มกราคม 2557
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
10 มกราคม 2557
 
 
สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ตอนที่ 4

จันทร์ 30 ธันวาคม 2556


เมืองไวสาลี ปาวาลเจดีย์ กูฎาคารศาลาป่ามหาวัน

ตี 5 morning call ทำภารกิจส่วนตัวเรียบร้อย พร้อมลากกระเป๋าลงมา lobby เข้าไปรับประทานอาหารเช้า

7:00น.พร้อมออกเดินทาง หน้าโรงแรมหมอกลงจัด เลยขอเก็บภาพหมอกไว้เป็นที่ระลึก ก่อนขึ้นรถ 


หน้าโรงแรม The Vaishali Residency

นั่งรถเดินทางไปสักการะปาวาลเจดีย์ หรือสารีริกธาตุพระสถูปเจดีย์แต่เช้า ไม่ไกลจากโรงแรมนัก (ความจริงเดินมาก็น่าจะได้นะ แต่หนาวอ่ะ)


ร่วมกันกระทำทักษิณาวัตรสวดมนต์สรรเสริญพระพุทธคุณฯ รอบองค์พระสถูป

พระพุทธเจ้าเสด็จประทับที่เมืองไวสาลีขณะนั้นพระองค์อาพาธหนัก ทรงรับคำขอจากพญามารว่า นับต่อจากนี้อีก 3 เดือนข้างหน้าพระองค์จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน

ออกจากพระสถูปเจดีย์ก่อนขึ้นรถได้มีการแจกทาน (รูปี) ให้กับเด็กๆ แต่ต้องให้จัดระเบียบแถวก่อนนะ ดังตัวอย่างเช่นนี้

มิฉะนั้นโกลาหลน้อยๆ จะบังเกิดเยี่ยงนี้ (ภาพจากคนละสถานที่)


การมาอินเดียให้สนุกอย่ากลัวเรื่องให้ทานค่ะ แม้เพียง 10 รูปี แต่สำหรับผู้รับมันมีค่ายิ่งกว่านั้น

ต่อจากนั้นนั่งรถไปกูฏาคารศาลาป่ามหาวันซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกัน ณ ป่ามหาวันแห่งนี้พระพุทธเจ้าทรงประทานการบวชให้พระนางปชาบดีโคตรมีพร้อมเหล่าศากิยานีอีก 500 เป็นภิกษุณีโดยมีเงื่อนไขให้สตรีที่ประสงค์จะบวชนั้นต้องรับครุธรรม 8 ประการครบดีเสียก่อน


กูฏาคารศาลาป่ามหาวัน -

หมอกลงจัดเลยมองไม่เห็นตัวสิงห์บนเสาแม้เวลาใกล้จะ 9 โมงเช้าแล้วก็ตาม

ต่อจากนั้นออกเดินทางไกลออกจากเมืองไวสาลีมุ่งหน้าสู่เมืองกุสินารา


มุ่งสู่กุสินารา

ระหว่างทาง 11:30น. แวะรับประทานอาหารกลางวัน (ข้าวกล่องหน่อไม้ดอง ผักสดกับไข่ต้ม) ที่วัดไทยเกสรียา และถวายสังฆทานให้กับวัดฯ

- มื้อกลางวัน -

พวกเราไม่ได้แวะลงกราบสักการะพระเจดีย์เกสรียา สถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงประทานบาตรไว้เป็นอนุสรณ์ และตรัสหลักกาลามสูตรแก่ชาวเกสปุตตนิคม ก่อนจะเสด็จไปปรินิพพานที่เมืองกุสินารา

- พระเจดีย์เกสรียา -

ตอนที่นั่งอยู่บนรถพระอาจารย์ชี้ให้ดูว่าตรงโน้นแหละคือพระเจดีย์เกสรียานู๋เมี่ยงก็เลยรีบคว้ากล้องกด หน้าหนาวอากาศเย็นสบาย (ถ้าเสื้ออุ่นพอ) แต่ถ่ายภาพไม่ค่อยเห็นสีสันและรายละเอียดสถานที่เท่าไหร่

บ่ายแก่ๆ วันนี้ คณะเดินทางของพวกเราเกิดอุปสรรค รถบรรทุกอ้อย รถบรรทุกใหญ่อื่นๆ จอดแช่เต็มเลนที่มุ่งไปสู่เมืองกุสินารา ทำให้ต้องตีรถกลับ และวิ่งเส้นทางอื่นซึ่งมีระยะทางห่างออกไป ซ้ำถนนก็ย่ำแย่ มันเป็นเหตุการณ์ที่คาดการณ์ได้ยากจริงๆ


