|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ ตอนที่ 5 <เพราะใจผมสั่น>
กว่าผมจะออกมาได้ก็เสียเวลาไปไม่ใช่น้อย เล่นเอาต้องห้อตะบึงมาให้ทันเวลา วันนี้ผมไม่ได้ติดงานด่วนอะไรนักหนาหรือว่ายุ่งชิบเป๋งเหมือนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้หรอก แต่ที่ว่ากว่าจะออกมาได้ก็ไอ้พลตัวเดิมที่ร่ำๆ จะมารับก้อยแทนอย่างหลายวันมานี้ที่ผมมีขอร้องเชิงบังคับให้มันทำหน้าที่นี้แทนต่างหาก
'อะไรของมึงวะครับ งานการก็มี ไปทำซีเว้ย ให้ฝ่ายบุคคลตัดเงินเดือนดีไหมนี่ หาเรื่องจะออกงานก่อนเวลาอย่างนี้'
'น่า...งานก็เคลียร์ไปหมดแล้ว นี่กูตั้งใจไปรับน้องก้อยเลยนา รับรองว่าปลอดภัย ถึงบ้านฉับไวตรงเวลา ไม่มีเถลไถล'
มันรั้งตัวผมไว้ไม่ให้ออกมาที่หน้าลานจอดรถ ทำไมมันอยากจะวุ่นวายไปรับก้อยนัก ทีตอนแรกที่ผมสั่งมันอิดออดจะเป็นจะตาย บ่นว่าไกลอย่างนั้นอย่างนี้ พอตอนนี้งานผมซาๆ จะกลับไปรับตำแหน่งคนขับรถบ้างมันดันจะมายึดงานผมเสียนี่
'ให้กูไปเหอะ กูอยาก'
มันทำตาระยิบระยับวับวาวอ้อนผม มันน่าดีดไปไกลๆ มากกว่าน่ารักว่ะ
'ยิ่งมึงอยาก กูยิ่งไม่ให้มึงไป...นี่มึงกำลังทำให้กูสงสัยว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล รึว่า...มึงบังอาจจะจีบน้องกู'
ผมหรี่ตามองมันอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ เพื่อนก็เพื่อนเถอะ มาเกาะแกะน้องผมล่ะก็ ไม่เหลือไว้ให้ทำพันธุ์แน่
'คิดอะไรไม่สร้างสรรค์อย่างนั้นวะไอ้คุณหัวหน้าใหญ่ ยังไม่อยากโดนตีนใครเว้ย ยิ่งคนแถวนี้ยิ่งไม่อยาก คือ...วันนี้ก้อยบอกว่ามีนัดคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษา กูเลยกะว่าจะไปรับ'
มันไม่เป็นเหตุเป็นผลกันเลยครับ หาความเชื่อมโยงทางตรรกะไม่เจอ
'อย่ามาทำหน้าอย่างนั้นใส่กู ไม่รู้ละ สรุปว่ากูโรคจิต อยากเสียเวลาขับรถอ้อมไปรับน้องมึง มีไรป่ะ'
วะ ไอ้นี่...
