จากวันนั้นถึงวันนี้ หลักสูตรครูสมาธิรุ่น 29 สาขา ม.เอเชียอาคเนย์ (part 6) เปิดรับนักศึกษาใหม่ รุ่น 30 กลางเดือนมกราคม 2555 สาขาอื่นเขาเรียนกันจวบจะจบเล่ม 3 กันอยู่แล้ว ไอ้พวกเราก็เพิ่งเริ่มต้นเข้าเล่ม 3 เรียนอัดจนหัวน่วมกลับบ้านแบบงงๆ ว่าเรียนอะไรไปมั่งหว่า ประเดี๋ยวสิ้นเดือนนี้ก็จะปิดคอร์ส จะปัจฉิมนิเทศกันแล้ว ตอนนี้เริ่มประกาศเปิดรับนักศึกษารุ่นใหม่ พวกเราก็กำลังจะตกรุ่น กลายเป็นรุ่นพี่ (แบบมึนๆ) แทบตั้งตัวไม่ติด แต่ตอนนี้นอกจากเรียนแล้ว ยังต้องเร่งประชาสัมพันธ์ช่วยประกาศรับสมัครนักศึกษาใหม่อีก แล้วก็ยังต้องเตรียมอ่านหนังสือสอบอีกหล่ะ จ๊ากกก วันสุดท้ายของการเรียน เสาร์ 28 มกราคม 2555 ในขณะที่สาขาอื่น 2-3 สัปดาห์ของเดือนมกราคมก่อนงานปัจฉิมนิเทศจะมีช่วงของการกล่าวเปิดใจ แสดงความรู้สึก แต่นักศึกษาสาขา ม.เอเชียยังคงต้องปล้ำเรียนเอาจนวันสุดท้ายของเช้าวันนี้ แล้วค่อยสรุปกันต่อเล็กน้อยเป็นการจบเนื้อหาหลักสูตรทั้งหมด พักกลางวันสำหรับวันนี้เป็นมื้อพิเศษ รุ่นพี่จัดบุฟเฟ่เป็นการเลี้ยงส่งและฉลองให้กับพวกเรา (ที่อุตส่าห์ฝ่าฟันเรียนจนจบ) - อาหารเต็มโต๊ะ - - ตักได้ไม่จำกัด - - แม่ครัวหัวป่าก์ - - อ้ำๆ อร่อย - - ไอศกรีมกะทิ สักลูกไหมคะ - ก่อนกลับขึ้นชั้นเรียน ก็ไปรวมตัวกันที่ด้านหน้ามหาวิทยาลัย ถ่ายรูปหมู่ที่ระลึกด้วยกันซักหน่อย ช่วงบ่ายสำหรับวันนี้ก็มีตัวแทน(อาสา) ออกไปกล่าวหน้าชั้นเรียน แสดงความรู้สึกที่ได้มาเรียนครูสมาธิที่นี่ และมีการโอนตำแหน่งพี่เลี้ยงให้พวกเราช่วยดูแลนักศึกษารุ่นใหม่ที่กำลังเข้ามาเรียนที่สาขาแห่งนี้ พวกเราจะกลายเป็นพี่เลี้ยงแล้ว (นู๋เมี่ยงไม่อยากเป็นน่ะ ชอบสถานะการเป็นน้องเลี้ยงมากกว่านะ) ปัจฉิมนิเทศครูสมาธิรุ่น 29 อาทิตย์ 29 มกราคม 2555 จุดนัดพบที่ปั้มน้ำมันข้างม.เอเชียเหมือนเช่นเคย 9 โมงเช้าล้อหมุน อยู่บนรถก็สวดมนต์ แล้วก็พูดคุยกัน หรือไม่ก็... กินข้าวกล่องที่แจกกันบนรถ ชั่วโมงเดียวก็เดินทางมาถึงวัดธรรมมงคล พิธีจะเริ่มตอนหลังฉันเพล ฉะนั้นจึงต้องหาพื้นที่นั่งรอเวลา แล้วก็จัดแจงเปิดกล่องข้าว กินมื้อกลางวัน (หรือมื้อเช้า)กันซะตอนสายนี่เลย (อ้าว แล้วไม่บอกว่านี่คืออาหารกลางวัน นู๋เมี่ยงเปิดโซ้ยไปตั้งแต่นั่งอยู่บนรถแล้วอ่ะ) 11 โมงครึ่ง พวกเราก็เริ่มจัดแถว เตรียมพร้อมเข้าห้องประชุม จนได้เวลาประมาณเที่ยงครึ่งพิธีกรก็เริ่มดำเนินการ พวกเราได้ชมภาพถ่ายทอดการแสดงสัมโมทนียกถาของหลวงพ่อส่งถึงพวกเราจาก วัดราชธรรมวิริยาราม 3 เมืองแอตแมนตัน แคนาดา **สัมโมทนียกถา (มาจาก สมฺโมทนีย = การบันเทิง, การชื่นชอบ + กถา = คำพูด) หมายถึง "ถ้อยคําที่แสดงความชื่นชมยินดี เป็นที่ชุ่มชื่นใจแก่ผู้ฟังหรือผู้อ่าน" พอจะสรุปได้ดังนี้: "ปัจฉิม" แปลว่า สุดท้าย วันนี้เป็นวันปัจฉิมนิเทศ นั่นหมายถึงเราได้กำชัยชนะแล้ว เราจึงเรียนจบได้ พวกเราได้เรียนมาแล้วทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติ เมื่อเรียนแล้วก็ทำ ผลออกมาก็คือก่อให้เกิดความประทับใจ รับรสอมตะธรรม (ธรรมที่ไม่ตาย)อันจะเป็นปัจจัยหรือทุนให้บังเกิดขึ้น จะฝังสนิทที่ใจตลอดไป ทั้งชาตินี้ชาติหน้า และทุนนี้เองจะพัฒนาจิตใจเราให้เจริญงอกงาม แต่ถ้าไม่มีทุนเลยก็เท่ากับเลข 0 (ศูนย์) เมื่อไม่มีก็จำเป็นต้องขอ และรู้สึกวุ่นวาย แต่ถ้าหากมีทุนสักล้าน ก็จะรู้สึกสบายใจแล้ว การปฏิบัติ 100 ชั่วโมง (ตามหลักสูตรครูสมาธิ) เหมือนประมาณว่าเราได้มากกว่า 10 ล้านขึ้นไปที่ฝังสนิทติดในใจนี้ หลังจากเรียนจบแล้ว เราคงต้องเติมกำไรให้กับตัวเอง พอกพูนตัวเองให้เป็นเศรษฐี หนทางเดียวที่บุคคลจะได้พลังจิตคือสัมมาสมาธิ ซึ่งเป็นมัชฌิมา ฉะนั้น เมื่อเรามีทุนแล้ว ก็ให้พยายามสร้าง อย่าได้นอนใจ เราต้องรู้หนทางว่าทำอย่างไรจึงจะเจริญงอกงามขึ้นมา เช่น เรียนทฤษฎีแล้ว รู้ขั้นตอนต่างๆ แล้วว่าทำอย่างไรจึงถึงจุดพลังอำนาจ หนทางดำเนินให้พลังจิตก้าวไกลออกไป นี่! เราก็มีความรู้แล้วว่าทำสมาธินั้นทำอย่างไร ถือว่าโชคดีเพราะรู้จักวิธีทั้งหมดแล้ว ว่าสะสมตรงไหน จุดมุ่งหมายคืออะไร ฉะนั้น อย่าลืมที่จะสร้างสมาธิให้แก่ตนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผู้ที่รู้จักคุณของผู้ที่มีคุณ ผู้นั้นถือว่าเป็นคนดี ขอให้เห็นบุญคุณของสถาบัน มาช่วยเหลืองานกัน สร้างญาติธรรม สามัคคีธรรมจะเกิดขึ้น ความดีต่างๆ ก็จักไม่สาบสูญ จึงขอให้อย่าลืมสร้างความสามัคคีในคณะ คือ "ญาติธรรม" และเมื่อพลังจิตสะสมมากขึ้นๆ ก็จะกลายเป็นความเย็น คือ ความเมตตา ตัวอย่างเช่น ฤาษีกบิละ ในป่าสักกะ ดงสักกะอันมีสัตว์ชุกชุม ฤาษีได้สร้างสมาธิ พลังจิตแผ่ซ่าน แผ่เมตตาให้กับสัตว์ทั้งหลาย และฤาษีตนนี้เองได้สร้างเมืองกบิลพัสดุ์ขึ้น ฯ จบจากสัมโมทนียกถาแล้ว เจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงานเข้ามากล่าวถึงโครงการต่างๆ เช่น โรงเรียนฝึกหัดอาชีพ สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ (CIDI) โครงการประทีปเด็กไทย ฯลฯ รวมทั้งเจตนารมย์ที่หลวงพ่อวางไว้ให้ ราวบ่าย 2 โมงเศษ พระครูปลัดมงคลวัฒน์ก็ได้กล่าวต้อนรับพวกเรา และ highlight พิเศษสำหรับวันนี้คือ .... แต่น แตน แต้นนนน.... พระครูปลัดฯ จะบอกสรุปเนื้อหาของครูสมาธิและเป็นนัยข้อสอบให้พวกเราด้วย ฉะนั้นแต่ละสาขาจึงได้มีการส่งตัวแทนออกไปจด ๆ ๆๆ ค่ะ - เอาละนะ จะสรุปเนื้อหาที่จะออกสอบแล้วนะ จดกันให้ดีๆ ล่ะ - งานนี้ไม่ต้องรอให้เฉพาะตัวแทนออกไปนั่งเก้าอี้เลคเชอร์จดแล้วขอลอกหรอกค่ะ นู๋เมี่ยงนั่งเก้าอี้ธรรมดาๆ นี่แหละ จดเอาก็ได้ จิ๊บๆ (สามารถค่ะ สามารถ) จบจากรายการบอกแนวข้อสอบแล้วก็ทำพิธีกล่าวขอขมาพระอาจารย์ ขอขมาต่อกันและกัน จากนั้นก็ทยอยออกไปตั้งแถวด้านนอกอาคารอีกครั้ง มีการแจกจ่ายดอกกุหลาบให้คนละ 1 ดอกเพื่อรอมอบให้กับพี่เลี้ยง ซึ่งขณะนี้กำลังนั่งรอพวกเราอยู่ภายในตัวอาคาร 4 โมงเย็นแถวของม.เอเชียก็เริ่มเดินเข้าไปในห้องประชุม เห็นแล้ว กลุ่มพี่เลี้ยงของม.เอเชียนั่งอยู่ตรงนี้นี่เอง ..... เสียดายแต่ว่าแถวคณะของพวกเราถูกจัดให้เดินมาอีกช่องทางหนึ่ง ทำให้ไม่เจอกลุ่มพี่เลี้ยงของพวกเราเลย แต่อย่างไรก็ตาม พวกเราก็มอบดอกกุหลาบของเราได้กับพี่เลี้ยงคนอื่นด้วยความยินดี เพราะเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนเหล่าพี่เลี้ยงของพวกเราได้เหมือนกัน นึกถึงเพลงที่นู๋เมี่ยงเคยร้องตอนเป็นเด็กสมัยนักเรียน ..... ขอขอบพระคุณยิ่ง ด้วยใจจริงที่กรุณา ปลื้มจิตเป็นหนักหนา ขอขอบพระคุณ ขอขอบพระคุณ เมื่อมอบดอกกุหลาบให้พี่เลี้ยงแล้ว ก็ให้เดินออกมาจากห้องประชุม เป็นอันจบสิ้นงานพิธี เมื่อพวกเราออกจากห้องประชุมกันครบหมดแล้ว ก็เตรียมตัวขึ้นรถ เดินทางกลับ ติวสอบ @ม.เอเชีย เสาร์ 4 กุมภาพันธ์ 2555 จะว่าคร่ำเคร่งกับการสอบครั้งนี้รึเปล่านั้น ตัวนู๋เมี่ยงเองก็ตั้งใจเตรียมตัวอ่านหนังสือมาก่อนหน้านั้น คือก่อนสอบ 2 สัปดาห์ก็สรุปคัดย่อออกมา แล้ววันปัจฉิมนิเทศก็รู้คำถามแล้วว่าจะออกอะไรบ้าง พอรู้แล้วก็ท่อง ท่อง ท่อง แล้วก็ต้อง “จำ” ด้วยนะ ก่อนสอบ 1 วันแทนที่จะอ่านหนังสือเงียบๆ อยู่ที่บ้าน ก็นัดให้มาติวสอบกันหน่อย ก็คือนำเทปเสียงที่ท่านพระครูปลัดฯ ได้แจงข้อสอบในวันปัจฉิมนิเทศมาเปิดให้พวกเราฟังย้ำอีกทีนั่นแหละ แล้วก็ scenario การสอบเดินจงกรม และนั่งสมาธิ เที่ยงแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ทุกคนพร้อมเต็มที่ สู้ๆ วันสอบ @วัดธรรมมงคล อาทิตย์ 5 กุมภาพันธ์ 2555 ยังไม่ 6 โมงเช้าดี นู๋เมี่ยงเดินทางออกจากบ้านมาถึงม.เอเชีย ท้องฟ้ายังมืดอยู่ ก็ต้องรอให้เพื่อนๆ มาถึงจนครบจำนวนดีจึงออกรถได้ ล้อหมุนออกจากปั้มน้ำมันข้างม.