Every New Beginning comes from some other Beginning's End
[bbL's]
[L']
[World Tour 2012]
L'And~MarK
[C]
[B1]
[B2]
[B3]
[Qh]
[Qt]
[Qk]
[Qy]
[T1]
[T2]
[T3]
<<
พฤษภาคม 2560
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
3 พฤษภาคม 2560
Japan Trip : Day4 Till we meet again,Japan
baby+++ in Merry goes round
New Year's Come
Happy Time
Heart Therapy
Holidays' Mine #Part 2
Holidays' Mine #Part 1
12th Anniversary
Grand Ma's
CowBoy & Girl's Night Party
Retire Night :PPR9 Singing War!
A perfect day for...Buffet'
Life year's passed
Chance...
Come back...
ただいま。
so alive
1'st Dose Vaccinated : Sinovac
Singapore in Memory
Japan Trip(Tip) once again : Day4@Imperial Palace
Japan Trip(Tip) once again : Day3@Tokyo Dome
Japan Trip(Tip) once again : Day2@Tokyo Sky Tree
Japan Trip(Tip) once again : Day1@Jimbocho
Japan Trip(Tip) once again : Prelude
I'm back again...
Love is in the Air
Just Relax...?
Happy Chinese New Year
Back again@Sri Maha Mariamman Temple
Japan Trip : Day4 Till we meet again,Japan
Japan Trip : Day3 Shijiku-Shibuya
Japan Trip : Day2 @Tokyo Dome
Japan Trip : Day0&1 from Bangkok to Tokyo
Japan Trip : Prelude
@Khao Khitchakut
My Surgery
Cowboy Night Party
HNY 2015 I'll be back again(?)
bbL's 10th Anniversary
Japan Trip : Day4 Till we meet again,Japan
อ่าาา ก็คิดว่าคงมาถึงรีวิวตอนสุดท้ายแล้วสำหรับเจแปนซีรี่ส์ เพราะวันนี้เปนวันที่ต้องเดินทางกลับแล้ว บอกตรงๆว่าความรู้สึกตอนนั้น อยากให้เวลาย้อนกลับไปวันแรกที่มาถึง แล้วก็วนเวียนอยู่แค่นั้น แต่มันก็คงเปนไปไม่ได้
เช้าวันเดินทางกลับ เราตื่นตั้งแต่ตี 5 เพราะต้องไปขึ้นรถไฟ JR N'Ex เที่ยวแรกให้ทัน เพราะเราจองเครื่องกลับไฟล์ท 10 โมง ต้องเชคอินก่อน 2 ชม. รถไฟขบวนแรกที่ไปถึงสนามบินนาริตะจะออกตอน 6.43 ใช้เวลาวิ่งชั่วโมงกว่าๆ เราเลยเผื่อเวลาไปก่อนดีกว่า เพราะอย่างที่บอก รถไฟญี่ปุ่นนี่ตรงเวลาสุดๆ พลาดไปนิดเดียวคือพลาดทุกอย่าง (รวมถึงต้องตกเครื่องด้วยถ้าพลาดไป)
สารภาพเลยว่าวันที่กลับนั้น....อิชั้น...ไม่ได้อาบน้ำค่าาาา คือก็มันหนาวอ่ะ ถึงจะมีน้ำอุ่นให้ก็เหอะ แต่ถ้าจะอาบน้ำด้วย อิชั้นต้องตื่นตี 4 ก็เลยว่าอาบน้ำซะตั้งแต่กลางคืนดีกว่า ตื่นมาก็แค่ล้างหน้าแปรงฟันพอ อีกอย่าง คืนก่อนจะกลับ กว่าจะจัดของเก็บกระเป๋าอะไรเสร็จก็เกือบๆเที่ยงคืนแล้ว อากาศเย็นเหงื่อไม่ออกไม่เปนไรหรอก(มั้ง)นะ แหะๆๆๆ
ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตี 5 ตื่นปุ๊บก็จัดการล้างหน้าแปรงฟันทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย แล้วก็มาเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวเชคเอาท์ ก่อนไปก็ปลุกรูมเมทมาร่ำลากันนิดนึง เพราะนางบอกก่อนไปให้บอกนางด้วย ก็เลยปลุกนางบอกไอจะไปแล้วนะ ดีใจนะที่ได้นางเปนรูมเมท นางก็บอกดีใจเช่นกัน เราก็บอกว่าขอให้สนุกกับวันที่เหลือในเจแปนนะ เที่ยวเผื่อไอด้วยละกัน และสุดท้าย หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีกนะ (ก่อนหน้านี้ก็แอดเฟซกันเรียบร้อยแระ) เสร็จแล้วก็บ๊ายบาย ออกมาเชคเอาท์ ซึ่งก็ใช้เวลาแป๊บเดียว และก็อย่างที่บอก ทางโรงแรมให้คีย์การ์ดเก็บไว้เปนที่ระลึก แล้วพอดีที่โรงแรมเค้าจะมีให้เขียนข้อความฝากไว้ด้วย เราก็เลยเขียนให้หน่อย ก็เหมือนเดิม เขียนขอบคุณ แล้วก็บอกว่ายังไงก็จะกลับมาที่นี่อีกครั้ง เสร็จแล้วก็ถ่ายรูปกับโรงแรมเก็บไว้อีกนิดหน่อยแล้วก็ออกไปสถานี
เก็บภาพในโรงแรมหน่อย
ออกมาถ่ายหน้าโรงแรมอีกซะทีก็ดีนะ
วันกลับนั้น ฝนก็ตกแต่เช้าอีกเหมือนเดิม แหม่ๆๆ ตกทั้งขาไปขากลับเลยนะ ก็เดินไปสถานีท่ามกลางสายฝนนั่นแหละ ดีที่ตกแค่ปรอยๆก็เลยไม่เปียกมาก อากาศก็เย็นเกิ๊นนน เดินไปสั่นไป รีบเร่งฝีเท้าให้ถึงสถานีเร็วๆ เพราะ....กุจะแข็งตายอยู่แร้ววว พอเข้าสถานีได้นี่อุ่นขึ้นเยอะเลย ก็เดินไปหาทางเข้าชานชลา เราก็เพื่อความชัวร์ ไปถามเจ้าหน้าที่อีก เค้าก็บอกว่าเข้าทางนี่แหละใช่ เราก็เดินเข้าไปเลย ตอนนั้นเปนเวลาประมาณ 6.20 ก็เลยต้องรอรถอีกตั้ง 20 กว่านาที แต่มั่นใจได้ว่ารอไม่เกินกว่านี้แน่นอน เพราะรถไฟเข้ามารอก่อนประมาณ 3 นาที แล้วพอถึงเวลาเป๊ะ รถไฟก็ออกมุ่งหน้าสู่สนามบินนาริตะกันเลยจ้าาา
ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงสนามบิน ตรงตามที่ตารางเวลาเค้าบอกเป๊ะ โล่งงงงใจ แต่พอลงรถไฟ ก็ต้องไปเดินหาอีกว่าเคาน์เตอร์เชคอินมันอยู่ตรงไหน ดีที่ว่าเราเลือกทางถูก ไม่งั้นก็คงต้องเดินหากันนานอีก ก็รีบไปเชคอินก่อน และด้วยว่าต้องผ่านด่าน ตม.อะไรอีก ก็เลยรีบเข้าไปข้างใน แต่ตอนเช้าคนก็ยังไม่เยอะเท่าไหร่ ใช้เวลาไม่นานมากก็ผ่านเข้าไปรอที่เกทเรียบร้อย รอไม่นานมากก็เรียกขึ้นเครื่องแล้ว
ขึ้น JR N'EX มาแระ
มาถึงสนามบินก็รีบไปเช็คอินให้เรียบร้อย
ฝนตกอ่าาา
ระหว่างทางที่จะเข้าไป ตม.
Ok, I'll come back again!
ประทับตาขาออกเรียบร้อย กำลังจะบ๊ายบายแล้วนะ เจแปน
ในตอนที่ เครื่องบินกำลังจะเทคออฟออกจากญี่ปุ่นนั้น เราพยายามเก็บภาพไว้ในความทรงจำ จดจำทุกรายละเอียดให้ได้มากที่สุด แล้วบอกกับตัวเองว่าจะต้องกลับมาอีกครั้งให้ได้ ว่าแล้วก็น้ำตาซึมๆ เวลาทำไมมันเร็วงี้ แป๊บๆก็ต้องกลับแล้ว อยากอยู่ให้นานกว่านี้อีกจัง แต่...บั๊บบายนะ แล้วค่อยเจอกันใหม่ แล้วเครื่องบินก็ค่อยๆทยานขึ้นสู่ท้องฟ้า...