'มี มีปัญหาว่ากูจะไม่ให้มึงไป สรุปว่าวันนี้กูจะไปรับก้อยเอง มึงก็กลับเข้าไปทำหน้าที่ผู้จัดการฝ่ายขายที่ดี เพราะตอนนี้เอ็มดีสั่ง เข้าใจไหมครับ คุณพล'
'เออ...จำไว้ คราวหลังไม่ต้องมาขอให้ช่วยอะไรเลยนะ เรื่องสิวๆ แค่นี้ก็ให้กันไม่ได้'
'สิว เสิว อะไร นี่กูยังไม่เข้าใจมึงสักนิด อย่ามาทำเป็นมีลับลมคมในกะกู ถ้ามึงมีเหตุผลดีๆ ก็บอกกันมา ไม่งั้นจะยัดข้อหายักยอกเปอร์เซ็นต์ลูกค้า...เอาซี่ คุกนาเว้ย'
'ไอ้...' มันด่าด้วยวาจาสามหาว คำแรกออกมาเป็นรูปเสียงชัดถ้อย พยางค์หลังออกมาเป็นภาษาใบ้ อ่านได้ว่าอะไรไม่กล้าบอก เดี๋ยวโดนเซ็นเซอร์
ผมขับรถวนหาที่จอดข้างคณะอย่างใจเย็น ไม่เอาอีกแล้วข้างฟุตบาท เกิดมีใครแอบจิตมาเล่นเสียวกับตูดผมอีกคงเสียเนื้อเสียตัวแบบเรียกกลับมาไม่ได้อีกแล้วทีนี้ ห้าโมงตรงพอดี เวลากำลังงามตามนัดแนะ (ที่ไอ้พลนัดแนะก้อยไว้ แต่ผมมาแทนมัน)
หนุ่มรูปงามก้าวขาลงมาจากบีเอ็มสุดหล่อด้วยมาดเท่ห์ เอ...ไม่จำเป็นมั้ง ไม่เห็นมีใครมาอยู่ในที่จอดรถเลย เมื่อยเปล่าๆ ผมลดกริยาผึ่งผายลงเล็กน้อยแล้วล้วงเอาโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่เล่นทุกอย่างได้เท่าที่โลกนี้จะมีใครคิดประดิษฐ์มันออกมา ถึงแม้ว่าผมจะไม่มีเวลามานั่งเปิดดูว่ามันทำอะไรได้มั่งก็ตาม
เลขสิบตัวที่จำได้แม่นกว่าการกดหาจากสมุดโทรศัพท์ในตัวเครื่องถูกนิ้วผมจิ้มอย่างรวดเร็ว
"มันส์จริงๆ ค่ะพี่...ฮัลโหล ก้อยพูดค่ะ"
"ทำอะไรอยู่ก้อย มีมันส์ด้วย" ผมกรอกเสียงลงไปแบบหลอนๆ อะไรของน้องผม กดรับโทรศัพท์ด้วยประโยคหมิ่นเหม่อย่างนั้น
"ทำไอ้อย่างที่พี่ไม่อยากให้ทำนั่นแหล่ะ" เงียบไปอึดใจก่อนตอบกลับมาชัดถ้อยชัดคำ ทำไมมันน่าจับมาตีอย่างนี้
"ก้อย...นี่พี่แก่กว่าเราเกือบรอบเชียวนะ รู้จักเคารพเกรงใจกันมั่งได้ไหม"
"เฮ้อ...พี่แทนก็ช่วยไว้ใจน้องที่เด็กกว่าเกือบรอบมั่งได้ไหม ทำไมต้องเอาแต่คอยสั่ง คอยทำเข้มข่ม ห้ามนู่นห้ามนี่ ก้อยก็มีความคิดนะ"
มาเป็นชุด เริ่มอย่างนี้ดูท่าจะไม่ค่อยดี ต้องรีบเปลี่ยนเรื่อง
"วันนี้พี่มารับเราเอง จอดอยู่ข้างคณะเราแล้ว เสร็จธุระแล้วรีบมาด้วย พี่ร้อน" ผมพูดพลางขยับไทต์ให้หลวมลงนิด
"พี่แทนใส่ชุดอะไรอยู่"
หือ...ถามแปลก ปกติไม่เห็นเคยสนอกสนใจอะไร
"สูท เสื้อเชิ้ต ไทต์ เหมือนทุกวัน ถามทำไม"
"ก็ถอดมันออกมา สูทน่ะ จะใส่มาทำป๊ะอะไรที่มหา'ลัยเล่า ไทต์เท้ยอะไรก็ถอดออกให้หมด...เพราะห่วงหล่ออย่างนี้นี่เล่าถึงได้ร้อน ฉลาดหน่อยสิพี่"
"..."
