Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
12 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ ตอนที่ 15 <เพราะว่าเธอรักผม>



อยากจะนอนรับประทานบ้านเมืองให้ล่มจมไปมากกว่านี้จริงๆ ถ้าหากว่าจมูกผมมันไม่ไวจนได้รับรู้ถึงกลิ่นยาสารพัดสารพันที่ผมเกลียดนักเกลียดหนาทุกครั้งที่มาโรงพยาบาล และผมก็ไม่ได้โง่ขนาดที่จะไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนเสียด้วย

แน่นอนว่าโรงพยาบาลต้องเป็นสถานที่ที่ผมตื่นขึ้นมาในสภาพที่ยังมีลมหายใจดีอยู่ ไม่อย่างนั้นก็ควรจะเป็นกลิ่นควันธูปพร้อมกับเสียงสวดพระอภิธรรม ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการเป็นแน่แท้ เรื่องอะไร ยังหนุ่มยังแน่น แถมหล่อเหลาเอาการขนาดนี้จะมาตายก่อนมีเมียมีลูกได้ไง ใครจะยอม แค่เรื่องรถคว่ำนิดๆ หน่อยๆ ทำอะไรผมไม่ได้หรอก ชาติก่อนผมน่าจะทำกรรมไว้เยอะ ยมทูตถึงให้เกิดมาเป็นมนุษย์ชดใช้กรรมนานๆ เอ็งจงห้ามตายไปง่ายๆ เชียว

ผมยังคงนอนหลับตาขยับตัวเล็กน้อยก็รู้สึกถึงหัวอันหนักอึ้งและความเจ็บแปลบที่หลังมือข้างขวาก็ทำให้รู้ว่ามันต้องมีเข็มมาเสียบเข้าเส้นเลือดเพื่อลำเลียงน้ำเกลือเข้าร่างผมเป็นแน่แท้ ดีนะที่เขาแทงเข็มตอนผมหลับ ไม่งั้นความลับเรื่องผมกลัวเข็มคงได้หลุดต่อหน้าพยาบาลสาวๆ ให้ได้อายกันมั่งล่ะ แถมยังปวดแขนซ้าย ขยับไม่ได้ เฮ้ย หรือว่าแขนซ้ายผม!

อ้อ ยังอยู่

พอลืมตามาสำรวจสภาพร่างกายตัวเองได้ก็ให้โล่งในหัวอก ที่มันขยับไม่ได้ก็เพราะถูกพันผ้าไว้แน่นหนาขนาดนั้นและมันก็ไม่ได้แตกหักแต่อย่างใด ผมยังรู้สึกได้ น่าจะแค่กระทบกระเทือนมากกว่า พอดูตัวเองว่าทุกอย่างยังอยู่ดีทีนี้ก็เริ่มหันมาสำรวจรอบๆ ตัว มีเพียงผู้หญิงที่หลอกหลอนผมมาตลอดเวลาที่หลับไปเท่านั้นที่นั่งหลับอยู่ที่โซฟาใกล้เตียง แต่ไม่ยักจะได้กลิ่นแป้งที่เธอใช้ประจำแฮะ ในมือยังมีหนังสือเปิดค้างไว้อยู่เลย ดูสิ หลับตาพริ้มเชียว... ลักหลับซะดีไหมเนี่ย

ยังไม่ทันได้ทำตามที่คิดอกุศลอย่างไม่เกรงสังขารตัวเองแต่อย่างใด เสียงเคาะประตูก็ทำให้คนสวยขยับตัวตื่นในทันที เอ๊ะ แล้วทำไมผมต้องรีบแกล้งหลับต่อด้วยล่ะ

"คุณมาทำอะไรที่นี่" เสียงคุณเพชรแข็งโป๊กเหมือนชื่อทันทีที่ได้ยินเสียงใครอีกคนมายืนอยู่ไม่ไกลในอาณาเขตห้องนี้

"มาเยี่ยมเยียนดูใจคนรู้จักไงครับ" โอ้ เสียงแบบนี้ อารมณ์กวนส้นแบบนี้ ไอ้คุณปวริศนี่เอง มาเยี่ยมหรือมาเย้ยกันแน่วะครับ

"เพชรไม่แน่ใจว่าคนเจ็บอยากให้คุณมาเยี่ยมเท่าไร ทางที่ดีรีบเยี่ยมรีบไปดีกว่าค่ะ คุณแทนน่าจะอยากพักผ่อน ไม่อยากถูกรบกวนจากคนนอก" ถูกใจผมมากๆ เลยคุณเพชร พูดจาได้ตรงใจผมจริงๆ

"อ้าว งั้นคุณเพชรนี่เรียกคนในแล้วหรือไงครับ แถมยังมาเฝ้าอยู่คนเดียวด้วย แบบนี้จะเป็นข่าวอีกหรือเปล่าน้อ"

ข่าวอะไร?

"จะข่าวอะไรเพชรก็ไม่สน ขอโทษทีนะ บังเอิญว่าเพชรหน้าไม่บางนักเสียด้วย แล้วไอ้ที่คุณปล่อยข่าวไปน่ะ อย่าคิดว่าไม่มีคนเขารู้เขาเห็นว่าใครเป็นต้นตอ" ฟังเหมือนจะมีอะไรบางอย่างที่ผมพลาดไป

"ผมก็อยากรู้นะว่าใครเป็นต้นตอ ถ้าคุณเพชรรู้ก็แง้มให้ผมรู้บ้างสิครับ"

"น้อยๆ หน่อยเถอะ อย่าคิดว่าฉันจะนิ่งเฉยกับเรื่องที่เกิดขึ้นเชียวนะ เรื่องข่าวเสียหายนั่นฉันยังพอใจเย็นและ 'รอ'ได้ แต่ถ้าเกิดคุณแทนเป็นอะไรไปหรือไม่ฟื้นขึ้นมา ไม่ว่าใครใหญ่มาจากไหนฉันก็ไม่ไว้หน้าแน่ๆ"

ถึงจะยังขัดใจและสงสัยแต่ความรู้สึกอิ่มในใจนี่มันก็ห้ามไม่ได้จริงๆ รู้สึกเหมือนได้รับการกางปีกปกป้องจากผู้หญิงคนหนึ่ง เวลาแม่ไก่ปกป้องลูกน้อยก็อย่างนี้ เสียทีแต่แม่ไก่เพชรคงไม่อนุญาตให้ลูกเจี้ยบอย่างผมไปซุกอก (อุ่นๆ นุ่มๆ) ง่ายๆ

"ขอโทษเถอะ ผมไปเกี่ยวกับอุบัติเหตุของเขาตรงไหนไม่ทราบ"