ขากลับได้นั่งริมหน้าต่างเหมือนเดิม แถมก็ได้นั่งติดกับหนุ่มญี่ปุ่นอีกแล้วจ้าาา(หนุ่มหล่อกว่าคนที่เจอขาไปด้วยนะ อิๆๆๆ) ทีแรกก็ไม่รู้หรอก จนนางคงเห็นอิชั้นกำลังงุนงงกับหน้าจอตรงหน้า (คือหรูเกิ๊นใช้ไม่ถูก5555) นางเลยชี้ๆให้แล้วบอก โคเระ (แปลว่า ตรงนี้...มั้งนะถ้าจำไม่ผิด) ก็เลยเก็ทว่านางเปนคนญี่ปุ่นนี่เอง เครื่องออกได้ซักพักเค้าก็เสิร์ฟอาหารเช้า ขอบอกเลยว่ามื้อนี้อร่อยสุด 5555 กินเสร็จว่าจะนอนหน่อย ง่วงๆจะหลับอยู่แระ แต่ของเล่นตรงหน้ามันก็น่าสน ก็เลยเปิดหนังดู ซาวน์แทรคล้วนๆ (มีซับเวียดนามให้ เหอๆๆ) อ่านมะออก ก็ดูไปหลับไปอ่ะนะ แต่ก็ยังดูจนจบ(แบบรู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่ง) แต่เวลาก็ยังเหลือ ทีนี้ก็เลยของีบนิดนึง ก่อนที่เวลา 5 ชั่วโมงครึ่งจะผ่านไป และก็ถึงเวลาแลนดิ้งที่สนามบินฮานอยแล้ว
ขึ้นเครื่องมาได้นั่งริมหน้าต่างแถมมีหน้าจอส่วนตัวด้วย อิๆๆ
ฝนยังคงตกอยู่
หน้าจอไฮเทคเกิ๊น งงๆอยู่พักนึง
เปิดเป็นแระ เปิดเพลงฟังหน่อย
อาหารเช้า ขอบอกเลยว่ามื้อนี้อร่อยสุด 555
ก็อย่างที่บอก มาคราวนี้ไม่ได้บินตรงต้องต่อเครื่อง ขาไปเราไปต่อที่โฮจิมิห์ แต่ขากลับมาต่อที่ฮานอย สนามบินฮานอยใหญ่กว่าที่โฮจิมินห์มากแถมดูหรูกว่าด้วย (ประมาณโฮจิมินห์ก็เหมือนดอนเมือง แล้วฮานอยก็เหมือนสุวรรณภูมิไรงี้น่ะ) คราวนี้รอต่อเครื่องประมาณ 2 ชม.กว่าๆ ก็เลยเดินเล่นๆอยู่ในสนามบินเหมือนเดิม การเดินทางครั้งนี้ก็เลยเหมือนว่าได้ไป 2 ประเทศเลย คือญี่ปุ่นกับเวียดนาม ถึงแม้ที่เวียดนามจะได้อยู่แค่ที่สนามบินก็เหอะ
ลงฮานอยแล้ว สนามบินเค้าหรูดีนะ
เดินเล่นๆไปมาในนั้นแหละ
เข้ามารอที่เกทแล้ว
อันนี้คือถ่ายจากในห้องน้ำนะ 555
พอเวลาขึ้นเครื่องมาถึงก็ยังได้ที่นั่งริมหน้าต่างเหมือนเดิม แถมคราวนี้คนไม่เต็ม อิชั้นเลยได้นั่งคนเดียวมาตลอดทางเลยค่ะ เอกเขนกสุดๆ5555 แต่คราวนี้บินใกล้ๆเครื่องเลยเล็กกว่า ไม่มีหน้าจอส่วนตัวให้แระ ชั้นเลยไม่สน พอกินอาหารเสร็จ(มื้อนี้เปนข้าวคล้ายๆแกงเขียวหวานเราเลือกเปนปลาน่ะ) ก็นอนดีกว่า แป๊บเดียว....กำลังจะถึงสุวรรณภูมิแล้ว ตามกำหนดการจะถึงสุวรรณภูมิตอน 18.05 ซึ่งก็ตรงตามเวลาไม่มีเลท ก็ผ่านด่าน ตม.ออกมาเรื่อยๆ(เราคนไทยไม่อะไรมากอยู่แระ) ก็ไปรอรับกระเป๋าอะไรเสร็จก็ออกมา
ขึ้นเครื่องแระ ทริปนี้ดีจัง ได้นั่งริมหน้าต่าง(เกือบ)ตลอดเลย
เครื่องเล็กเลยไม่มีจอส่วนตัว
อาหารเที่ยง(มั้ง?) แต่กินบ่าย เป็นคล้ายๆแกงเขียวหวาน(เราเลือกเป็นปลา)
อ่ะ ถึงเมืองไทยแล้วจร้าาาาา
เปนอันว่า...อิชั้นก็พาตัวเองกลับมาถึงเมืองไทยได้อย่างปลอดภัยแล้วจร้าาาาา ก็ยังงงๆตัวเองอยู่เลยนะ เออ ชั้นก็ทำได้เหมือนกันเว้ยเฮ้ย พาตัวเองซึ่งเปนผู้หญิงคนเดียว ไปถึงญี่ปุ่นได้ทั้งๆที่ก็เปนการเดินทางออกนอกประเทศที่ไกลกว่าที่เคยไปมา ไปแบบกระทันหันแทบไม่ทันได้ตั้งตัวอะไรทั้งนั้น ข้อมูลที่หาก่อนไปเรียกได้ว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับคนที่เตรียมตัวมาเปนเดือนๆ แต่เราก็ยังรอดมาได้
