<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
11 มกราคม 2553
 

ทอดน่องท่อง "มะละกา" - Part IV : เช้าแรกในมะละกา



ขออภัยเพื่อนร่วมเดินทาง "ผ่านตัวอักษร" ที่ทิ้งช่วง group blog นี้ไประยะนึง
กลับมาเล่าเรื่องต่อแล้วค่ะ
เผื่อจะลืมเรื่องก่อน คลิกไปอ่าน Part I / Part II / Part III


หลังจากเดินสำรวจห้างสรรพสินค้าและตัวเมืองมะละกายามค่ำคืนกันพอสมควรแล้ว
ก็แยกย้ายกันเข้าห้องพัก ความที่ไม่มีกำหนดการอะไรตายตัวสำหรับทริปนี้
ก็เลยนัดหมายกันง่ายๆ ว่า "เจอกันเมื่อตื่น" ...แล้วจะตื่นกี่โมงกันดี
เืืพื่อนร่วมห้องของเรา จัดการตั้งมือถือให้ปลุกเวลา 6 โมงเช้า ซึ่งเป็นเวลาตื่นตอนโดยปกติทั่วไป ไม่เช้ามานัก
เรายังไม่ค่อยง่วงนัก ก็เลยเปิดโทรทัศน์ดูว่ามีรายการอะไรบ้าง
สถานีข่าวมี 2 ช่อง ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ
ภาพยนตร์พากษ์ภาษามาเลย์ ฟังไม่รู้เรื่องเลย แต่นักแสดงหน้าตาคล้ายคนไทยมา
เท่าที่นั่งดู ...เราว่าได้กลิ่น "น้ำเน่า" แบบไทยๆ ลอยออกมาจากหน้าจอด้วย
ดูไป ก็อ่านหนังสือไป ....เรียกว่าเปิดทีวีเอาเสียงเป็นเพื่อนมากกว่า ...เริ่มง่วง ก็เอนหลังนอน



เสียงโทรศัพท์มือถือ ปลุกพวกเราตื่นตรงตามเวลาที่ตั้งไว้ ...จัดแจงอาบน้ำ แต่งตัว
พร้อมแล้วก็โทรไปหา 2 สาวห้องข้างๆ ถึงได้รู้ว่า เกือบจะแปดโมงแล้ว ... ไม่ใช่ 7 โมงอย่างที่เข้าใจ
ก็เพื่อนเราปรับเวลานาฬิกา แต่ไม่ได้ปรับเวลาที่มือถือด้วย
เพราะฉะนั้น เวลาปลุก 6 โมงเช้านั้น ก็คือ 7 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น ...

แต่ไม่เป็นไร ...ก็ทริปนี้มีเวลาเหลือเฟือนี้นา ...เราหยิบเอาหนังสือคู่มือยัดใส่เป้ใบเล็กไปด้วย
หยิบแผนที่นำเที่ยวของทางโรงแรม ติดไปอีกใบ



ชาวคณะทั้ง 4 พร้อมกันแล้วก็ออกเดินทางได้
ตั้งใจจะนั่งรถสาย 17 เข้าตัวเมือง..แบบว่า ขี้เกียจเดิน ...รถน่าจะวิ่งเป็นวงกลมนะ
ก็เลยมาปักหลักรอรถที่หน้าห้างสรรพสินค้า (โค-ตะ-ระ) ใหญ่ ชื่อว่า Dataran Pahlawan Malaka Megamall



ห้างนี้ขนาดใหญ่มาก มีทางเข้าด้าน north south east west ครบทั้ง 4 ด้าน
มีตึกสูง แค่เฉพาะโซนใกล้ที่พักของเรา นอกนั้นจะเป็น 2 ชั้น คือ ต่ำกว่าถนน และระดับถนน
กินพื้นที่ยาวไปจรดบริเวณโซนเมืองมรดกโลกเลยทีเดียวล่ะ

เรารอรถที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ ก็เลยขอเดินชมอีกด้านของห้างซะหน่อย
มีตึกสวยดี ...น่าจะเป็นโรงเรียน



แล้วก็เลยเพลินกับการหามุมกล้อง กดชัตเตอร์ไปเรื่อยๆ



หันมามองทางกลุ่มคุณเพื่อน ก็ยืนท้าวเอว กวักมือเรียก นี่เราเพลินจนทำให้พลาดรถเมล์ไปซะแล้ว
คราวนี้ ก็เลยยืนปักหลักกัน 4 คนไม่เดินเรื่อยเปื่อยอีก (ที่จริงคือ ไม่รู้จะถ่ายรูปอะไรแล้ว )



รถเมล์ยังไม่มาซะที มีแต่สามล้อชมเมืองตกแต่งดอกไม้สวยงามปั่นผ่านมาทีละคัน ทีละคัน
เพื่อนๆ ก็เลยหันมาต่อว่า (เล็กน้อย) เพราะรถสาย 17 คันที่ผ่านไปตะกี้นั้น สภาพรถดีมากถึงมากที่สุด
ดีกว่าที่นั่งเข้าเมืองเมื่อวานซะอีก ...ผิดไปแล้วค่ะ ...
ไม่นานจากนั้น ก็มีรถสาย 17 แบบโทรมผ่านมาจอด ...นักท่องเที่ยวฝรั่งขึ้นรถไปแล้ว
แต่หน่วยหน้ากล้าตายของเรา ถือแผนที่ขึ้นไปจิ้มถามคนขับว่า รถเมล์ไปจตุรัสดัชต์สแควร์รึป่าว?
ไม่ได้คำตอบที่อยากรู้ แต่ได้เสียงดังๆ ดุๆ บอกมาว่า แค่จุตรัสดัชต์เดินไปก็ได้ ...
ก็รู้ว่าเดินไปได้ ...แต่มันไกล ไม่อยากเดิน ...เอาว่ะ เมื่อไม่เต็มใจรับ ไม่ขึ้นก็ได้
แต่ครั้นจะให้ยืนรอคันต่อไป ...ก็คงจะนานอีก ...ตกลง เดินเป็นเดิน ...

เดินวนซ้ายตามแผนที่ที่หยิบมา ผ่านข้างห้างสรรพสินค้าตามเส้นที่เดินเมื่อคืน
แล้วก็ผ่านร้านอาหารเล็กๆ ชั้นล่างของห้าง ...เมื่อคืนเห็นคนนั่งเต็มจนดึก
เช้านี้ก็เปิดแต่เช้า ...มีกับข้าวปรุงเสร็จใหม่..ใส่ถาดเรียงไว้....ใจยังไม่กล้าลอง
คือ สังเกตกันไว้ในตอนกลางคืนว่า ร้านข้าวแกงริมถนนนี่ ขายแบบบุฟเฟต์
คือ ตักข้าวใส่จานให้ จะมากจะน้อย บอกได้ แล้วก็ให้ลูกค้ากับข้าวตักเอง
แบบนี้ จะคิดตังส์ยังไง พวกเรายังไม่แน่ใจ ... ก็เลยซื้ออาหารแบบที่ห่อไว้แล้วซะเลย



อาหารในห่อสี่น้ำตาล ราคา 1 ริงกิต มี 4 อย่างให้เลือก คือ
Nasi = ข้าว , Mee = หมีเหลือง (แบบหมีเจ), Mee hun = หมี่ขาว และก๋วยเตี๋ยว = เส้นใหญ่
ทุกอย่างนั้น ทำแบบเดียวกัน คือผัดกับน้ำพริกพื้นเมือง (ถ้าร้อนๆ คงหอม) รสชาติใช่ได้ ...ไม่เค็มมากนัก เพิ่มไข่ดาวอีกฟอง
ตบท้ายด้วย Teh หรือชานมร้อน คนละแก้ว ...เท่านี้ก็พออยู่ท้องได้สำหรับมื้อเช้า
ชาร้านนี้ รสชาติยังไม่ถูกปากนัก ใส่นมเยอะไปหน่อย
ที่พวกเราเลือกสั่งกันมาทั้ง 4 แบบก็เพื่อจะได้รู้ว่า มันคืออะไร แล้วก็แบ่งกันชิมรสชาติด้วย
นี่แหล่ะ ..คือข้อดีของการไม่เที่ยวกับทัวร์ ...เราสามารถลิ้มรสชาติแบบที่ชาวบ้านชาวเมืองเค้ากินกันได้

อิ่มแล้ว ก็เดินต่อไป ....