"เลขาคุณแทนบอกว่าคุณไปพบคุณแทนในวันที่เกิดอุบัติเหตุ คุณไปคุยอะไรกับคุณแทนฉันไม่รู้ แต่ถ้าเกิดฉันสืบเอาเรื่องเอาราวได้เมื่อไหร่ว่าคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่คุณแทนรถคว่ำ ฉันคงไม่ทิ้งไว้คาราคาซัง คนอย่างเพชรใครมาทำอะไรให้สะเทือนถึงจิตใจล่ะก็ ต้องตอบโต้ให้เจ็บแสบไม่แพ้กัน"

เหมือนคุณเพชรจะฝังอกฝังใจว่าผมถูกลอบทำร้าย คงต้องปล่อยให้เธอเข้าใจอย่างนั้นไปสักพัก ถึงแม้ความเป็นจริงในสาเหตุมันจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับไอ้ปวริศนี่เลยก็ตาม

ในวันนั้น ผมเพิ่งง้อน้องสาวสำเร็จหลังจากโกรธกันไปหลายวัน เวลาก้อยโกรธนี่ไม่ธรรมดา ผมต้องนอนสะดุ้งผวาตลอดว่าจะมีตัวอะไรมาโผล่ในที่นอนผมหรือเปล่า ดีว่าก้อยมีวุฒิภาวะพอที่จะไม่เล่นอย่างตอนเด็กๆ สมัยที่ไปจับเอาตุ๊กแกมาโยนไว้ใต้ผ้าห่มผม คิดดูเถอะครับ เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่งอนที่ผมไม่พาไปเที่ยวจนไปจับตุ๊กแกมาได้หลายตัว ทุกวันนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าก้อยไปจับเอามาจากไหน

อันที่จริงผมก็ไม่น่าหัวเสียจนเกินความสุขุมอย่างนั้น แต่ด้วยความเป็นห่วงแทบคลั่ง กลัวว่าก้อยจะเป็นอะไรมากแถมยังมาเจอคุณเพชรอยู่กับไอ้คุณปาล์มนั่นก็ยิ่งทำให้ลมในหัวตีกันยุ่งเหยิง อาการอีเดียดเลยบังเกิดอย่างไม่ได้ตั้งใจ กะว่าง้อน้องได้ค่อยปรากฏตัวไปง้อคุณเพชรเอาคะแนนต่ออีกที ผมเชื่อว่ายังไงผมก็เป็นต่อหลายขุม ถึงภาพผมเป็นเกย์จะยังอยู่ในสายตาคุณเพชรก็เถอะ แต่เสน่ห์ที่ผมมีก็สามารถทำให้คุณเพชรทำตาเศร้ามองผมโมโหเดินหนีไปได้ก็แล้วกัน

ตอนบ่ายวันที่ผมแสนอารมณ์ดีก็มีมารมาผจญถึงที่ทำงาน คุณชลยกหูโทรถึงผมในห้องโดยไม่ผ่านอินเตอร์คอมว่ามีแขกมาขอพบ เป็นเจ้าของกิจการโรงแรมเครือใหญ่ที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร มันมาทำซากอะไรของมัน

คนที่คิดว่าตัวเองเป็นคู่แข่งทางหัวใจของผมเข้ามาขอพบเพื่อประกาศศักดายิ่งใหญ่และพร่ำพูดเรื่องที่ตั้งใจให้ผมฝ่อ เป็นต้นว่าตัวเองได้รับความไว้วางใจจากแม่คุณเพชรขนาดไหน ความสัมพันธ์ล่วงเลยไปถึงขั้นจะตบจะแต่ง แถมยังมากวนอารมณ์ผมด้วยคำพูดเชิงหยามเกียรติคุณเพชรของผมอีกว่าวันนั้นที่โรงพยาบาลไม่ได้ไปแผนกระบบประสาทอย่างเดียว แต่อาจจะเข้าไปหาข้อมูลร่วมกันที่แผนกแม่และเด็กอีกด้วย ดีว่าผมอารมณ์ดีอยู่เป็นทุนจึงได้ใช้ขันติมาข่มอารมณ์ขันแตกห้ามมือห้ามตีนตัวเองไว้ได้เฉียดฉิว ระฆังเรียกรับโทรศัพท์สายตรงจากลูกค้าต่างประเทศของคุณชลมาช่วยไว้ทันหรอก

สัญญาที่โต๊ะอาหารเช้าเรื่องพาไปดินเนอร์หรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ผมแปะโป้งน้องสาวไว้เป็นสินบนของการยอมคืนดีประกอบกับการเสียเวลานั่งฟังเรื่องที่ผมไม่มีวันเชื่อจากปากปวริศทำให้ผมต้องรีบกระหืดกระหอบออกไปจากออฟฟิตเพื่อไปรับน้องสาวที่มหาวิทยาลัยโดยไม่ชักช้ามาสายให้เสียการ

และด้วยความรีบร้อนตัวเดียว ผมถึงได้ประมาทขับรถเร็วจนเบรกไม่ทันเมื่อมีจักรยานเมาเท่นไบค์คล้องพระรอดคันหนึ่งแฉลบมาตัดหน้า เพิ่งรู้ว่าโลกนี้มันมีคนอยากตายไวกันมากกว่าที่คิด เมื่อห้ามล้อไม่ได้ผมก็หักหลบไปเจอรถแต่งตัวต่ำที่ก็ทำเอาบีเอ็มผมเหาะเหิรเดินอากาศม้วนตีลังกาหลังกี่รอบก็สุดจะเดาได้ จังหวะนั้นผมคิดอยู่อย่างเดียวว่าถึงตายก็จะหนียมบาลมาให้ได้จริงๆ เอ้า

เอาเถอะ อย่างน้อยผมก็ไม่ตาย แถมยังไม่ต้องหนียมบาลที่ไหนให้นิยายเปลี่ยนแนวเป็นแฟนตาซี

"คุณแทนนี่ดูจะสำคัญสำหรับคุณเหลือเกินนะ ถามหน่อย เกิดหมอนี่ฟื้นมาแล้วปัญญาอ่อนคุณยังจะรักจะหลงมันอย่างนี้ไหม"

อ้าว ไอ้นี่วอน

"ฉันไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องตอบคำถามของคุณ"

ใช่ คุณเพชรไม่จำเป็นต้องตอบคำถามไอ้กวนทีนนี่ แต่อันที่จริง ผมก็อยากรู้ จะตอบว่ารักหรือหลงก็ได้ ผมเต็มใจอย่างยิ่ง

