<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
19 กันยายน 2552
 
 
ไหว้พระ ๙ วัดกับโครงการ “เจ้าท่าพาเที่ยว” (2)

ความเดิมต่อจากตอนที่แล้ว

วัดที่ ๔ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร


เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต) ต้นสกุลกัลยาณมิตร ว่าที่สมุหนายก ได้อุทิศบ้านและที่ดินบริเวณใกล้เคียง (แต่เดิมเป็นหมู่บ้านที่มีภิกษุจีนพำนักอยู่ และเรียกกันต่อมาว่า "หมู่บ้านกุฎีจีน") สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2368 และน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง



พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 จึงโปรดพระราชทานนามว่า "วัดกัลยาณมิตร" และทรงสร้างพระวิหารหลวงและพระประธานพระราชทาน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชื่อ “พระพุทธไตรรัตนนายก” หรือ “หลวงพ่อโต” ด้วยมีพระประสงค์จะให้เหมือนกรุงเก่า คือมีพระโตอยู่นอกกำแพงเมืองอย่างเช่นวัดพนัญเชิง



ด้านนอกมีกระถางธูปจีนขนาดใหญ่ คุณปู่เจ้าที่ พระพุทธรูปองค์จำลองของหลวงพ่อโต สำหรับผู้ที่ต้องการจุดธูปเทียนบูชา ถวายดอกไม้ และปิดทองแทนองค์พระด้านใน

หลายคนตั้งสมาธิจดจ่ออยู่ที่เหรียญ (รวมทั้งตัวเราเองด้วย) ค่อยๆ จับเหรียญตั้งอยู่บนลายพระพุทธบาท

และที่ด้านหน้าพระวิหารหลวงมีหอระฆัง สำหรับไว้ระฆังยักษ์ มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

เวลามีน้อยรีบเข้าไปกราบสักการะ “หลวงพ่อโต” ภายในพระวิหารหลวงกันเลยค่ะ

- ภาพทวารบาลบนบานประตูทางเข้าพระวิหารหลวง -



- พระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโต) -


“พระพุทธไตรรัตนนายก” หรือ “หลวงพ่อโต” เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยขนาดใหญ่ มีชื่อเรียกในหมู่ชาวจีนว่า “ซำปอกง” พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้สร้างพระราชทานช่วยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ เสด็จก่อพระฤกษ์เมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2380 อยู่ภายในพระวิหารขนาดใหญ่อยู่กลางวัด

คงจะเข้าไปไหว้พระประธานในพระอุโบสถไม่ทันเสียแล้ว 12.20 น. รีบกลับขึ้นเรือ

ตอนแรกคิดว่าคงได้เวลาพักรับประทานอาหารกลางวัน แต่ทางเรือด่วนฯ ต้องการสับหลีกโปรแกรมไม่ให้ตารางเที่ยวชมกันชนกัน ลำของเราเลยไปเที่ยวกันต่ออีกวัดตั้งอยู่ใกล้กัน ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็มาถึง


วัดที่ ๕ วัดอรุณราชวราราม


เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา เดิมเรียกว่า “วัดมะกอก” และชื่อ “วัดมะกอกนอก” ในเวลาต่อมา เนื่องจากได้มีการสร้างวัดขึ้นอีกวัดหนึ่งในตำบลเดียวกัน ชาวบ้านจึงเรียกวัดที่สร้างใหม่ซึ่งตั้งอยู่ในคลองบางกอกใหญ่ว่า “วัดมะกอกใน” (วัดนวลนรดิศ) และเรียก “วัดมะกอก” ซึ่งตั้งอยู่ปากคลองบางกอกใหญ่ว่า “วัดมะกอกนอก”



ส่วนที่ได้ชื่อเรียกว่า “วัดแจ้ง” นั้นเล่ากันว่า เมื่อคราวสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงกอบกู้เอกราชได้ในปี พ.ศ.2310 พระองค์มีพระราชประสงค์จะย้ายราชธานีมาตั้งที่กรุงธนบุรีจึงเสด็จกรีฑาพลล่องมาทางชลมารค พอถึงหน้าวัดมะกอกนี้ก็ได้เวลารุ่งอรุณพอดี จึงโปรดให้เทียบเรือพระที่นั่งที่ท่าน้ำ เสด็จขึ้นไปทรงสักการบูชาพระมหาธาตุ และเสด็จประทับแรมที่ศาลาการเปรียญใกล้ร่มโพธิ์ ต่อมาได้โปรดให้บูรณปฏิสังขรณ์วัด และพระราชทานเปลี่ยนชื่อเสียใหม่เป็น"วัดแจ้ง" เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งนิมิตที่ได้เสด็จมาถึงวัด นี้เมื่อเวลาอรุณรุ่ง

- พระปรางค์วัดอรุณ และพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ -


เนื่องจากกลัวว่าถ้าเดินเข้าไปด้านในและขึ้นไปองค์พระปรางค์แล้วจะกลับมาขึ้นเรือไม่ทัน เลยได้แต่จับภาพซูมพระปรางค์จากด้านนอก

เข้าไปกราบหลวงพ่อรุ่งมงคล และพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินตั้งอยู่ภายในศาลาการเปรียญ ไม่ห่างจากท่าเรือเท่าไหร่


