Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
23 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ ตอนที่ 17 <เพราะผมเจอคู่แข่ง>



"อันตราย อันตราย อันตราย"

ไอ้พลมันมาเดินเป็นหนูนรกติดจั่นพร้อมกับบ่นงึมงำอยู่คำเดียวแต่หลายทีที่ข้างเตียงคนไข้จนนึกอยากเป็นลมล้มนอนไปอีกครั้งหลังจากที่โวยวายให้หมอปล่อยตัวกลับบ้านในวันนี้ได้สำเร็จเมื่อผลตรวจแขนซ้ายผมออกมาว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

"เป็นอะไรของแกวะ ตั้งแต่โผล่เข้ามาก็ทำท่ายังกับผีเข้า ไอ้ที่ใช้ไปทำงานให้เมื่อวานก็ไม่สำเร็จ ร้อนถึงกูต้องออกไปจัดการเองจนได้ ไม่รู้ป่านนี้คุณเพชรจะเป็นยังไงบ้าง จะเลิกร้องไห้หรือยังก็ไม่รู้"

จะบอกว่าผมเป็นไอ้พวกซาดิสม์ก็ได้ที่เกิดมีความสุขเล็กๆ กับการที่คุณเพชรเศร้าสร้อยเพราะหึงผมกับน้องฝน เพราะนั่นหมายถึงเธอเกิดจิตปฏิพัทธ์กับผมจริงๆ ถึงได้มีอาการเฮิร์ทตามที่ก้อยไปล้วงไส้มาจากอาจารย์สุภา ทั้งๆ ที่ความจริงทั้งหมดมันไม่ใช่เลย หลังจากที่เจ้าตัวเผยไต๋ออกมาเมื่อวานนี้

'หมายความว่ายังไง ถูกต้ม'

'หมายความว่าฝนกับก้อยรวมหัวกันจัดฉากหลอกทั้งพี่แทนและพี่เพชรน่ะสิคะ' น้องฝนยืนยิ้มพูดเรื่อยๆ เหมือนเป็นเรื่องปกติสามัญชนทั่วไป

'หะ...ละ แล้ว มีใครรู้เรื่องนี้อีกบ้าง'

'การจะทำให้ทุกคนเชื่อก็ต้องมีคนรู้เรื่องน้อยที่สุด แผนนี้ก้อยกับฝนเท่านั้นที่ร่วมมือกันปั่นหัว พี่พลกับอาจารย์สุยังไม่รู้'

'บ้ากันไปหมดแล้ว เพื่ออะไรเนี่ย' ผมถึงขั้นมึนรับประทาน คาดไม่ถึงจริงๆ ว่าไอ้คุณน้องผมจะคิดทำอะไรอย่างนี้ได้ แถมคราวนี้ยังมีเพื่อนมาช่วยกันหลอกผมอีก

'เพื่อเร่งปฏิกิริยาตอบสนองของทั้งคู่ค่ะพี่แทน ก้อยคงรอพี่สองคนเล่นกันต่อไม่ไหวเลยต้องมาอาศัยฝนเป็นตัวแสดงนำอีกคน'

'แต่มัน...' ผมยังอึ้งๆ อยู่ อะไรมันจะแนบเนียนขนาดนั้น ความรู้สึกผมมันผิดเพี้ยนไปขนาดนั้นได้ยังไง ไม่มีทางหรอก

'รู้ค่ะว่ามันสมจริงมาก เรื่องของเรื่องคือฝนเนี่ยเป็นสมาชิกชมรมศิลปะการแสดง ปีหน้าจะมีการเทสต์เพื่อชิงทุนไปเรียนคอร์สพิเศษที่อเมริกา และฝนก็ถูกคอมเม้นท์มาจากพี่ในชมรมว่าบุคลิกฝนไม่สามารถแสดงถึงความมั่นใจในตัวเองได้ เพื่อการนี้ ฝนเลยเต็มใจให้ความร่วมมือกับก้อยเพื่อเปลี่ยนบุคลิกตัวเองพร้อมฝึกการแสดงไปในตัว และมันก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วย' พูดแล้วก็ทำท่าภูมิใจหนักหนากับการแปลงคนให้เป็นควายไปได้หลายตัว ไม่อยากจะเชื่อ มันจะเปลี่ยนบุคลิกของคนได้ยังไงไปทั้งคน นิยายชัดๆ

'แหม พี่แทน ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นหรอกค่ะ ใครๆ ก็มักชอบคิดว่าฝนขี้อาย แต่จริงๆ แล้วที่เงียบๆ นั่นมันไม่ได้หมายความว่าอายสักหน่อย แค่ขี้เกียจรำคาญพูดมากต่างหาก ช่วยไม่ได้ คิดกันไปเองทั้งนั้น พอผสมกับการแสดงเข้าหน่อยก็เชื่อกันเป็นตุเป็นตะ'

'...'

'อย่าอึ้งไปเลยค่ะ ถ้าฝนไม่ได้เป็นคนอย่างนี้จะซี้กับก้อยได้เหรอพี่แทน'

ครับ แล้วผมจะลุกขึ้นมาโวยวายอะไรไหว หลังจากเรื่องทั้งหมดกระจ่างได้ผมก็ไม่รอช้า รีบโทรหาน้องสาวตัวดีว่านี่เธอทำอะไรพี่ชาย ช่างทำได้นักนะ ประกอบกับตามทุกคนในทีมละเมิดศีลข้อสี่ มุสาวาทาเวรมณีให้มาร่วมรับรู้ชะตากรรมและหาแผนรองรับเรื่องคุณเพชรจิตหลุดโดยด่วน หลังจากนั้นห้องพักคนไข้ก็กลายเป็นห้องประชุมลับให้บรรดาหมอพยาบาลมองเขม่นว่ามันมาทำความเดือดร้อนอะไรให้คนไข้กันตั้งหลายคน

การเพียรโทรหาคุณเพชรไม่เป็นผล อันที่จริงผมก็ยังคิดไม่ออกหรอกว่าโทรหาเธอแล้วจะพูดว่ายังไง มีตั้งหลายเรื่องที่ต้องอธิบายแต่ผมยังหาทางออกไม่ได้สักอย่าง รู้อย่างเดียวว่าต้องจัดการเรื่องน้องฝนออกไปก่อนเป็นอันดับแรก เพราะผมยอมไม่ได้หากเรื่องนี้จะทำให้คุณเพชรหลุดลอยไปทั้งๆ ที่กำลังจะเข้าปากเคี้ยวอยู่แล้วแท้ๆ แม่ทัพกุลธิดา AKA ก้อย เลยบัญชาการให้ทหารพลกับผู้ช่วยสุภาออกไปตามล่าหาคุณเพชรมาให้ได้ ต่อให้ต้องลงน้ำลุยไฟเข้าป่าไปกี่ตอนก็ตาม (อย่าลามปามไปนิยายเรื่องอื่นสิ!)

แต่กลายเป็นว่าพอไอ้คุณพลทหารมันกลับมาก็ได้แต่ทำท่าเสียจริตพร้อมน้ำเหลวที่ไม่สามารถทำให้ผมได้คุยกับคุณเพชรได้อย่างใจ ไอ้ที่ฝากไปบอกก็ดูท่าว่าฝั่งนู้นจะไม่เชื่อเสียด้วย

"อันตรายจริงๆ ว่ะแทน" แล้วมันก็หยุดเดินหันมามองหน้าผมที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดโรงพยาบาลเป็นชุดหล่อของตัวเองพร้อมคำเดิมๆ ที่พูดมาแล้วไม่ต่ำกว่าห้าคำ

"ทำไมวะ อันตรายยังไง อะไรมันอันตราย" รำคาญก็หนึ่ง อยากรู้ก็อีกหนึ่ง

"ก็จู่ๆ ก็มีหนุ่มหน้าไหนไม่รู้โผล่เข้ามานั่งจู่จี๋อยู่กับคุณเพชร คราวนี้ขอบอกนะโว้ย น่ากลัวมากๆ" มันทำหน้าจริงจังหลอกผมอีกแล้ว คนอย่างผมโดนหลอกแค่ทีเดียวก็เกินพอ ที่พูดมานี่คิดว่าผมจะเชื่อหรือไง

"ไม่ต้องมามุก กูรู้น่าว่าคุณเพชรเขาคิดยังไงกับกู ใครที่ไหนมันจะมามีอิทธิพลกับคุณเพชรมากไปกว่านี้ ขอโทษ ไม่มีอีกแล้วครับ" สาบานว่าไม่ได้พูดเพราะความหลงตัวเอง นี่เรื่องจริงต่างหาก

"เอ๊อ มึงไม่เห็นกับตา นี่ขนาดว่าคุณสุเดินมากับกูนะ พอปะหน้าไอ้หนุ่มนี่เข้าเล่นเอาลืมกันไปเฉย ที่สำคัญ มันหล่อด้วยสิ"

"คุณพล กรุณาเบิ่งตามามองเพื่อนให้ดี หล่อกว่านี้มีอีกเหรอครับ" ผมชี้นิ้วเข้าหน้าตัวเองให้มันดู ไอ้พลนี่มันไม่ไหวเลยจริงๆ ไม่ได้รู้จักอะไรบ้างเล้ย

"มึงน่ะมันหล่อก็จริง แต่หล่อร้ายหล่ออันตรายว่ะ เคยเจอไหม หล่อสะอาดมาดอบอุ่น แถมยังเป็นลูกครึ่งอีก หน่วยก้านไม่ต้องพูดถึง ที่สำคัญ พี่โรมของสาวๆ เนี่ยเขาดูเป็นคนดีที่น่าเอามาทำเป็นพ่อของลูกซึ่งต่างจากมึงมากเลย" มันตรงมาจับไหล่ผมเหมือนตั้งใจให้ผมแปลความในคำพูดให้ดี อ้าว นี่มันด่าผมนี่หว่า

"ไอ้เวร ไม่รู้เว้ย จะเป็นโรมเป็นอิตาลีมาจากไหนก็ช่าง แต่ตอนนี้กูต้องรีบไปกู้เอาคะแนนคืน ฉะนั้นพากูไปส่งบ้านคุณเพชรด่วน" ออกปากสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาที่ยืนทำหน้าประหลาด ยกมุมปากบนแสดงความรังเกียจผม

"แล้วพ่อแม่พี่น้องนี่ไม่คิดจะรอเขามารับกันเลยรึไง ไอ้ตัวหลงหญิง"

"ไว้ค่อยพาลูกสะใภ้กลับไปไหว้ทีหลัง วันนี้กูจะให้มึงพากูไปปล่อยไว้แล้วกูจะทำให้ลูกสาวท่านรัฐมนตรีช่วยฯ เขาพากูกลับไปส่งบ้านให้ได้ด้วยความเต็มใจ" ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองไปเอาความมั่นใจมาจากไหน แค่คำรักที่คุณเพชรหลุดปากออกมาก็พาให้ผมเหลิงแล้ว

"แล้วถ้าคุณเพชรเขาไม่สนใจมึงล่ะ" พลหรี่ตาซ้ายถามหยั่งเชิง

"งั้นกูก็ไม่กลับ จะไปยืนตากฝนหน้ารั้วบ้านให้พระเอกละครอายหน้าม้านไปเลย"

ไอ้พลมันกระพริบตาปริบมองหน้าผมนิ่งอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

"งั้นกูขอภาวนาให้พายุมันเข้ามาที่หน้าบ้านคุณเพชรเขาด้วยก็แล้วกัน จะได้ให้มันรู้กันไปว่าอะไรแรงกว่า"