ถึงจะรู้สึกหงุดหงิดในคำพูดคำจา แต่ว่ามันก็จริง . "เมื่อกี้ก้อยคุยกับพี่...ง่า...แขกของก้อยอยู่ แล้วเดี๋ยวเขาจะติดรถไปด้วย...รถพี่เขาเสียกะทันหัน แล้วเขากำลังรีบอยู่ พี่แทนไปส่งแขกของก้อยด้วย ช่วยไม่ได้ อยากมารับเอง"
อืม...ใครเลี้ยงมันมาอย่างนี้ฟะ
ยังไม่ทันได้ซักถามต่อว่าแขกอะไรที่ไหน ผู้หญิงหรือผู้ชายไอ้คุณน้องมันก็ตัดสายทิ้งไปเสียก่อน ปวดประสาทจริง นี่ขนาดน้องสาวยังเป็นอย่างนี้ นี่ถ้าได้แฟนมาสักคนคงมาเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับก้อย แล้วถ้าปากร้ายๆ หน่อย อย่าง...อย่างคุณเพชรนั่นล่ะก็...นึกแล้วสยอง
เอ๊ะ...แล้วทำไมต้องนึกถึงคุณเพชร คงเพราะความร้ายของหล่อนละมั้ง ใครจะไปลืมลง นี่หากเจอกันอีกทีสงสัยต้องมีก้มลงกราบกันมั่งแล้ว คงเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมาก่อน
"พี่แทน..." เสียงก้อยดังมาจากทางด้านหลังระยะใกล้ ผมมัวแต่มุดหัวเข้าไปในรถจัดสูทที่ถอดออกมาแขวนไว้อยู่ทางตอนหลังเลยไม่ทันได้รู้ว่าก้อยเดินมาทางไหน
"เอ้า...แขกที่ว่า...เฮ้ย!" เมื่อผมหันกลับมาหาน้องสาวและเห็นหน้า 'แขก' ของเธอชัดๆ เสียงสูงเหมือนควายออกลูกของผมจึงต้องเปล่งออกมาอย่างหมดมาด
"สวัสดีค่ะ คุณแทน ดีใจจังค่ะที่เจอคนคุ้นเคยอีกครั้ง ชาติก่อนเราคงทำบุญร่วมกันมาดีมั๊งคะ ชาตินี้เลยดวงสมพงษ์กัน"
ไอ้คุณสมพงษ์นี่มันอยู่บ้านแถวไหน ได้ไปยิงหัวมัน
"สวัสดีครับ คุณเพชร ไม่นึกว่า(โชคชะตาอันเลวร้ายนำพา)จะได้มาเจอกันอีกที่นี่...โดยบังเอิญอีกแล้ว" ผมขอแค่รับไหว้เธอก็พอ ขอไม่กราบเธอนะ ลืมไปให้หมดว่าคิดอะไรไว้ก่อนหน้านี้
"พี่เพชรเป็นเพื่อนกับอาจารย์ของก้อย เลยได้เจอกัน...วันนี้พี่เพชรต้องรีบไปร้านตัดเสื้อ ไปส่งด้วยล่ะ พี่เพชรเป็นเนฯ (Navigator) ไปนะ ก้อยจะไปนั่งเป็นคุณหนูอยู่ด้านหลัง"
พูดจบก็ผลุบเปิดประตูหลังเข้าไปนั่งสบายใจเฉิบ
"พอดีตอนไปสตาร์ทรถ ไม่รู้เป็นไง มันสตาร์ทไม่ได้ซะอย่างนั้น เลยไว้ค่อยให้ช่างมาลากไปดูทีหลังดีกว่า ตอนนี้ชั้นเลยต้องขอรบกวนคุณแทนหน่อย นี่เกรงใจนะคะ พอดีน้องก้อยเขามีน้ำอกน้ำใจดี เห็นว่าจะมีคนมารับ เลยเสนอให้ชั้นติดรถไปด้วย นี่ชั้นไม่ได้ร้องขอนะคะ"
