Review in Nutshell...#15 + พรีวิว The Men Who Stare at Goats และบทสัมภาษณ์ "แพะ"



Zombieland

ถ้าอังกฤษมีหนังซอมบี้ฮาแตกอย่าง Shaun of the Dead แล้ว ทำไมอเมริกาจะมีบ้างไม่ได้... Zombieland คือการผสมผสานระหว่างบรรดาหนังซอมบี้เก่าๆ เข้ากับทัศนคติของคนสร้างที่อาจดูหนังแนวนี้มากเกินความจำเป็น จนสามารถสร้างหนังซอมบี้ที่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองเป็น และเล่นสนุกไปกับกฏพื้นฐานของซอมบี้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยกความดีให้สี่นักแสดงนำ โดยเฉพาะ วู้ดดี้ ฮาเรลสัน (เขาเกิดมาเพื่อบทนี้) ที่ช่วยกันสร้างมนต์เสน่ห์ให้กับการเดินทางในโลกไร้มนุษย์ได้อย่างเต็มที่

ถึงแม้พลังงานที่ขับเคลื่อนจะมาหมดเอาดื้อๆในองค์สุดท้าย เมื่อฉากใหญ่ในสวนสนุกถูกทำขึ้นเพื่อแสดงฉากการฆ่าซอมบี้เด็ดๆ (ซึ่งไม่ใช่จุดเด่นสำหรับเรื่องนี้เลย) แต่โดยรวมแล้วมันก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัว ที่บรรดาแฟนซอมบี้จะมาพลาดหนังเรื่องนี้... อ้อ แล้วหนังยังมีดารารับเชิญสุดเซอร์ไพรซ์ ที่สร้างเสียงฮาที่สุดในเรื่องได้จากประโยคสุดท้ายอีกด้วย

BloodyMonday Rating:




Frequently Asked Questions About Time Travel

เมื่อเพื่อนสามคนก๊งเบียร์กันในผับแล้วเจอสาวฮ็อต (แอนนา ฟาริส) ที่อ้างว่ามาจากอนาคตจนเกิดรอยแยกของเวลา ทำให้ทั้งสามต้องท่องไปทั้งโลกในอนาคตและอดีตจนวุ่นวาย...

หนังมีไอเดียกิ๊บเก๋ ทำออกมาได้สนุกสนานสไตล์ซิตคอมอังกฤษ โดยเฉพาะการนำกฏเหล็กต่างๆจากหนังที่เกี่ยวกับการท่องเวลา (ดูเหมือนว่า Back to the Future จะเป็นแรงบรรดาลใจหลัก) มาปู้ยี้ปู้ยำอย่างเมามัน ถึงแม้ว่าตลอดเวลาการรับชมจะให้ความรู้สึก เหมือนตัวเองกำลังดูซีรี่ย์ทางโทรทัศน์ แต่มันก็คือตอนที่ฮาที่สุดของซีซั่น แถมเอฟเฟ็คที่ใช้ก็มีคุณภาพจนคาดไม่ถึง

BloodyMonday Rating:




Looking for Eric

มีความรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มองโลกในแง่ดีเกินบรรยากาศโดยรวม จริงอยู่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ลงเอยด้วยดีในตอนสุดท้ายนั้น สามารถสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับคนดู แต่จากสถานการณ์ในเรื่องและบริบทที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มันยากที่จะทำใจเชื่อในสิ่งที่เห็น โดยเฉพาะพล็อตรองเกี่ยวกับปืน ซึ่งถ้าถูกตัดออกไปและหนังยังดำเนินเรื่องอย่างที่เป็นอยู่ Looking for Eric ก็น่าจะเป็นหนังฟีลกู้ดที่อบอุ่นที่สุดเรื่องหนึ่งของปีเลยทีเดียว

BloodyMonday Rating:




Genova

หลายครั้งที่มนต์เสน่ห์ของเมืองเก่า เข้าไปครอบงำความคิดของผู้สร้าง จนทำให้เนื้อหาที่แท้จริงของเรื่องกลายเป็นลูกเมียน้อยไปโดยปริยาย Genova คือหนังที่ถ่ายทำในเมืองเจนัวของผู้กำกับ ไมเคิล วินเทอร์บอททอม ที่หมกมุ่นไปกับการสำรวจทุกตรอกซอกซอยของเมือง รวมถึงการไปพักผ่อนนอนอาบแดดบนเกาะใกล้เคียง จนทำให้เรื่องราวของพ่อ (โคลิน เฟิร์ธ) และลูกสาวทั้งสองคน แปรเปลี่ยนกลายเป็นเพียงไกด์นำเที่ยวเท่านั้น

ปัญหาใหญ่ของหนังก็คือความไม่ชัดเจนในแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นการรับมือกับโศกนาฎกรรมภายในครอบครัว (เช่นเดียวกับ Grace is Gone) หรือต้องการให้มีเรื่องเหนือธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง (เช่นเดียวกับ Birth) ทุกอย่างที่ วินเทอร์บอททอม เปิดประเด็นขึ้นมา ไม่ได้รับการตอบสนองหรือกระทั่งทิ้งบางอย่างให้คนดูได้คิด สุดท้ายแล้วเขาปล่อยมันจบทิ้งเสียดื้อๆ ราวกับว่าการพักร้อนในเมืองแห่งนี้สิ้นสุดลง

BloodyMonday Rating:




The Tournament

นี้อาจเป็นครั้งที่ร้อยแล้วมั้ง สำหรับหนังที่ใช้พล็อตเหล่านักฆ่า (นักสู้ นักขับรถ นักกีฬา หรืออะไรก็ตามแต่) มาแข่งขันกันเพื่อล่ารางวัล โดยมีการถ่ายทอดสดให้กับประชาชนได้ดู และมีผู้ชักใยตัวเอ้อยู่เบื้องหลัง (ที่ยักไม่เจ๋งอย่างที่คุยโม้โอ้อวดเอาไว้)

