<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
20 ตุลาคม 2552
 
 

พาแม่เที่ยวเมืองใต้ 9-11 ตุลาคม 2552 (ตอนแรก)

อารัมภบท


ทำงานออกจากบ้านแต่เช้ากลับค่ำแทบทุกวัน ซ้ำวันเสาร์-อาทิตย์แทนที่จะอยู่ติดบ้าน เราก็มักหากิจกรรมออกนอกบ้านเสียบ่อยครั้ง สบโอกาสในงานส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย มองหาโปรแกรมเที่ยวที่น่าจะพาแม่เที่ยวได้ ราคาสบายกระเป๋า และการเดินทางไม่ลำบากเกินไปสำหรับผู้สูงวัย

เลือกโปรแกรมนี้ “พาแม่เที่ยวเมืองใต้” กับทางบริษัทเพื่อนธรรมชาติ เพราะเห็นว่าเป็นทริปที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้การสนับสนุน เหมือนรับประกันไปในตัว ฉะนั้นเรื่องอาหาร ที่พัก รถและรายการนำเที่ยวน่าจะเชื่อถือได้ (ความหมายของเราคือ ไม่ได้หวังว่าจะดีเลิศ แต่ต้องไม่ถึงกับแย่)

รู้จากบริษัทเพื่อนธรรมชาติว่ามีผู้สนใจทริปนี้ไม่มากนัก มีเพียง 1 คันเท่านั้น มีผู้ร่วมเดินทางในรถคันเดียวกันนี้ทั้งหมดเพียง 22 คน


ศุกร์ 9 ตุลาคม 2552



จัดเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า


คืนวันพฤหัสฯ ก่อนวันเดินทางแทบไม่ได้นอน กลับมาดึก และต้องจัดกระเป๋า

อาบน้ำสระผมตอนตี 3 แล้วก็ดันเผลองีบหลับไป สะดุ้งตื่นตอนตี 4 ครึ่ง โอย.... สติแตก



โชคดีที่พี่สาวขับรถไปส่ง ต้องพลอยตื่นแต่เช้ามืดไปด้วย พาพวกเราไปส่งที่จุดนัดพบตรงซอยรางน้ำ ใกล้กับ King Power

ล้อหมุนตอน 6.00 โมงตรง

รถคันของเราวิ่งไปสมทบกับรถบัสอีก 2 คัน กลายเป็นว่าทริปนี้มี 3 คัน (ทำไมเป็นอย่างนั้น?) หรือทริปนี้นอกจาก ททท. แล้ว อีก 2 คันได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐอื่น?

รถจอดให้ทานอาหารเช้า (อาหารกล่อง) บนรถสัก 20 นาที จากนั้นก็วิ่งยิงยาวลงใต้ มีพักหยุดตามปั้มน้ำมันให้เข้าห้องน้ำกันบ้าง



กลายเป็นว่ารถบัสของรถเป็นคันที่ 3 วิ่งต่อท้ายขบวนสุด (เป็นงั้นไป)





วิ่งผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (เพิ่งไปกับทริปถ่ายรูปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเอง)

เข้าสู่จังหวัดชุมพรประมาณเที่ยงเศษ



รับประทานอาหารกลางวันที่ "ห้องอาหารคุณสาหร่าย" จังหวัดชุมพร



อาจเป็นเพราะพวกเราเดินทางไปถึงห้องอาหารฯ ก็เกือบบ่ายแล้วกระมัง จึงไม่ต้องรอเสริฟ อาหารจัดเตรียมให้นักท่องเที่ยวไว้เรียบร้อยแล้ว

ต้องยอมรับเลยว่าทางผู้จัดโปรแกรมทริปนี้ฯ “ได้ใจ” ของผู้ร่วมเดินทางอย่างมากเกี่ยวกับด้านบริการอาหาร



อาหารอร่อยๆ มากมาย แต่น่าเสียดายที่ทานกันไม่หมด เฉลี่ยแต่ละโต๊ะทานกัน 8 คน โดยมากก็เป็นผู้ใหญ่เฉลี่ยอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป (แต่อายุผู้เขียนยังห่างไกลหลักสี่อยู่อีกนาน)

เห็นแม่นั่งทานข้าวและอาหารอื่นได้ ไม่นั่งแช่อยู่แต่หน้าโทรทัศน์ ทำให้อยากพาแม่ออกมาเที่ยวข้างนอกอย่างนี้อีกเมื่อมีโอกาส


สุราษฎร์ธานี เมืองคนดี


บ่าย 2 โมงเดินทางกันต่อ มุ่งสู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ราว 15.30 น. โปรแกรมเที่ยวแห่งแรกคือ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร
ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานปูชนียสถานทางพุทธศาสนาที่สำคัญคือ “พระบรมธาตุไชยา” สูง 24 เมตร มีอายุเก่าแก่ประมาณ 1,200 ปีมาแล้ว องค์พระบรมธาตุเจดีย์สร้างขึ้นตามแบบลัทธิมหายานเมื่อครั้งอาณาจักรศรีวิชัยเจริญรุ่งเรือง



ไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลกันแล้ว ก็แวะชอปปิ้งผ้าทอที่หมู่บ้านพุมเรียง ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากพระบรมธาตุไชยาฯ เท่าไหร่นัก