แล้วผมจะว่าอย่างไรได้ครับ โวยวายไม่ให้คุณไปเพราะแตงโมคุณถ่วงน้ำหนักรถผมงั้นเหรอ
"จะยืนอยู่อีกนานไหมพี่แทน พี่เพชรเขายืนจนเส้นเลือดขอดจะขึ้นขาอยู่แล้ว รีบๆ เปิดประตูให้พี่เขาด้วย" น้องผมยังส่งเสียงตามมาระรานอยู่อีก
ผมเปิดประตูให้เธอก้าวขึ้นไปอย่างเสียไม่ได้ เธอยิ้มเหมือนเยาะๆ รบกวนจิตใจยังไงชอบกล ไหนจะไอ้กระโปรงสั้นรองเท้าแหลมสูงนั่นอีก จะก้าวขาอะไรแต่ละทีก็น่าหวาดเสียวเหลือเกิน จะทำร้ายจิตใจกันไปถึงไหนคร้าบ
อ้อมกลับมาประจำตำแหน่งคนขับได้ก็จัดแจงคาดเข็มขัดนิรภัยให้ตัวเอง เหลือบมองกระจกหลังเห็นน้องสาวทำตัวดีจัดการกับเข็มขัดตัวเองเรียบร้อย ส่วนคนข้างๆ ไม่ต้องพูดถึง เร็วจริงๆ ไม่รู้คว้ามาคาดตอนไหน
"อึดอัดนิดหน่อยค่ะ แน่นๆ ไปนิด แต่ปลอดภัยไว้ก่อน...ใช่ไหมคะ" เธอขยับสายตรงช่วงอกนิดหนึ่ง อย่างกับรู้แน่ะว่าผมมองอยู่ ไม่ได้ตั้งใจจะเสียมารยาททำกริยาหื่นกามอย่างนั้น แต่มันก็น่าสงสัยอย่างเธอว่า มันรัดแน่นอย่างนั้น อะไรๆ ที่มันใหญ่ๆ พองๆ ก็ต้องอึดอัดกันมั่งสินะ
"อ่า...ครับ บอกทางผมด้วยก็แล้วกัน" ผมพยายามไม่หันไปมองเธอ ลมเย็นฉ่ำเบาๆ จากเครื่องปรับอากาศก็หอบเอากลิ่นหอม เย็น ที่ทำให้ผมจิตใจกระเจิดกระเจิงจากคนข้างๆ มาแตะจมูกผมอีกแล้ว ผู้หญิงอะไร ใส่น้ำหอมยวนใจเสียจริง
...........................................................
พอมาถึงร้านที่ว่า กลับกลายเป็นว่าเราสองพี่น้องต้องลงมานั่งกินน้ำส้มผสมเกล็ดรสดียี่ห้อหนึ่งที่เจ๊เจ้าของร้านเทมาให้ด้วยความเต็มใจล้นเหลือ
"เจ๊ถือว่าเป็นบุญวาสนาเลยนะคะนี่ที่คุณแทนธรรม์เข้ามาเหยียบร้านเจ๊เนี่ย" เจ๊ที่ว่ามีรูปร่างลักขณาน่าพรั่นพรึงไม่น้อย แถมทำตาปรอยมองผมอย่างนั้น ขนคอผมลุกชันเชียวครับ
"เพิ่งรู้น้า...ว่าน้องเพชรที่แสนน่ารักของเจ๊เนี่ยเป็นเพื่อนกับคุณแทนด้วย"
ผมนึกถึงตอนที่มาถึงหน้าร้านแล้วยังรู้สึกเสียโง่ไม่หาย ยิ่งใกล้ผู้หญิงคนนี้ทีไรผมยิ่งหนักหลังเหมือนมีนกเอี้ยงเกาะเพิ่มขึ้นทุกที
'เอ๊...แล้วเพชรจะกลับยังไงดีล่ะคะนี่ คนรถที่บ้านเขาคงไม่อยู่ ไปส่งคุณแม่เพชรที่งานไหนแล้วก็ไม่รู้ แล้วเพชรจะหอบเอาชุดสวยๆ ขึ้นแท็กซี่ได้ยังไงกันน้อ...' สาวสวยทำเป็นพูดเปรยขึ้นมายังไม่ยอมเปิดประตูรถลงไป