ลูกบ้าแรงฮึดของผมมันส่งให้คนหลงตัวเองอยากกัดลิ้นตัวเองให้ตายคาบ้านท่านรัฐมนตรีเสียจริง ปกติวันธรรมดาอย่างนี้นี่บ้านคุณเพชรไม่น่าจะมีใครอยู่ แต่งวดนี้กลับอยู่กันพร้อมหน้าทั้งท่านรัฐมนตรีอิทธิ ภรรยา และลูกสาวคนสวยที่นั่งทำหน้าเย็นชาไร้อารมณ์เป็นหุ่นปูนปั้นวีนัส พรั่งพร้อมไปด้วยญาติสนิทมิตรสหายที่เกิดจะมารวมตัวกันในวันที่ผมตั้งใจมาเสียอย่างนั้น มีทั้งน้องชายคุณอิทธิพร้อมครอบครัวอันประกอบไปด้วยภรรยาหนึ่ง ลูกสาวและลูกชายวัยทำงานอีกสองที่จงใจลางานหนึ่งวันเพื่อมาพร้อมหน้ากันในวันนี้ และเห็นว่าอีกไม่สักกี่นาทีจะมีพี่สาวท่านมาอีกหนึ่ง นี่ก็ศักดิ์เป็นป้าคุณเพชร ยังคาดเดาไม่ได้ว่าจะมากันกี่คน นี่ถ้าแกมากันครบบ้านรวมทั้งลูกทั้งหลานก็ฟาดไปหก

โอย ทำไมมันถึงซวยได้ซวยดี ซวยอย่างนี้นี่เพราะกรรมเก่าหรือไงกัน แล้วไอ้พลมันก็ดันรักเพื่อน เชื่อมือผมขนาดที่มาส่งถึงหน้าบ้านผมเปิดประตูลงรถได้ก็รีบเหยียบคันเร่งหนีไปจ้อย โธ่ ไอ้บ้าห้าร้อยเอ้ย

"แล้วลมอะไรหอบมาได้ถึงนี่ล่ะคุณแทน ไม่โทรมาบอกลูกเพชรก่อน น้าจะได้หาที่หาทางให้นั่งสบายๆ กว่านี้" อันที่จริงตรงนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แค่เป็นเก้าอี้โซฟาตัวเล็กที่ถูกจัดมาวางไว้ใกล้ๆ กับโซฟาชุดใหญ่ที่ถูกจับจองไปด้วยบรรดาญาติๆ แต่คิดว่าคุณนิลนั้นเปลี่ยนกิริยาอาการจากปั้นปึ่งซึ่งหน้ามาหยอดคำหวานน้ำตาลหกอีกครั้งหลังจากอดีตตัวเต็งเขยขวัญกลายเป็นไอ้ตัวน่ารังเกียจ ว่าที่เขยอันดับสองอย่างผมเลยเลื่อนขั้นขึ้นมาอย่างน่าภาคภูมิใจ

"พอดีวันนี้เป็นวันรวมญาติฝั่งผมน่ะคุณแทน เลยขอลางานสักวันมาใช้เวลากับครอบครัวเสียหน่อย" ท่านรัฐมนตรีช่วยฯ ยิ้มให้ผมอย่างใจดีพร้อมอธิบายคำถามในใจของผมว่านี่มันวันอะไรกันหนอ

"อ่า ครับ" สมองผมกำลังคิดหาทางออกเลยไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้ สงสัยต้องขอตัวไปแอบโทรเรียกไอ้พลวกรถกลับมารับด่วนเสียแล้ว ไอ้ที่ประกาศกร้าวมาเมื่อเวลาไม่ถึงสองชั่วโมงก่อนคงต้องทำลืมๆ ไป

"ตอนแรกที่ผมเห็นข่าวกุ๊กกิ๊กของเพชรกับคุณแทนผมยังไม่อยากเชื่อเลย พอมาเจอคุณแทนตัวเป็นๆ นั่งอยู่นี่ถึงได้เชื่อแล้วว่าข่าวเป็นเรื่องจริง ไม่บอกกันมั่งเลยนะเพชร" หลานชายท่านรัฐมนตรีอิทธิเจ้าของบ้านที่คนนอกครอบครัวอย่างผมมานั่งหัวโด่อยู่พูดแหย่คุณเพชร และทางฝั่งนั้นก็ไม่รอช้าในการโต้ตอบทันควัน

"ข่าวกุ๊กกิ๊กอะไร? ไม่มีทั้งนั้นน่ะ เชื่ออะไรกับเรื่องที่เขาเขียนมาขาย" นั่น แว้ดขึ้นมาทันที

"พูดเล่นไปเรื่อยอย่างนี้คุณแทนก็เซ็งแย่ อีกอย่าง ดูเหมือนว่าคุณแทนคงอยากจะกลับแล้ว เพราะดูเหมือนว่ามานั่งอยู่พักหนึ่งแล้วก็ยังไม่มีธุระอะไรกับใครสักที ให้เพชรเรียกแท็กซี่ให้ไหมคะ" เลิกคิ้วถามพยายามแสดงความรักกับผมในเชิงผกผัน

"พูดอะไรอย่างนั้นเล่าลูก มันเหมือนไล่แขกรู้ไหม" คุณนิลรีบปรามลูกสาว

"แล้วคุณแทนมีอะไรจะคุยกับเพชรหรือเปล่า น้าว่าเดี๋ยวเพชรพาคุณแทนออกไปคุยที่สนามข้างนอกก่อนก็ได้นี่ ตรงซุ้มข้างๆ ตันมะยมนั่นน่ะ อยู่ในร่มแล้วก็ลมพัดเย็นดีด้วย คุณแทนเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาก็น่าจะรับอากาศปลอดโปร่งหน่อย เดี๋ยวค่อยกลับมาข้างในนี่ก็ได้" ขอบคุณครับว่าที่คุณแม่ มีคนถือหางอย่างนี้ค่อยรู้สึกดีมีพวกหน่อย