แต่ด้วยฉากต่อสู้ที่เข้าใจว่าทำการบ้านกันมาดี (นั้นหมายถึงไม่ได้ถูกตัดต่อจนเละเทะ หรือส่ายกล้องไปมาจนเกิดอาการแพ้ท้อง) รวมถึงการนำ parkour (ที่เคยเห็นในฉากเปิดของ Casino Royale) มาใช้ได้อย่างเหมาะสมและน่าตื่นเต้น ทำให้ The Tournament น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับการเช่า สำหรับใครก็ตามที่ไม่มีอะไรทำจริงๆ

BloodyMonday Rating:




Funny People

เมื่อดารานิสัยแย่ๆคนหนึ่ง พบว่าตัวเองเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ ก่อนที่จะหายจากโรคอย่างน่าอัศจรรย์ แต่เขากลับไม่ได้เรียนรู้อะไรจากสิ่งนี้ และกลับไปเป็นดารานิสัยแย่ๆเหมือนเดิม

Funny People อาจจะเป็นหนังที่มีคนเข้าใจผิดมากที่สุดเรื่องหนึ่ง เพราะถึงแม้จะมีดารานำอย่าง แซนด์เลอร์ และ โรเก็น ผู้กำกับอย่าง อาพาโทว์ และดารารับเชิญมากมายล้วนเป็นนักแสดงตลกชั้นนำ แต่สำหรับผู้เขียนแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใกล้เคียงหนังตลกเลยแม้แต่นิดเดียว

และมันก็กลายเป็นข้อด้อยร้ายแรงสำหรับเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าช่วงเวลาเปิดใจของตัวละครจ ะถูกเขียนอย่างเข้าอกเข้าใจตามสไตล์ผู้กำกับ และยังสามารถดึงเอาแอ็คติ้งที่ซ่อนเร้นอยู่ในส่วนลึกสุดของ อดัม แซนด์เลอร์ ออกมาใช้ได้ (น่าประทับใจที่สุดนับตั้งแต่ Punch Drunk Love) แต่เมื่อมองถึงผลงานก่อนหน้านี้อย่าง Knocked Up อาพาโทว์ ก็ทำได้ไม่แตกต่างกัน แถมเรื่องนั้นยังมีช่วงเวลาที่เรียกเสียงฮาจากผู้ชมได้มากกว่าหลายเท่าตัว

ถ้าให้สรุปสั้นๆ Funny People ก็คือหนังที่มีคุณค่าทางทางเนื้อหาและบทเรียนสอนใจ แต่กลับแห้งแล้งในเรื่องเสียงฮาอย่างไม่น่าให้อภัย (โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงตัวบุคคลากร)

BloodyMonday Rating:




Mary and Max

จะเรียกได้ว่า นี้คือเคลย์อนิเมชั่นด้านมืดสไตล์อาร์ตแมนสตูดิโอก็คงไม่ผิดนัก ด้วยสีสันอันมืดหม่น สถานการณ์ที่ดูสิ้นหวัง ไม่น่าเชื่อว่าความหดหู่ทั้งหลายทั้งปวง จะถูกนำเสนอด้วยมุมมองที่สดใสขนาดนี้ เราได้สัมผัสถึงสิ่งที่ แมรี่ ต้องสูญเสีย และเศร้าใจไปกับสิ่งที่ แม็ค ต้องเผชิญในชีวิต แล้วยังมีตอนจบนั้นอีกล่ะ...

ถึงจะรู้ทั้งรู้ว่ามันคือเรื่องเศร้า แต่เราก็อดที่จะอมยิ้มไปกับอนิเมชั่นยอดเยี่ยมเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ

BloodyMonday Rating:




Alien Trespass

สำหรับใครก็ตามที่ชอบหนังที่สร้างเพื่อบูชาหนังแนวไซ-ไฟจากยุค 50 เรื่องนี้ก็คงเป็นไทม์แมชชีนชั้นดีสำหรับคุณ แต่สำหรับผู้เขียนที่ไม่มีความผูกพันธ์เป็นพิเศษกับแนวนี้ Alien Trespass จึงเป็นเพียงหนังที่ดูพอเพลินเท่านั้น

BloodyMonday Rating:




The Goods: Live Hard Sell Hard

สำหรับใครที่ชอบ อารี โกล์ด จาก Entourage นี้ก็อาจเป็นหนังที่เหมาะสำหรับคุณ แต่สำหรับผู้เขียนแล้ว การที่ต้องมานั่งทน อารี โกลด์ เป็นเวลากว่า 90 นาที มันคือความทรมานที่เลวร้ายยิ่งกว่าเป็นริดสีดวงอีก

BloodyMonday Rating:




Management

หนังโรแมนติก-คอมเมดี้ ที่เริ่มต้นได้น่าสนใจ ก่อนที่ทุกอย่างจะมาพังครืนในครึ่งหลัง โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าเกลียดของคู่พระนางจาก 45 นาทีแรก ซึ่งกลายเป็นคนละคนในช่วงเวลาที่เหลือ อีกประเด็นก็คือเคมีระหว่าง เจนนิเฟอร์ อนิสตัน กับ สตีฟ ซาห์น แทบจะเป็นศูนย์... ก็ยังดีตรงที่หนังเลือกเพลงประกอบค่อนข้างน่าสนใจ และเข้ากับสถานการณ์ของเรื่องเป็นอย่างดี

BloodyMonday Rating:







สร้างจากเหตุการณ์จริงที่บ้ายิ่งกว่านิยาย เมื่อนักข่าวคนหนึ่งค้นพบโครงการลับของกองทัพสหรัฐ และเขาก็ได้ร่วมเดินทางไปกับ นายทหารที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ สำหรับการเดินทางในภารกิจสุดเพี้ยนเหนือคำบรรยาย

บ็อบ วิลตัน (ยวน แม็คเกรเกอร์) นักข่าวหนุ่มที่ประจำอยู่ในอิรัก กำลังตามล่าหาข่าวชิ้นใหญ่ที่สุด ในที่สุดเขาก็ได้พบกับ ลินน์ แคสซิดี้ (จอร์จ คลูนี่ย์) นายทหารปริศนา ที่อ้างว่าเคยเป็นส่วนหนึ่งในการทดลองลับของกองทัพสหรัฐ ซึ่งแอบพัฒนาหน่วยทหารที่สามารถใช้พลังจิตมากว่า 20 ปี!