- หลวงพ่อรุ่งมงคล -



- พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี -


บ่ายโมงเศษแล้ว แดดแรง ดื่มน้ำที่แจกบนเรือหมดไปแล้วหลายถ้วย ระงับความหิว มื้อเที่ยงนี้คงอร่อยแน่


พักกลางวันที่ท่ามหาราช ท่าพระจันทร์


เรือพักจอดเทียบที่ท่ามหาราช ให้เวลา 1 ชั่วโมง เรามาท่าพระจันทร์ทีไร เป็นนึกถึงโรตีมะตะบะทุกที ช่วงกลางวันแบบนี้ลูกค้ายังคงแน่นร้าน คิดจะสั่งเปาะเปี้ยะทอดอีกเพิ่มอีกสักจาน แต่ทนรอไม่ไหว กลับไปนั่งรอแถวท่าเรือดีกว่า ร้อนๆ อย่างนี้หาที่นั่งหลบไอแดด ทานไอศกรีมดับร้อนสักถ้วย คงจะพอเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาได้บ้าง




วัดที่ ๖ วัดอมรินทราราม


เป็นวัดโบราณตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ “วัดบางหว้าน้อย” ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงโปรดให้บูรณะปฎิสังขรณ์วัดนี้เสียใหม่ทั้งหมด และทรงพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดอมรินทราราม”



พระอุโบสถหลังนี้ได้สร้างขึ้นใหม่แทนหลังเดิมที่ถูกการทางรถไฟฯ ตัดไปหนึ่งห้องเพื่อทำเส้นทางรถไฟในสมัยรัชกาลพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทำให้พระอุโบสถเล็กลง ชาวบ้านจึงเรียกว่า “โบสถ์น้อย” ภายในประดิษฐานพระประธานศักดิ์สิทธิ์ “หลวงพ่อโบสถ์น้อย”



มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อว่า ตอนปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝ่ายสัมพันธมิตรระดมทิ้งระเบิดทำลายสถานีรถไฟบางกอกน้อยจนพังพินาศ เพื่อตัดเส้นทางลำเลียงกำลังของฝ่ายญี่ปุ่น (นึกถึงฉากจบของโกโบริกับอังศุมาลิน) วัดอมรินทรารามซึ่งตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟพลอยถูกลูกหลงจนเสียหายย่อยยับไปด้วย คงเหลือแต่วิหารหลังหนึ่งซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น พุทธลักษณะงดงามตามแบบศิลปะอยุธยานามว่า “หลวงพ่อโบสถ์น้อย” ที่รอดพ้นภัยมาได้ ชาวบ้านซึ่งนับถือในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่ออยู่แล้ว ยิ่งพากันเลื่อมใสศรัทธาในปาฏิหาริย์ครั้งนี้เพิ่มขึ้นไปอีก



14.45 น. เวลาป่านนี้แล้ว ยังคงเหลืออีกตั้ง 3 วัดที่ยังไม่ได้เข้าชม คงต้องเริ่มทำเวลากันหน่อยแล้วล่ะ


- สะพานพระราม 8 -


สังเกตตัวเองว่าตอนนี้เริ่มค้นคว้าหาข้อมูลมาเล่าเรื่องลดน้อยลงตามลำดับ เพราะเราชักเริ่มล้า เริ่มมึนเสียแล้ว ภายใน 1 วันได้เที่ยววัดไหนต่อวัดไหนไปบ้างแล้ว อีก 3 วัดสุดท้ายของทริปล่องเรือนี้ไปเล่าต่อในบล็อกหน้านะคะ


โปรดติดตามตอนจบในบล็อกหน้าค่ะ







Create Date : 19 กันยายน 2552
Last Update : 19 กันยายน 2552 23:50:10 น. 3 comments
Counter : 1719 Pageviews.

 
เดินป่าตามหาหนอนไม้ไผ่ ศึกษาระบบนิเวศน์ ทะเลหมอกสุดสวย เมือฟ้าหลังฝน ๒๓ - ๒๕ ตุลาคม ๕๒
เดินป่าศึกษาระบบนิเวศน์ที่กำลังหมดฝน ทำให้ป่าเขียวขจีมีความสมบูรณ์ ทั้งดอกไม้ป่า กล้วยไม้ สมุนไพร ตามหาหนอนไม้ไผ่ และชมทะเลหมอก ดอยบ่อ
ผู้ประสานงาน: somsakbannok@yahoo.com
Tel 081-7655352 ;053-737373
www.hilltribeguide.com


โดย: พรานไพร ณ.ดอยบ่อ (guide doi ) วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:10:51:31 น.  

 
ข้อมูลแน่นนะจ๊ะ ...
เราจะรออ่านตอนต่อไป...
คงจะไม่ไปเที่ยวทริปนี้แล้วล่ะ ...เคยไปแล้วหลายวัด
วัดที่ไม่เคยไป ...ก็เอาไว้ไปเองดีกว่า


โดย: นัทธ์ วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:15:23:55 น.  

 
ผมได้ไปไหว้พระและทำบุญมาหลายครั้งแล้วครับ


โดย: ปรีชา รัตนประสิทธิ์ IP: 125.24.230.24 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:18:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

มามะ.. เมี่ยงเองค่ะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




[Add มามะ.. เมี่ยงเองค่ะ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com