'พี่แทนก็ไม่ได้มีธุระที่ไหนไม่ใช่เหรอ รอรับพี่เพชรไปส่งบ้านก็ได้นี่'
เป็นลูกคู่กันดีเชียวยัยก้อยเอ้ย...คุณเพชรนี่ก็ร้ายเหลือ คิดว่าผมไม่รู้รึไงว่าทำเปรยให้ก้อยช่วยต่อ ตลอดทางมานี่ก็คุยกันหนุงหนิงคิกคัก บางทีผมยังฟังเธอเล่ามุกตลกเสียเพลินเลย
'รู้ได้ยังไงว่าพี่ไม่มีธุระ' ผมย้อนน้องมั่ง เสียหน้ามาหลายเพลาแล้ว
'ทำไมก้อยจะไม่รู้ คนอย่างพี่แทนน่ะ ไม่ทำงานเป็นบ้าก็มาเฝ้าก้อย ตอนนี้ไม่ได้ทำงาน และก้อยก็อยู่นี่แล้ว เพราะงั้น พี่จะมีธุระอะไรที่ไหนอีก แฟน เฟินอะไรกับใครเขาก็ไม่มี...ถ้าไม่ได้ไป 'แอบ' ไว้ให้ใครจับได้ล่ะก็นะ' น้องผมเน้นคำว่าแอบ แถมทำหน้าทะเล้น หมายความว่ายังไง
'งั้น...สรุปว่าชั้นต้องรบกวนคุณแทนอีกทีนะคะ แหม...แย่จัง ไว้วันหลังจะตอบแทนให้ก็แล้วกันค่ะ อ๊ะ...เลี้ยวเข้า ที่จอดรถด้านหลังเลยค่ะ ขอใกล้ๆ ทางเข้าหน่อยนะคะ ขี้เกียจเดินไกล'
เธอชี้นิ้ววาดไปวาดมาเกือบทิ่มหน้าผม คนอะไรเป็นได้ขนาดนี้
"ใส่ได้มั๊ยค้า...น้องเพชรขา ไหนออกมาให้พี่ดูหน่อย"
เสียงใหญ่ห้าวที่พยายามดัดให้อ่อนหวานของคุณเจ๊ลอยเข้าไปในห้องแต่งตัว เล่นเอาผมหลุดออกจากภวังค์ความคิด พักเดียวคนที่อยู่หลังม่านก็ค่อยๆ เดินออกมาหมุนตัวช้าๆ อยู่หน้ากระจก
ช่วงนาทีนั้นผมนึกว่าจะขาดใจตายเสียแล้ว เหมือนหัวใจหยุดเต้น ระบบหายใจไม่ทำงานชั่วขณะ มึนงงไปหมดกับภาพผู้หญิงตรงหน้า ชุดราตรียาวบนผ้ากำมะหยี่สีแดงเลือดนกตัดกับผิวขาวผ่องที่คว้านหลังเสียจนกว้างเกือบถึงบั้นเอว มีเพียงสายสร้อยสีเงินเล็กๆ ที่ปล่อยตัวยาวลงมาล้อเล่นกับแผ่นหลังนวลเนียนของเธอจากส่วนที่คล้องระหว่างชุดด้านหน้ากับคอเธอไว้ เนื้อผ้าที่มองด้วยตาก็สัมผัสได้ว่ามันคงนุ่มลื่นเหมือนผิวกายของคนใส่แนบไปตลอดร่างที่สวยไร้ที่ติ เนินอกเต็มแน่นถูกปิดมิดชิดไว้ด้วยเนื้อผ้าสีแดง แต่มันไม่สามารถปกปิดความงามของทรวดทรงตรงส่วนนั้นได้เลยแม้แต่น้อย เอวคอดบางจนไม่น่าเชื่อรับกับสะโพกกลมกลึงได้รูป ชายผ้ายาวพริ้วเหมือนหางปลาในขวดโหลทิ้งตัวลงกรอมเท้าของเธอ
"เก็บขากรรไกรล่างหน่อยพี่ อายเค้า" เสียงเล็กๆ พูดขึ้นไม่ดังนักเหมือนแค่เตือนสติผม ก้อยมองหน้าผมท่าทางขำๆ
ผมรีบกลืนน้ำลายลงคอเร็วๆ และกระแอมกลบเกลื่อน แต่ดูเหมือนจะทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ รีบหันกลับมาสนใจหนังสือในมือ เพ่งจนไฟจะลุกอยู่นั่นแล้ว