แคสซิดี้ เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างทหารพลังจิต ซึ่งเขาเรียกตัวเองว่าเป็น "นักรบเจได" ซึ่งมีพลังจิตแรงกล้าจนไม่มีมนุษย์คนใดบนโลกสามารถเทียบเคียงได้ ด้วยความสามารถพิเศษอย่างเช่น การมองเห็นอนาคต การวิ่งทะลุกำแพง แม้กระทั่งการฆ่าแพะด้วยจิตสังหารจากการนั่งจ้อง!!

แคสซิดี้ สัญญาว่าจะเล่าทุกอย่างให้ วิลตัน โดยมีข้อแม้ว่าให้ช่วยเขาตามหา บิล (เจฟฟ์ บริดเจส) ผู้ก่อตั้งและครูฝึกจอมเพี้ยนของโครงการหน่วยทหารพลังจิต ที่หายตัวไป ทั้งสองต้องท่องไปในดินแดนตะวันออกกลาง รวมถึงการเผชิญหน้ากับ แลร์รี่ ฮูเปอร์ (เควิน สเปซี่ย์) นายพลผู้เปรียบเสมือน ดาร์ธ เวเดอร์ ของเหล่านักรบเจได ซึ่งพยายามมองหาข้อผิดพลาดเพื่อยุบโครงการนี้ และทำให้รัฐบาลหันมาสนใจโครงการซุปเปอร์โซลเยอร์ของตัวเอง

The Men Who Stare at Goats สร้างจากหนังสือของ จอน รอนสัน ซึ่งตีแผ่ความไร้แก่นสารของสงครามตะวันออกกลาง ซึ่งรัฐบาลสหรัฐพยายามสรรหาวิธีที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ จนบางครั้งก็อาจเป็นบ่อเกิดของเรื่องราวที่บ้าบอเหนือคำบรรยาย

The Men Who Stare At Goats นำแสดงโดย จอร์จ คลูนี่ย์ (Burn After Reading), เจฟฟ์ บริดเจส (Iron Man), ยวน แม็คเกรเกอร์ (Angels & Demons), เควิน สเปซี่ย์ (American Beauty), สตีเฟ่น แลง (Public Enemies) กำกับโดย แกรนท์ ฮีสโลฟ (Good Night and Good Luck) และเขียนบทโดย ปีเตอร์ สโตรฮาน (How to Lose Friends & Alienate People)





บทสัมภาษณ์พิเศษ "แพะ" หนึ่งในนักแสดงนำ


ในฐานะที่คุณไม่ใช่มนุษย์ คุณเข้ามามีส่วนร่วมกับ The Men Who Stare at Goats ได้ยังไง


คลูนี่ย์ และ แกรนท์ ต้องการสร้างหนังเรื่องนี้ให้สมจริง พวกเขาจึงมาติดต่อผมและนั้นก็คือจุดเริ่มต้น ผมทำงานอยู่ในวงการมานาน และพยายามสั่งสมชื่อเสียงในการเป็นนักแสดงในฮอลลิวู้ด ดังนั้นเมื่อมีบทประเภทนี้ ผมจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

ช่วยเล่าถึงตัวละครที่คุณรับบทหน่อย คุณต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง

ผมรับบทเป็นแพะที่ตื่นตระหนก และต้องเผชิญหน้ากับ จอร์จ คลูนี่ย์ ในฉากที่สำคัญที่สุดของเรื่อง ตอนแรกผมรู้สึกกังวลว่า ตัวเองอาจไม่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกเปราะบางออกมาได้ เพราะโดยพื้นฐานแล้วผมเป็นสัตว์ที่มีความมั่นใจและเข้มแข็ง

ในฐานะที่คุณเป็นแพะ คุณเคยถูกเหยียดเผ่าพันธุ์บ้างไหมระหว่างการทำงานในกองถ่าย

มันคือเรื่องจริงที่น่าเศร้า แต่โลกใบนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสัตว์สองขาไม่ใช่สัตว์สี่ขา แต่ด้วยอัจฉริยะภาพทางการแสดงและความสามารถอันไร้จุดสิ้นสุด ซึ่งผมได้นำเข้ามาในกองถ่าย ทำให้ความเหลื่อมล้ำระหว่างสองเผ่าพันธ์ดูแทบไม่ต่างกันเลย

คุณต้องจ้องตา จอร์จ คลูนี่ย์ ในฉากสำคัญ ช่วยเล่าถึงความรู้สึกหน่อย

จอร์จ เป็นมืออาชีพเหมือนกับผม มันยอดเยี่ยมที่ได้แสดงร่วมกับเขา เขาทำหน้าที่ตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม และผมก็รู้ว่าการได้แสดงคู่กับเขา จะทำให้ผมปลดปล่อยพลังงานออกมาได้เต็มที่ ผมมีความยินดีถ้าได้ร่วมงานกับเขาอีกครั้ง และผมคิดว่าเขาคงรู้สึกแบบเดียวกัน




