สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ตอนที่ 3
อาทิตย์ 29 ธันวาคม 2556 ตั้งนาฬิกาปลุกตั้งแต่ตี4 ครึ่งล้างหน้าแปรงฟัน (น้ำไม่อาบ หนาวเกิ๊น) เสร็จแล้วจัดกระเป๋าออกจากที่พัก
- มื้อเช้าที่วัดไทยนาลันทา - 6:00น.รับประทานอาหารเช้า นับว่าเป็นมื้อที่เช้ามากกกกที่สุด (สำหรับนู๋เมี่ยง)แต่นั่นก็ไม่เป็นอุปสรรคในการทานอาหารของพวกเราแต่ประการใด ทุกคนต่างมีสีหน้า happy,enjoy eating โสมนัสกันถ้วนหน้า(ดูจากใบหน้าคนตักอาหารสิ)
ตอนเช้าน้องเณรได้ออกมาบิณฑบาตที่หน้าพระอุโบสถด้วยเพื่อนๆ หลายคนได้สรรหาปัจจัยมาถวาย นู๋เมี่ยงก็หยิบฉวยปัจจัยที่ใกล้ตัวที่สุดที่หาได้ในตอนนั้นก็คือธนปัจจัยนำมาถวาย 6:45น. ออกเดินทางจุดมุ่งหมายเพื่อไปสักการะพุทธรูปองค์ดำแห่งเมืองนาลันทา ท่านประดิษฐานอยู่ทางด้านนอกกำแพงมหาวิทยาลัยนาลันทาประมาณ 1 กิโลเมตรพวกเรานั่งรถม้า คันนึงนั่งได้ประมาณ 6 คน (สงสารน้องม้าเหมือนกัน) ซื้อน้ำมันหอมมาชโลมองค์ท่าน ขอพรให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นอุปสรรคต่อการบำเพ็ญบุญ ปฏิบัติธรรม
กลุ่มพี่นกฯลฯ ที่เคยมาทริปสังเวชฯ มาก่อน มีจิตศรัทธาเลื่อมใสอย่างเปี่ยมล้นได้ตั้งใจถักผ้าผืนใหญ่มาห่มถวายท่าน และยังอีกหลายๆ ที่นู๋เมี่ยงขออนุโมทนามา ณที่นี้ด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ กราบลาพระพุทธรูปองค์ดำแล้วก็นั่งรถม้าคันเดิมกลับออกมาขึ้นรถบัสเหตุการณ์ที่ติดตานู๋เมี่ยงได้อยู่จนถึงวันนี้คือ ภาพเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งวิ่งมาพร้อมกับเพื่อนๆ กลุ่มขอทานด้วยกัน วิ่งไล่ตามรถม้าเพื่อขอเงิน แล้วถูกเพื่อนที่แข็งแรงกว่าผลักออกไป เธอนั้นร้องวิ่งกวดตามอย่างสุดชีวิตทั้งสายตาและเสียงร้องวิ่งไล่ตามรถม้าอย่างเอาเป็นเอาตายมันบีบคั้นหัวใจเป็นที่สุด ...... ผละจากพระพุทธรูปองค์ดำคณะพวกเราก็เดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยนาลันทา แต่คงมาถึงเร็วไปหน่อย เพราะสถานที่เปิดให้เข้าชมตอน 9 โมงพวกเราก็เลยฆ่าเวลาด้วยการชมแผงขายสินค้า ดื่มชากำลังจายยยร้อนๆ ตะแรก He ก็ทำหน้าตาเฉยๆ แต่พอได้ยินพวกเราเปรยบ่อยๆ ว่าหน้าตาดีจัง ดูใจดีจัง (อ่ะช่าๆๆ = ใจดี) ย้ำบ่อยๆ เข้าคราวนี้ He ส่งยิ้มให้ซ้าาาา พอมีสาวๆ ขอถ่ายรูปด้วย คราวนี้ยิ้มไม่หุบเลย ฮี่ๆๆ ....ยอขึ้นเหมือนกันนี่นา มหาวิทยาลัยนาลันทาแห่งนี้แต่เดิมเคยเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกทางพุทธศาสนาต่อมาถูกเผาทำลายล้างจากการโจมตีของศาสนาอิสลาม
