Japan Trip : Day0&1 from Bangkok to Tokyo เอาล่ะ มาต่อกันเลยดีกว่าจ้าาาา หลังจากตั๋วคอนเสิร์ต ตั๋วเครื่องบิน และที่พักพร้อมแล้ว ทีนี้ก็...เหลือเวลาอีกแค่อาทิตย์เดียวสำหรับการหาข้อมูลในการไปญี่ปุ่น โดยเฉพาะการไปแบบผู้หญิงคนเดียวแถมยังครั้งแรกด้วยแบบเรานี่ ต้องหาข้อมูลเตรียมตัวให้เยอะกว่าปกติ แต่เวลาแค่นั้น ก็ต้องโปรแกรมเร่งรัดอย่างเดียวเลย ส่วนใหญ่ก็เลยหาข้อมูลจากในพันทิป แล้วก็อาศัยถามๆเอาจากคนที่เคยไป ก็พยายามเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุด แต่เนื่องจาก จุดประสงค์หลักจริงๆคือไปดูคอนเสิร์ต ส่วนใหญ่ก็จะเปนข้อมูลการเดินทางมากกว่า ส่วนสถานที่เที่ยว ก็แพลนไปนิดหน่อย ได้ไปตามที่ตั้งใจไว้บ้าง ไม่ได้ไปบ้าง แต่ก็ถือว่าบรรลุจุดประสงค์ล่ะ ทีนี้ก็มาถึงวันเดินทาง อย่างที่บอกว่าคอนเสิร์ตรอบที่เราไปดูคือวันอาทิตย์ที่ 9 ดังนั้น เราจึงวางแผนการเดินทางเปนวันศุกร์ที่ 7 โดยสายการบินเวียดนามไฟลท์ทุ่มครึ่ง และไปต่อเครื่องที่โฮจิมินห์ ใช้เวลาบินจากกรุงเทพ(สุวรรณภูมิ) ไปโฮจิมินห์ประมาณชั่วโมงครึ่ง แต่ใช้เวลารอต่อเครื่องอยู่ราวๆ 3 ชม.กว่า ก็ได้แต่เดินเล่นๆอยู่ในสนามบิน โชคดีที่พกหนังสือไปอ่านด้วย เลยพอจะหายเบื่อไปได้ ไปถึงสุวรรณภูมิราวๆ สี่โมงกว่ามั้ง รีบไปก่อนเพราะมันเป็นวันศุกร์ด้วยกลัวรถติด แต่ก็ไม่ติดเท่าไหร่ รอเช็คอิน ได้บอร์ดิ้งพาสมาแระ 2 ใบ เพราะต้องไปต่อเครื่องที่โฮจิมินห์ เข้าไปข้างในรอที่เกทแล้ว ลงเครื่องที่โฮจิมินห์แล้ว เราต้องไปต่อเครื่อง ก็ไปตามนี้เลยจ๊าาา เดินเล่นในสนามบินเพราะออกไปไหนไม่ได้ พอดีว่าหิวๆ แต่ตอนนั้นแลกไปแต่เงินเยน เลยต้องไปแลกเงิน US$ ไปซื้อของกินด้วย (โดนฟันเรตไปเยอะมากกกก ตกเหรียญละ 40 บ.) ได้เล่มนี้ของลุงมูเป็นเพื่อนแก้เหงา(ซื้อมาเก็บไว้ตั้งนานแระ เพิ่งได้เอามาอ่านก็ตอนนี้แหละ) หลังจากที่ถึงเวลาเรียกขึ้นเครื่องเพื่อไปต่อจากโฮจิมินห์มุ่งสู่สนามบินนาริตะ เวลาเกือบๆตี 1 แล้ว พอขึ้นเครื่อง โชคดีมากที่เราได้นั่งริมหน้าต่าง ส่วนคนนั่งข้างๆนั้นเปน....