ตามปกติแล้วแพะจะมีเขาอยู่บนหัว คุณรู้สึกน้อยใจรึเปล่าที่คุณเป็นพวกไม่มีเขา

ผมไม่กังวลกับภาพลักษณ์ของตัวเอง และเขาก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ มันทำให้ผมขยับตัวสะดวกขึ้น และผมก็ได้ยินมาว่าแพะสาวๆชอบแพะหนุ่มไร้เขา... ผมว่าเราไปคำถามข้อต่อไปกันเลยดีกว่า

แพะถูกกล่าวหาว่าเป็นสัตว์ที่กินทุกอย่างที่ขวางหน้า อะไรคืออาหารโปรดสำหรับคุณ

ผมมีกระเพาะอาหารที่ค่อนข้างเปราะบาง ดังนั้นการออกไปทานในร้านอาหารระดับห้าดาว จึงเป็นทางเลือกเดียวสำหรับผม แต่ก็มีเหมือนกันที่กระดาษจำนวนมากวางเกลี่อนกลาดในกองถ่าย ทำให้ผมแทบอดใจไม่ไหว

คุณคิดว่าหนังเรื่องนี้จะปูทาง ให้แก่แพะนักแสดงรุ่นใหม่ในอนาคตรึเปล่า

ผมมองตัวเองเสมอว่า ตัวเองเป็นผู้แผ้วทางสำหรับแพะนักแสดงดาวรุ่ง ที่อยากเจริญรอยตามความสามารถและพรสวรรค์ที่ผมมี มันอาจจะเทียบกับความสำเร็จที่ผมได้รับไม่ได้หรอก แต่พวกคุณต้องพยายามกันอย่างเต็มที่ ผมขออวยพร

มีโปรเจ็คอื่นอีกไหมที่คุณกำลังถ่ายทำในขณะนี้ และมีบทไหนที่คุณอยากเล่นในอนาคต

ผมกำลังถ่ายทำภาพยนตร์บล็อคบัสเตอร์เรื่องหนึ่ง ซึ่งผมไม่ได้รับอนุญาตในการพูดถึงมัน ผมบอกได้แค่ว่าพวกเขาคงผลิตโมเดลรูปผมออกมาขายแน่นอน ส่วนในอนาคตนั้น ผมรู้สึกมาโดยตลอดว่าตัวเองเกิดมาเพื่อเล่นเป็น แฮมเลต


The Men Who Stare at Goats เข้าฉาย 7 มกราคม ปีหน้า



Create Date : 29 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 3 ธันวาคม 2552 21:34:02 น. 16 comments
Counter : 5539 Pageviews.

 

Greenberg is my latest anticipated film, it's good to see Noah Baumbach stepping into optimistic side this time around. It also nice to see Ben Stiller when he's not running from CGI or Robert DeNiro (which he did for the past decade).



เวอร์ชั่นของ ลีอา มิเชลล์ จากซีรี่ย์สุดฮิต Glee (ที่ยังไม่ออกแผ่นซะที *หงุดหงิด*) แทบไม่แตกต่างจากเวอร์ชั่นอันทรงพลังของ ไอดิน่า เมนเซล เลย ว่ากันว่าถ้า Wicked ถูกสร้างเป็นหนังเมื่อไร ลีอา คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับบท อัลฟาบา ;-)



Such a lovely ballad that has been hidden in ultimate dance album of 2009 ;-) ...When the night lingers in the thundering rain...It’s making me forget my name...And everything I ever known...


โดย: BloodyMonday วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:09:58 น.  

 
Management เพิ่งเข้าฉายที่นี้ เมื่อต้นเดือนนี้เอง

แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่าง เลยตัดสินใจไม่ไปดู

มาอ่านรีวิวของเธอแล้ว ดีใจที่ไม่ได้ไปดู

ช่วงนี้ ไม่ได้ดูหนังเด็ดๆเลย

ได้ดูแต่หนังกระแสหลักๆ อย่าง 2012 นิวมูน ห่างหายจากการดูหนังในโรงอาร์ตเฮ้าส์มานาน.. ด้วยอะไรหลายๆอย่าง


โดย: จูริง วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:18:49:48 น.  

 
มาครั้งนี้รีวิวซะคุ้มเลยครับ อยากดู Mary and Max


โดย: McMurphy วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:39:42 น.  

 
ตอนนี้เก้าอี้ประธานชมรมดองว่างซะแล้ว สละตำแหน่งได้อย่างยิ่งใหญ่จุใจมากๆ โดยเฉพาะเรื่องแรกที่รีวิว น่าดูที่สุด ไม่ได้ดูหนังวู้ดดี้ ฮาเรลสันมานานแล้ว อป.ติดตาที่สุดก็บทคาวบอยในป้ายโฆษณาคาลวินไคลน์น่ะแหล่ะ เหอๆ อยากรู้จังว่าcameoที่โผล่มาตอนจบเป็นใคร ถ้าให้เดาต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับหนังซอมบี้มามาก...คงไม่ใช่ลุงโรเมโร่หรอกนะ - -

หนัง feel good อยากดูๆ"แต่จากสถานการณ์ในเรื่องและบริบทที่เกิดขึ้นก่อนหน้าแล้ว มันยากที่จะทำใจเชื่อในสิ่งที่เห็น โดยเฉพาะพล็อตรองเกี่ยวกับปืน"... เง้ออ ท่าจะมีคนตาย หรือมีเรื่องเครียดๆ แล้วจะฟีลกู้ดมั๊ยเนี่ย
หนังเครียดเรารับได้นะ แต่ที่ดูไม่ได้เลยคือหนังที่มีฉากข่มขืนอ่ะ มันทำร้ายจิตใจ ตอนนี้ก็เลยยังไม่ได้ดูหนังออสการ์ของฮิลลารี่สแวงค์เรื่องนั้น ใจจริงอยากดูมากแต่กลัวฉากมันติดตา (ดูอะไรที่มันจรรโลงใจอย่างซอมบี้ลากไส้คนดีกว่า) irreversibleอยู่ในลิสต์หนังที่ชาตินี้คงไม่ดูเด็ดขาด