"เชื่อเถอะว่าสุดท้ายคุณก็ต้องทิ้งหมอนี่ไปหาใครคนใหม่อยู่ดี จะทนอยู่ได้ยังไงกับผู้ชายไร้สมรรถภาพ"

สิ้นประโยคหยามน้ำหน้าผมก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ทนอีกต่อไป สังขารไม่ให้แต่ใจผมสู้ ลุกขึ้นมาฟาดปากมันเสียทีผมคงหายไวขึ้นอีกหลายวัน ถ้าเกิดว่าผู้หญิงคนเดียวที่ยืนอยู่ในห้องจะไม่สนองความต้องการให้ผมเสียก่อน

ผมยันศอกข้างที่ยังพอใช้การได้ขึ้นมาเพื่ออ้าปากค้างมองหมัดตรงคุณเพชรที่พุ่งเข้าหน้าไอ้ปากหมาอย่างจัง ปวริศถึงกับหงายหลังลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้ากับพื้น ผมสังเกตเห็นเลือดสดๆ ไหลออกมาจากจมูกของไอ้หน้าหล่อ (น้อยกว่าผม)

"ทำ ทำได้ยังไงกัน นี่ผู้หญิงหรือเปล่าเนี่ย" คนเยี่ยมที่กลายเป็นคนเจ็บละล่ำละลักพูดมือไม้ยังปิดปากปิดจมูกที่มีเลือดกลบ

"ขออภัย ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจดี อยากได้อีกทีไหม จะได้ตอกย้ำให้ชัดว่าไม่ได้ฝันไปแน่ๆ" คุณเพชรกำหมัดแน่นสาวเท้าเข้าใกล้ผู้เคราะห์ร้าย

"ผู้หญิงที่ไหนเขาป่าเถื่อนอย่างนี้กัน รู้รึเปล่า หากเรื่องนี้ถึงหูนักข่าวจะเป็นยังไง"

"ก็ถ้าอยากให้คนอื่นเขารู้ว่าผู้ชายอกสามศอกถูกผู้หญิงตัวเล็กๆ ชกหน้าก็เอา" คุณเพชรสวนกลับฉับไว เร็วและแรงไม่แพ้หมัดตรงแสนประทับใจเมื่อครู่ ไม่รู้ว่าครูมวยที่ไหนสอนมาท่าถึงได้สวยอย่างนั้น

"นี่คุณทำเพื่อตัวเองหรือเพื่อไอ้เวรนี่กันแน่" ลุกขึ้นรวดเร็วและพูดถึงไอ้เวรนี่ที่น่าจะหมายถึงผมแต่กลับจ้องหน้าคุณเพชรอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ อย่าได้ทะลึ่งทำอะไรคุณเพชรขึ้นมาเชียว ผมเล่นแน่

"ฉันทำเพื่อตัวเองและคนที่ฉันรัก มีปัญหาก็มาเจอกันตัวต่อตัว"

นั่น นักเลงดีไหมสาวไฮโซ เกิดใครมาได้ยินเข้าน่ากลัวข่าวจะเสียลุคจริงๆ แต่จะเป็นไรในเมื่อคุณทำเพื่อตัวเองและคนที่คุณรัก หือ... คนที่คุณรัก

"ให้ตาย นี่คุณรักมันจริงๆ น่ะเหรอ" ชี้หน้ามาทางผมที่อ้าปากค้างไว้ไม่สามารถหุบลงได้ตั้งแต่หมัดชนะน็อคนั่นแล้ว

"ใช่ รัก ฟังแล้วก็จำใส่หัวไว้ ฉันรักผู้ชายคนนี้" คุณเพชรย้ำชัดในทุกคำพูดพร้อมทั้งชี้มือมาทางเดียวกับปวริศที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนตอนควายถูกส่งโรงฆ่าสัตว์ และนั่นอาจเป็นความผิดพลาดเดียวของคุณเพชรเธอถึงได้สะดุ้งสุดตัวเมื่อเพิ่งจะเห็นว่า มัน ไอ้เวร และหมอนั่นที่ถูกเรียกมาตลอดนั้นไม่ได้นอนกินแรงฉากปะทะคารมแต่กลับลุกขึ้นมานั่งชมตาใส นี่ถ้าไม่ติดสายน้ำเกลือผมลุกขึ้นรำฉลองชัยไปสามยกแล้ว

ไอ้คุณปวริศกัดฟันกรอดพร้อมทั้งกุมจมูกไว้เมื่อมีเสียงเคาะประตูพร้อมทั้งพยาบาลชุดขาวที่เข้ามาทันทีที่เสียงเคาะประตูสิ้นสุดโดยไม่จำเป็นต้องรอใครอนุญาต ที่สำคัญ ยังมีสตรีสองวัยสายเลือดเดียวกันกับผมเดินตามมาด้วยอีกต่างหาก

"อ้าว นั่น!" แม่ผมอุทานขึ้นมาทันทีที่เห็นผู้เข้าเยี่ยมกิตติมศักดิ์ได้ถนัดตา

"คุณปวริศเป็นอะไรไปคะ แย่แล้ว คุณพยาบาลดูหน่อยเร็ว อ๊ะ พี่แทน! พี่แทนฟื้นแล้ว แม่" ก้อยทักแขกก่อนร้องเอะอะโวยวายเมื่อพระเอกอย่างผมขโมยซีนตัวร้ายอย่างชนะใส

"หา อะไร โอ้ย แทนตื่นแล้วเหรอลูก คุณพยาบาลมาดูแทนก่อนเร็ว" ครับ คุณพยาบาลผู้น่าสงสารกลับตัวแทบไม่ทันในตอนที่กำลังจะดูแลคนเลือดออกจมูกแล้วถูกฉุดกระชากลากถูจากเรี่ยวแรงมหาศาลของคุณรำไพบุพการีแท้ๆ ของผม และนั่นก็ทำให้ส่วนเกินรู้สึกตัวได้ยอมล่าถอยออกจากห้องไปในทันทีที่หมดความสนใจจากทุกฝ่าย

"พี่เพชรคะ ที่แทนตื่นตอนไหน นานแล้วยัง อะไรกัน ก้อยกับแม่ไปกินข้าวแค่ชั่วโมงสองชั่วโมง แป๊บเดียวเอง" จับเครื่องบินไปกินข้าวถึงไหนสองชั่วโมง น้ำเสียงยังตื่นเต้นชัดเจนเงยหน้าถามคนสวยหน้าซีดที่เพิ่งสวมวิญญาณนักมวยไปแหมบๆ

"อ่า เพิ่งตื่น มั้งคะ" เสียงคุณเพชรเจือไปด้วยความไม่มั่นใจ ตอบก้อยแต่ไม่ยอมสบตาผม

