Review in Nutshell...#19 (กันบล็อคเน่า อิดิชั่น)



Wall Street: Money Never Sleeps

มีหลายสิ่งที่เปลี่ยนไปในช่วงเวลา 23 ปี เมื่อ กอร์ดอน เก็คโค ถูกมนุษย์ต่างดาวลักพาตัว แล้วได้คุณลุงใจดีกลับมาแทน เนื้อหาเดิมๆที่โรยราจนไม่เหลือคมเขี้ยวไว้ขย้ำคนดู ที่สำคัญคือ โอลิเวอร์ สโตน ยอมจำนนต่ออำนาจเงินตรา เมื่อเขาปล่อยให้ฉากจบแบบนี้เกิดขึ้น (เงินซื้อได้ทุกสิ่ง ไชโย !)

BloodyMonday Rating:


The King of Fighters

ทุกอย่างผิดพลาดตั้งแต่การคัดเลือกคนมารับบท ไม ชิรานุอิ ขวัญใจคอเกมส์หนุ่มๆ ที่ดันเอาสาวคัพเอ แม็คกี้ คิว มาแสดง ด้วยการแสดงที่อยู่ในระดับละครเวทีอนุบาลหมีน้อย (พระเอก ฌอน ฟาริส เหมือนถูกฉุดจากรันเวย์มาเล่นขำๆบนจอ) และฉากต่อสู้ที่น่าจะเป็นแสงสว่างเล็กๆที่ช่วยหนังให้มีอะไรพูดถึงบ้าง กลับกลายเป็นช่วยเหยียบให้จมดินยิ่งกว่าเดิม การออกแบบคิวบู๊ที่ไร้ซึ่งจินตนาการ (อุตส่าห์มี เรย์ ปาร์ค แล้วแท้ๆ เสียของ) ความไม่ทุ่มเทของนักแสดง (บางทีเตะต่อยห่างเป้าหมายเป็นกิโล และต่อยในที่นี้คือการเอาหมัดไปแปะคู่ต่อสู้ แล้วกระชากออกมาเร็วๆให้ดูเหมือนแรง) บวกกับเอฟเฟคปล่อยพลังที่ทำให้ Dragonball: Evolution ดูเหมือน Avatar ขึ้นมาทันที... ทั้งหมดนี้ทำให้พูดได้เต็มปากว่า The Kings of Fighters คือหนังห่วยที่สุดเท่าที่ดูมาในปีนี้

BloodyMonday Rating:


The Experiment

ดูเหมือนการเอา Das Experiment มารีเมค จะได้แต่เส้นเรื่องและองค์ประกอบแวดล้อม แต่ไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย การสำรวจสันดานดิบของมนุษย์ที่ไร้กฎเกณฑ์ ถูกกลืนหายไปด้วยความพยายามทำให้ดูแรง (เช่นการยืนล้อมวงฉี่รด เอเดรียน หรือให้ใช้ลิ้นทำความสะอาดโถส้วม) และตัวละครที่เหมือนหลุดมาจากละครหลังข่าว (โดยเฉพาะตัวละครของ ฟอเรสต์ วิทเทคเกอร์) อย่างไรก็ตามด้วยการเล่าเรื่องที่ไหลลื่นและความทุ่มเทของนักแสดงแต่ละคน ก็ทำให้มันเป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ (โดยเฉพาะถ้าไม่เคยดูต้นฉบับมาก่อน)

BloodyMonday Rating:




Bunny and the Bull

ร่วมเดินทางไปกับความทรงจำของชายคนหนึ่ง เพื่อเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้เขาเก็บตัวอยู่ในห้องนานนับปี... ตั้งแต่เครดิตเปิดเรื่อง กลิ่นอายจากหนังของ มิเชล กงดรี้ และ ฌอง-ปิแอร์ จูเนท์ ก็ลอยเข้่ามา แต่งานสร้างที่พรั่งพรูไปด้วยไอเดีย ไม่สามารถปกปิดความว่างเปล่าของเนื้อหาไปได้ตลอด... มันให้ความรู้สึกเหมือนกับการเจอร้านของเล่นที่แต่งตู้กระจกโชว์ได้อลังการ แต่เมื่อเข้าไปกลับพบว่าของเล่นทุกชิ้นถูกนำไปประดับในตู้หมดแล้ว

BloodyMonday Rating:


Five Minutes of Heaven

เมื่อชายคนหนึ่งต้องเผชิญหน้ากับชายอีกคน ที่ฆ่าพี่ชายของเขาเมื่อ 25 ปีก่อน... ด้วยการแสดงขั้นเทพของ เลียม นีสัน และ เจมส์ เนสบิตต์ (จาก Bloody Sunday) กับบทพูดโมโนล๊อคของทั้งคู่ที่อัดแน่นด้วยอารมณ์ความรู้สึก ทำให้หนังที่มีการเดินเรื่องและพล็อตแสนธรรมดาดูน่าสนใจขึ้นอีกเยอะ และมันคงจะสมบูรณ์แบบถ้าหนังเรื่องนี้ถูกทำเป็นละครเวที

BloodyMonday Rating:


Resident Evil: Afterlife

เป็นภาคที่สนุกพอ ๆ กับภาคแรกและเหนือกว่าภาค 2 และ 3 ถึงแม้ฉากเปิดและฉากจบจะโชว์ออฟจนเกินงาม (ฝันร้ายจาก Ultraviolet เกือบหวนคืนมา) แต่มันก็มาพีคช่วงกลางเรื่อง เมื่อหนังจำกัดพื้นที่ให้ตัวละครกลุ่มเล็ก ๆ หาทางเอาตัวรอด ที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับหนัง จอห์น คาร์เพนเตอร์ (Assault on Precinct 13, The Thing) และ จอร์จ เอ โรเมโร่ (บรรดา …Of the Dead)... ถึงแม้ Afterlife จะไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความใหม่ แต่ถ้าคุณจะขโมย... ไม่สิ “ได้รับแรงบันดาลใจ” จากไอเดียคนอื่น ก็จงทำให้ได้แบบนี้

BloodyMonday Rating:




Four Lions

ร้ายมาก ร้ายจริง ๆ... หนังทำให้เราสนุกกับโศกนาฏกรรมของกลุ่มเพื่อนชาวอังกฤษเชื้อสายอาหรับ 4 คน ที่วางแผนขึ้นสวรรค์ทางลัดด้วยการทำจิฮัด คุณจะหัวเราะก๊ากไปกับการกระทำเพี้ยน ๆ ของพวกเขา แต่เมื่อทุกอย่างสิ้นสุด คุณก็จะรู้สึกสงสารปนหดหู่ไปกับชะตากรรมของแต่ละคน

BloodyMonday Rating:


Grown Ups
ใช้เวลาดู 3 วัน (ตื่นมาปิดเพราะตู้ม ๆ ของ ซัลม่า ฮาเย็ค เข้าไปสะกิดในความฝัน) หนังเหมือนกับเอามุขที่สอบตกจากหนังเรื่องก่อน ๆ ของ อดัม แซนด์เลอร์ มายำ ๆ ใส่กล่อง ผูกโบว์ ประหนึ่งกำลังย้อมแมวขาย... สรุปว่าถ้าจะให้ดูอีกรอบ ขอเปิด Little Nicky แบบกรอถอยหลังน่าจะสนุกกว่า

BloodyMonday Rating:


Pump Up the Volume

"Sometimes being young is less fun than being dead" ถ้าให้พูดถึงหนังที่เป็นกระบอกเสียงของวัยรุ่นปลายยุค 80 ถึงต้น 90 ก็คงจะหนีไม่พ้น Heathers และเรื่องนี้ (นำแสดงโดย คริสเตียน สเลเตอร์ ทั้งคู่) ถึงแม้เรื่องนี้จะกัดไม่มันส์เท่า Heathers แต่มันก็อัดแน่นไปด้วยความจริงและอารมณ์ดิบ ๆ ที่พรั่งพรูผ่านทางตัวละคร ทำให้มันเป็นหนังตัวแทนของคนเจเนเรชั่น Y ได้อย่างสมศักดิ์ศรี

BloodyMonday Rating:




Love N' Dancing

เซอร์ไพรซ์ ๆ หนังเต้นที่ถูกส่งลงแผ่นแบบไม่ให้ใครรู้ แต่สร้างความประทับใจได้มากกว่าหนังเต้นหลาย ๆ เรื่อง แน่นอนที่เนื้อหาจะดูหลงมาจากยุค 80s แถมบางฉากยังทำให้เราส่ายหัวแบบไม่อยากเชื่อ (โดยเฉพาะการพัฒนาความรักระหว่างพระเอก-นางเอก) แต่ด้วยการเต้นแนวบอลรูมที่เจ๋งเกินคาด พาเหรดเพลงป็อปใส ๆ ติดหู บวกกับความน่ารักแบบไม่ต้องพยายามของ เอมี่ สมาร์ท ก็ทำให้หนังเรื่องนี้ดูสนุกและเรียกรอยยิ้มได้