"ไม่จำเป็นมั้งคะ วันนี้วันครอบครัวไม่ใช่เหรอ คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรก็ไม่น่าจะอยู่" ผมกลืนน้ำลายกับคำพูดที่แรงขึ้นอีกระดับ คำพูดคำจาเธอช่างไม่น่าฟังเอาเสียเลย ไหนว่ารักผมไม่ใช่เหรอไง ทำไมพูดจากแข็งโป้กอย่างนี้เล่า แถมยังแอบค่อนขอดผมอีก

"เพชร พูดแบบนี้พ่อว่าไม่ค่อยดีเท่าไรนะ จะทะเลาะเรื่องอะไรกันมาพ่อไม่รู้หรอก แต่ช่วยออกไปเคลียร์กันก่อนดีกว่าไหม ใครต่อใครเขาจะได้ไม่ต้องมานั่งสงสัยใคร่รู้อยู่ตรงนี้ด้วย" รัฐมนตรีอิทธิพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังด้วยหูข้างไหนก็ต้องเกรงใจ แอบเห็นหลานสาวหลานชายสะดุ้งเฮือก ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ในตอนที่ถึงตรงสงสัยใคร่รู้ทั้งที่ตอนแรกละเอียงหูฟังกันนิ่งเชียว

คุณเพชรชักสีหน้าหงุดหงิดใส่ผมก่อนจะลุกเดินออกไปโดยไม่เรียกผมสักคำ และนั่นมันก็หมายความว่าผมจงได้ตามเธอไปอย่างด่วนก่อนที่จะมีใครไล่ผมอีกคน



ผมเดินช้าๆ เพื่อซึมซับภาพผู้หญิงหัวดื้อช่างคิดไปเองหนึ่งคนที่ทำยืนกอดอกคอแข็งอยู่ตรงซุ้มหลังคาร่มไม้เลื้อยนอกบ้าน อาการที่ดูได้ชัดว่ากำลัง'งอน' นั้นกลับทำให้ผมรู้สึกว่าเธอกำลังแคร์ผมอยู่จริงๆ แม้จะทำเป็นหงุดหงิดปั้นปึ่ง แต่เธอก็มายืนรอผมอยู่แท้ๆ

นานกว่านาทีที่ผมมายืนนิ่งๆ อยู่ด้านหลังคุณเพชรโดยไม่พูดอะไร ปล่อยให้เสียงหัวใจมันดังตุบๆ รอคนขี้งอนหันมาหา และมันก็ได้ผลจริงๆ เมื่อสาวเจ้าหมดความอดทนหันขวับมาถามผมทั้งที่ยังกอดอกอย่างถือดี

"ถ้ามาแล้วไม่มีอะไรจะพูดก็กลับไปจะได้ไหมคะคุณแทน วันนี้บ้านเพชรรวมญาติ ไม่สะดวกรับคนนอก"

เชื่อเถอะว่าถ้าแค่งอนจริงๆ ผมเอาอยู่ อย่างน้อยที่ทำหางเสียงประชดประชันอย่างนั้นมันก็ยังหมายความว่าผมสำคัญอยู่ดี อืม ปลื้มจัง

"ขอโทษค่ะ จะยืนยิ้มอย่างนี้เพื่ออะไรคะคุณแทน มีความสุขอะไรนักหนา หรือว่าชอบโดนต่อว่ากันคะ"

"คุณเพชร" ผมจงใจลงท้ายเสียงให้ฟังดูอ่อนหวาน แต่ดูเหมือนคนฟังจะเก็บอาการได้ดี สังเกตจากสีหน้าที่ไม่ยอมเปลี่ยนไปสักนิด

"คุณไม่อยากต้อนรับผมจริงๆ น่ะเหรอ ไม่รู้สึกดีใจสักนิดเลยเหรอที่เห็นผมมาหา" ถึงจะอยากคว้าตัวมากอดให้สะใจแค่ไหนก็ยังต้องอดเอาไว้ก่อน นอกจากเสี่ยงลูกปืนโทษฐานที่มาลวนลามลูกสาวท่านแล้วก็อาจจะพิการเพราะสายดำของเจ้าตัวอีกก็เป็นได้

"ดีใจทำไม ไม่มีเหตุผลอะไรสักนิด" เธอค้อนใส่ผมหนึ่งวงเต็มๆ แหม งอนน่ารัก

"แล้วคนที่มานั่งเฝ้าผมรอผมตื่นนั่นล่ะใครกัน คนที่เดือดร้อนจะเป็นจะตายตอนผมรถคว่ำนั่นล่ะ ไม่ใช่คุณหรือไง"

"เออใช่ เพชรเองแหล่ะ ก็แค่ไม่อยากให้น้องก้อยต้องเสียพี่ชายไปก่อนวัยอันควร สงสารน่ะ" ทำบ่ายเบี่ยงเดี๋ยวเถอะ

"อ๋อเหรอ แล้ว...คนที่ไปชกหน้าผู้ชายเพื่อปกป้องผมนั่นใครน้อ?" ผมทำท่าให้เหมือนว่าสงสัยเหลือแสน คราวนี้คุณเพชรไม่ตอบ เม้มปากนิ่ง เอาละ ข้าศึกกำลังอ่อนแรงต้องรีบรุกประชิดโดยด่วน

"แล้วใครกันน้า ที่พูดใส่หน้าคนที่ถูกชกนั่นว่า...รักผม" ขยับเข้าไปใกล้คนที่ก้มหน้าอีกนิด พร้อมทั้งพูดเสียงแผ่วอย่างนั้น เอาวะ หลอกล่อกันขนาดนี้แล้วไม่ใจอ่อนเข่าอ่อนก็ให้มันรู้ไป แต่เธอก็ยังนิ่ง

"คนนั้นใช่คุณหรือเปล่า คุณเพชรครับ" ผมพยายามรุกคืบ ก้าวเข้าไปอีกนิดจนมั่นใจว่าคนที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าต้องได้ยินเสียงหัวใจผมแน่ๆ