หนุ่มญี่ปุ่นค่าาาา อิๆๆ (ตอนขาออกจากสุวรรณภูมิไปโฮจิมินก็นั่งติดคนไทยแหละ แถมได้ที่นั่งริมทางเดิน) แอบชวนนางคุยแต่นางดันพูดอังกฤษไม่ค่อยได้ ก็เลยไม่ได้คุยอะไรมาก แล้วพอเครื่องใกล้ลง มันต้องกรอกใบ immigration ด้วยใช่ป่ะ ก็เลยถามๆนางว่ากรอกยังไง(ใครเคยไป ญป. จะรู้เลยว่า ใบ ตม. ของ ญป. นั้นไม่มีภาษาอังกฤษให้เลย) นางก็ใจดีพยายามจะช่วยนะ นางก็เอาใบของนางให้ดูก็เลยพอกรอกได้    รอขึ้นเครื่อง ได้ที่นั่งริมหน้าต่างจร้าาาาา มีทีวีส่วนตัวด้วย ใบ ตม.ของญี่ปุ่น หน้าตาแบนี้(ถ้าไม่ได้หนุ่มญี่ปุ่นที่นั่งข้างๆคงงงเต็กกรอกไม่ถูก) ก่อนเครื่องลง(เปิด flight mode นะ) และแล้ว ผ่านไปราวๆ 5 ชม.กว่าๆ ถึงเวลาที่เครื่องบินจะแลนดิ้งที่สนามบินนาริตะแล้วววว ตามกำหนดการคือจะถึงเวลา 8 โมงเช้า แต่เนื่องจากวันที่ไปถึงนั้น มีฝนตกทำให้เครื่องลงช้าไปนิดนึง แค่...15 นาทีเองนะ และก็อย่างที่บอกไปตั้งแต่วันที่ไปถึงแล้วว่า.... แว๊บแรก ที่ล้อเครื่องบินแตะรันเวย์สนามบินนาริตะ เรามองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพที่เห็นมันได้แต่ทำให้เราเพ้ออยู่ในใจว่า นี่ชั้นพาตัวเองมาถึงญี่ปุ่นได้แล้วจริงๆหรือนี่ โอยยยย ความรู้สึกตอนนั้น บรรยายไม่ถูกเลย ทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจ บอกเลยว่าน้ำตาซึมเลยจริงๆนะ เล่าตอนนี้ยังน้ำตาจะไหลเลย พอเสร็จสรรพขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งไม่ยากอย่างที่คิดเลย แค่ถามว่ามาอยู่กี่วันแค่นั้น เราก็ผ่านออกมาสู่ประเทศญี่ปุ่นได้แล้ว แต่ๆๆๆ ยังไม่จบ เพราะต้องหาทางพาตัวเองไปให้ถึงที่พักให้ได้ก่อน จากที่หาข้อมูลมาก่อนแล้วว่า มีรถไฟ JR N'Ex จากนาริตะไปถึง ikebukuro โดยตรงได้ ก็ถึงเวลาตามหาเคาน์เตอร์ขายตั๋ว ก็ไปถามตรง information ว่าจะซื้อตั๋วเจอาร์เน็กซ์นะ ไปทางไหนอะไรยังไง เจ้าหน้าที่เค้าก็ตอบเปนภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว มีการถามเราว่ามาจากไหนด้วย แล้วบอกว่า have a nice trip เราก็ thank you ไป จนในที่สุดก็ได้ตั๋วมาเรียบร้อย   แลนดิ้งแว้ววววว ฝนตกนะ ช้านมาถึงญี่ปุ่นแว้ววววว ผ่าน ตม.มาล่ะ ประทับวีซ่าเรียบร้อย พอหาตั๋วได้แล้ว ก็ไปรอที่ชานชลา ก็เจอพี่คนไทย 2 คนมานั่งข้างๆ ได้ยินพูดไทยกันเลยถามคนไทยเหรอคะ แล้วก็คุยๆกัน เค้ามากัน 2 คน(คงจะสามีภรรยาแหละ) พอบอกว่าเรามาคนเดียวโดดๆครั้งแรก บอก โห เก่งจังมาคนเดียวด้วย หูยยยย รู้สึกภูมิใจจัง อิๆๆ พอถึงเวลา....