BloodyMonday Rating:


Infestation

หนังแมลงกุ๊ดจี่บุกโลก หน้าหนังเหมาะแก่การขายตามตลาดนัด โปรดักชั่นและเอฟเฟ็คทำได้ตามอัตภาพ (เจมส์ คาเมรอน กระพริบตาครั้งเดียวทุนสร้างก็แซงหน้า) ทีมนักแสดงเกรดบีถึงบีลบ... แต่ถ้าให้เลือกระหว่างเรื่องนี้กับ ทรานฟอร์เมอร์ 2 ขอเลือกดูเรื่องนี้แบบไม่ต้องคิด

BloodyMonday Rating:


กวน มึน โฮ

ไม่รู้มีใครเปรียบแล้วไปรึยังว่า การดูหนัง GTH ก็เหมือนกับเด็กไปโรงพยาบาล ระหว่างที่รอคุณก็จะสนุกสนานอยู่ในโซนเด็กเล่น ก่อนที่จะเข้าห้องตรวจและโดนหมอจับฉีดยาร้องไห้แง หลังจากนั้นคุณหมอใจดีก็จะให้อมยิ้มปลอบใจและปล่อยกลับบ้าน.... ที่นี้คุณต้องเลือกว่าตัวเองจะเป็นเด็กที่ยอมปล่อยใจไปกับสถานการณ์ หรือว่าจะเป็นเด็กที่มีความหลังฝังใจเจ็บกับการไปโรงพยาบาล (สำหรับเด็กที่ไปโรงพยาบาล GTH ไม่บ่อยอย่างเรา ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่ได้เลวร้ายอะไร)

BloodyMonday Rating:




 

Create Date : 02 ตุลาคม 2553
5 comments
Last Update : 2 ตุลาคม 2553 12:26:52 น.
Counter : 1042 Pageviews.

 

ลิสนี้เช่นเคยครับไม่เคยดูซักเรื่องเลย =='

แต่จากที่ผ่านตาเราอยากดู Das Experiment ที่เป็นเวอร์ชั่นต้นฉบับนะ ไว้หามาดูดีกว่า

แล้วก็ Bunny and the Bull, Five Minutes of Heaven และ Four Lions

ปล. จะไปฮ่องกง-จีนอยู่ร่อมร่ออยู่แล้วยังไม่มีแผนใดๆเลยอะ ไม่ได้รบกวนอาร์ตเลย 555

ปลล. เราว่าเราเข้ามาอ่านในบล็อคอาร์ตช้าแล้วนะไม่ยักกะมีคนเม้นต์ซักคน หรือว่าได้ FB แล้วลืมบล็อคหมด? T_T

 

โดย: Seam - C IP: 58.9.75.43 4 ตุลาคม 2553 8:08:29 น.  

 

เพิ่งได้ดู Wall street ภาคแรกไปเมื่อไม่กี่วันนี้ หนังสนุกดี ถึงแม้ผมจะไม่มีความรู้อะไรเรื่องตลาดหุ้นเลยก็ตาม (คือถ้ารู้เรื่องก็น่าจะดูสนุกกว่านี้) ดูแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่าชาร์ลี ชีน หายไปไหนแล้ว จริงๆก็ไม่ได้เล่นหนังขี้เหร่อะไรนี่นา หน้าตาก็หล่อใช้ได้ แต่ทำไมไม่ค่อยรุ่งเลย

ว่าแต่รีวิวซะหมดความอยากดูภาค 2 เลยนะเนี่ย 555

 

โดย: แฟนผมฯ IP: 122.248.16.2 4 ตุลาคม 2553 9:18:17 น.  

 

เข้ามาบอกว่ายังไม่ได้ดูซักเรื่อง

 

โดย: navagan 6 ตุลาคม 2553 4:14:04 น.  

 

มีกวนมึนโฮเรื่องเดียวเองที่ได้ดู -*-

 

โดย: เอกเช้า IP: 198.155.101.241 6 ตุลาคม 2553 15:21:46 น.  

 

เล่นเฟสบุค ขอแอ่ดด้วยคนได้ป่าวครับ


//www.facebook.com/home.php?sk=lf#!/ayuwat.angkhawut

หรือแอ่ดกันไปแล้วหว่า

 

โดย: joblovenuk 13 ตุลาคม 2553 13:16:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


BloodyMonday
Location :
Imaginationland, Valley of Bliss China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






-= M & M in Nutshell =-


Gentlemen Broncos (2009)


You could have brain tumor by watching this contaminated turd. Nothing in Gentlemen Broncos pays off, it’s incoherent mess, and chock-full of incredibly annoying characters. You will not only loath this movie, but it also makes you want to punch someone who responsible for this abomination in the face.

BloodyMonday Rating:



Fantastic Mr. Fox (2009)


Imagine if Akira got Live-Action treatment by... say Alfonso Cuarón, you know how awesome it might be? That’s what happened to "Fantastic Mr. Fox". Wes Anderson's auteur perfectly captured the quirkiness and blissful tone of the material. Its stop-motion technique might be a little crude and... somewhat unsophisticated, but that's the charm of it. You’ll feel like pop-up book unveiled before your eyes. This is an exceptional animation of the year.

BloodyMonday Rating:



Planet 51 (2009)


ถ้าถามว่าสนุกไหม? ก็โอเค ทุกอย่างถอดแบบมาจาก Shrek มุขที่อ้างอิงวัฒนธรรมป็อป ตัวละครสมทบที่น่าสนใจกว่าตัวเอก กราฟฟิคที่สอบผ่านฉลุย (ถ้าไม่ไปวัดกับพิกซาร์) แต่ถ้าถามว่าต้องดูไหม? ..... เอาเป็นว่าเวลาชั่วโมงครึ่ง ทำอะไรที่มีประโยชน์กว่านี้ได้เยอะแยะ

BloodyMonday Rating:



It's Complicated (2009)


รู้สึกสนุกกับการได้เห็นป้าเมอรีล เข้าโหมดแอ๊บเด็ก (อีกแล้ว) ในขณะเดียวกัน อเล็กซ์ บอลด์วิน และ จอห์น ครากินสกี้ ก็ขโมยซีนได้ตลอด แต่มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหนังยาว 2 ชั่วโมงมีเรื่องให้เล่าแค่ 15 นาที... It's Complicated อาจเหมือนคนกินไวอากร้าแล้วเข้านอน คึกตลอดคืนแต่มันจะมีประโยชน์อะไร?

BloodyMonday Rating:



Up in the Air (2009)


Up in the Air is a blockbuster movie for people who think blockbuster movies are dumb, as it chock full of brilliantly written dialogue, and acting showcase for three talented actors (especially star-making turn by Anna Kendrick). But in the end, there's little to love, not so much story to chew on (plus disappointing third act), and no real connection to the meaning of human interaction as it intended to be.

BloodyMonday Rating:



I Love You, Beth Cooper (2009)


Cliché-ridden plot about a bunch of annoying characters get together in one idiotic circumstance, "I Love You, Beth Cooper" is shameless exploitation & biggest insult to 80s teen flicks. It's like memorizing magic trick from internet, hoping to perform like David Copperfield. Neither sense of wonder nor magic flare happens here. Only good thing is, it makes me wanna cleanse my soul with genuine 80s teen movie night marathon.

BloodyMonday Rating:



Everybody's Fine (2009)


Meh. The movie serious lack of originality & characters development. Only Robert De Niro comes out fine in this schmaltzy, "Lifetime" movie-of-the-week plot.

BloodyMonday Rating:



Paper Heart (2009)


Twee delight... That's only two words I can think of right now.

BloodyMonday Rating:



Adam (2009)


A perfect companion to Mary & Max (one of the best animation of 2009), Adam is star-crossed love story (pun intended) between Adam, Asperger's Syndrome bearer, and Beth, free spirit woman. The picture wouldn’t be this intimate without stunning performance by Hugh Dancy. On the other hand, the lack of depth on why Beth would love someone like Adam, preventing me from wholeheartedly embraces her choice in the end (which is nice & perfect but requires a leap of faith). Otherwise, this is touching romantic film, which putting its feet firmly on the ground, making the world full of hope and seems nicer place to live.

BloodyMonday Rating:



The Invention of Lying (2009)


Expected to be like “Click” or “Yes Man”, where high-concept plot turned into endless gags, with moral lesson (forcefully) shoving down your throat. But "The Invention of Lying" is thinking man’s film. The whole concept is not seeing how first lying man exploits the ability. But it's about him finding the way not to lie, in order to find genuine happiness. Great stuff.

BloodyMonday Rating:



Give ‘Em Hell Malone (2009)


This is one damn frustrating experience. It’s like watching an infant trying to stand up and walk. They would take a few steps then fall their asses. In fact, kiddie film like “Bugsy Malone” has done better job paying a tribute to film noir than this borefest.

BloodyMonday Rating:



Zombieland (2009)


ถ้าอังกฤษมีหนังซอมบี้ฮาแตกอย่าง Shaun of the Dead แล้ว ทำไมอเมริกาจะมีบ้างไม่ได้... Zombieland คือการผสมผสานระหว่างบรรดาหนังซอมบี้เก่าๆ เข้ากับทัศนคติของคนสร้างที่อาจดูหนังแนวนี้มากเกินความจำเป็น จนสามารถสร้างหนังซอมบี้ที่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองเป็น และเล่นสนุกไปกับกฏพื้นฐานของซอมบี้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยกความดีให้สี่นักแสดงนำ โดยเฉพาะ วู้ดดี้ ฮาเรลสัน (เขาเกิดมาเพื่อบทนี้) ที่ช่วยกันสร้างมนต์เสน่ห์ ให้กับการเดินทางในโลกไร้มนุษย์ได้อย่างเต็มที่

ถึงแม้พลังงานที่ขับเคลื่อนจะมาหมดเอาดื้อๆในองค์สุดท้าย เมื่อฉากใหญ่ในสวนสนุกถูกทำขึ้นเพื่อแสดงฉากการฆ่าซอมบี้เด็ดๆ (ซึ่งไม่ใช่จุดเด่นสำหรับเรื่องนี้เลย) แต่โดยรวมแล้วมันก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัว ที่บรรดาแฟนซอมบี้จะมาพลาดหนังเรื่องนี้... อ้อ แล้วหนังยังมีดารารับเชิญสุดเซอร์ไพรซ์ ที่สร้างเสียงฮาที่สุดในเรื่องได้จากประโยคสุดท้ายอีกด้วย

BloodyMonday Rating:



Frequently Asked Questions About Time Travel (2009)


เมื่อเพื่อนสามคนก๊งเบียร์กันในผับแล้วเจอสาวฮ็อต (แอนนา ฟาริส) ที่อ้างว่ามาจากอนาคตจนเกิดรอยแยกของเวลา ทำให้ทั้งสามต้องท่องไปทั้งโลกในอนาคตและอดีตจนวุ่นวาย...

หนังมีไอเดียกิ๊บเก๋ ทำออกมาได้สนุกสนานสไตล์ซิตคอมอังกฤษ โดยเฉพาะการนำกฏเหล็กต่างๆจากหนังที่เกี่ยวกับการท่องเวลา (ดูเหมือนว่า Back to the Future จะเป็นแรงบรรดาลใจหลัก) มาปู้ยี้ปู้ยำอย่างเมามัน ถึงแม้ว่าตลอดเวลาการรับชมจะให้ความรู้สึก เหมือนตัวเองกำลังดูซีรี่ย์ทางโทรทัศน์ แต่มันก็คือตอนที่ฮาที่สุดของซีซั่น แถมเอฟเฟ็คที่ใช้ก็มีคุณภาพจนคาดไม่ถึง

BloodyMonday Rating:



Looking for Eric (2009)


มีความรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มองโลกในแง่ดีเกินบรรยากาศโดยรวม จริงอยู่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ลงเอยด้วยดีในตอนสุดท้ายนั้น สามารถสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับคนดู แต่จากสถานการณ์ในเรื่องและบริบทที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มันยากที่จะทำใจเชื่อในสิ่งที่เห็น โดยเฉพาะพล็อตรองเกี่ยวกับปืน ซึ่งถ้าถูกตัดออกไปและหนังยังดำเนินเรื่องอย่างที่เป็นอยู่ Looking for Eric ก็น่าจะเป็นหนังฟีลกู้ดที่อบอุ่นที่สุดเรื่องหนึ่งของปีเลยทีเดียว

BloodyMonday Rating:


~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
2 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add BloodyMonday's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.