"ไม่รู้ เพชรไม่รู้อะไรทั้งนั้น" เมื่อคนที่หมดความอดทนอดกลั้นหาทางออกไม่ได้ก็ตอบกลับมาด้วยวาจากำปั้นทุบดิน แถมยังทำท่าจะชิ่งหนีไปอีกเสียต่างหาก แต่ใครจะปล่อยให้ทำงั้น บุกเข้าถ้ำเสือทั้งทีนี่ต้องมีเสี่ยงดวงกันหน่อย คิดได้อย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเก็บไม้เก็บมืออีกต่อไป เอื้อมไปคว้าเอาแขนนุ่มนิ่มของคุณเพชรได้ก็รีบดึงเข้ามาหาตัว

"แต่ผมรู้ ผมบอกให้ก็ได้ว่าใครบอกว่ารักผม" ทีแรกคุณเพชรขืนตัวไว้และเตรียมบิดข้อมือผมออก แต่แล้วไม่รู้ยังไงเธอก็กลับเปลี่ยนใจให้ผมดึงตัวเธอเข้ามาง่ายๆ

"ไม่ ไม่จำเป็น คนนั้นเขารู้ตัวดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาตอกย้ำหรอก" เธอนิ่งอยู่อึดใจแล้วค่อยพูดออกมาชัดเจนแต่น้ำเสียงกลับสั่นแปลกๆ

"ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาคอยย้ำว่ายัยผู้หญิงคนนั้นมันงี่เง่าขนาดไหนที่ไปรู้สึกอย่างนั้นคนที่ไม่ควรคิดอย่างที่สุด" ใจผมหายวาบเมื่อได้ยินเสียงขึ้นจมูกย้ำกลับมา

"ทำไมพูดอย่างนั้น" ถึงกับครางออกมาเมื่อรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เจ็บแปลบขึ้นมาทันทีและนึกโทษตัวเองที่ดันไปรู้สึกดีกับการที่คุณเพชรเฮิร์ทเพื่อตัวเอง ที่แท้มันเทียบกันไม่ได้เลยเมื่อมาเห็นกับตาว่าเธอต้องเสียความรู้สึกขนาดไหน ในใจมันก็เริ่มปวดหนึบๆ

"เอาเถอะค่ะคุณแทน ปล่อยเพชรเถอะ ตอนนี้คุณป้าเพชรก็มาถึงแล้ว เพชรควรจะกลับเข้าไปเสียที ออกมานานอย่างนี้ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาจะคิดอะไรกันอยู่บ้าง" เสียงสูดน้ำมูกฟืดหนึ่งตีกระทบให้ผมใจอ่อนได้ลงไปอีกโข แต่คุณเพชรก็พยายามทำเก่ง เชิดหน้าขึ้นบอกผมตามที่เห็นรถคันใหญ่ขับเข้ามาอีกคันหนึ่งเมื่อครู่

"ผมจะปล่อยคุณไปได้ยังไงถ้าไม่ทำให้คุณเข้าใจเสียก่อน ผมไม่แน่ใจว่านี่ใช่เรื่องที่คุณพยายามจะหนีผมไปหรือเปล่า แต่ก็ยังอยากจะบอก ที่คุณเพชรเข้าไปเห็นผมกับน้องฝนวันนั้นน่ะ ที่จริงแล้วน้องเขาแค่จะป้อนผลไม้แล้วผมไม่ยอมจะแย่งเอาส้อมมาเองต่างหาก ถ้าคุณคิดว่าผมกำลัง เอ่อ ทำอะไรลึกซึ้งกว่านั้นก็ขอบอกว่ามันไม่มีอะไรทั้งสิ้น แล้วน้องฝนเขาก็ไม่ได้คิดอะไรกับผมเลยด้วย"

คุณเพชรเงยหน้าขึ้นมองตาผมนิ่งเหมือนพยายามค้นหาความจริงใจ ปลายจมูกเธอเริ่มมีสีแดงระเรื่อจากความสะเทือนใจเมื่อครู่ เห็นแล้วอยากก้มลงจูบหน้าผากปลอบใจจริงๆ

"คุณพลคงสบายใจถ้ารู้เรื่องนี้" โธ่ ยังพาไปเรื่องไอ้เวรพลอีก

"ผมกับพลไม่ได้..." อีกครั้งที่อยากจะพูดออกมาตรงๆ เหลือเกินว่าผมไม่ได้เป็นเกย์ ไอ้ตี๋ตัวนั้นมันก็เป็นแค่เพื่อนผม จะไปเอามันมาทำคู่ลงได้ยังไง บอกไปก็ยังกลัวใจ แต่ไม่บอกมันก็จะลุกลามไปกันใหญ่ โอ๊ย....เอาไงดีวะ

"ผมเลิกกับพลแล้ว"

ผ่าง! อะไรจะบรรเจิดไอเดียอย่างนั้น คุณเพชรถึงกับทำตาโตอ้าปากค้างเลยเห็นไหม

"เพราะว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำให้ผมสนใจมากกว่ายืนอยู่ตรงหน้าผมแล้วนี่ไงครับ" หยอดอีกนิด บอกแล้ว ไม่สำเร็จไม่กลับบ้าน และก็จะไม่ให้เจ้าของบ้านเขาเข้าบ้านด้วย อาศัยช่วงอึ้งนี่แหล่ะค่อยๆ กุมมือทั้งสองของคนที่กำลังมึนไว้ดึงเข้ามาหาตัวช้าๆ

"คุณเพชรครับ หายโกรธผมได้รึยัง ตอนนี้ผมไม่ได้มีใคร ไม่ชอบผู้ชาย และก็ไม่ได้สนใจเพื่อนน้องสาวตัวเองด้วย นะ เลิกงอนผมนะ" อ้อนได้อีก ตอนนี้ฟ้ากำลังเปิดต้องรีบเก็บเกี่ยว ขอเวลาอีกนิดนะคุณเพชร แล้วผมจะสารภาพผิดเรื่องทั้งหมดที่หลอกคุณ ขอความมั่นใจอีกนิดนะครับ