กำหนดออก 10.15 โอ้แม่เจ้า ตรงเวลาเป๊ะ! นี่แหละๆๆ ชั้นมาถึงญี่ปุ่นแล้วจริงๆ ระหว่างที่นั่งรถไฟ ชมทิวทัศน์ข้างทาง(โชคดีได้นั่งริมหน้าต่าง) ได้เห็นซากุระสีชมพูหวานๆออกดอกตามข้างทางเปนระยะๆ ได้แต่พูดออกมาว่า...สุโก้ยยยย สุดยอดดดดด แล้วน้ำตาก็จะไหลอีกแระ... พอรถไฟเจอาร์เน็กซ์มาถึงสถานี ikebukuro แล้ว ทีนี้ล่ะ พอลงรถไฟมา คือ....งงค่ะ เฮ้ย กุจะขึ้นทางไหนวะ เพราะจากข้อมูลที่หามา การจะไปถึงที่พักได้ ต้องออกทาง West exit ไอ่เราก็มองหาป้าย West exit แต่ก็ไม่เจอ เวรล่ะ ทำไงดี เดินไปถามเจ้าหน้าที่ แต่ฮีดันพูดอังกฤษไม่ได้ กำๆๆๆ เออ กุหาเองก็ได้วะ ก็เลยตั้งสติ อ่านป้าย เฮ้ย มันมี Central exit อยู่ เริ่มจากตรงนี้ดีกว่า ก็เดินไปตามป้ายนี้ และในที่สุดก็เจอทางออก West exit จนได้ พอขึ้นมาได้ ก็เดินไปตามแผนที่ทางไปโรงแรม ซึ่งจริงๆใช้เวลาเดินไม่นาน ประมาณ 5 นาทีก็ถึง แต่ด้วยเรามาครั้งแรก ดูตามแผนที่แล้วก็เดินไป เลยใช้เวลานานไปนิดหน่อย แล้วก็มาถึงโรงแรมจนได้ เย้!!   ทางเข้าสถานีรถไฟ เข้ามารอในสถานีแระ กำหนดเวลารถออก ตรงเวลาเป๊ะ ขึ้นรถไฟมาแล้ว ได้ที่นั่งริมหน้าต่างอีกแระ ดีจัง อิๆๆ ตั๋วหน้าตาเป็นแบบนี้ วิวข้างทางรถไฟ ถึง Ikebukuro แล้ว หาทางออกอยู่พักนึงกว่าจะขึ้นมาได้ แล้วก็เดินตามแผนที่ๆเค้าบอกมาเรื่อยๆ ถึงโรงแรมแล้วจ้าาาา หลังจากเชคอินเรียบร้อย เอาของไปเก็บที่ห้อง เปนห้องเล็กๆแคบๆ เตียงเปนเตียง 2 ชั้น ซึ่งเรามาถึงก่อน เลยโชคดีได้เตียงล่าง ก็อาบน้ำหน่อย ห้องน้ำก็เปนห้องน้ำรวมนะ แต่ก็โอเคเลย มีน้ำอุ่นให้(ไม่งั้นอิชั้นคงไม่ได้อาบน้ำค่ะ คือเย็นมากกกก 5555) มีสบู่แชมพูแถมไดร์เป่าผมให้ครบ สะดวกสบายค่ะ แต่ๆๆๆ มาวันแรกก็...ลืมคีย์การ์ดไว้ในห้องซะแระ อาบน้ำเสร็จพอจะเข้าห้อง อ้าวเวร คีย์การ์ดอยู่ในห้อง ดีนะที่เอาเสื้อผ้าไปแต่งตัวในห้องน้ำเลย(ไม่งั้นล่ะอายตาย) ก็เลยไปขอให้พนักงานเค้าเปิดห้องให้    ได้ห้องเบอร์ 104 (ซื้อหวยงวดนี้ดีกว่า 5555) เข้าห้องแระ อึ้งมาก เพราะห้องเล็กมากกกก แต่ยังอุส่าห์ใส่เตียง 2 ชั้นเข้าไปได้ เราได้เตียงล่าง โชคดีไป มาถ่ายหน้าห้องน้ำ 5555   เสร็จแล้วก็เดินออกไปหาอะไรกินก่อน เพราะตั้งแต่อาหารเช้าบนเครื่องแล้ว ก็ยังไม่มีไรตกถึงท้อง เดินไปเจอร้านอุด้งโซบะ ก็เลยเอ้า มื้อแรกของที่นี่กินโซบะซะเลย เข้าไปก็อ่านไม่ออกหรอก ก็ชี้ๆเอาบอกเจ้าของร้านว่า number 2 