เอเชียก็เมื่อ 7 โมงเช้า เมื่อมาถึงสนามสอบ วันธรรมมงคล ก็รีบไปตรวจสอบเลขที่นั่งสอบ สถานที่สอบให้เรียบร้อยเสียก่อน ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกันเรียบร้อย นู๋เมี่ยงจะต้องสอบเดินจงกรม-นั่งสมาธิอย่างละ 15 นาทีก่อน ที่ศาลา 84 ปีชั้นบน ช่องที่ 107 (เวลา 9.45-10.45น.) ส่วนนี้มี 30 คะแนน ต่อจากนั้นก็ค่อยย้ายมาสอบข้อเขียนที่พระอุโบสถชั้นล่าง เลขที่นั่ง 11 แถวที่ 7 (เวลา 11.00-12.00น.) ข้อเขียนเต็ม 70 คะแนน พักเที่ยงก็จับกลุ่มกันนั่งทานอาหาร(กล่อง) ที่พี่เลี้ยงนำมาบริการให้ (ช่างน่ารักจริงๆ ) ตอนบ่ายก็เข้าห้องประชุมอีกที เพื่อให้ข้อแนะนำเรื่องธุดงค์ดอยอินทนนท์ ซึ่งกำหนดการเดินทางเรียบร้อยแล้ว คือออกเดินทางจากกรุงเทพในวันพุธที่ 7 มีนาคมตั้งแต่เวลา 1 ทุ่ม (จุดนัดพบอยู่ที่สาขากำหนด) และจะเดินทางกลับในวันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม ถึงกรุงเทพในเช้ามืดวันจันทร์ที่ 12 มีนาคม ปีนี้ฝึกความทรหดมั๊กมากเลย หนีน้องน้ำมาแล้ว ยังต้องแบกสัมภาระขึ้นดอยเอง (ลูกหาบจะหาบเฉพาะเต็นท์กับถุงนอนให้เท่านั้น) เนื่องจากในครั้งนี้จำนวนคนขึ้นดอยมีมากกว่า 2พันคน (นักศึกษาครูสมาธิจากสาขาต่างๆ ทั้งไทยและแคนาดา + พี่เลี้ยง) ลูกหาบมีจำนวนไม่พอ ก็เลยต้องแบกเป้กันเอง (รุ่นก่อนๆ สามารถนำสัมภาระติดตัวได้คนละ 5 กิโลให้ลูกหาบช่วยหาบ) แต่ที่พิเศษก็คือครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุหรือผู้ที่สุขภาพไม่ดีนัก สามารถพักอยู่ที่ฐานวัดเทพฯ ดอยอินทนน์ได้ เนื่องจากเต็นท์ที่พักอยู่ประจำที่วัดเทพฯ เลย ฉะนั้นตอนเดินธุดงค์จึงไม่ต้องแบกกระเป๋าเป้หนักๆ ติดตัวไปด้วย สำหรับนู๋เมี่ยง ครั้งนี้เป็นการวัดใจ ทดสอบกำลังกายตัวเราเองด้วย ฉะนั้น ไม่ถอยค่ะ ในเมื่อคนอื่นอายุมากกว่าเรา สุขภาพแย่กว่าเรายังแบกเป้เดินธุดงค์ขึ้นดอยได้ ฉะนั้นเราต้องทำได้เหมือนกัน งานนี้ไม่ถอยค่ะ สู้ตาย .... แอ๊ก (เสียงหลังเดาะ) บันทึกจากภาพความทรงจำ จันทร์ 20 กุมภาพันธ์ 2555   Create Date : 06 มีนาคม 2555 4 comments Last Update : 6 มีนาคม 2555 3:14:40 น. Counter : 7735 Pageviews. Share Tweet

ดีมมากๆเลยค่ะ   โดย: ยุ้ย IP: 125.24.70.10 6 มีนาคม 2555 7:39:06 น.

มีสอบด้วย ตอนต่อไปต้องเราเธอกลับจากเชียงใหม่ ใช่มั๊ยเนี่ย   โดย: นัทธ์ 6 มีนาคม 2555 21:58:42 น.

โห...เก่งจังเมี่ยง   โดย: นกแก้ว IP: 58.9.65.5 14 มีนาคม 2555 23:02:54 น.

เพิ่งรู้ว่า เรียนครูสมาธิ รุ่นเดียวกันครับ ผมอยู่วัดธรรมมงคล จันทร์ - ศุกร์   โดย: ไวน์กับสายน้ำ 18 มกราคม 2560 9:47:21 น.