ผู้หญิงที่วิ่งวนในใจให้ผมปวดหัวมาหลายวันกำลังใจอ่อนยวบ สีหน้าอาการที่ผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัดของเธอบอกมาอย่างนั้น หอมแก้มสักทีจะดีไหมหนอ หวังว่าคงไม่มีใครเห็นหรอกนะ มาถึงขั้นนี้แล้วจะขอชื่นใจนิดๆ หน่อยๆ ก็คงไม่เป็นอะไร เธอคงไม่ต่อยผมกลับหรอกนะ แค่กำลังคิดว่าจะโน้มลงมากดแก้มข้างไหนก็เกิดความไม่ได้จังหวะอีกแล้ว เพราะจู่ๆ คุณเพชรก็ทำหน้าสงสัยยืดตัวมองข้ามไหล่ผมไปทางหน้าบ้านให้ผมต้องมองตามอย่างขัดใจ

สิ่งที่ดึงสายตาคุณเพชรและความสนใจออกไปจากคนที่กำลังจะกำชัยชนะอย่างผมเป็นรถญี่ปุ่นกลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่ง ญาติยังมากันไม่หมดอีกเหรอไงกัน ท่านรัฐมนตรีนี่ญาติเยอะแท้

หากแต่ว่าคนที่ก้าวขาลงมาจากรถหาใช่ญาติฝ่ายใดของคุณเพชรไม่ แถมไอ้ชื่อที่หลุดออกมาจากปากสาวสวยที่หวิดจะอ่อนระทวยตรงหน้ากลับทำให้ผมตัวชา ตาร้อนขึ้นมาทันใด

"อ้ะ พี่โรม"



ศาลาแปดเหลี่ยมวันนี้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นฐานบัญชาการย่อยของหน่วยสวาทอันประกอบไปด้วยนักศึกษาตัวแสบสองคน อาจารย์ของไอ้นักศึกษาที่ว่านั่นหนึ่ง เพื่อนของผู้ก่อตั้งที่กำลังคั่วอาจารย์สาว และตัวผู้ก่อตั้งสุดหล่อที่ตอนนี้กำลังใจตกต่ำกลัวถูกคนหล่อน้อยกว่าแย่งสาวไป

"ก็บอกแล้วไม่เชื่อ เป็นไง อึ้งไปไหมล่ะ" ไอ้พลมันทำหน้าเยาะเย้ยเป็นครั้งที่สองหลังจากที่มันทำไปแล้วครั้งแรกในวันรวมญาติท่านรัฐมนตรีที่ผมยอมเสียหมาโทรเรียกมันมารับกลับบ้านเพราะมั่นใจว่านอกจากด่านญาติแล้วยังมีด่าน 'พี่ร่วมโรงเรียนเก่า' ของสาวสวยอีกคนที่ผมยังอ่านทางไม่ออก จึงไม่สามารถทำเกมต่อให้คุณเพชรมาส่งได้ เห็นตอนคุณเพชรยิ้มให้ไอ้เมืองในอิตาลีนั่นแล้วยังหงุดหงิดไม่หาย หนอยชื่อรมย์ ทำกระแดะแปลงชื่อเล่นเป็นโรม คิดว่าเท่ห์ได้อย่างหนุ่มอิตาลีหรือไงวะ ไอ้...ไอ้คนดีเอ้ย

จะว่าไปก็ไว้ใจไม่ได้ ตอนที่คุณเพชรพาคุณพี่ร่วมโรงเรียนเก่าเข้าไปไหว้ทักทายพ่อกับแม่นั่นเล่นเอาคุณนิลมึนไปเลย โธ่ คุณแม่ครับ อย่าหลงระเริงที่รูปลักษณ์กับฉากหน้า มันอาจจะไม่ใช่คนดีก็ได้นี่

"ยังไม่ถึงอึ้งเว้ย แค่ขอกลับมาตั้งหลักก่อน" ทำเบ่งกลบเกลื่อนไปแต่อันที่จริงในใจก็ยังหวั่น แต่มันก็นะ ทำไมมันต้องดูเป็นคนดีอย่างนั้นด้วยฟะ น่าอิจฉาชะมัด แค่ยืนยิ้มธรรมดาก็ดูน่าคบแล้ว ขนาดว่าผมเป็นผู้ชายด้วยกันยังคิดอย่างนั้นเลย

"แต่พี่โรมเขาก็เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับคุณแทนจริงๆ นะ รู้รึเปล่า ว่าเมื่อก่อนน่ะ เพชรเครซี่พี่โรมจะตาย" อาจารย์สุภาช่วยสำทับให้ผมรู้สึกตกต่ำทางด้านจิตใจเข้าไปอีก

"เห็นไหมไอ้แทน กะแล้วว่ามันต้องมีอะไรไม่ธรรมดา อย่างคุณสุเองก็เถอะ ทีแรกผมยังนึกว่าคุณคลั่งเขาไปอีกคน" มันทำท่างอนแก้มป่องใส่อาจารย์สาวที่หลงผิด โธ่ ไอ้บ้า จะกุ๊กกิ๊กอะไรก็ไม่รู้จักดูสถานการณ์กันมั่ง เห็นว่าไม่ต้องอดกลั้นแล้วสิใช่ไหม เลิกกับผมไปแล้วนี่

"แหม สุเปล่าสักหน่อย นั่นมันสมัยก่อนโน้น ก็คนอย่างพี่โรมนะ บ้านไหนก็อยากได้ไปเป็นเขย" คุณสุยังคุยถึงสรรพคุณคู่แข่งตัวฉกาจของผมอยู่ทำให้ผมหมั่นไส้เหลือกำลัง

"จะบ้านไหนโชคดีได้ไปเป็นเขยก็ช่างหัวมัน แต่ว่าจะต้องไม่ใช่บ้านคุณเพชร" รีบย้ำสโลแกนก่อนทุกคนจะยกยอปอปั้นตัวประกอบให้เด่นนำพระเอก

