พาแม่เที่ยวเมืองใต้ 9-11 ตุลาคม 2552 (ตอนสอง) ความเดิมต่อจากตอนที่แล้ว วันเสาร์ 10 ตุลาคม 2552 อรุณสวัสดิ์ศรีสุราษฎร์ “เมืองคนดี” ของฉัน เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เรียกให้เรารีบจัดการอาบน้ำแต่งตัว 7 โมงเข็นกระเป๋า ลงไปรับประทานอาหารเช้าให้ห้องอาหารของทางโรงแรม เพิ่งสังเกตว่าโรงแรมนี้มีสระว่ายน้ำและห้องฟิตเนสเล็กๆ ให้บริการด้วย ล้อหมุน 8 โมงเช้า โปรแกรมแรกคือไหว้ศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานีสร้างขึ้น เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชสักการะและเฉลิมพระเกียรติเนื่องในมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ตัวเสาหลักเมืองมีลักษณะเป็นเสากลมโตสูง 108 นิ้ว แกะสลักจากไม้ราชพฤกษ์ มีอายุประมาณ 130 ปี ได้มีการทำพิธีบวงสรวง และตัดโค่นต้นไม้ในวันที่ 30 มกราคม 2539 ยอดเสาหลักเมืองแกะสลักเป็นพระพักตร์ของพระพธิสัตว์อวโลกิเตศวรสี่หน้า หันพระพักตร์ไปทางทิศทั้งสี่ เหมือนสลักพระพรหมสี่หน้า เดินมาขึ้นรถ และถ่ายภาพคู่กับแม่น้ำตาปีเป็นที่ระลึก (ดูรู้ไหมคะว่านั่นคือแม่น้ำตาปี) 10 โมงเช้า พวกเราเดินทางมาถึง “สวนโมกขพลาราม” (สวนโมกข์) หรือ “วัดธารน้ำไหล” ซึ่งแปลกจากวัดอื่นโดยมาก กล่าวคือ เราไม่เห็นตัวพระอุโบสถ ใบเสมาวัด พระวิหาร พระเจดีย์ ที่นี่เหมือนสถานที่ปฎิบัติธรรมมากกว่า แต่นั่นอาจสะท้อนให้เราเห็นว่า ตัวเราเองยึดติดกับความหมายของคำว่า “วัด” กับ “สิ่งก่อสร้าง” “ปูชนียสถาน” มากเกินไปก็ได้ ตอนที่พวกเราไปถึงนั้น กำลังมีพิธีการบรรพชาสามเณรหมู่ภาคฤดูร้อน ผู้ปกครองของเด็กที่เข้าร่วมพิธีบรรพชาครั้งนี้ได้ฟังคำเทศนาถึงอานิสงส์ของการบวชครั้งนี้จากพระพี่เลี้ยง พระผู้ใหญ่ ต่างล้วนปิติและย่อมภาคภูมิใจในตัวบุตรหลานที่เลือกดำเนินชีวิตปฏิบัติชอบในช่วงปิดเทอมนี้ พาคุณแม่เดินไปกราบไหว้รูปหล่อจำลองท่านพุทธทาสก่อนจะเดินกลับเข้ารถ ชอบภาพเขียนรูปนี้ ตั้งอยู่ใกล้กับรูปเคารพท่านพุทธทาส ไม่ทราบนามผู้วาด จึงอยากขออนุญาตนำภาพมาประกอบการเขียนเล่าเรื่อง มา ณ.ที่นี้ มื้อเที่ยง แวะทานอาหารที่ “ครัวสวนนายดำ” ผู้ใหญ่เริ่มหิวกันแล้ว อาหารทุกจานถูกปากผู้ใหญ่มาก เสียดายที่ถ่ายภาพเก็บอาหารบางอย่างไม่ทัน ที่ ‘ได้ใจ’ มากที่สุดคือ “น้ำพริก” กินคู่กับผัก อร่อยมากกกกกก น้ำพริกหมดแล้ว ขอเพิ่ม เดินเล่นย่อยอาหาร ครัวสวนนายดำมีพื้นที่ให้เดินเล่นถ่ายรูป ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ และจุดเด่นของร้านนี้คือ “ส้วม” ก่อนขึ้นรถ เราเห็นมัคคุเทศก์กำลังถ่ายภาพหมู่คณะผู้เดินทางทริปนี้ (ส่วนใหญ่จะเป็นผู้เดินทางกับรถบัส 2 คันแรก บางท่านเดินขึ้นไปรอบนก่อนแล้ว เพราะไม่รู้) ข้อความบนแผ่นผ้าพับที่ทางหน่วยงานได้จัดเตรียมว่า จึงได้รู้สึกว่า “อ้าว .... เมื่อจะจัดให้พักที่โรงแรมวังใต้แต่แรกแล้ว ทำไมไม่ระบุตามจริงไปเลยล่ะ” นี่คือสิ่งที่ทำให้เราตะขิดตะขวงใจมาก เพราะไม่รู้ว่าผู้จัดฯ เริ่มให้เปลี่ยนแปลงที่พักกันนานแล้วแค่ไหน หรือตั้งใจไว้แต่แรก???? เอาน่ะ มาเที่ยวพักผ่อนซะที ควรทำใจให้สบาย อย่าคิดมากคิดน้อย พี่สาวมักพูดเสมอว่าเราเองชอบกดดันทำตัวเองให้เครียด มุ่งหน้าเข้าสู่ “เมืองท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ” จังหวัดระนอง 15.15 น. แวะพักกันที่บ่อน้ำร้อน ภายในสวนสาธารณะรักษะวาริน มี 3 บ่อคือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูกสาว บ่อพ่อ เป็นบ่อขนาดใหญ่ที่สุด น้ำในบ่อมีอุณหภูมิสูงถึง 65 องศา สังเกตได้จากควันที่ลอยขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศให้ความสนใจเดินทางมาพักที่จังหวัดระนองเพื่ออาบน้ำแร่ หากใครสนใจแช่เท้าก็สามารถนั่งลองเอาเท้าสัมผัสบ่อบำบัด เป็นบ่อน้ำพุร้อนอยู่ใกล้บ่อพ่อ กลับขึ้นรถ รีบเช็คอินเข้าที่พัก “โรงแรมทินิดี” เปลี่ยนจาก “โรงแรมจันทร์สม” ตามที่ระบุไว้ในรายการแต่แรก (อีกแระ) ก็ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลประการใดอีก? เห็นแผ่นผ้าต้อนรับคณะเดินทางทริปนี้ติดอยู่หน้าโรงแรม ยังดีที่โรงแรมแห่งนี้มีอ่างแช่น้ำแร่ที่ไหลมาจากน้ำพุร้อนให้บริการแก่ผู้เข้าพักด้วย (เขาบอกว่าต่อท่อมาจากน้ำพุร้อน) โรงแรมแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเข้าพักอยู่มากพอสมควร สังเกตได้จากอ่างแช่น้ำแร่และสระว่ายน้ำที่มีชาวต่างชาติใช้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก เรานำชุดว่ายน้ำมาด้วย รีบเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวลงมาแช่น้ำร้อน สลับกับว่ายน้ำในสระ ประมาณ 30-45 นาที ปริมาณแขกผู้ใช้บริการแช่น้ำในอ่างน้ำร้อนมีจำนวนมาก รู้สึกในน้ำเริ่มมีคราบสกปรก แต่พนักงานก็ทำความสะอาดเปลี่ยนน้ำทุกวันนี่นะ 17.45 น. เดินกลับขึ้นห้องพักเพื่ออาบน้ำสระผม 18.30 น. ขึ้นรถเพื่อออกไปรับประทานอาหารมื้อเย็นที่ “ร้านอาหารสมบูรณ์โภชนา” อาหารเต็มโต๊ะ มื้อนี้มีปูนิ่มทอดกระเทียมด้วย แต่พอลงเสริฟแตะถึงโต๊ะ ก็หมดสภาพพอที่จะถ่ายภาพเก็บไว้ได้เสียแล้ว ได้ยินผู้ใหญ่ที่นั่งด้วยกันบอกว่าปูนิ่มทำมาอร่อย แต่สงสัยเราคงกินถูกเนื้อกระเทียมแทนเนื้อปูนิ่มกระมังหว่า ถึงรู้สึกว่าทอดมาขมจังเลย ดีนะคะที่ได้ยินเสียงชมปูนิ่มจานนั้นมาจากคนที่อยู่ในเหตุการณ์ท่านอื่นๆ ด้วย ราวทุ่มครึ่งกลับถึงโรงแรม นั่งเล่นในห้องพัก เนื่องจากแม่ไม่มีชุดว่ายน้ำ จึงต้องรอเวลา 3 ทุ่ม ทางโรงแรมจึงยอมอนุญาตให้แขกสามารถสวมกางเกงขาสั้นใส่ลงแช่ในอ่างน้ำร้อนจากุชชี่ ของทางโรงแรมได้ มาถึงจังหวัดระนอง เมืองสุขภาพแล้วทั้งนี้ ก็ต้องพาแม่มาแช่น้ำแร่ให้สมกับที่ดั้งด้นเดินทางมาถึงที่นี่ แช่น้ำร้อน ผ่อนคลายเส้นสาย ราตรีนี้จะได้นอนหลับเต็มอิ่มอีกสักคืน เห็นมีโปรแกรมเที่ยวพักผ่อนเจาะเฉพาะจังหวัดระนองอยู่เหมือนกัน ไว้จะนำมาพิจารณา .... โปรดติดตามตอนจบได้ในบล็อกหน้าค่ะ   Create Date : 26 ตุลาคม 2552 3 comments Last Update : 26 ตุลาคม 2552 0:29:20 น. Counter : 1914 Pageviews. Share Tweet

ใช่   โดย: วันเสาร์ IP: 222.221.186.63 26 ตุลาคม 2552 10:43:25 น.

ภาพเยอะมาก มิน่าทิ้งช่วงให้ up ซะนานเลย   โดย: นัทธ์ 26 ตุลาคม 2552 19:06:01 น.

อยากพาแม่ไปบ้าง แต่ไม่รู้ว่าแม่จะนั่งรถนานๆไหวมั้ย แล้วทริปดีๆ อย่างนี้เขาจาจัดอีกเมื่อไหน ถ้าเราจะสมัครร่วมไปด้วยได้ป่าว acecontemporary@hotmail.com   โดย: dara IP: 60.241.215.227 29 ตุลาคม 2552 12:13:14 น.