"หรือบางทีอีกไม่นานนี้ก้อยจะมีพี่สะใภ้..." เสียงลอยลมตามมารังควาญให้ผมร้อนตัวสะดุ้งเฮือก
"พี่สะใภ้อะไร คิดอะไรอยู่" กระซิบเสียงเข้มก็จริง แต่มันยังสะดุดอยู่
"มองซะตาค้าง พี่เพชรนี่สวยมากเลยนะ พระอิฐปูนปั้นอย่างพี่ยังมีอาการ ทุกทีเห็นสาวที่ไหนมายั่วก็ไม่ขึ้น" ก้อยยักคิ้วแผลบ ผมชักรู้สึกตัวเล็กลงเรื่อยๆ
"ก็แค่เห็นสวย...มากอยู่สักหน่อย เป็นธรรมดา เห็นคนสวยๆ ผู้ชายอย่างพี่ก็ต้องมอง" ยอมรับครึ่งหนึ่งก็ได้ แต่อีกครึ่งมันคืออะไรหว่า
"สวยจริง จริ๊ง...น้องเพชรเนี่ย ตั้งแต่จับขนาดสัดส่วนได้ก็ไม่เคยต้องแก้กันเลย คนอะไร รักษารูปร่างได้อย่างสม่ำเสมอจริงๆ ใช่มั๊ยคะ คุณแทน"
คุณเจ๊หันมาถามผมด้วยสายตาที่ชื่นชมนางแบบอย่างปิดไม่มิด ตัวนางแบบเองก็หันมาจ้องรอคำตอบผมด้วย
"อ่า...ครับ สวย...จริงๆ ครับ"
ตอบอะไรทุเรศอย่างนั้น ไม่มีอะไรจะพูดดีกว่านี้แล้วรึไง แต่คำตอบทื่อๆ ของผมก็สร้างอาการบางอย่างให้นางแบบเหมือนกัน เธอเลิกคิ้วสูงเหมือนไม่เชื่อ แต่แวบเดียวก็กลับไปทำหน้าเชิดเหมือนปกติ นี่เธอคิดอะไรอยู่ ไม่มีเอียงอายให้คนหล่อจัดอย่างผมเห็นบ้างเลยรึไงกัน คนปกติละลายหายไปแล้วหากเจอผมพูดอย่างนี้
"พี่เพชรสวยมากจริงๆ ค่ะ ก้อยรับประกันเลย หุ่นก็ดี้ ดี ผิวก็เนียนเชียว"
ก้อยลุกเดินไปประชิดตัวนางแบบ เอามือไล้แผ่นหลังนางแบบประกอบคำพูด แถมยังปรายตามาหาผมอีก ร้ายนัก...ทำอย่างนี้ผมก็อยากทำมั่งน่ะสิ
"น้องก้อยก็สวยนะคะ เนี่ย...มาตัดชุดร้านเจ๊ได้นะ ลดพิเศษเลย ได้น้องสาวคุณแทนมาเป็นลูกค้าร้านเจ๊อีกคน เท่ากับว่าเจ๊มีพรีเซนเตอร์กิตติมศักดิ์เพิ่มอีกตั้งคนแน่ะ"
"ก้อยเตี้ยไปหน่อยค่ะ ดูอย่างพี่เพชรสิ ตัวก็สูง สง่า สวย แถมเซ็กซี่อีกต่างหาก ผู้ชายที่ไหนไม่สนพี่เพชรก็คงแปลก"
น้องผมไปประเหลาะคุณเพชร นี่สงสัยคงเกิดชอบอกชอบใจกันขึ้นมาจริงๆ ปกติเวลาแม่พาสาวมายัดเยียดให้ผมทำความรู้จักที่บ้านไม่เห็นก้อยจะญาติดีด้วย ทำไมคราวนี้ถึงได้ชอบใจนัก "อู้ย...มีแต่อีเก้งอย่างเจ๊นี่แหล่ะค่าที่จะไม่มาสน ผู้ชายแท้ๆ ทั้งแท่งไม่ปล่อยน้องเพชรไว้ลอยล่อแก้วไปล่อแก้วมาอย่างนี้หรอกค่า...จริงไหมคะคุณแทน..."