"ฟังไปฟังมาก้อยชักอยากเห็นหน้าพี่โรมของพี่เพชรแล้วสิ จะเป็นยังไงน้า" ก้อยเริ่มพูดจาไม่เข้าหูผมอีกคน

"ไม่ต้องไปให้ใครเป็นของคุณเพชรเลยนะ ถ้าจะเรียกให้ใครเป็นของคุณเพชรก็มาเรียกพี่นี่" ต้องเตือนสติน้องเสียหน่อย

"แล้วเอาไงต่อดีทีนี้ เกิดพี่โรมคนเนี้ยเขาอยากกลับมากระพือถ่านเก่าแล้วจะเอาไง" น้องฝนนั่งเท้าคางถามไม่ระบุคนตอบ และนั่นก็ทำให้หลายคนนั่งขมวดคิ้วหาวิธี

"เราก็ต้องรีบจุดไฟอันใหม่ให้ติดก่อนที่ไฟเก่ามันจะปะทุ งานนี้ก้อยสัญญาว่าจะลงแรงเต็มที่ และต้องมีทุกคนช่วยด้วย จบงานนี้ถ้าก้อยยังไม่มีพี่สะใภ้ก็มาด่าก้อยได้เลย"

เชื่อผมเถอะว่าที่น้องผมออกปากมาอย่างนั้นมันก็เพราะว่าเธออยากทำดีไถ่โทษ โทษที่ทำคุณเพชรงอนเกือบไม่หวนคืน จะเล่นอะไรไม่รู้จักมาปรึกษากันก่อน โดนหลอกกันจนหัวจะหงอกอยู่แล้ว ไหนจะเพิ่งยอมมาเฉลยว่าอันที่จริงรู้มานานแล้วว่าคุณเพชรก็ใจตรงกับผม แต่กลับรวมหัวกับคุณสุหลอกซ้อนแผนไปอีกชั้นเพราะอยากแกล้งเอามัน ไม่ได้เคยสำนึกกันเลยว่าที่ผ่านมาสร้างความเดือดร้อนให้ผมขนาดไหน ตบะจะแตกตายไปก็ตั้งหลายที ถ้าเกิดใครอยากเจอเรื่องเร้าใจในชีวิตอย่างนี้ให้มาติดต่อน้องผมได้

"แล้วจะจุดไฟกันยังไงดีล่ะ?" เพื่อนผมทำหน้าที่ได้ดีมาก นอกจากไม่คิดแล้วยังถามคนอื่นอีก

"อืม สร้างบรรยากาศ เราต้องสร้างบรรยากาศรอบข้างให้เป็นใจกับการพิชิตใจสาวให้อยู่หมัด อาศัยธรรมชาติช่วย" น้องสาวผมอีกตามเคย ไอ้เรื่องคิดการณ์ใหญ่น่ะถนัดนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคิดการณ์ให้ลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่

"เราต้องหอบหิ้วกันไปที่ไหนสักที่ เอ ที่ไหนดีหว่า" ท่าทางน้องผมจะคิดหนัก เดาว่าคงกำลังคิดหาสถานที่ที่ตัวเองอยากไปเป็นที่สุด

"ทะเลไง ฝั่งอันดามันน่าจะดี หาดทรายขาว สาวนุ่งบิกินี่ โอ๊ะ!" เสียงตีแขนคนพูดดังเพียะจากฝ่ามือคุณสุที่นั่งอยู่ข้างไอ้ตัวพูด

"อ๊ะ เข้าท่า งั้นตกลงตามนี้ ทริปนี้มีชื่อว่า เที่ยวทะเลใต้หรรษาพาพี่แทนไปพิชิตใจสาว" สาธุ ชื่อยาวเหลือเกินน้อง

"แล้วจะไปชวนคุณเพชรกันยังไง คุณสุจัดหน่อยได้ไหม" พลหันไปถามอาจารย์ที่นั่งเอียงคอคิดสถานการณ์อยู่

"อืม เอาอย่างนี้ เนื่องในโอกาสคุณแทนฟาดเคราะห์รอดตายได้อย่างไม่น่าเชื่อ จัดเที่ยวรับขวัญเป็นไง พอใช้ได้ไหม" วันนี้อาจารย์สุภาไอเดียดีแฮะ

"ตามนั้น เอ้า เพื่อเพื่อนแทน" แล้วพลก็ลุกขึ้นยื่นมือขวาออกมาคว่ำกลางอากาศตรงกลางโต๊ะ

"เพื่อเพื่อนเพชร" คุณสุรับมุกรับมุกเอามือไปวางสำทับอีกคน

"เพื่อเพื่อนก้อยและพี่ชาย" น้องฝนเอาด้วย

"เพื่ออิสระของก้อย..." อะ ว่าไงนะ "เอ้ย ไม่ใช่ พูดผิด เอาใหม่ เพื่อพี่สะใภ้แสนสวย" ก้อยลุกขึ้นสมทบ เหลือแต่ผมนั่งมองมือประสานนั่นอย่างอึ้งๆ

"พี่แทน พูดอะไรหน่อย รู้จักไหมประสานมือสามัคคีอ่ะ" ก้อยหันมาว่าผมอีกแล้ว

เฮ้อ เอาก็เอา

"เพื่อหัวใจและรักที่สมหวัง"

วงแตกทันทีครับ เสียงแหวะดังมาทันที ทำไมเล่าก็คนเขามีความรัก ขอหวานเลี่ยนเอียนหูมั่งไม่ได้หรือไง

"ทุกคนต้องเอาใจช่วยพี่แทนและให้ความร่วมมือกันเต็มที่นะคะ คราวนี้ก้อยสังหรณ์ว่ามันจะเป็นโอกาสสุดท้ายของพี่แทนแล้ว จะรอดหรือจะตาย ไม่มีใครจะช่วยได้นะพี่แทน"

คำพูดของก้อยเล่นเอาผมขนลุกเกรียว หวังว่าสึนามิมันคงไม่ซัดเข้าฝั่งอันดามันซ้ำอีกครั้งนะทีนี้


********************************************************

จบตอนที่ 17 ค่ะ

คราวก่อนต้องขอบคุณคนอ่านทุกคนมากๆ นะคะ

คุณboyblackcat - ขอบคุณที่มาอ่านค่ะ


คุณ2 in 1 - ใกล้แล้วจริงๆ ด้วยแหละ แต่ไม่บอกว่าแตกแล้วจะเป็นไง หุ หุ

คุณredclick - ดีค่า...