"พี่แทนพูดอะไรหน่อย จำก้อยได้ไหม หิวน้ำหรือเปล่า" ปรี่มาหาผมไวกว่าคุณพยาบาลที่กำลังเตรียมอุปกรณ์วัดความดัน วัดไข้

"จำได้สิ ขอน้ำพี่หน่อย หิวจัง เมื่อกี้ลุ้นมากไปนิด" เพิ่งรู้ว่าตัวเองปากมากทั้งที่เสียงยังแหบแห้งก็ตอนนี้

"ลุ้นอะไร?" กุลีกุจอจัดแจงน้ำส่งให้ผมได้ก็ถามทันที

"ลุ้นนางเอกกับตัวร้ายสู้กัน สุดท้ายนางเอกก็ปราบตัวร้ายได้" ดื่มน้ำได้ก็พูดต่อ ขอแหย่สุดที่รักของผมหน่อยเถอะ ยิ่งเห็นแก้มที่เริ่มมีสีชมพูขึ้นเรื่อๆ ยิ่งอยากแกล้ง

"เห ละครช่องไหนหรือเปล่า ดิสคอฟเวอรี่มีละครอย่างนี้ด้วย?" ปล่อยน้องนั่งงงไปก่อน ทีวีที่เปิดค้างอยู่จะฉายอะไรผมไม่สน สนแต่คนที่ยืนตัวแข็งอยู่ตรงหน้านี่มากกว่า

"เอ่อ เพชรขอตัวก่อนดีกว่าค่ะ คุณแทนตื่นแล้ว ดูเหมือนว่าเพชรน่าจะปล่อยให้อยู่กันแค่ในครอบครัวมากกว่า" คุณเพชรทำท่าจะชิ่งสถานการณ์เสียเปรียบไปเสียอย่างนั้น

"อ้าว จะรีบไปไหน ยังไม่ได้คุยอะไรกับแทนเลยนี่ลูก อุตส่าห์มานั่งเฝ้าอยู่ได้ตั้งนานสองนาน แล้วเพชรก็เหมือนคนในครอบครัวนะลูก"

อยากหอมแก้มแม่แรงๆ สักฟอด ค่าที่พูดถูกใจผมหนักหนาแต่ว่ายังทำไม่ได้เพราะคุณพยาบาลเอาปรอทวัดไข้มาเสียบไว้ใต้ลิ้นผมเสียนี่

"นั่นสิพี่เพชร เออ แล้วเมื่อกี้มันยังไง มัวแต่ดีใจพี่แทนฟื้นเห็นเหมือนคุณปาล์มนั่นเลือดตกยางออก หึ" ก้อยถามไถ่แต่น้ำเสียงเหมือนสะใจมากกว่าเห็นใจ

"เขาซุ่มซ่ามน่ะ เดินชนของแข็งจนปากแตกจมูกแตก ไม่เป็นไร แค่นั้นไม่ตายหรอก" คุณเพชรตอบเสียงแข็งไม่แพ้กัน

"เห็นทีเพชรต้องไปจริงๆ แล้วค่ะ มานานแล้ว สวัสดีค่ะน้ารำไพ ไปล่ะก้อย" คุณเพชรรีบสรุปเรื่องฉับไวยกมือไหว้แม่ผมรวดเร็วจนแทบรับไหว้กันไม่ทัน พร้อมยกมือขึ้นโบกลาน้องผมแถมทำเป็นลืมคนสำคัญที่นั่งหัวโด่คาบปรอทวัดไข้ไปเสียอย่างนั้น

คุณเพชรเดินออกไปแล้วทิ้งให้ผมมองตามด้วยความปลาบปลื้ม ปล่อยไปก่อนเถอะ รู้เรื่องจริงในใจเธอมาอย่างนี้แล้วจะไปไหนรอด หายเมื่อไหร่จะรุกให้ตกเป็นเมืองขึ้นให้ได้ภายในสามวันเจ็ดวันเลยเชียว

"แหม มองตามตาปรอยเชียวนะคะคุณแทน ให้เธอกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ เห็นมานั่งถอนหายใจทิ้งทำตาแดงๆ ข้างเตียงคุณมาสองสามวันแล้ว น่าสงสารคุณเพชรออกค่ะ" คุณพยาบาลเสียงหวานพูดยิ้มๆ พลางดึงปรอทออกจากปากผมไปอ่านก่อนโยนลงถาด พร้อมทั้งดึงแผงวัดความดันออกจากแขนผมดังแควก

"นี่ถือว่าคุณแทนแข็งแรงมากๆ เลยนะนี่ ไม่เป็นอะไรมากทั้งที่รถพลิกคว่ำไปสามตลบอย่างนั้น แค่ฟกช้ำดำเขียว ข้อศอกขัดไปหน่อยเดียวเอง"

"แต่กลับนอนยาวจนใครต่อใครเขากลัวว่าจะไม่ตื่นขึ้นมาแล้ว พี่แทนนี่น้า" ก้อยส่ายหน้าประกอบคำพูด "รู้รึเปล่า ตอนที่ได้ข่าวก้อยช็อคแค่ไหน แม่ก็ร้องไห้จนเกือบเป็นลมเลยนะ" อย่าว่าแต่แม่เลยก้อยเอ้ย ตอนนี้พี่ก็เห็นนะว่าน้ำตามันคลอๆ น่ะ

"คงจะเหนื่อยและเครียดมามากน่ะค่ะ พอได้พักเลยนอนเสียจนพอ" คุณพยาบาลพูดให้ฟังดูเป็นเรื่องเล็กน้อยเพื่อคลายความกังวลแล้วก็ขอตัวออกไปบันทึกประวัติคนไข้พร้อมกับแจ้งหมอ ก่อนออกไปยังหันมาบอกอีกว่าไม่นานก็น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว

"นี่พี่แทน วันหน้าวันหลังถ้าคิดจะขอคะแนนสงสารจากพี่เพชรก็ไม่ต้องลงทุนขนาดนี้ก็ได้นะ มันเสี่ยงไป" ก้อยมีหน้ามาหยอกผมเล่นแล้วหลังออกจากโหมดซึ้ง

"ถือว่าฟาดเคราะห์ไปนะ แต่เสียดายที่แทนไม่ได้เห็นหน้าหนูเพชรตอนที่ตามมาถึงโรงพยาบาลนี่ เกือบจะร้องไห้เลยรู้ไหม แม่นะ ตื้นตันใจไปหมด กลัวลูกจะตายก็กลัว ซาบซึ้งใจในหนูเพชรก็อีกเรื่องหนึ่ง มารู้ทีหลังว่าเธอเล่นสั่งคนที่ไปงัดเอาแทนออกมาจากรถว่าให้เอาแทนมาส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดและต้องมาแบบครบสามสิบสอง แถมยังจัดแจงเรื่องโรงพยาบาลอะไรให้ก่อนตัวแทนประกันอีก สุดยอดไหม ว่าที่ลูกสะใภ้แม่"