เอาอีกแล้ว...ปล่อยผมไปเถอะ แบบนี้แล้วผมจะตอบยังไงเล่าครับ ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ส่งไป แต่คนถูกชมคงคิดอกุศลอยู่เป็นแน่แท้ ก็ดูรอยยิ้มเยาะที่ปากเธอนั่นสิ มันน่าจับมาปิดปากนัก
"งั้นเดี๋ยวเพชรเอากลับไปเลยนะคะ เผื่อจะได้ไปเทียบเครื่องประดับให้เข้ากันด้วย ขอบคุณเจ๊มากค่ะ นี่เสียเวลาไปหาสามีเจ๊รึเปล่าไม่รู้"
คุณเพชรเดินออกมาจากหลังม่านในสภาพมนุษย์ปกติหลังจากแปลงกายเป็นอะไรที่เหนือไปกว่านั้นมาหมาดๆ ทำให้ผมหายใจหายคอได้คล่องขึ้นแยะ มือส่งชุดกระชากใจชายให้แก่คุณเจ๊
"วุ้ย...สามงสามีอะไร ให้รอหน่อยก็ได้ แหม...พาสุดหล่อ เซ็กซี่ น่าเจี๊ยะ มาให้เจ๊แทะโลมอย่างนี้ นี่ถือว่าคุ้มสุดๆ" ประโยคหลังทำป้องปากกระซิบ แต่ขอโทษ ร้านมันเงียบ ผมได้ยินนะ
คุณเพชรได้แต่ยิ้มขันกับคำพูดเจ๊ อย่าได้หลุดแดกดันอะไรผมมาเชียวนะ จะทิ้งไว้ไม่พากลับจริงๆ
แต่แล้วก็ไม่ยักมีใครโดนทิ้ง คุณเพชรสงบศึกชั่วคราว จนกระทั่งรถดีกรีซีรีย์เจ็ดค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามาในซอยกว้างซึ่งเป็นที่ตั้งบรรดาที่อยู่อาศัยของผู้คนมีอันจะกิน ตามเนฯ ขวัญใจยัยก้อย
"พี่เพชรจะใส่ชุดไปงานไหนเหรอคะ...คงงานใหญ่ ดูสวย หรู ขนาดนั้น" ก้อยชวนคุยไม่ขาดปาก พูดจาน่ารัก ทีกับพี่กับเชื้อละเถือเอา ๆ
"งานเปิดตัวโรงแรมทายาทตระกูลใหญ่จ้ะ ลูกชายเขาแยกออกมาเปิดโรงแรมชื่อใหม่ในเครือ ประกอบกับเป็นวันเกิดครบรอบสามสิบปีของเขาพอดี เลยจัดซะใหญ่โต กลัวไม่สมน้ำสมเนื้อมหาเศรษฐีละมั้ง"
เอ๊ะ...คุ้นๆ
"อ๊ะ...ใช่งานที่พี่แทนมาร่ำๆ ยืมควงก้อยไปรึเปล่า วันอาทิตย์นี้ใช่ไหม ใช่เปล่าพี่แทน"
"เออ!...ใช่เลยแหล่ะ นี่งานเดียวกันหรือนี่" ผมนึกอยู่แว้บนึง แล้วก็บังเกิดแสงสว่าง
แต่...งานนี้เขาบังคับควงคู่เข้างานนี่นา คิดถึงตอนนี้ละเกลียดไอ้คุณเจ้าของโรงแรมจับใจ แล้ว...อย่างเธอจะควงใครไปงาน
"แล้วพี่เพชรจะควงใครไปงาน เห็นพี่แทนว่าต้องเข้างานเป็นคู่"
โอ๊ะ...ถามตรงใจพี่เลยน้อง ไม่ได้สนใจอะไร แค่สงสัยเท่านั้น
"ยังหาไม่ได้เลย...สงสัยอาจต้องใช้ลูกเพื่อนแม่คนไหนสักคน เห็นมาเสนอตัวกันให้พรึ่บ...ถ้าลำบากนักก็จะแย่งควงพ่อแทนแม่ซะเลย"
คุณเพชรพูดติดขำๆ แต่ทำท่ายักไหล่ไม่สนใจ ชิ...คุย มีเสนอตัวกันให้พรึ่บงั้นเหรอ
"งั้นก็พอดีเลย...ลูกชายเพื่อนแม่พี่เพชรก็มีแถวนี้อยู่คน ขาดคู่ควงด้วย เพราะก้อยไม่ว่าง ต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบเก็บคะแนนวันจันทร์พอดี"
"อ้าว...อะไรอีกล่ะเรา ทำไมจู่ๆ จะสอบขึ้นมา ก็ไหนวันก่อนว่า..." แต่ก้อยรีบแซงพูดขึ้นมาก่อนผมต่อจบประโยค
"นะพี่เพชร...นะ ก้อยไม่อยากคะแนนตกเพราะมัวไปออกงานกับพี่แทนนี่ อีกอย่าง พี่แทนก็ไม่เหมือนพวกผู้ชายอย่างนั้น พี่เพชรควงได้สบายใจอยู่แล้ว...นะคะ"
รู้สึกขัดๆ ชอบกลกับคำพูดของก้อย แต่ช่างเถอะ บางที...ควงผู้หญิงคนนี้อาจดีกว่าก็ได้ นึกถึงตอนแค่ 'ลอง' ชุดแล้วยังเคลิ้มไม่หาย
"อืม...ก็ดีเหมือนกัน อ๊ะ...หลังซ้ายมือด้านหน้านี่ละค่ะ"
ผมจอดรถเทียบประตูบ้านหลังใหญ่ที่ร่มรื่นไปด้วยพรรณไม้ ยามเธอเปิดประตูลงไป ผมยังได้กลิ่นดอกไม้กลางคืนหอมติดจมูกผมอยู่เลย เอ๊ะ...เดี๋ยว ตกลงเธอตอบว่ายังไงกัน เมื่อกี้?
"วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน คุณไม่ต้องลงมาไหว้ใครหรอก กลับๆ ไปเถอะค่ะ..."
"อ้าว...แล้วกันคุณ ไล่กันง่ายๆ อย่างนี้นะเหรอ ตามปกติมันต้องชวนลงไปดื่มน้ำสักแก้วสิ" เถียงกลับอย่างไว้เชิง เห็นมีแต่อยากลากผมไปพันพัวในชีวิตกันจะตาย รายนี้กลับถีบหัวส่ง ยอมได้ที่ไหนกัน
"เอาน่า...พี่แทนก็ เกิดจะหิวน้ำขึ้นมารึไง เดี๋ยวไม่กี่วันก็ได้มาที่บ้านนี้อีกอยู่ดี จะอะไรนักหนา" ก้อยส่งเสียงมาจากตอนหลัง ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าหรอกน้อง นี่ยังเข้าข้างคนนอก มันน่าน้อยใจไหม
"ใช่ไหม...พี่เพชร"
นั่นสิ...ใช่ไหม
"ใช่ค่า...คุณแทนคะ ตกลงมารับชั้นทุ่มตรงนะคะ จะรอค่ะ" ว่าแล้วเธอก็ทำผมตัวแข็งด้วยการส่งจูบยั่วยวนใส่หน้าผมเต็มๆ แค่จูบผ่านสายลมมาแต่ทำไมใจผมแกว่งขนาดนี้ โธ่เอ๋ย...
**************************************************************
<จบตอนที่ 5 ค่ะ>
ฝากไว้เหมือนเดิมค่ะ (ฝากอะไรก็ไม่รู้ แล้วจะมาเอาคืนเมื่อไหร่ก็ไม่รู้)
รัก...คนอ่านค่ะ
บุญรักษานะ
Create Date : 11 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2552 2:33:20 น. |
|
6 comments
|
Counter : 328 Pageviews. |
|
|
|
โดย: dena IP: 203.155.149.89 วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:8:08:26 น. |
|
|
|
โดย: บู้บี้ IP: 133.82.251.202 วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:14:54:37 น. |
|
|
|
โดย: ชญาลี วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:21:17:25 น. |
|
|
|
โดย: พรายทราย วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:38:01 น. |
|
|
|
โดย: RuNz วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:0:45:16 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
ชลบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ไม่ใช่คนเลว แต่ไม่ใช่คนดี ไม่ใช่คนมีน้ำใจ แต่ไม่ได้เห็นแก่ตัว ไม่ใช่คนใจร้าย แต่ไม่ใช่ผู้หญิงใจดี ไม่ได้ต่อต้านใคร แต่ไม่ใช่คนยอมคน รับรู้ในตัวตน และไม่สนใครจะว่าอย่างไร รู้จักให้อภัย แต่ไม่ใช่ไม่รู้จักแค้น เป็นผู้หญิงแท้ที่ชอบโชว์แมน แต่ความจริงแสนจะอ่อนโยน O_o!!!
~ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ~
ฝากคำทักทายไว้ด้วยจิ...รักตายเลย
ShoutMix chat widget
BestChild ในคอลัมน์นักเขียนรับเชิญ ลายปากกา 2009 BestChild ในคอลัมน์ "ลายรัก" ลายปากกา 2010
|
|
|
|
|
|
|
ตอนหน้าออกงานด้วยกันใช่มั้ยค่ะ
จะรอนะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