เค้าก็โอเคเข้าใจนะ ไม่รู้เปนอะไรแต่หน้าตาน่ากินดี ปรากฏว่าเปนโซบะหน้าปลาหมึกชุบแป้งทอด ก็ไม่เปนไรกินได้ๆ อากาศยิ่งเย็นๆอยู่ได้ซดน้ำซุปโซบะร้อนๆก็ช่วยคลายหนาวได้บ้างล่ะ กินเสร็จแล้วก็เลยเดินเล่นๆแถวนั้น จากทีแรกที่คิดว่ามาถึงก็จะไปชิบูย่าก่อน แต่ๆๆ เพราะยังเหนื่อยๆอยู่ และคือยังงงกับสถานีรถไฟเค้า เลยว่า ขอตั้งสติเอาแถวๆนี้ก่อนละกัน ก็เลยไปเดินเล่นห้างเค้าห้าง OIOI สาขา ikebukuro ละมั้ง 55555 แล้วก็ไปตรงลานกว้างๆหน้าสถานี มีต้นซากุระออกดอกบานเต็มต้น ตื่นตาตื่นใจมากกกก ได้เห็นซากุระของจริงก็วันนี้แหละ   มื้อแรกที่ญี่ปุ่น โซบะหน้าเทมปุระปลาหมึก เดินเล่นจร้าาาาา เจอร้านอาหารไทยด้วย 5555 เดินเล่นต่อ เจอซากุระแล้ววววว สวยมากกกกก ธนาคารนุ่มนิ่มเหรอ 5555 ถ่ายหน้าสถานีหน่อย   หลังจากออกไปเดินเล่นเสร็จก็กลับไปนอนเอาแรงหน่อย นอนได้พักนึง ตื่นขึ้นมา รูมเมทก็มาถึงพอดี ทักทายไต่ถามกันได้ความว่านางมาจากแมกซิโกค่ะ ไอ่เราก็บอกนางว่าชั้นจะมาดูคอนเสิร์ตนะ นางถามเลย ลาร์ค? อิชั้นก็บอกใช่ โอ้แม่เจ้า เจอคนคอเดียวกันแล้วค่ะ นางบอกนางก็ชอบลาร์คฯนะ แต่เสียดายนางไม่ได้ตั๋ว แล้วนางก็บอกว่า ขอให้อิชั้นสนุกกับคอนเสิร์ต แล้วกลับมาเล่าให้นางฟังด้วยนะ โอเค จากนั้นก็แยกย้าย เราออกไปกินมื้อเย็น ส่วนนางท่าทางจะเหนื่อยๆเลยนอนพัก พอกินเสร็จก็กลับเข้าห้อง อาบน้ำพักผ่อน เพื่อเตรียมตัวไปกรี๊ดดดดกับคอนเสิร์ตในวันรุ่งขึ้น   เพิ่งตื่น หน้าตายังง่วงๆอยู่เลย 555 มื่อที่ 2 ข้าวแกงกระหรี่ กับ น้ำแอปเปิ้ล(ที่โรงแรมให้คูปองแลกน้ำฟรีมาใบนึง) เข้ากันมั้ยเนี่ย แต่ก็กินไปแล้วนี่นะ โรงแรมจะมี 2 ฝั่ง ฝั่งนี้เป็นร้านอาหารด้วยน่ะ ฝั่งนี้เป็นที่พัก เราก็พักฝั่งนี้ โรงแรมนี้คนไทยก็มาพักเยอะเหมือนกัน ถึงขนาดมีภาษาไทยด้วย จบทริปวันแรกในญี่ปุ่นแล้วค่ะ โปรดติดตามตอนต่อไปนะจ๊ะ bbL'®2017© <<< Prelude Back Next Day 2 >>> Create Date : 26 เมษายน 2560 Last Update : 12 พฤษภาคม 2564 19:54:46 น. 2 comments Counter : 1032 Pageviews.   Share Tweet โดย: babyL' วันที่: 26 เมษายน 2560 เวลา:19:45:17 น.   ตามมาอ่าน โดย: น้องยุ้ย Yui'xx IP: 27.55.80.34 วันที่: 26 เมษายน 2560 เวลา:20:27:39 น.   ชื่อ : Comment :   *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก