บทรำพึง: Greenberg



สารภาพว่าตอนแรกจะเขียนบทวิจารณ์ แต่เขียนไปเขียนมากลับรู้สึกไม่อยากจะวิจารณ์หนังเรื่องนี้ เพราะมันมีสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าข้อดีข้อเสีย อย่างไรก็ดีก็อยากจะชมการแสดงอันยอดเยี่ยมของ เกรต้า เกอวิค และ เบน สติลเลอร์ (ซึ่งรายหลังถือเป็นการแสดงที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา) รวมถึงแฟนหนังของผู้กำกับ โนอาห์ บัมบาช ที่ไม่ผิดหวังกับเรื่องนี้แน่นอน

ปล. ถ้าต้องให้คะแนน ก็ขอให้ไว้ที่ 3/4 เพราะถือว่าเป็นผลงานที่ชัดเจนกว่า Margot at the Wedding แต่ยังสู้ Squid and the Whale ไม่ได้


Prologue

มันจะเป็นก้าวที่สำคัญหากคุณสามารถยอมรับชีวิตที่ตัวเองไม่ได้วางแผนเอาไว้ - ไอแวน

Greenberg เป็นภาพยนตร์ที่พูดถึงคนมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์... แม้กระทั่งความสัมพันธ์กับตัวเอง ตัวละครที่ต้องการเชื่อมต่อกับใครสักคน แต่พฤติกรรมของพวกเขาทำให้กลายเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับใครบางคนที่มีปัญหากับการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน พื้นฐานของข้อบกพร่องก็อาจดึงดูดพวกเขาเข้าหากันได้




ฟลอเรนซ์

หนังเปิดเรื่องด้วยการสำรวจบุคลิกของ ฟลอเรนซ์ (เกรต้า เกอวิค) การเป็นคนขาดความมั่นใจและขี้เกรงใจของเธอ เช่น การพูดกับตัวเองเพื่อขออนุญาตรถคันอื่นเมื่อจะเลี้ยวรถเปลี่ยนเส้นทาง หรือการไม่กล้าเอ่ยปากขอค่าจ้างล่วงหน้าสำหรับการดูแลบ้าน จนทำให้สมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวพูดกับเธอว่า "เธอต้องหัดพูดเพื่อตัวเองบ้าง" รวมถึงการที่เธอบอกกับผู้ชายที่เธอหลับนอนด้วยว่า “ฉันต้องเลิกทำสิ่งโง่ ๆ ที่ทำให้ตัวเองมีความสุขสักที” ฟลอเรนซ์ คือผู้หญิงที่ต้องการความรักอย่างรุนแรง

“ไม่มีใครแคร์ว่าฉันจะตื่นขึ้นมาหรือไม่อีกแล้ว” - ฟลอเรนซ์

ฟลอเรนซ์ มีปัญหาด้านตัวตน เธอต้องการให้ใครสักคนเห็นเธอ เธอเป็นคนที่เหงาแบบไม่แสดงออกและโหยหาความรัก จนทำให้เมื่อเธอเจอใครก็ตามที่ให้ความสนใจ ถึงแม้จะเป็นความสนใจที่จอมปลอมและหวังผล เธอก็จะยอมถูกทำร้ายจิตใจเพราะความเหงาที่ล้นเอ่อ และความมั่นใจในตัวเองอันแสนต่ำเตี้ย ฟลอเรนซ์ ยอมที่จะยอมทนกับพฤติกรรมแย่ ๆ ของทุกคน





กรีนเบิร์ก

ในขณะเดียวกัน โรเจอร์ กรีนเบิร์ก (เบน สติลเลอร์) อยู่ในช่วงที่ไม่ต้องการทำอะไรทั้งสิ้น เพราะทุกสิ่งที่เขาทำมาทั้งชีวิตจะลงเอยด้วยความหายนะ มันเกิดจากอีโก้และการเกลียดตัวเอง เขาย้ายจากแอลเอไปนิวยอร์คเมื่อ 15 ปีที่แล้วเพราะการบอกปัดข้อเสนอของค่ายเพลง กรีนเบิร์ก ไม่ได้กลับมาบ้านมาดูใจแม่ พฤติกรรมของเขาทำให้ตัวเองต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลพักใหญ่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนรอบตัวเป็นเหตุให้ กรีนเบิร์ก ดึงเอานิสัยที่แย่ที่สุดของตัวเองออกมา เพราะแม้กระทั่งเขายังไม่สามารถทนตัวเองได้เลย

ผมคิดว่าคนเป็นต้นเหตุที่ทำให้ชีวิตกลายเป็นสิ่งไร้ค่า -- กรีนเบิร์ก

กรีนเบิร์ก กลับมาแอลเอและพยายามเชื่อมความสัมพันธ์กับผู้หญิงที่เขาเคยมีความสัมพันธ์ด้วย แต่สุดท้ายแล้วเธอก็แทบจำเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ กรีนเบิร์ก รู้ว่าตัวเองเป็นคนที่มีปัญหาแต่ก็ไม่รู้วิธีแก้ไข เขาเป็นพวกที่คิดถึงแต่ตัวเอง ทุกสิ่งที่ทำหรือพูดต้องเกี่ยวข้องกับเขาและเพื่อเขาเท่านั้น เขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น ถึงแม้ว่าเขารู้ตัวแต่มันก็สายเกินไปทุกที และสันดานเดิืมก็ทำให้เขาไม่สามารถขอโทษหรือรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปได้




โนอาห์ บัมบาช

นี่คือหนังของ โนอาห์ บัมบาช ผู้กำกับที่เชี่ยวชาญในการสร้างตัวละครที่หลงตัวเองและชอบทำร้ายจิตใจผู้อื่น มันยากที่คุณจะหลงรัก กรีนเบิร์ก แต่คุณจะรู้สึกเสียใจไปกับการดำเนินชีวิตของเขา การกระทำเลวร้ายของเขาต่อ ฟลอเรนซ์ และเพื่อนสนิท ไอแวน สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่เขากำลังรู้สึกกับตัวเอง มันง่ายเหลือเกินที่จะชี้นิ้วด่าคนอื่นมากกว่าการยืนอยู่หน้ากระจกและด่าตัวเอง

ผู้เขียนคิดว่าฉากที่ทำให้ กรีนเบิร์ก กลายเป็นตัวละครที่น่าสงสารที่สุด นั้นก็คือตอนที่เขาเถียงกับ ไอแวน เพื่อนรักในฉากที่ดีที่สุดของเรื่อง นี่คือครั้งแรกที่ กรีนเบิร์ก ยอมรับอย่างเต็มอกว่าเขาทำผิดพลาด และบอกถึงเหตุผลที่เขาบอกปัดสัญญากับทางค่ายเพลงเมื่อ 15 ปีก่อน แน่นอนที่คนทุกคนชี้นิ้วโทษเขาตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา แต่ กรีนเบิร์ค ปิดกั้นไม่ยอมรับมันจนกระทั่งบัดนี้ เมื่อคำพูดของเพื่อนทำให้เขาเอ่ยปากขอโทษอย่างบริสุทธิ์ใจ ถึงแม้มันอาจจะสายไปเพียงแค่ 15 ปีก็ตาม




Epilogue

บทสรุปของเรื่อง แน่นอนที่ตัวละครนำทั้งสองไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองได้เหมือนการสับสวิตช์ โดยเฉพาะ กรีนเบิร์ก ที่ไม่อยากตกหลุมรัก ฟลอเรนซ์ เพราะการได้เธอมามัน "ง่าย" เกินไป ประกอบกับสภาพจิตใจของเขาที่ไม่มั่นคง ซึ่งพยายามยุติความสัมพันธ์ครั้งแล้วครั้งเล่า อย่างไรก็ตามแต่ ฟลอเรนซ์ ก็ยังปล่อยให้ กรีนเบิร์ก เข้ามาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธออยู่ดี มันจึงเป็นก้าวเล็กๆที่สำคัญเมื่อเขาสามารถฝืนใจทำบางสิ่งในตอนสุดท้าย และถือว่าเป็นบทสรุปที่น่าพอใจ ซึ่งเราก็เห็นได้จากสีหน้าของเขาและเธอในช็อตสุดท้ายนั้นเอง




 

Create Date : 25 สิงหาคม 2553
13 comments
Last Update : 25 สิงหาคม 2553 1:10:00 น.
Counter : 1782 Pageviews.

 

 

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว 25 สิงหาคม 2553 10:52:55 น.  

 

ยังไม่อ่านนะครับ


ว่าแต่เข้าไทยไหมเนี่ย

ปล. Poster สร้างสรรค์มากๆ

 

โดย: navagan 25 สิงหาคม 2553 16:27:22 น.  

 

ตกลงตอนจบ มันไม่ได้ทำร้ายจิตใจคนดูมากเท่าไหร่
ใช่ไหมคะ..
รูปถ่ายจากบล็อคที่แล้ว
คนดูตัวใหญ่เพราะคนที่ยืนด้วยตัวเล็กมากกว่า
(มองในแง่ดี) หุ หุ หุ

 

โดย: เริงฤดีนะ 25 สิงหาคม 2553 21:24:00 น.  

 

เพิ่งเคยเห็น เกรต้า เกอร์วิค รูปนี้ สวยมากกกกก (เพราะพอเจอข่าวหนังเรื่องนี้ก็จะเจอแต่ เบน สติลเลอร์ ไปเลย)

หนังมันเนิร์ดมากป่ะ

 

โดย: nanoguy IP: 113.53.181.158 26 สิงหาคม 2553 3:35:39 น.  

 

ยังไม่เคยดูหนังเรื่องใดเลยของบัมบาชครับ เคยได้ยินแต่กิตติศัพท์อันเลื่องลือในการทำหนังมนุษย์ที่มักมีปัญหากับคนรอบข้าง

คงต้องหาเรื่องนี้และ Squid and the Whale มาดูแล้วละครับ

ปล. ชอบโปสเตอร์หนังเรื่องนี้จัง ^^

ปลล. ช่วงนี้ค่อนข้างหดหู่กับการจากไปของซาโตชิ คง T_T เพราะเมื่อรู้ว่าจะไม่ได้ดูหนังของเขาแล้วมันใจหายเสมอ RIP

 

โดย: Seam - C IP: 61.90.109.151 26 สิงหาคม 2553 13:45:35 น.  

 

หาแฟนตัวเป็นเกลียว - ยังกินอร่อยไม่ได้ครับ เงินเดือนยังไม่ออก 55

navagan - ไม่เข้าไทยแน่นอนครับ (หนังบัมบาซคงเข้าโรงที่นี่ยากหน่อย) แต่น่าจะใกล้ออกแผ่นแล้ว ดูแล้วยังไงมาคุยกัน ^^

เริงฤดีนะ - จบแบบมีความหวังมากครับ ไม่ใช่ความหวังแบบเพ้อฝันด้วย แบบว่ามันน่าจะลงเอยแบบนี้แหละ ;) ส่วนรูปที่ถ่าย... ผมมองโลกในแง่ร้ายว่าตัวเองอืดครับ 55

nano - เกรต้า เรื่องนี้เล่นดีมากกกก หลายคนอาจจะรู้สึกรำคาญกับพฤติกรรมของเธอในเรื่อง แต่เราคิดว่ามันเป็นการสร้างคาแร็คเตอร์ที่สุดยอดมาก แถมเรื่องนี้ยังเปลืองตัวนิดนึงด้วย... ส่วนเรื่องความเนิร์ด มันก็เนิร์ดในแนวทางของ บัมบาซ อ่ะนะ ถือว่าคล้ายของของ เวส แอนเดอร์สัน ที่ยึดติดกับความเป็นจริงมากกว่า

เซียม - ถ้าไม่เคยดูหนังของ บัมบาซ เริ่มด้วยเรื่องนี้ก็ได้ครับ ส่วนเรื่องกิตติศัพท์ก็ได้ยินมาถูกต้องแล้ว 55

 

โดย: BloodyMonday 26 สิงหาคม 2553 15:54:57 น.  

 

ผมเหมือนน้องเซียมครับที่ไม่เคยดูหนังของบัมบาซเลย อ่านจากที่คุณบลัดดี้เขียนก็ชักอยากดูแล้วล่ะ

จริงๆแล้วผมว่าคนเรามีความผิดปกติในตัวกันทุกคนนะครับ ผมเองก็พูดคนเดียวบ่อยๆ บางครั้งเผลอพูดให้คนเห็น จนถูกมองแปลกๆก็เคย

หรือผมควรจะได้รับการบำบัด...

 

โดย: แฟนผมฯ IP: 114.128.100.94 26 สิงหาคม 2553 22:08:20 น.  

 

//wwww.so-sports.com


nike shox R4
Nike air max
Air max shoes
men air jordans
Discount Air Max
air jordans shoes
cheap nike shox R4
discount air jordans
air max shoes outlet
air jordans shoes sale
nike air max men shoes
nike air max women shoes
nike air max shoes sale

 

โดย: air max shoes IP: 121.204.10.88 27 สิงหาคม 2553 13:33:52 น.  

 

มาแล้ว..on air ตั้งแต่เที่งคืน
สด จาก Blogที่ 217/2883 วันที่ 28 สค.2553
สาวๆไม่สาวหลายคนเริ่มติดใจแล้วนะคะ




From...AKATA ที่ JJ. โครงการ 23 ซอย 3

 

โดย: เริงฤดีนะ 28 สิงหาคม 2553 12:09:54 น.  

 

อยากดูเรื่องนี้อย่างมากๆ อ่านแล้วยิ่งคิดว่าน่าจะเข้าทาง

ชอบปลาหมึกกับปลาวาฬด้วย

 

โดย: เอกเช้า IP: 115.87.73.74 30 สิงหาคม 2553 23:20:46 น.  

 

อายจัง ดองบล็อคไว้หลายอาทิตย์แล้ว...

 

โดย: เจ้าของบล็อคผู้เสพติดเฟชบุ้ค IP: 124.120.60.151 12 กันยายน 2553 22:54:35 น.  

 

ง่ะ น่าดูค่ะ

อยากเห็นบิล สติลเลอร์ในหนังดราม่าบ้างไรบ้าง

อ่านที่เขียนถึงแล้ว ทำให้รู้สึกสนใจตัวละครและความสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นค่ะ

 

โดย: cottonbook 19 กันยายน 2553 9:08:47 น.  

 

ผมเพิ่งดูหนังเรื่องนี้จบ เลยหาข้อมูลเพิ่ม เพราะสงสัยว่าตัวเองมีส่วนคล้ายทั้งพระเอกและนางเอกในเรื่อง หนังไม่ได้บอกทางออกสำเร็จไว้ แต่ผมเดาเอาเองว่า ต้องยอมรับตัวเองให้ได้ก่อนมั้ง
ขอบคุณครับ เป็นบทวิเคราะห์ที่ดี และผมจะพยายามหาเรื่อง ปลาหมึกกับปลาวาฬมาดู

 

โดย: munk IP: 125.24.1.16 28 ตุลาคม 2553 12:23:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


BloodyMonday
Location :
Imaginationland, Valley of Bliss China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






-= M & M in Nutshell =-


Gentlemen Broncos (2009)


You could have brain tumor by watching this contaminated turd. Nothing in Gentlemen Broncos pays off, it’s incoherent mess, and chock-full of incredibly annoying characters. You will not only loath this movie, but it also makes you want to punch someone who responsible for this abomination in the face.

BloodyMonday Rating:



Fantastic Mr. Fox (2009)


Imagine if Akira got Live-Action treatment by... say Alfonso Cuarón, you know how awesome it might be? That’s what happened to "Fantastic Mr. Fox". Wes Anderson's auteur perfectly captured the quirkiness and blissful tone of the material. Its stop-motion technique might be a little crude and... somewhat unsophisticated, but that's the charm of it. You’ll feel like pop-up book unveiled before your eyes. This is an exceptional animation of the year.

BloodyMonday Rating:



Planet 51 (2009)


ถ้าถามว่าสนุกไหม? ก็โอเค ทุกอย่างถอดแบบมาจาก Shrek มุขที่อ้างอิงวัฒนธรรมป็อป ตัวละครสมทบที่น่าสนใจกว่าตัวเอก กราฟฟิคที่สอบผ่านฉลุย (ถ้าไม่ไปวัดกับพิกซาร์) แต่ถ้าถามว่าต้องดูไหม? ..... เอาเป็นว่าเวลาชั่วโมงครึ่ง ทำอะไรที่มีประโยชน์กว่านี้ได้เยอะแยะ

BloodyMonday Rating:



It's Complicated (2009)


รู้สึกสนุกกับการได้เห็นป้าเมอรีล เข้าโหมดแอ๊บเด็ก (อีกแล้ว) ในขณะเดียวกัน อเล็กซ์ บอลด์วิน และ จอห์น ครากินสกี้ ก็ขโมยซีนได้ตลอด แต่มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหนังยาว 2 ชั่วโมงมีเรื่องให้เล่าแค่ 15 นาที... It's Complicated อาจเหมือนคนกินไวอากร้าแล้วเข้านอน คึกตลอดคืนแต่มันจะมีประโยชน์อะไร?

BloodyMonday Rating:



Up in the Air (2009)


Up in the Air is a blockbuster movie for people who think blockbuster movies are dumb, as it chock full of brilliantly written dialogue, and acting showcase for three talented actors (especially star-making turn by Anna Kendrick). But in the end, there's little to love, not so much story to chew on (plus disappointing third act), and no real connection to the meaning of human interaction as it intended to be.

BloodyMonday Rating:



I Love You, Beth Cooper (2009)


Cliché-ridden plot about a bunch of annoying characters get together in one idiotic circumstance, "I Love You, Beth Cooper" is shameless exploitation & biggest insult to 80s teen flicks. It's like memorizing magic trick from internet, hoping to perform like David Copperfield. Neither sense of wonder nor magic flare happens here. Only good thing is, it makes me wanna cleanse my soul with genuine 80s teen movie night marathon.

BloodyMonday Rating:



Everybody's Fine (2009)


Meh. The movie serious lack of originality & characters development. Only Robert De Niro comes out fine in this schmaltzy, "Lifetime" movie-of-the-week plot.

BloodyMonday Rating:



Paper Heart (2009)


Twee delight... That's only two words I can think of right now.

BloodyMonday Rating:



Adam (2009)


A perfect companion to Mary & Max (one of the best animation of 2009), Adam is star-crossed love story (pun intended) between Adam, Asperger's Syndrome bearer, and Beth, free spirit woman. The picture wouldn’t be this intimate without stunning performance by Hugh Dancy. On the other hand, the lack of depth on why Beth would love someone like Adam, preventing me from wholeheartedly embraces her choice in the end (which is nice & perfect but requires a leap of faith). Otherwise, this is touching romantic film, which putting its feet firmly on the ground, making the world full of hope and seems nicer place to live.

BloodyMonday Rating:



The Invention of Lying (2009)


Expected to be like “Click” or “Yes Man”, where high-concept plot turned into endless gags, with moral lesson (forcefully) shoving down your throat. But "The Invention of Lying" is thinking man’s film. The whole concept is not seeing how first lying man exploits the ability. But it's about him finding the way not to lie, in order to find genuine happiness. Great stuff.

BloodyMonday Rating:



Give ‘Em Hell Malone (2009)


This is one damn frustrating experience. It’s like watching an infant trying to stand up and walk. They would take a few steps then fall their asses. In fact, kiddie film like “Bugsy Malone” has done better job paying a tribute to film noir than this borefest.

BloodyMonday Rating:



Zombieland (2009)


ถ้าอังกฤษมีหนังซอมบี้ฮาแตกอย่าง Shaun of the Dead แล้ว ทำไมอเมริกาจะมีบ้างไม่ได้... Zombieland คือการผสมผสานระหว่างบรรดาหนังซอมบี้เก่าๆ เข้ากับทัศนคติของคนสร้างที่อาจดูหนังแนวนี้มากเกินความจำเป็น จนสามารถสร้างหนังซอมบี้ที่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองเป็น และเล่นสนุกไปกับกฏพื้นฐานของซอมบี้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยกความดีให้สี่นักแสดงนำ โดยเฉพาะ วู้ดดี้ ฮาเรลสัน (เขาเกิดมาเพื่อบทนี้) ที่ช่วยกันสร้างมนต์เสน่ห์ ให้กับการเดินทางในโลกไร้มนุษย์ได้อย่างเต็มที่

ถึงแม้พลังงานที่ขับเคลื่อนจะมาหมดเอาดื้อๆในองค์สุดท้าย เมื่อฉากใหญ่ในสวนสนุกถูกทำขึ้นเพื่อแสดงฉากการฆ่าซอมบี้เด็ดๆ (ซึ่งไม่ใช่จุดเด่นสำหรับเรื่องนี้เลย) แต่โดยรวมแล้วมันก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัว ที่บรรดาแฟนซอมบี้จะมาพลาดหนังเรื่องนี้... อ้อ แล้วหนังยังมีดารารับเชิญสุดเซอร์ไพรซ์ ที่สร้างเสียงฮาที่สุดในเรื่องได้จากประโยคสุดท้ายอีกด้วย

BloodyMonday Rating:



Frequently Asked Questions About Time Travel (2009)


เมื่อเพื่อนสามคนก๊งเบียร์กันในผับแล้วเจอสาวฮ็อต (แอนนา ฟาริส) ที่อ้างว่ามาจากอนาคตจนเกิดรอยแยกของเวลา ทำให้ทั้งสามต้องท่องไปทั้งโลกในอนาคตและอดีตจนวุ่นวาย...

หนังมีไอเดียกิ๊บเก๋ ทำออกมาได้สนุกสนานสไตล์ซิตคอมอังกฤษ โดยเฉพาะการนำกฏเหล็กต่างๆจากหนังที่เกี่ยวกับการท่องเวลา (ดูเหมือนว่า Back to the Future จะเป็นแรงบรรดาลใจหลัก) มาปู้ยี้ปู้ยำอย่างเมามัน ถึงแม้ว่าตลอดเวลาการรับชมจะให้ความรู้สึก เหมือนตัวเองกำลังดูซีรี่ย์ทางโทรทัศน์ แต่มันก็คือตอนที่ฮาที่สุดของซีซั่น แถมเอฟเฟ็คที่ใช้ก็มีคุณภาพจนคาดไม่ถึง

BloodyMonday Rating:



Looking for Eric (2009)


มีความรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มองโลกในแง่ดีเกินบรรยากาศโดยรวม จริงอยู่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ลงเอยด้วยดีในตอนสุดท้ายนั้น สามารถสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับคนดู แต่จากสถานการณ์ในเรื่องและบริบทที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มันยากที่จะทำใจเชื่อในสิ่งที่เห็น โดยเฉพาะพล็อตรองเกี่ยวกับปืน ซึ่งถ้าถูกตัดออกไปและหนังยังดำเนินเรื่องอย่างที่เป็นอยู่ Looking for Eric ก็น่าจะเป็นหนังฟีลกู้ดที่อบอุ่นที่สุดเรื่องหนึ่งของปีเลยทีเดียว

BloodyMonday Rating:


~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
25 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add BloodyMonday's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.