คือคิดว่า ทุกคนต้องมีสัญชาติญาณการเอาตัวรอด คือไม่ว่ายังไง ไปถึงแล้วชั้นต้องไม่อดตาย ชั้นต้องหาทางไปในที่ๆชั้นอยากไปให้ได้ และไปแล้วก็ต้องกลับมาให้ได้ นั่นคือสิ่งที่คิดไว้เลย อีกอย่างคือ ต้องมีสติให้มากๆ เพราะเราไปคนเดียวด้วย อย่างเรา พอเริ่มงงแล้ว ก็จะเรียกสติตัวเองกลับมาก่อนทุกครั้ง บอกตัวเองตั้งสติแล้วค่อยๆคิดหาทางไป จะทำยังไงๆ คือตั้งสติกับทุกอย่าง สังเกตุสิ่งที่อยู่รอบตัวและจดจำ พยายามพึ่งตัวเองให้มากที่สุดไว้ก่อน แต่ถ้าจนปัญญาแล้วจริงๆ ก็หาคนที่คิดว่าพอจะช่วยได้(ส่วนใหญ่ก็พวกเจ้าหน้าที่) ถามไว้ก่อน รู้เรื่องไม่รู้เรื่องก็ค่อยว่ากัน แล้วก็หาทางอื่นๆไปเรื่อยๆ ยังไงมันก็ต้องมีทางไปของมัน แค่นี้เราก็เอาตัวรอดได้แล้ว
เอาล่ะค่ะ ก็คิดว่า รีวิวเจแปนทริปครั้งนี้ ก็คงต้องจบแต่เพียงเท่านี้ เพราะทุกคนคงจะเบื่อกันแระใช่ม๊าาา ประมาณว่า อินี่กลับมาก็เพ้อถึงแต่ญี่ปุ่นอยู่นั่นแหละ 5555 ก็บอกแล้วอิชั้นเปนติ่งญี่ปุ่นค่ะ แต่แหม เราก็แค่อยากแชร์ประสบการณ์ เผื่อใครอยากจะไปเองแบบไม่ต้องพึ่งทัวร์(จะบอกว่า วันที่กลับคือวันที่ 11 เจอคนที่สนามบินเยอะมากกกก ยังคิดอยู่เลยว่าวันนี้คนเยอะจัง วันรุ่งขึ้นพอได้ข่าวมีคนโดนหลอกไปญี่ปุ่น ก็ยังคิดว่า เอ๊ะ...จะใช่พวกคนที่โดนท่านโชกุนพามาปล่อยลอยแพป่ะนะ) ก็จะได้พอเปนข้อมูลได้บ้าง(ถึงจะน้อยนิดก็เหอะ)
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนถึงหน้านี้ หวังว่ารีวิวของอิชั้น คงจะมีประโยชน์กับท่านได้บ้างล่ะนะ
สวัสดี...
bbL'®2017©
<<< Day 3
Back
Create Date : 03 พฤษภาคม 2560
Last Update : 12 พฤษภาคม 2564 20:01:13 น.
1 comments
Counter : 2877 Pageviews.
Share
Tweet
โดย:
babyL'
วันที่: 3 พฤษภาคม 2560 เวลา:17:02:04 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
babyL'
Location :
สงขลา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Pol.Capt. babyL'obster
กุ้งมังกรน้อยที่ว่ายน้ำกลับมาอยู่บ้านเกิดทะเลฝั่งอ่าวไทยแล้ว
หมายเหตุ
: ข้อความหรือรูปภาพต่างๆที่อยู่ในบล็อคนี้
ขอสงวนลิขสิทธิ์
ซึ่งถ้าหากต้องการนำไปใช้ กรุณาบอกกล่าวขออนุญาติกันนิดนึง และกรุณาให้เครดิตกันด้วยนะจ๊ะ
ถ้าหากพบว่ามีการนำไปใช้โดยไม่บอกกล่าวหรือไม่ให้เครดิต
จะดำเนินการตามกฏหมายสูงสุดทันที
ให้ถือเป็นไปตามนี้ นับแต่วันที่ประกาศนี้เป็นต้นไป (จริงๆก็บอกไว้ตั้งแต่หน้าแรกที่เริ่มเขียนแล้ว แต่เอาจริงๆก็ตามนี้แหละ)
ประกาศ ณ วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553
BbL's Kung
Create your badge
x+x+x+x+x+x+x+x+x+
ในที่สุด เราก็ได้เจอกันแล้ว
และเราจะรอวันที่ได้เจอกันอีกครั้ง...อีกครั้ง...และ...
Webmaster - BlogGang
[Add babyL''s blog to your web]
Bloggang.com