ที่นี่เป็นหอชมเมือง (เราเรียกเอง) เปิดบริการตอนสายถึงดึก
มีพาหนะพาขึ้นไปชมเมืองบนที่สูง ...คนละ 20 ริงกิต
ไอ้ตู้กระจกกลมๆ นี้ หมุนไปรอบๆ ได้ด้วย ...ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีได้
ตอนเช้าคนยังไม่มาก ...แต่ที่เห็นตอนกลางคืน คนต่อคิวกันเยอะ น่าจะเป็นของใหม่ของเมืองนี้
เพราะชาวบ้านต่อคิว มากกว่านักท่องเที่ยวซะอีก ...
แต่สำหรับนักท่องเที่ยวงบน้อย...รายการนี้ ผ่านค่ะ

เดินตามถนนเรื่อยมาจนผ่านพิพิธภัณฑ์การเดินเรือ
สำหรับที่นี่ เราว่าจะเข้าไปชม แต่เพื่อนๆ ไม่อยากชม ...ก็เก็บไว้ในวันสุดท้ายละกัน
เอาไว้เก็บตกทีหลัง



และแล้วก็มาถึงพื้นที่เมืองมรดกโลก ...ที่พวกเราตั้งใจมาเที่ยวชมกันซะที



ที่วงเวียนนี้เป็นที่ตั้งของศูนย์บริการข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย
เกาะกลางถนน ก็มีสัญลักษณ์สำคัญ คือ ตัวกระจงสีขาว ยื่นหน้าต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ด้วย
พื้นที่ท่องเที่ยวนี้ แบ่งง่ายๆ เป็น 2 คือ
ด้านขวาของแม่น้ำมะละกา เป็นโซนจตุรัสดัชต์สแควร์และเนินเซนต์ปอลล์ เรียกว่าเป็นพื้นที่ชาวตะวันตกละกัน
มีตึกเก่าสีแดงที่ดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์หลายแห่งให้เลือกชม
ส่วนด้านซ้ายของแม่น้ำมะละกา เป็นย่านชาวจีน มีอาคารแบบชิโน-โปรตุกิสงามๆ เป็นจุดขาย

และวันแรกนี้ เราก็จะเดินเที่ยวชมย่านฝรั่งกันก่อน


โปรดติตตามตอนต่อไป



Create Date : 11 มกราคม 2553
Last Update : 12 มกราคม 2553 9:47:36 น. 9 comments
Counter : 2084 Pageviews.  
 
 
 
 
Glitter Photos
[Glitterfy.com - *Glitter Photos*]
เจิมค่ะ
ตามมาเที่ยวเมืองมะละกาด้วยคน สวยจัง จริงอย่างคุณนัทธ์ว่า ห้างสรรพสินค้าน่าเอามาทำโรงเรียนหรือหน่วยงานราชการจัง คุณนัทธ์สบายดีนะ
 
 

โดย: เกศสุริยง วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:8:38:37 น.  

 
 
 
ว้าว....ว.ว..รูปสวยค่ะ
ไปกันแบบนี้น่าจะสนุก

 
 

โดย: หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:11:26:22 น.  

 
 
 
ชอบตึกเก่าๆสไตล์นี้จังเลยจ้ะ ดูคลาสสิคมากๆเลย

ชอบหมี่กะไข่ดาวในห่อด้วย ต้องอร่อยแน่ๆๆๆ ชอบเนอะเที่ยวแบบนี้ อยากกหม่ำแบบชาวบ้านๆ

 
 

โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:13:45:35 น.  

 
 
 
รอติดตามตอนต่อไป
 
 

โดย: grappa วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:20:05:08 น.  

 
 
 
ครูเกศ >> เราสบายดีค่ะ หวังว่าครูเกศจะสบายดีเช่นกัน
ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวด้วยกันนะคะ

คุณหมูปิ้งฯ >> ได้ประสบการณ์การเดินทางอีกรูปแบบนึงเลยล่ะ

คุณแซลลี่ >> อร่อยดีค่ะ ..รสชาติไม่ต่างจากอาหารไทยมากเกินไป ก็เลยกินได้หมดห่อ

คุณ grappa >> ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:21:04:43 น.  

 
 
 
ถ่ายรูปเพลินจนพลบาดรถเลยหรอคะเนี่ย
แต่ส้มว่าก็คุ้มนะ ภาพสวยชัดแจ๋วที่เดียวค่ะ
 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:21:35:30 น.  

 
 
 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
 
 

โดย: ท่านหญิงน่าเกลียด วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:7:14:23 น.  

 
 
 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
สวัสดียามบ่ายๆค่ะคุณนัทธ์ ระลึกถึงอยู่เสมอนะคะ
 
 

โดย: เกศสุริยง วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:14:09:36 น.  

 
 
 
ท่านหญิงฯ และ ครูเกศ >> ตามอ่านต่อที่ blog ถัดไปนะคะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:23:52:00 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com