เรื่อง Birth ชอบดาราเด็ก เล่นเก่งดี แต่สุดท้ายก็ไม่รู้ว่ามันเป็นยังไงอย่าหักมุมกันง่ายๆอย่างนี้สิคะคุณคนเขียนบท โคลิน เฟิร์ธดูไม่แก่ขนาดมีลูกวัยรุ่นในโปสเตอร์นะ เดี๋ยวนี้หนังฝรั่งเหมือนละครหลังข่าวซะแล้ว เอาดาราที่ยังไม่แก่มาเล่นเป็นพ่อแม่ปู่ย่าไปซะ

ในจำนวนบดมด.รีวิวทั้งหมดคิดว่าเรื่องแรกที่ดิชั้นจะมีโอกาสได้ดูน่าจะเป็นเรื่องนักฆ่า pay-per-viewนี่แหล่ะ สร้างหนังแบบนี้ออกมากี่เรื่องก็ตามดูทุกเรื่อง แสดงให้เห็นถึงรสนิยมในการเสพภาพยนต์ของอป.จริงๆ ล่าสุดที่ดูก็หนังเจอร์ราด บัตเลอร์กับพี่หัวล้านทรานสปอร์ตเตอร์อ่ะ ชอบเรื่องหลังมากกว่าเพราะเกรดบีกว่า ไม่ต้องคิดมาก กรั่กๆๆ

เมื่อไหร่อดัมแซนด์เลอร์จะมีหนังคลาสสิคแซนเลอร์อย่าง happy gilmore เหรอ Billy Madison อีกเนอะ แม่เราชอบมากเลย ดูจนแผ่นเปื่อยแล้ว ดูมุกเดิมๆก็ขำทุกที

อนิเมชั่นมืดหม่นโปสเตอร์ยังดูเศร้าๆเลย ท่าจะมาในแนวเขาวงกตแพน หลอกเด็กและผู้ใหญ่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไปดูแล้วทำให้ร้องโฮก

"การที่ต้องมานั่งทน อารี โกลด์ เป็นเวลากว่า 90 นาที มันคือความทรมานที่เลวร้ายยิ่งกว่าเป็นริดสีดวงอีก" กร๊ากกก จริง เห็นด้วย แต่ก็ยังอยากดูนะ

เรื่องสุดท้ายเหมือนเอาเจสันบอร์นมาล้อเลียนยังไงไม่รู้แฮะ แต่คงเสียดสีการเมืองมากกว่า สารภาพว่าอ่านเรื่องย่อยังงงเลย = =

อ๊างงงง universal soldierภาคใหม่ ของจริงเหรอ fan-madeล่ะนั่น เห็น trailer แล้วกรี๊ดในใจ ฮีแมนแอนด์แวนดัมบ์กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง



โดย: อป (apple_cinnamon ) วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:58:41 น.  

 
พึ่งซื้อแผ่น terminator salvation มาดูเมื่อวาน สนุกดี แต่เหมือนพระเอกจะไม่ใช่จอห์น คอนเนอร์เลยเนอะ ขอบทเพิ่มให้คริสเตียนเบลหน่อยฮ่าผกก.

แล้วอย่างนี้จะมีภาคต่อไปรึเปล่า อยากดูภาคต่อแล้วอ่า


โดย: อป (apple_cinnamon ) วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:22:30 น.  

 
อยากดู Looking for Eric กับ Genova มากเลยเพระเป็นงานของผกก.สุดโปรดทั้งคู่

ส่วน Mary & Max นี่น่าดูมากๆ เลยครับ


โดย: เอกเช้า IP: 124.120.193.139 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:01:47 น.  

 
^
^
British Film Festival ที่เอสเอฟเวิลด์ มีฉายเรื่อง Looking For Eric ครับ โดยตามโปรแกรมจะฉายวันที่ 6 ธันวาคม เวลา 19:00 น. เรื่องอื่นๆก็น่าสนใจนะ อย่างเช่น Is Anybody There? หรือ The Age of Stupid ยังไงดูข้อมูลได้ตามลิงค์ตรงนี้เลย


โดย: BloodyMonday วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:0:01:53 น.  

 
+ ตอนเด็กๆ ผมมีดาราที่ปลื้มว่าสวยเลิศที่สุดในโลก อยู่ด้วยกัน 4 คน (แค่ปลื้มในใจนะครับ เพราะตอนนั้นหนังเหนิงก็ยังไม่ได้ดูหรอก) คือบรูค ชีลด์ (เห็นตามโปสเตอร์), โซฟี มาโซ, ฟีบี้ เคทส์ แล้วก็เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี่ (น่าจะจากเรื่อง Labyrinth) ... มาถึงตอนนี้ 2 คนแรกก็กลายเป็น "คุณป้าผู้งามสง่า" ไปซะแล้ ส่วนคนหลังก็กลายเป็นดาราออสการ์ขายฝีมือ มีแต่ฟีบี้นี่แหละครับ ที่เธอหายไปไหนเสียแล้วก็ไม่รู้

+ มอลลี่ ริงวาลด์ กับอัลลี ชีดี้ เคยได้ยินแต่ชื่อ เหมือนผมจะไม่เคยดูหนังที่พวกเธอแสดงกันเลยอ่ะครับ ... และสำหรับตัวผมเอง จะเริ่มประวัติศาสตร์การดูหนังของตัวเองประมาณปี 1991 (แถวๆ Silence กับ Pulp fiction) ดังนั้นถ้าเป็นเรื่องก่อนหน้านั้นหรือหนังยุค '80 โอกาสจะได้ดูก็คงเป็น บิ๊กซีนีม่า (สมัยก่อนนะ กรั่กๆ) หรือเคเบิลทีวี แค่นั้นเองอ่ะครับ

+ ถ้านับแล้ว เหมือนผมเริ่มดูหนังช้ากว่าคุณ BdMd กับน้องเอกเช้าสักร่วม 10 ปีเห็นจะได้มั้งเนี่ย เลยทำให้หลายๆ เรื่องที่เอ่ยมา หรือหนังวัยรุ่นยุค '80s ทั้งหลายนี่ ผมแทบไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัสเลยอ่ะครับผม แหะๆ

+ Zombieland นี่อยากดูคอตรๆ เพราะยังขำ Shuan ไม่หาย ผมชอบตลกร้ายแบบเนี้ยะแหละครับ ฮาดี

+ วู้ดดี้ ฮาเรลสัน หลังจากหายเงียบไปพักใหญ่ๆ ช่วงนี้เหมือนเค้าจะเกิดใหม่จากบทประมาณนี้นะครับ (นับรวมใน 2012 ด้วยมั้ย? วะฮ่าฮ่า)

+ FAQ คงน่าดูที่แอนนา ฟารีส นั่นแหละครับ ท่าทางจะฮากระจาย

+ Looking for Eric ได้ยินเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้มาพักนึงแล้ว น้ากองโต้หลังจากแจ้งเกิดไม่สำเร็จจาก Elizabeth (ไม่เหมือนน้าวินนี่ โจนส์ ที่มีสถานภาพเสมือนหนึ่งเป็นดาราฮอลลีวูดไปซะแล้ว) อาจแจ้งเกิดจากหนังที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาเองอย่างเรื่องนี้ได้หรือเปล่าเอ่ย

+ ผมเคยดูงานของ ผกก.วินเทอร์บอททอมเรื่องเดียวเองครับ (เชยจังตรู ) คือ A mighty heart ดังนั้นคงต้องลองหาเรื่องอื่นมาดูเพิ่มเติมซะก่อน ถึงจะพอจับทางได้ว่าผมจะถูกจริตกับสไตล์การกำกับของเค้ารึเปล่าอ่ะครับ

+ ชักยาวไปแล้ว เด๋วหาย ขอโพสต์ก่อน เด๋วต่ออีกเม้นต์นะครับ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:15:10:58 น.  

 
+ อดัม แซนด์เลอร์ ผมกลับชอบดูเค้าจากบทดราม่า (Reign over me), ดราม่าโรแมนซ์ (Punch-drunk love) หรือไม่ก็โรแมนติคคอมมิดี้ไปเลย (The wedding singer / 50 First dates) มากกว่าแฮะ ส่วนสไตล์ประจำตลกบ๊องๆ ของเค้านั่น ผมไม่ค่อยขำเท่าไหร่อ่า

+ สำหรับผม Marry and Max ก็เป็น 1 ในอนิเมอันยอดเยี่ยมของปีนี้ที่ได้ดูเช่นกันครับ (ถึงแม้จะฟังใจความได้ทันไม่หมดก็ตาม) ช่างมืดหม่นได้ใจเหลือเกิน (ตอนที่คาแรคเตอร์ที่พากย์โดยอีริค บานา หนีจากแมรี่ไปหา ... นั่นทำเอาผมอึ้งไปเลยอ่ะ เล่นแรงอินเทรนด์กับโลกยุคนี้นะนั่น เหวอไปเลย เหอๆ )

+ อนิสตัน พักหลังเธอชักจะเลือกเล่นหนังแป้กเยอะเกินไปแล้ว เด๋วก็กลายเป็นป้าเดมี่ มัวร์2 หรอก (อาจต้องหาแฟนเด็ก จะได้ยังอยู่ในกระแสข่าว)

+ บุรุษจ้องแพะ นี่ไอเดียเหนือคำบรรยายมากครับ แค่ชื่อหนังกับพล็อตย่อก็ฮาคอตรแล้ว แถมกรุ่นกลิ่นเสียดสีการเมืองกับสงครามอีกต่างหาก แล้วยังดารานำเด็ดๆ หลายคนนั่นอีกล่ะ โปสเตอร์นั่นก็ขำกลิ้งสุดๆ

+ แต่ถ้าเป็นเมืองไทย นี่คงเป็นหนัง "ตีแสกหน้าวงการตำรวจ" (ผู้นิยมจับแพะ) นะครับเนี่ย วะฮ่าฮ่า

+ เอ่อ ... นี่เทศกาลหนังบ้านเรายังไม่จบอีกเหรอเนี่ย? นึกว่าสิ้นสุดไปที่ EU Films แล้วซะอีกแฮะ แต่แง้ๆๆ เสียดายจัง ต้องไปเที่ยวปีนดอยพอดีเลยอ่า อดดูอีกแล้วเรา (ไฉนเค้าช่างกล้าจัดฉายหนังเทศกาลในวันหยุดยาวได้นะ ก็รู้อยู่ว่าคนออกต่างจังหวัดกันเยอะ กลัวคนดูล้นโรงเหรอไง )


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:15:46:45 น.  

 
รู้สึกเริ่มอยากดู ซวมบี้ย์ลานด์ นิดๆแหละ
ทั้งๆที่จริง เริ่มรู้สึกเฝือกับสไตล์ funny-zombie ที่ทำกันมาจนเยอะเกิน

อยากรู้ว่าเรื่องนี้จะดีกว่า "ไสหัวไปตายซะ"ไหม


ป.ล. เราพึ่งดู feast 2&3 จบ
โคตรเกลียดอย่างสาหัจ


โดย: AguileraAnimato IP: 124.121.241.90 วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:20:13:10 น.  

