553 เวลา:0:00:56 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 23 มกราคม 2553 เวลา:7:30:03 น. |
|
โดย: พลังชีวิต วันที่: 23 มกราคม 2553 เวลา:13:36:40 น. |
|
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 23 มกราคม 2553 เวลา:22:05:47 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 23 มกราคม 2553 เวลา:22:43:24 น. |
|
โดย: BeCoffee วันที่: 23 มกราคม 2553 เวลา:23:50:54 น. |
|
โดย: nikanda วันที่: 24 มกราคม 2553 เวลา:7:43:36 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 24 มกราคม 2553 เวลา:9:27:17 น. |
|
โดย: nikanda วันที่: 24 มกราคม 2553 เวลา:9:40:23 น. |
|
โดย: ไอซ์คุง (ปีศาจความฝัน ) วันที่: 25 มกราคม 2553 เวลา:1:23:14 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 14 มีนาคม 2553 เวลา:10:05:30 น. |
|
| |
|
นัทธ์ |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
|
|
|
|