ผมได้แต่ยิ้มหน้าบานรับคำนิยามคุณเพชรจากแม่ ไม่เสียดายหรอกครับ แค่คำพูดที่คุณเพชรตั้งใจบอกคนอื่นไปเมื่อครู่โดยไม่รู้ว่าผมฟังอยู่แล้วนั่นมันก็ถมเต็มในใจจนเกือบล้นแล้ว ขาดเพียงแค่ผมต้องการให้เธอบอกผมตรงๆ เท่านั้น เท่านั้นจริงๆ จะให้ผมทำอย่างไรก็ยอม ขอเพียงแต่ไม่เสียเธอไปเท่านั้น

หากว่าเธอรักผมมากพอที่จะยอมรับได้เมื่อรู้ว่าผมหลอกอะไรเธอไว้ ผมคงจะไม่เสียเธอไป





"อึดโว้ย เพื่อนเรา" เป็นคำทักทายแรกของไอ้พลเมื่อมันมาถึงพร้อมกับคุณเลขาชลลดาในช่วงสายวันหยุด ขณะที่ผมนอนเบื่อกดรีโมททีวีเล่นอยู่ลำพัง พ่อแม่พี่น้องผองญาติพากันทิ้งผมไปหมดเมื่อรู้ว่าไม่เป็นอะไรมากและใกล้ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว รวมทั้งคนที่ไม่ยอมพูดหวานๆ ให้ผมชุ่มชื่นหัวใจทั้งที่ไปประกาศใส่หน้าคนอื่นว่ารักผมอย่างนั้นอย่างนี้ หายเข้ากลีบดอกเบญจมาศจ้อย

"แหม่ อึดขนาดนี้น่าส่งไปแคสติ้งคัดตัวแสดงดายฮาร์ดภาคห้า บรูซ วิลลิส เจอแทน วิลลิ่งแล้วจะหนาว" มันเสนอบทพระเอกหนังแอคชั่นให้ผมอย่างเต็มใจ แต่ขออภัยผมพระเอกหนังรักโรแมนติกครับ เล่นไม่เป็นหรอกบทบู๊ แต่ขอดูฉากเข้าพระเข้านางก่อน หากถึงใจไม่แน่อาจเล่นด้วย

"สวัสดีค่ะบอส แข็งแรงยังกับไม่ได้รถคว่ำแน่ะค่ะ จะว่าไป ทางบีเอ็มมีติดต่อมาขอไปแสดงหนังโฆษณาให้เขาด้วยนะคะ แต่ดิฉันบอกไปว่าคุณแทนดังพอตัวอยู่แล้ว ไม่อยากดังมากไปกว่านี้เดี๋ยวมีสาวติดมากเกินไปค่ะ"

เออ เลขาผมก็เป็นไปกับเขาด้วยแฮะ

"แข็งแรงไวอย่างนี้ก็รีบไปทำงานเสียทีนะคะ คุณเทียรบ่นแย่แล้ว"

คุณชลลดาหมายถึงพ่อผมที่ต้องลงไปเล่นบทผู้บริหารอีกครั้งหลังจากวางมือมาเป็นปี แค่ความประมาทตัวเดียวทำให้พ่อต้องมาเดือดร้อนด้วย ไม่ไหวจริงๆ เลยผมนี่

"อือ ผมก็เบื่อ อยากกลับไปรับรู้ข่าวสารในวงการมั่ง คันไม้คันมือแย่แล้ว" กดหาช่องจนมาค้างอยู่ที่ช่องแฟชั่นโชว์ในชุดบิกินี่ก็โยนรีโมททิ้ง ค้างไว้ช่องนี้แหละดี

"ไม่อยากรู้ข่าวกอซซิปไฮโซบ้างหรือไง ฉาวกันถ้วนหน้าเลยแทนเอ้ย" พลพูดพร้อมทำท่าแหยงๆ ให้ผมได้ซักถามต่อว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างตั้งแต่ผมหนีมานอนหลับสบายอยู่ตรงนี้

เกือบชั่วโมงที่ฟังไอ้พลเล่าไปใส่อารมณ์ไปอย่างเมามัน ขนาดที่คุณชลขอตัวกลับไปกับสามีที่มารับไปทำกับข้าวมื้อเที่ยงก็ยังไม่มีหนุ่มไหนสนใจลงไปส่งที่จอดรถสักคน (เออ แค่ไอ้พลคนเดียว ผมคงไม่จำเป็นต้องเดินไปส่งคนเยี่ยมไข้มั้ง) เริ่มจากข่าวที่ออกมาทันทีหลังจากผมประสบอุบัติเหตุ ว่าผมเมาเหล้าขับรถไปคว่ำเล่นประชดรักคุด เมื่อลูกสาวคนสวยรัฐมนตรีมีอะไรลับๆ กับเจ้าของโรงแรมหนุ่ม บ้างก็เอาภาพเด็ดที่ปาปารัชชี่มือดีไปเก็บได้จากโรงพยาบาลตอนที่กำลังยืนหน้าเครียดกันอยู่มาลงประกอบข่าวว่าผมเจอภาพกระชากใจเมื่อคุณเพชรมาหาหมอแผนกแม่และเด็กกับไอ้คุณปวริศจนเสียผู้เสียคนขับรถคว่ำ ไอ้พลมันยังบอกว่าไม่รู้วางมุมภาพกันยังไงถึงกันก้อยออกจากกรอบภาพไปได้เนียนๆ

แต่ละเรื่องทำให้ผมแทบลุกเป็นไฟเมื่อรู้ว่าคุณเพชรโดยหยามเกียรติขนาดไหน แต่ไอ้พลมันกลับบอกว่าผมไม่ต้องทำอะไร ไอ้คนปล่อยข่าวมันแพ้ภัยตัวเองย่อยยับกลับลงหลุมฝังกลบแถมกระทืบซ้ำไปแล้ว

"ท่านรัฐมนตรีน่ะไม่ธรรมดานาเว้ย เห็นเงียบๆ ไม่เคยมีเรื่องอะไรกับใครอย่างนั้น พอเกิดเรื่องกับลูกสาวสุดที่รักขึ้นมาก็ใช่ว่าจะเฉย เคยเจอไหมวะ ยิ้มๆ นิ่งๆ แต่ยิงเจาะเข้ากลางหัวน่ะ ตอนแรกกูกะว่าจะมาฟ้องมึงให้ใช้คนไปดัดหลังไอ้บ้านี่ แต่เกิดคลิปฉาวไอ้ปวริศนั่นหลุดมาจากไหนไม่รู้ แต่ละอันนะเว้ย เด็ดๆ ทั้งนั้น นี่กูยังแอบเก็บไว้รอให้มึงมาดูเอาสะใจอยู่เลย"

รัฐมนตรีอิทธิใช้มาดคนใจดีน่าเคารพสยบทุกเสียงลือได้อย่างฉับไว การตอบคำถามซอกแซกของนักข่าวด้วยประโยคที่ราบเรียบสุภาพแต่ทรงอำนาจช่วยเสริมสร้างบารมีให้แก่คนที่น่าเชื่อถือได้ดีจริงๆ เพียงไม่กี่วันที่ข่าวเรื่องคุณเพชรถูกสั่งห้ามลงด้วยความเกรงใจของทุกสื่อก็มีข่าวที่ฉาวและรุนแรงสะใจกว่ามากลบสิ้น

คลิปที่ไอ้พลมันเล่าเป็นออเดิร์ฟเล่นเอาผมไม่อยากดูกับตาตัวเอง มีทั้งคลิปมั่วยาปาร์ตี้ริมสระน้ำ ไหนจะคลิปโป๊สาวๆ นุ่งน้อยห่มน้อยที่มีตัวแสดงหลักเป็นเจ้าตัวด้วยแล้วยังไม่สะใจพอ ที่เด็ดและดังสุดๆ ก็ไอ้ตัวคลิปฉากอิโรติกวาบหวิวระหว่างไอ้คุณปวริศกับหนุ่มลูกครึ่งหล่อล่ำที่มีข่าวว่าเคยเป็นครูฝึกยิมฯ ส่วนตัวนั่นอีก เล่นเอากิจการโรงแรมถอดผู้บริหารส่งคนใหม่สวมตำแหน่งแทบไม่ทัน แว่วๆ ว่าตอนนี้เจ้าตัวใส่ปีกใส่หางบินหนีไปอยู่ส่วนไหนของโลกแล้วไม่รู้

"เออ ขอให้มันไปลี้ภัยสังคมในขั้วโลกเหนือละกัน ถ้าเกิดโชคดีหมีมันอาจได้เนื้อคนไปกินฟรีๆ" ผมอนุโมทนาสาธุส่งไปอย่างสะใจพร้อมแช่งให้อีกดอก

"ไม่ดี กูสงสารหมีว่ะ กลัวมันกลายพันธุ์" ไอ้พลให้ความเห็นแบบนักอนุรักษ์หมีขาวก่อนที่จะขอตัวออกไปรับโทรศัพท์สายตรงจากอาจารย์คณะบริหารฯ

"เฮ้ย น้ำกำลังขึ้น กูต้องรีบตัก" มันยักคิ้วแผลบ ก่อนทำท่าระริกระรี้น่าคลื่นไส้จ๋าจ๊ะ รับสายออกไปนอกห้องปล่อยให้ผมอิจฉาอยู่เพียงลำพัง

ไม่กี่อึดใจที่ผมนั่งเอ๋อคิดถึงคุณเพชร เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีก นี่มันจีบสาวทางโทรศัพท์อะไรได้ไวขนาดนั้นกัน

"พี่แทน ฝนมาเยี่ยมค่ะ"

อ่า จริงสิ ลืมไปเสียสนิท น้องฝน แถมมาคนเดียวด้วย น้องผมอยู่ไหนทำไมไม่มากันท่าเพื่อนตัวเองมั่ง รับมือกับละอ่อนผมไม่ถนัด กับสาววัยปล่อยฟีโรโมนก็ว่าไปอย่าง

"ขอบคุณครับ อันที่จริงไม่น่าลำบาก เดี๋ยวพี่ก็หายดีกลับบ้านได้แล้ว" ผมยื่นมือไปรับกระเช้าของเยี่ยมอย่างทุลักทุเล แขนซ้ายผมไม่ได้เจ็บเท่าไหร่ แต่ผ้าที่พันไว้มันยังเกะกะ

"ยังไม่แข็งแรงร้อยเปอร์เซ็นต์เลยนี่คะ เอากระเช้ามานี่ดีกว่า" น้องฝนยกกระเช้าออกไปจากมือผมพร้อมทั้งลงมือแกะกระเช้านั้นเสียเอง

"ฝนปอกสาลี่ให้พี่แทนกินดีกว่า" ว่าแล้วก็จัดแจงเดินหามีดหาจานได้อย่างกับเป็นคนจัดวางเอง ขัดใจจริงๆ เชียว เวลาอย่างนี้กลับไม่มีใครมาขัดจังหวะ ทีตอนผมอยู่กับคุณเพชรละก็มากันจริงเลย

น้องฝนจัดสาลี่ใส่จานอย่างคล่องแคล่ว เดินกลับมาพร้อมส้อมจิ้มหนึ่งอันลากเก้าอี้มาข้างๆ ผมทำท่าจะป้อนให้

"เอ้อ พี่ว่า พี่กินเองดีกว่า" แต่ถ้าเปลี่ยนฝนเป็นคุณเพชรพี่จะง่อยกินในทันทีเลยล่ะ

"ก็เห็นว่าแขนพี่แทนยังเจ็บ" นี่ก็ดื้อตาใส

"แต่แค่จิ้มผลไม้เข้าปากพี่ทำได้นะ" ไม่งั้นจะเข้าห้องน้ำไปถืออะไรหนักๆ ได้ยังไงกันครับ

"ให้ฝนป้อนก็ได้ไม่ต้องเกรงใจค่ะ" ยังพยายามจะยัดเยียดสาลี่เข้าปากผมจากมือน้องเขาอีก

"ง่า แต่พี่ก็ยังเกรงใจนะ" ผมยื้อมือถือส้อมไว้ ส่วนทางนั้นก็ทำท่าว่าจะยัดเข้าปากผมให้ได้ เลยมองเหมือนเรากำลังเล่นเกมวัดพลังกันอยู่กลายๆ และผลแพ้ชนะก็ตัดสินได้เมื่อมีใครเข้ามาเจอ

น้องฝนกระแทกปากผมด้วยชิ้นสาลี่เวรได้สำเร็จเมื่อแรงต้านผมตกลงด้วยมัวแต่หันไปมองคนที่เพิ่งเข้ามาโดยที่ไม่ยักได้ยินเสียงประตูเปิด ทั้งๆ ที่ผมยังยึดมือน้องฝนเอาไว้อยู่อย่างนั้น และคนที่เข้ามาก็ดูจะอึ้งๆ เมื่ออาการชะงักฝีเท้ากะทันหันเกิดขึ้น

"ประตูปิดไม่สนิท เพชร มาช่วยดูคุณแทนเพราะน้ารำไพโทรหาว่าไม่มีใครว่าง แต่ดูเหมือน บางที อาจไม่จำเป็น" คุณเพชร หันหลังกลับทันทีส่วนสาลี่ก็ติดคอเกินกว่าที่ผมจะพูดอะไรได้ ผมยังคงสำลักค่อกแค่กน่าเวทนาให้น้องฝนตบหลังเบาๆ ตอนที่คุณเพชรเกือบชนกับเจ้าพลที่เดินผิวปากกลับเข้ามา

ไอ้บ้า มาช้าชิบเผง

"อ้าว คุณเพชร" ได้ยินเสียงมันอุทานเท่านั้นก่อนที่คุณเพชรจะรีบก้าวออกไปพร้อมล้วงควักเอาหัวใจผมติดไปด้วย ไม่แปลกใจเลยว่าใครจะคิดไปว่าผมกำลังอ้อนเด็กสาวๆ ให้มาเอาใจ แถมหัวงูเป็นไอ้เฒ่าโลกีย์มีจับไม้จับมืออีกต่างหาก

"เฮ้ย อะ อะไรวะแทน" มันยิ่งเหวอเข้าไปหนักเมื่อมาเจอฉากห่วงใยของสาวน้อยกับไอ้ตัวดวงตกทับดาวศุกร์ที่เข้าพร้อมดาวเสาร์แทรกอย่างผมนั่งหน้าดำหน้าแดงอยู่อย่างน่าอนาถ เป็นนานกว่าผมจะตั้งสติ สมาธิ และปัญญาได้ สิ่งแรกที่ผมทำคือรวบมือน้องฝนออกแกะออกจากกล้ามเนื้อปีกหลังอย่างสุภาพพร้อมกับหันไปบอกไอ้พล

"พล แกไปโทรศัพท์อีกรอบไป"

"อ้าว อะไรของแกวะ ก็เพิ่งคุยเสร็จ จะให้โทรไปหาแมวสีสวาทที่ไหนอีก"

"โทรหาแม่ก็ได้ โทรไปบอกรักแม่ไป" อ้างแม่เข้าข่มพร้อมทั้งหรี่ตามีความหมาย และมันก็ขมวดคิ้วขมุบขมิบปากอ่านได้เป็นคำด่าก่อนเดินบ่นงึมงำออกไปอีกครั้ง

"น้องฝนครับ" ผมค่อยๆ ปล่อยมือน้องฝนให้เป็นอิสระ ก่อนตั้งสติขบคิดคำพูดดีๆ ที่จะรักษาน้ำใจของผู้หญิงคนหนึ่งเอาไว้ได้ ผมไม่อยากทำร้ายจิตใจใครให้เสียดีกรีพระเอก

"พี่ไม่แน่ใจว่าพูดออกมาจะดีหรือเปล่า แต่ถ้ามันจะทำให้คนสำคัญของพี่เขาเข้าใจได้ พี่ก็จำเป็นต้องทำ คนที่เพิ่งออกไปเมื่อกี้น่ะ เขาเป็นคนสำคัญของพี่นะ ฝนก็รู้ใช่ไหม" ตีหน้าเศร้าเล่าความจริงพร้อมมองตาเรียกร้องขอความเห็นใจ บิวท์เอามารยาชายมาใช้อีกครั้งทั้งที่ไม่ต้องมีใครเรียกร้อง ผมแอบเห็นแววตาเธอหมองลงวูบหนึ่งก่อนที่จะกลับมาใสเหมือนเดิม

"ตกลงว่าพี่แทนกับพี่พลรักกันจริงๆ เหรอคะ"

เอาเส้นประสาทสมองเส้นไหนคิดครับน้องพี่จะได้ส่งให้หมอศัลย์ฯ ดึงออกให้

"ไม่ได้หมายถึงไอ้ผู้ชายตัวโตนั่น พี่หมายถึงคุณเพชรต่างหาก และดูเหมือนคุณเพชรอาจจะ เอ่อ เข้าใจผิด"

"พี่เพชรก็เข้าใจผิดมาตลอดอยู่แล้วนี่นะ เรื่องพี่แทนเป็นอะไรกับพี่พล"

ให้ตาย นี่ไม่เข้าใจจริงๆ หรือทำหน้ามึนกันแน่

"พี่หมายถึง ฝนต่างหาก คือ..." มันยากจริงๆ แฮะ "พี่ชอบคุณเพชรนะ ไม่สิ มากกว่าชอบด้วยซ้ำ และไม่อยากทำให้เขาเข้าใจอะไรผิดไปมากกว่านี้อีกแล้วด้วย" พูดจบก็กลั้นใจรอรับปฏิกิริยาตอบสนองจากคนที่นิ่งฟัง จะวี้ดแตกวีนลั่นหรือจะมายืนตัวสั่นร้องไห้ผมก็ทำใจไว้แล้ว

"แล้วพี่แทนมาบอกฝนทำไม ไปบอกกับพี่เพชรสักทีสิคะ พูดแบบนี้เลยนะ ตรงๆ"

"เอะ..." เอาล่ะสิครับ จู่ๆ ฝนก็ยิ้ม ยิ้มจริงใจแถมยังออกปากไล่ให้ผมไปบอกคุณเพชรอีกด้วย แววตาน่าใจหายเมื่อครู่อยู่ไหนแล้ว อะไร ยังไงกันแน่

"พี่แทนคิดว่าฝนหลงเสน่ห์ตัวเองจริงๆ หรือคะ" พูดกลั้วหัวเราะให้ผมทำหน้าเหรอหราเป็นหมาถูกหลอก

"โธ่เอ๋ย พี่แทน ฝนจะไปคิดอะไรแบบนั้นกับพี่ชายเพื่อนซี้ได้ยังไง แสดงว่าทั้งก้อยทั้งฝนแสดงเก่งจริงๆ รู้ตัวได้แล้วค่ะพี่แทน ว่าตัวเองน่ะ ถูกต้ม!"

หือ!?!


****************************************************


<จบตอนที่ 15 ค่า>

ตอนนี้มาไม่ไวแต่คงไม่ทรมานใจกันนะคะ เล่นตั้งชื่อเอาซะหวานจ๋อยขนาดนี้แล้ว

เอาใจแฟนคุณแทนค่ะ สงสาร เห็นเจ็บตัวอีกแล้ว เลยจัดให้เขาเสียหน่อย

หุ หุ หุ


แล้วเจอกันตอนหน้า คาดว่าไม่นาน (ได้หยุดยาว ไม่นานแน่ๆ จ้า)

บุญรักษานะคะ



Create Date : 12 สิงหาคม 2551
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2552 2:28:58 น. 9 comments
Counter : 284 Pageviews.