พระอาจารย์นำคณะพวกเราสวดมนต์บำเพ็ญจิตภาวนาที่หน้าสถูปพระสารีบุตร(แต่นู๋เมี่ยงจำไม่ได้ว่าสถูปองค์ไหนแล้วล่ะ) เพราะมีแต่ซากปรักหักพัง ดูคล้ายๆเหมือนกันหมด
@ มหาวิทยาลัยนาลันทา 10:30น.พวกเราออกจากมหาวิทยาลัยนาลันทา ขึ้นรถเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวันค่ะระหว่างที่อยู่บนรถนู๋เมี่ยงก็ snap shot ไปเรื่อยๆ สังเกตว่าช่วงหนึ่งจะมีร้านขายขนมทอดอยู่เรียงกับเป็นตับไม่รู้ว่ามันคืออะไร คุณบุษย์หัวหน้าทัวร์แสนจะรู้ใจและใจดีมาก ลงไปขนซื้อมาให้พวกเราได้ชิมกันมีทั้งแบบเค็มและแบบหวาน แม๊...ทานได้กินคู่กับชากำลังจายยยร้อนๆ ต้องอร่อยน่าดู ราว 11:30น. Buffet มื้อกลางวันที่โรงแรมราชคฤห์ The Rajgir Residency
อาหารส่วนมากจะเป็นจำพวกผักไข่ แป้ง (มันสำปะหลัง) น้อยครั้งที่จะมีเนื้อไก่มาแจมสักเมนู
จากนาลันทา กรุงราชคฤห์มุ่งสู่เมืองไวสาลี อิ่มหมีพลีมันแล้วต่อไปก็จะเป็นการเดินทางยาว ออกจากกรุงราชคฤห์มุ่งหน้าสู่เมืองไวสาลี นั่งอยู่บนรถนู๋เมี่ยงก็เก็บภาพข้างทางไปเรื่อยๆ
โอ๊ะโอ... หนุ่ม 3 คนเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่า มีสาวน้อยน่ารักๆ บนรถคนนึงกำลังแอบมองพวกเขาอยู่ ก็เลยโบกมือเป็นนางสาวไทยให้
แต่ที่นู๋เมี่ยงสนใจก็คือพวกเขากำลังนั่งทานอะไรกันอยู่ น่าจะเป็น นานแป้งขนมปังทอดร้อนๆ กับซุปกะหรี่ถั่วรึเปล่า เส้นทางจากกรุงราชคฤห์ไปไวสาลี ตามโปรแกรมแจ้งว่าระยะทางประมาณ 80กิโลเมตรแต่ไหงยังไม่ถึงที่พักเสียที 16:30น. พระอาจารย์เลยนำสวดมนต์ทำวัตรเย็นเสียเลย 17:30น. คณะของพวกเรามาถึงปาวาลเจดีย์ก็เย็นมืดเสียแล้ว ฤดูหนาวทำให้ท้องฟ้ามืดเร็ว ปาวาลเจดีย์ปิดทำการเสียแล้ว พวกเราต้องกลับมาใหม่ในเช้าวันรุ่งขึ้นแทน รถบัสนำพวกเราเข้าสู่โรงแรมไวสาลีThe Vaishali Residency ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากปาวาลเจดีย์นัก Check-In รับกุญแจ ห้อง 309 (ชั้น 2) 18:30 ลงมารับประทาน buffet อาหารเย็น จากนั้นพักผ่อนตามอัธยาศัย
คืนนี้คาดหวังว่าพักโรงแรมจะได้อาบน้ำอุ่น ยืดเส้นสายให้สบายตัวที่ไหนได้ปรับหมุนก๊อกทุกท่าแล้ว (หมายถึงท่าหมุนก๊อกนะ) น้ำไม่ร้อนอ่ะ รองน้ำ(เย็น)อาบแล้วก็รีบตวักน้ำสาดซู่ๆๆๆๆ ฮู้ ตัวเกร็งไม่หมดแล้ว
บันทึกจากภาพความทรงจำ พุธ 8 มกราคม 2557
Create Date : 09 มกราคม 2557 |
Last Update : 9 มกราคม 2557 19:31:34 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1352 Pageviews. |
|
|