คุณdena - เอ ชักคิดถึงสามีลูกชุบด้วยคนแระ

คุณบู้บี้ - ง้า...อย่ามาแย่งพี่โรมของเค้าไปน้า แง่ม แง่ม

คุณชญาลี - อ้าว มาป่วนกันนี่

คุณriver - โอ้ ยินดีที่มาอ่านค่ะ คนเขียนก็บ้า สร้างตัวละครใหม่อยู่นั่นน่ะ

แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้า บุญรักษานะคะ



Create Date : 23 สิงหาคม 2551
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2552 2:28:15 น. 3 comments
Counter : 277 Pageviews.

 
พี่โรมออกมานี้ดเดียวเองนะคะคอนนี้ (ลืมไป พี่โรมไม่ใช่พระเอกนี่นา)


โดย: บู้บี้ IP: 123.220.32.178 วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:12:22:49 น.  

 
ชอบคุณโรมจ้า ฮ่า ๆ


โดย: redclick วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:12:53:26 น.  

 
...พี่โรมจะมีด้านมืดไหมเนี่ย??

แหะๆ


โดย: RuNz วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:19:02:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BestChild
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ไม่ใช่คนเลว แต่ไม่ใช่คนดี
ไม่ใช่คนมีน้ำใจ แต่ไม่ได้เห็นแก่ตัว
ไม่ใช่คนใจร้าย แต่ไม่ใช่ผู้หญิงใจดี
ไม่ได้ต่อต้านใคร แต่ไม่ใช่คนยอมคน
รับรู้ในตัวตน และไม่สนใครจะว่าอย่างไร
รู้จักให้อภัย แต่ไม่ใช่ไม่รู้จักแค้น
เป็นผู้หญิงแท้ที่ชอบโชว์แมน แต่ความจริงแสนจะอ่อนโยน O_o!!!


~ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ~


"...มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่เรียนรู้จากความผิดพลาด ไม่มีใครเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกต้องเสมอไปในโลกใบนี้ หากจะมีก็ให้ไอ้คนนั้นมันไปเป็นเทวดาเสีย อย่ามาเป็นคนให้เสียชาติเกิดกันเลย"

โรม / เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ







"คนที่บอกว่าคุณไม่สวยคือคนที่ไม่ได้มองคุณรู้ไหม ถ้าหากเพียงมองคุณดีๆ รู้จักมองให้ถึงความเป็นตัวคุณแล้วก็จะรู้ว่าคุณน่ะสวย..."

ยอด / ผมก็เป็นพระเอกคนหนึ่ง







จิ๊กซอว์ที่ต่อกันได้พอดีทั้งสองฝ่ายมันไม่ใช่สิ่งที่จะซื้อหาง่ายๆ เมื่อได้มันมาแล้วต้องรักษามันไว้ให้ดี อย่าทิ้งขว้างเหมือนเป็นสิ่งที่หมดค่า เพราะรู้ไหม ว่าหากแกปล่อยมันหลุดมือไปแล้วความสูญเสียจะเทียบไม่ได้กับอะไรทั้งนั้น"

อวิกา / เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ






"...ไอ้ผู้ชายมาดแต๋วที่พี่ก่นด่านักหนาตรงหน้านี่นะ...เท่าที่รู้จักมา บอกได้คำเดียว...โคตรแมนเลยเว้ยค่ะ"

นงนุช / แมน







คุณค่าที่ว่า ความรู้สึกในทุกๆ ใบหน้าของคนในรูปคือ 'ความสุข' ไม่เห็นจะต้องมีองค์ประกอบเป็นฉากสวยงาม

ลูกชุบ / สาวติสท์แตกกับหนุ่มไฮเปอร์







"...คุณกับผมอาจดูต่างกัน คุณเชื่องช้า ผมว่องไว คุณใจเย็น ผมใจร้อน คุณชอบจดจ้องและลากเส้น แต่ผมชอบมองผ่านเลนส์และกดชัตเตอร์ แต่รู้มั๊ยในจุดประสงค์ของทั้งหมดมันคือสิ่งเดียวกัน..."

นที / สาวติสท์แตกกับหนุ่มไฮเปอร์







"มันเป็นแค่ความทรงจำ จะดีหรือร้าย เราไม่สามารถลบมันออกไปได้ เก็บมันไว้ในอดีตและเดินต่อไปยังอนาคตข้างหน้า ปล่อยให้ความทรงจำเป็นเพียงแค่ความทรงจำ"

Matsumura Ryo / Hiroshima eki สถานีแห่งความทรงจำ








"...บางทีสิ่งที่แกเห็นมันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ เหรียญยังมีสองด้านได้เลยแก ประสาอะไรกับใจมนุษย์เล่า มันขึ้นอยู่กับว่าแกเลือกที่จะรับมันทุกด้านหรือเปล่า หากแกเลือกที่จะรับไว้เพียงด้านเดียวแล้วทุกข์ไปตลอดชีวิตน่ะมันคุ้มกันไหม..."

ลูกชุบ / เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ









เฮ้อ... ผู้ชาย ไม่มีไม่ตาย แต่อยากได้สักคนแฮะ

"ฉัน"/ ท้องฟ้า หาดทราย สายลม ผมกระเจิง




ฝากคำทักทายไว้ด้วยจิ...รักตายเลย




ShoutMix chat widget




BestChild ในคอลัมน์นักเขียนรับเชิญ ลายปากกา 2009

BestChild ในคอลัมน์ "ลายรัก" ลายปากกา 2010




Friends' blogs
[Add BestChild's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.