 
อะฮ้า เราได้ดู Zombieland แล้ว แต่ไม่ค่อยชอบอ้ะ โดยเฉพาะฉากจบที่สวนสนุกนั้น ไร้ความตื่นเต้นโดยสิ้นเชิง (แต่น้องนางเอกน่ารักดี) อ้อ แต่ชอบเรื่องกฏเหล็กต่างๆนะ เจ๋งดี

อ่านที่รีวิวแล้วอยากดู Tournament มันต้องถูกจริตผมแน่ๆ


โดย: แฟนผมฯ IP: 112.142.211.183 วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:20:36:13 น.  

 
น่าดู "แพะ" จริงๆ


โดย: navagan วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:0:38:09 น.  

 
Let's petition for "Twilight Bashing/Thrashing" as an olympic sport (hope your boss's not looking over the shoulder right now)

ชอบรูปที่บดมด.เอามาแปะมากเลยอ่ะ ส่งอีแมวให้น้องสาวแล้วด้วย เรตติ้งกระฉูดมาก ขออีกๆๆ

ขำเม้นคุณบลัดดี้ ไปหารูปนี้มาจากไหนอ้ะ ฮ่าๆๆๆ งานนี้เอ็ดเวิร์ดได้จากเบลล่าไปตลอดกาลแน่ๆ - คุณแฟนผม

ก๊ากกกก ชั้นชอบเบลดนะ ค่อดเท่ห์ จัดการเลย เปลี่ยนพรีเซ็นเตอร์ไวท์เทนนิ่งซะ - อออ.

อ้าว...คนเหล็กภาคล่าสุดรายได้ไม่ดีเหรอ คือยังไงเราว่าก็ไม่สนุกเท่าภาคคุณเจมส์คาเมรอนนะ (ภาคที่เทพคิดเทคนิคซีจีเปลี่ยนร่าง..rip) แต่ก็ยังมันส์กว่าหุ่นตัวใหญ่ตีกันหลายขุมอยู่ ไม่หลายขุมอ่ะ หลายสนามกอล์ฟเลย

ตะเองเห็นตัวอย่างอวตารยัง ตกลงมันเป็นยังไงกันแน่ ได้ข่าวว่าเค้าเอาการ์ตูนญี่ปุ่นมาทำ แต่มิกกี้ยังงงเลยว่าการ์ตูนเรื่องไหนกันแน่ (ถ้าเป็นการ์ตูนหุ่นตีกันของญี่ปุ่นเนี่ยมิกกี้ไม่น่าพลาด)

universal soldierน่าจะร่วมมือกันเนอะ ไหนๆก็กลับมาเล่นอีกรอบแล้ว



โดย: อป (apple_cinnamon ) วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:12:27:37 น.  

 
อยากไปเที่ยวเจนัววววววว

โดยไม่สนใจพล็อตหนัง



โดย: grappa วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:12:39:53 น.  

 


นิวมูนภายในหนึ่งนาที...


โดย: BloodyMonday วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:18:44:46 น.  

 
^
^
55555++ สุดยอด... ความหล่อความสวยสู้ไม่ได้ แต่จับบุคลิคมาล้อได้แสบมาก (สังเกตการเอียงคอของพระเอก และปากบิดๆของเบลล่า) ส่วนรูปร่างเจค็อบ เห็นทีแรกนึกว่ามนุษย์หมีป่า (แต่แปลงกายแล้วฮาได้อีก)


โดย: แฟนผมฯ IP: 112.142.211.42 วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:20:23:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BloodyMonday
Location :
Imaginationland, Valley of Bliss China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






-= M & M in Nutshell =-


Gentlemen Broncos (2009)


You could have brain tumor by watching this contaminated turd. Nothing in Gentlemen Broncos pays off, it’s incoherent mess, and chock-full of incredibly annoying characters. You will not only loath this movie, but it also makes you want to punch someone who responsible for this abomination in the face.

BloodyMonday Rating:



Fantastic Mr. Fox (2009)


Imagine if Akira got Live-Action treatment by... say Alfonso Cuarón, you know how awesome it might be? That’s what happened to "Fantastic Mr. Fox". Wes Anderson's auteur perfectly captured the quirkiness and blissful tone of the material. Its stop-motion technique might be a little crude and... somewhat unsophisticated, but that's the charm of it. You’ll feel like pop-up book unveiled before your eyes. This is an exceptional animation of the year.

BloodyMonday Rating:



Planet 51 (2009)


ถ้าถามว่าสนุกไหม? ก็โอเค ทุกอย่างถอดแบบมาจาก Shrek มุขที่อ้างอิงวัฒนธรรมป็อป ตัวละครสมทบที่น่าสนใจกว่าตัวเอก กราฟฟิคที่สอบผ่านฉลุย (ถ้าไม่ไปวัดกับพิกซาร์) แต่ถ้าถามว่าต้องดูไหม? ..... เอาเป็นว่าเวลาชั่วโมงครึ่ง ทำอะไรที่มีประโยชน์กว่านี้ได้เยอะแยะ

BloodyMonday Rating:



It's Complicated (2009)


รู้สึกสนุกกับการได้เห็นป้าเมอรีล เข้าโหมดแอ๊บเด็ก (อีกแล้ว) ในขณะเดียวกัน อเล็กซ์ บอลด์วิน และ จอห์น ครากินสกี้ ก็ขโมยซีนได้ตลอด แต่มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหนังยาว 2 ชั่วโมงมีเรื่องให้เล่าแค่ 15 นาที... It's Complicated อาจเหมือนคนกินไวอากร้าแล้วเข้านอน คึกตลอดคืนแต่มันจะมีประโยชน์อะไร?

BloodyMonday Rating:



Up in the Air (2009)


Up in the Air is a blockbuster movie for people who think blockbuster movies are dumb, as it chock full of brilliantly written dialogue, and acting showcase for three talented actors (especially star-making turn by Anna Kendrick). But in the end, there's little to love, not so much story to chew on (plus disappointing third act), and no real connection to the meaning of human interaction as it intended to be.

BloodyMonday Rating:



I Love You, Beth Cooper (2009)


Cliché-ridden plot about a bunch of annoying characters get together in one idiotic circumstance, "I Love You, Beth Cooper" is shameless exploitation & biggest insult to 80s teen flicks. It's like memorizing magic trick from internet, hoping to perform like David Copperfield. Neither sense of wonder nor magic flare happens here. Only good thing is, it makes me wanna cleanse my soul with genuine 80s teen movie night marathon.

BloodyMonday Rating:



Everybody's Fine (2009)


Meh. The movie serious lack of originality & characters development. Only Robert De Niro comes out fine in this schmaltzy, "Lifetime" movie-of-the-week plot.

BloodyMonday Rating:



Paper Heart (2009)


Twee delight... That's only two words I can think of right now.

BloodyMonday Rating:



Adam (2009)


A perfect companion to Mary & Max (one of the best animation of 2009), Adam is star-crossed love story (pun intended) between Adam, Asperger's Syndrome bearer, and Beth, free spirit woman. The picture wouldn’t be this intimate without stunning performance by Hugh Dancy. On the other hand, the lack of depth on why Beth would love someone like Adam, preventing me from wholeheartedly embraces her choice in the end (which is nice & perfect but requires a leap of faith). Otherwise, this is touching romantic film, which putting its feet firmly on the ground, making the world full of hope and seems nicer place to live.

BloodyMonday Rating:



The Invention of Lying (2009)


Expected to be like “Click” or “Yes Man”, where high-concept plot turned into endless gags, with moral lesson (forcefully) shoving down your throat. But "The Invention of Lying" is thinking man’s film. The whole concept is not seeing how first lying man exploits the ability. But it's about him finding the way not to lie, in order to find genuine happiness. Great stuff.

BloodyMonday Rating:



Give ‘Em Hell Malone (2009)


This is one damn frustrating experience. It’s like watching an infant trying to stand up and walk. They would take a few steps then fall their asses. In fact, kiddie film like “Bugsy Malone” has done better job paying a tribute to film noir than this borefest.

BloodyMonday Rating:



Zombieland (2009)


ถ้าอังกฤษมีหนังซอมบี้ฮาแตกอย่าง Shaun of the Dead แล้ว ทำไมอเมริกาจะมีบ้างไม่ได้... Zombieland คือการผสมผสานระหว่างบรรดาหนังซอมบี้เก่าๆ เข้ากับทัศนคติของคนสร้างที่อาจดูหนังแนวนี้มากเกินความจำเป็น จนสามารถสร้างหนังซอมบี้ที่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองเป็น และเล่นสนุกไปกับกฏพื้นฐานของซอมบี้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยกความดีให้สี่นักแสดงนำ โดยเฉพาะ วู้ดดี้ ฮาเรลสัน (เขาเกิดมาเพื่อบทนี้) ที่ช่วยกันสร้างมนต์เสน่ห์ ให้กับการเดินทางในโลกไร้มนุษย์ได้อย่างเต็มที่

ถึงแม้พลังงานที่ขับเคลื่อนจะมาหมดเอาดื้อๆในองค์สุดท้าย เมื่อฉากใหญ่ในสวนสนุกถูกทำขึ้นเพื่อแสดงฉากการฆ่าซอมบี้เด็ดๆ (ซึ่งไม่ใช่จุดเด่นสำหรับเรื่องนี้เลย) แต่โดยรวมแล้วมันก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัว ที่บรรดาแฟนซอมบี้จะมาพลาดหนังเรื่องนี้... อ้อ แล้วหนังยังมีดารารับเชิญสุดเซอร์ไพรซ์ ที่สร้างเสียงฮาที่สุดในเรื่องได้จากประโยคสุดท้ายอีกด้วย

BloodyMonday Rating:



Frequently Asked Questions About Time Travel (2009)


เมื่อเพื่อนสามคนก๊งเบียร์กันในผับแล้วเจอสาวฮ็อต (แอนนา ฟาริส) ที่อ้างว่ามาจากอนาคตจนเกิดรอยแยกของเวลา ทำให้ทั้งสามต้องท่องไปทั้งโลกในอนาคตและอดีตจนวุ่นวาย...

หนังมีไอเดียกิ๊บเก๋ ทำออกมาได้สนุกสนานสไตล์ซิตคอมอังกฤษ โดยเฉพาะการนำกฏเหล็กต่างๆจากหนังที่เกี่ยวกับการท่องเวลา (ดูเหมือนว่า Back to the Future จะเป็นแรงบรรดาลใจหลัก) มาปู้ยี้ปู้ยำอย่างเมามัน ถึงแม้ว่าตลอดเวลาการรับชมจะให้ความรู้สึก เหมือนตัวเองกำลังดูซีรี่ย์ทางโทรทัศน์ แต่มันก็คือตอนที่ฮาที่สุดของซีซั่น แถมเอฟเฟ็คที่ใช้ก็มีคุณภาพจนคาดไม่ถึง

BloodyMonday Rating:



Looking for Eric (2009)


มีความรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มองโลกในแง่ดีเกินบรรยากาศโดยรวม จริงอยู่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ลงเอยด้วยดีในตอนสุดท้ายนั้น สามารถสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับคนดู แต่จากสถานการณ์ในเรื่องและบริบทที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มันยากที่จะทำใจเชื่อในสิ่งที่เห็น โดยเฉพาะพล็อตรองเกี่ยวกับปืน ซึ่งถ้าถูกตัดออกไปและหนังยังดำเนินเรื่องอย่างที่เป็นอยู่ Looking for Eric ก็น่าจะเป็นหนังฟีลกู้ดที่อบอุ่นที่สุดเรื่องหนึ่งของปีเลยทีเดียว

BloodyMonday Rating:


~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
29 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add BloodyMonday's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.