 
หึหึหึ (หัวเราะแบบนางมารร้าย) มาแล้วเหลอ อ่านจบแล้ว พรุ่งนี้จะทวงตอนที่16 น่ะ หึหึหึ


โดย: Sakina IP: 124.121.115.223 วันที่: 12 สิงหาคม 2551 เวลา:19:47:22 น.  

 
วู้ มันส์


โดย: redclick วันที่: 12 สิงหาคม 2551 เวลา:20:32:41 น.  

 
อ่านช่วงแรก อยากเป็นคุณแทนใจแทบขาด พออ่านตอนท้ายคุณแทนโดนต้มซะเร้ว


โดย: 2in1 IP: 124.121.151.9 วันที่: 12 สิงหาคม 2551 เวลา:22:57:19 น.  

 
oooh วู้ๆๆๆๆๆ
อยากจะร้องดังๆว่าชอบคุณแทนจัง


โดย: dena IP: 203.155.149.89 วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เวลา:11:19:57 น.  

 
แหม น้องฝนนี่น่าจะเอกการละครใช่ไหมคะเนี่ย


โดย: บู้บี้ IP: 133.82.251.202 วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เวลา:16:33:58 น.  

 
แหม น้องฝนนี่น่าจะเอกการละครใช่ไหมคะเนี่ย


โดย: บู้บี้ IP: 133.82.251.202 วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เวลา:16:34:00 น.  

 
สวัสดีค่ะ เบ๊แห่งชมรม ศาลาคนสวย มาส่งบัตรสมาชิกค่ะ ^^



โดย: Life's for Rent วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:0:04:08 น.  

 
กรี๊ดๆๆๆ

บัตรสมาชิก"ศาลาคนสวย" งามมากๆ




สวยสมชื่อชมรมเชียะ


โดย: BestChild วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:9:21:30 น.  

 
อ้าวแล้วกัน
๕๕๕


โดย: RuNz IP: 125.24.157.182 วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:17:26:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BestChild
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ไม่ใช่คนเลว แต่ไม่ใช่คนดี
ไม่ใช่คนมีน้ำใจ แต่ไม่ได้เห็นแก่ตัว
ไม่ใช่คนใจร้าย แต่ไม่ใช่ผู้หญิงใจดี
ไม่ได้ต่อต้านใคร แต่ไม่ใช่คนยอมคน
รับรู้ในตัวตน และไม่สนใครจะว่าอย่างไร
รู้จักให้อภัย แต่ไม่ใช่ไม่รู้จักแค้น
เป็นผู้หญิงแท้ที่ชอบโชว์แมน แต่ความจริงแสนจะอ่อนโยน O_o!!!


~ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ~


"...มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่เรียนรู้จากความผิดพลาด ไม่มีใครเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกต้องเสมอไปในโลกใบนี้ หากจะมีก็ให้ไอ้คนนั้นมันไปเป็นเทวดาเสีย อย่ามาเป็นคนให้เสียชาติเกิดกันเลย"

โรม / เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ







"คนที่บอกว่าคุณไม่สวยคือคนที่ไม่ได้มองคุณรู้ไหม ถ้าหากเพียงมองคุณดีๆ รู้จักมองให้ถึงความเป็นตัวคุณแล้วก็จะรู้ว่าคุณน่ะสวย..."

ยอด / ผมก็เป็นพระเอกคนหนึ่ง







จิ๊กซอว์ที่ต่อกันได้พอดีทั้งสองฝ่ายมันไม่ใช่สิ่งที่จะซื้อหาง่ายๆ เมื่อได้มันมาแล้วต้องรักษามันไว้ให้ดี อย่าทิ้งขว้างเหมือนเป็นสิ่งที่หมดค่า เพราะรู้ไหม ว่าหากแกปล่อยมันหลุดมือไปแล้วความสูญเสียจะเทียบไม่ได้กับอะไรทั้งนั้น"

อวิกา / เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ






"...ไอ้ผู้ชายมาดแต๋วที่พี่ก่นด่านักหนาตรงหน้านี่นะ...เท่าที่รู้จักมา บอกได้คำเดียว...โคตรแมนเลยเว้ยค่ะ"

นงนุช / แมน







คุณค่าที่ว่า ความรู้สึกในทุกๆ ใบหน้าของคนในรูปคือ 'ความสุข' ไม่เห็นจะต้องมีองค์ประกอบเป็นฉากสวยงาม

ลูกชุบ / สาวติสท์แตกกับหนุ่มไฮเปอร์







"...คุณกับผมอาจดูต่างกัน คุณเชื่องช้า ผมว่องไว คุณใจเย็น ผมใจร้อน คุณชอบจดจ้องและลากเส้น แต่ผมชอบมองผ่านเลนส์และกดชัตเตอร์ แต่รู้มั๊ยในจุดประสงค์ของทั้งหมดมันคือสิ่งเดียวกัน..."

นที / สาวติสท์แตกกับหนุ่มไฮเปอร์







"มันเป็นแค่ความทรงจำ จะดีหรือร้าย เราไม่สามารถลบมันออกไปได้ เก็บมันไว้ในอดีตและเดินต่อไปยังอนาคตข้างหน้า ปล่อยให้ความทรงจำเป็นเพียงแค่ความทรงจำ"

Matsumura Ryo / Hiroshima eki สถานีแห่งความทรงจำ








"...บางทีสิ่งที่แกเห็นมันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ เหรียญยังมีสองด้านได้เลยแก ประสาอะไรกับใจมนุษย์เล่า มันขึ้นอยู่กับว่าแกเลือกที่จะรับมันทุกด้านหรือเปล่า หากแกเลือกที่จะรับไว้เพียงด้านเดียวแล้วทุกข์ไปตลอดชีวิตน่ะมันคุ้มกันไหม..."

ลูกชุบ / เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ









เฮ้อ... ผู้ชาย ไม่มีไม่ตาย แต่อยากได้สักคนแฮะ

"ฉัน"/ ท้องฟ้า หาดทราย สายลม ผมกระเจิง




ฝากคำทักทายไว้ด้วยจิ...รักตายเลย




ShoutMix chat widget




BestChild ในคอลัมน์นักเขียนรับเชิญ ลายปากกา 2009

BestChild ในคอลัมน์ "ลายรัก" ลายปากกา 2010




Friends' blogs
[Add BestChild's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.