“บ้านพุมเรียง” เดิมมีชื่อเรียกว่า “โพธิ์เรียง” สาเหตุที่รบชนะพม่าได้จึงปลูกต้นโพธิ์เรียงรายขึ้นไปจนถึงแหลมโพธิ์ ในสมัยโบราณพุมเรียงเคยเป็นเมืองท่า เคยเจริญรุ่งเรือง ตั้งอยู่ติดกับทะเล มีการติดต่อค้าขายกับจีนในสมัยราชวงศ์ถังและซ่ง



ปัจจุบันพุมเรียงมีชื่อเสียงด้านการผลิตผ้าไหม “ผ้าไหมพุมเรียง” เป็นผ้าไหมที่ทอด้วยมือยกดิ้นเงินดิ้นทองโดยชาวไทยมุสลิมที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านพุมเรียงแห่งนี้

ได้เวลาขึ้นรถ โปรแกรมท่องเที่ยวสำหรับวันนี้จบอยู่เพียงเท่านี้ (ใช้เวลากับการเดินทางเสียมาก)

ตามโปรแกรมที่ได้รับที่พักคือ “โรงแรมไดมอนด์หรือเทียบเท่า” เราไม่ชอบคำว่า “...หรือเทียบเท่า” เลย เพราะทำให้เรารู้สึกว่าแม้ทางผู้จัดฯ จะคำนึงถึงความเปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอนของเหตุการณ์ใดที่อาจเกิดขึ้นก็ตาม แต่พอมีการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้น ทางผู้จัดฯ มักจะให้สิ่งที่ “ด้อยกว่า” เกือบทุกครั้ง จะหาที่ “เทียบเท่าจริงๆ” หรือให้ “สิ่งที่ดีกว่า” นั้นน้อยครั้งมาก

ฟังดูแล้วเหมือนเราเป็น “คนช่างเรียกร้อง” หรือ “คิดในแง่ลบ” เกินไปรึเปล่านะ

จากหมู่บ้านพุมเรียง เข้าสู่ที่พัก “โรงแรมวังใต้” ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง มัคคุเทศก์บอกว่าโรงแรมนี้แม้จะไม่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง แต่ก็ติดกับแม่น้ำตาปี และช่วงนี้กำลังมีการจัดงานประเพณีชักพระ ทอดผ้าป่า แข่งเรือยาวประจำปีที่แม่น้ำตาปี มีการจัดงานวัดอยู่ข้างๆ โรงแรม



1 ทุ่มลงมารับประทานอาหารในห้องอาหาร “ท่าเพชร” ของทางโรงแรม



ในห้องอาหารจัดคอมพิวเตอร์คาราโอเกะให้แขกผู้สนใจทุกท่านสลับขึ้นไปร่วมสนุกร้องเพลงขับกล่อมขณะที่แขกคนอื่นๆ รับประทานอาหารค่ำกัน

อิ่มหมีพีมันดีแล้ว เรากับแม่ก็ขอตัวออกไปเดินย่อยอาหารกันข้างนอก อยากไปดูบรรยากาศงานวัดซักหน่อย แต่เดินไปแค่ชักพักก็ถอยกลับแล้ว เพราะว่าเห็นแต่แผงขายของ ขายสินค้าราคาถูกจากทางโรงงาน รถเข็นหรือแผงอาหารทั่วไป ซึ่งคล้ายกับทางกรุงเทพฯ

อีกอย่างเรากับแม่ก็ไม่อยากเดินกันต่อแล้ว ช่วงนี้เราพักผ่อนน้อยมาก แต่จะเอาอย่างไงดีล่ะ เพิ่งจะ 1 ทุ่ม 40 เอง ยังหัววันอยู่เลย

ภายในโรงแรมวังใต้มีบริการนวดแผนไทยด้วย นวดแก้เมื่อยกันคนละประมาณ 2 ชั่วโมง คืนนี้จะได้หลับสบาย ... ราตรีสวัสดิ์จ๊ะ



โปรดติดตามเรื่องราวในบล๊อกหน้าค่ะ




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2552
3 comments
Last Update : 20 ตุลาคม 2552 23:01:09 น.
Counter : 3312 Pageviews.

 

วู๊ววว ไปมาหลายที่เลย จะรอชมแล๊อกหน้าอีกนะครับ

 

โดย: นายหัว (nindhua ) 21 ตุลาคม 2552 9:48:17 น.  

 

เที่ยวด้วยคน ...อิ่มด้วยคน


อาหารเพียบเลยอ่ะ ...

 

โดย: นัทธ์ 21 ตุลาคม 2552 21:45:37 น.  

 

เคยไปพักมาแล้วเหมือนกัน ที่โรงแรมวังใต้ สุราษฏร์ธานี อาหารอร่อยมาก เช่น ยำหมูกรอบ ผัดสตอกุ้งกะปิ แก้งส้มปูนิ่ม+หมูคั่วเกลือ (ต้องกินคู่กันอร่อยมาก ๆ ขอบอก) อาหารเช้ามีหลายสิบอย่าง / ยิ่งตอนนี้ ห้องพักปรับปรุงใหม่แล้ว สบายกว่าเดิืม
ไปมาช่วงสงกรานต์ อาหารใต้ ที่โรงแรมอร่อย มาก ๆ ๆ ๆ

 

โดย: คน ตจว. IP: 110.77.154.174 15 พฤษภาคม 2555 20:01:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

มามะ.. เมี่ยงเองค่ะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




[Add มามะ.. เมี่ยงเองค่ะ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com