16:25น.ดูท่ายังต้องเดินทางอีกไกล พระอาจารย์ประจำบัส 1 เลยนำพวกเราสวดมนต์ทำวัตรเย็นกันบนรถ

จากเหตุการณ์รถบรรทุกอ้อยจอดครั้งนี้ทำให้โปรแกรมการเดินทางการคณะเราต้องปรับเปลี่ยนเลื่อนผังรายการออกไปพวกเรามาไม่ทันเข้า “สาลวโนทยาน” สถานที่ซึ่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานใต้ต้นสาละคู่ ก็เลยวิ่งตรงเข้าที่พักที่วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์

18:30น. พระผู้ดูแลวัดไทยกุสินาราฯ ได้นำคณะพวกเราเข้ามานั่งพักในห้องรับรอง (ซึ่งสมเด็จพระเทพฯเคยเสด็จมาประทับที่นี่มาก่อน) และได้กล่าวคำต้อนรับจากนั้นต่างก็แยกย้ายกันรับกุญแจห้องพัก (ห้อง 108)


ตรวจตราห้องหับว่าคืนนี้ได้อาบน้ำอุ่นแน่ เพราะขดตัวอยู่บนรถมาน๊าน...นาน คืนนี้จะอาบน้ำสระผมให้สะใจไปเล้ยยย

เวลา ทุ่มออกมารับประทานอาหารเย็นได้อย่างเอร็ดอร่อย


โรงอาหารอู่ข้าว @วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์

ทานอาหารคาวแล้วก็เดินไปพักเอาแรงที่ห้อง coffee shop ของวัด “อู่น้ำ” มีเสื้อยืดและขนมขบเคี้ยวเล็กๆ น้อยๆ จำหน่าย รอจนได้เวลาใกล้ 2 ทุ่มเพื่อเข้าพระอุโบสถ ทำการทอดผ้าป่า ถวายปัจจัยให้กับทางวัด


ด้านในพระวิหารประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและบรรจุพระเกศาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เมื่อครั้งทรงผนวช

2 ทุ่มเศษแล้วค่ะเพื่อนๆ ทยอยกันขึ้นพระอุโบสถกันแล้ว นู๋เมี่ยงวิ่งงุดๆ ตามขึ้นไปติดๆ เจ้าค่ะ ...อ้อ!แล้วก็ส่ง passportให้เจ้าหน้าที่บริษัททัวร์ฯ นำไปทำเอกสารยื่นเข้าประเทศเนปาลในวันรุ่งขึ้น


- พระอุโบสถวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ (ด้านนอก) -


ภายในพระอุโบสถวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์

พระอาจารย์วัดไทยกุสินาราฯได้กล่าวให้การต้อนรับ และให้ธรรมโอวาทแก่คณะเราทุกคน สอดแทรกอารมณ์ขันใครกันบอกว่ามาวัดแล้วมีแต่เรื่องคร่ำเครียดนู๋เมี่ยงได้ยินแต่เสียงหัวเราะเบิกบานใจ เห็นใบหน้ายิ้มแย้มของเพื่อนๆเวลาเข้าวัดมากกว่านะ

หลังจากจบพิธีการถวายปัจจัยทอดผ้าป่าแล้ว พระอาจารย์วัดไทยกุสินาราได้มอบภาพพระพุทธปรินิพพานให้แก่พวกเราทุกๆคนเป็นที่ระลึก


เป็นที่น่าสังเกตว่าภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัยใหม่ เป็นเรื่องพระมหาชนกชาดก  ก่อนที่นู๋เมี่ยงจะออกจากพระอุโบสถ พระอาจารย์วัดไทยกุสินาราชี้ให้พวกเราเห็นภาพที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงลงฝีพระหัตถ์ลายเส้นด้วยพระองค์เอง คือภาพพระมารดาของพระมหาชนกเนื่องจากในหลวงของเราทรงมีความรักในสมเด็จพระพระราชชนนีฯ เป็นอย่างยิ่งฯ


นึกมากแล้ว คืนนี้ขอให้คนไทยทุกคนมีความสุขนอนหลับฝันดีกันนะคะ

บันทึกจากภาพความทรงจำ

ศุกร์ 10 มกราคม2557




Create Date : 10 มกราคม 2557
Last Update : 10 มกราคม 2557 23:31:00 น. 0 comments
Counter : 1729 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

มามะ.. เมี่ยงเองค่ะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




[Add มามะ.. เมี่ยงเองค่ะ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com