บริการแบบเยอรมัน....
เมื่อวันก่อนระหว่างทางที่ปุ่นปั่นจักรยานกลับมาจากทาสีที่บ้านใหม่ สามีสังเกตเห็นไฟท้ายจักรยานมืดสนิท ไอ้เราก็ไม่รู้ตัว ปั่นไหนมาไหนรอบเมืองแล้ว ไม่รู้ว่ามันอันตราย กลับมาคุณสามีเลยลองถอดไฟท้ายมาเปลี่ยนหลอดดู เปลี่ยนแล้วก็ยังไม่ติด เราสองคนก็ไม่ใช่ช่าง คุณสามีเลยบอกให้เอาจักรยานไปให้ที่ร้านซ่อมจักรยานดู ปุ่นก็ถือไฟท้ายที่ถอดออกมาไปหาช่าง บอกว่า "ไฟท้ายจักรยานมันไม่ติดอ่ะค่ะ ช่วยดูให้หน่อยได้ไหมคะว่าเป็นเพราะอะไรแล้วช่วยซ่อมให้ด้วย" ช่าง: หลอดเนี่ย เราซ่อมไม่ได้หรอก ต้องเปลี่ยนไฟท้ายหมดเลย เราขอนำเหนอ ชุดไฟท้ายใหม่ ราคา 13.9ยูโร ปุ่น: ช่วยเปลี่ยนให้ด้วยได้ไหมคะ ค่าเปลี่ยน ไขน็อตสองสามตัว รวมราคาไฟท้ายกับค่าเปลี่ยนแล้ว 18 ยูโร ผลปรากฎว่า ไฟท้ายยังไม่ติด ช่าง: คุณเจอปัญหาเข้าแล้วล่ะ แบบนี้ทางเราต้องเปลี่ยนสายไฟใหม่ เพราะไฟหน้ายังติดอยู่ อย่างนี้คุณเอาจักรยานทิ้งไว้นี่ ราคาเปลี่ยนสายอีกประมาณ สิบถึงสิบเอ็ดยูโร ความคาดหวังของกระเหรี่ยงอย่างปุ่นก็คือว่า เวลาเราบอกว่าปัญหาไฟท้ายไม่ติด เราคาดหวังว่าช่างจะช่วยดูให้ทั้งระบบ มีปัญหาก็จะได้แก้ไปเลยไม่ต้องมาขยักสองทีสามทีแบบนี้ ที่ไม่เหมือนเมืองไทยคือ ร้านซ่อมจักรยานทุกที่ที่ปุ่นเคยเจอที่กรุงเทพหรือที่ต่างจังหวัด เค้าจะไม่มาคิดค่าบริการเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ นึกถึงอาแปะซ่อมจักรยานที่เมืองพานบ้านปุ่น แกปะยางให้จักรยานแม่แล้วแกก็ปั่นจักรยานแก อีกมือหนึ่งก็ไสเอาจักรยานแม่ที่ปะยางเสร็จแล้วมาส่งให้ถึงบ้าน คิดแค่ค่าซ่อมปะยาง แกบอกว่าเป็นทางผ่านไปบ้านแกพอดี แม่ก็เรียกแกกินน้ำกินขนม อันนี้ปุ่นว่าเป็นบริการแบบไทย ๆ ที่คงหาไม่ได้ในเมืองใหญ่ สรุปงานนี้ปุ่นต้องเอาจักรยานไปทิ้งไว้ที่ร้านหนึ่งวัน แล้วเสียเงินเบ็ดเสร็จทั้งหมด 31.30 ยูโร เพื่อให้ไฟท้ายจักรยานกลับมาดีดังเดิม เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า 1. อยู่ในโคโลญจ์ อย่าไปคาดหวังว่าบริการอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ จะได้มาฟรี ทุกอย่างเป็นเงินหมด 2. อย่าไปคาดหวังว่ามาตรฐานเยอรมนี ช่าง จะเก่งดีกันหมด ขนาดจักรยานที่ไม่ซับซ้อน เขายังไม่ดูสายไฟให้เลย บอกว่าไฟท้ายไม่ติดก็เปลี่ยนแต่ไฟท้าย ปัญหาต่อเนื่องจากนั้น ไปลุ้นกันเอาเอง 3. ต้องทำใจกับเวลา ที่นี่จะทำอะไรก็ไม่ได้รวดเร็วทันที เผื่อเวลา กับทางเลือกอื่น ๆ เสมอ เช่นถ้าจำเป็นต้องไปไหน อาจจะต้องนั่งรถไฟไป ขออีกเรื่อง ปุ่นได้รับจดหมายจาก หน่วยงานดูแลคนต่างด้าว ให้นำเอกสารที่แสดงว่าสอบภาษาผ่าน (ไปเมื่อปีที่แล้ว) พร้อมทั้งเอกสารที่แสดงว่าสอบผ่านคอร์ส ปรับตัวสำหรับคนต่างด้าว Orientierungskurs ที่เรียนเกี่ยวกับสังคม การเมืองของเยอรมัน ไปยื่น เผื่อว่า เผื่อว่า พอวีซ่าครบกำหนดแล้วอยากสมัครขอพาสปอร์ตเยอรมนี เขาจะได้มีข้อมูลว่าเราสอบภาษาผ่านแล้ว ไม่ต้องไปเรียน ไปสอบซ้ำอีก ปุ่นตรวจสอบเอกสารตัวเองแล้วโทรไปถามเจ้าหน้าที่ที่ส่งจดหมายมาให้ ปรากฎว่าขาดใบรับรองอันหลัง ซึ่งปุ่นสอบผ่านแล้ว แต่ยังไม่ได้รับใบรับรอง เจ้าหน้าที่ให้เบอร์โทรของ Bundesamt für Migration มาให้โทรไปตาม ถ้าได้แล้วค่อยส่งเอกสารมาให้เขา ปุ่นโทรไปทุกวันตั้งแต่วันจันทร์ เจ้าหน้าที่ที่รับสาย ถามเหมือนเดิมทุกครั้ง คุณชื่ออะไร เกิดวันไหน ทุกวันแล้วโอนให้เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่ง วันจันทร์---> สายไม่ว่าง วันอังคาร---> สายไม่ว่าง วันพุธ---> สายไม่ว่าง วันพฤหัส---> ไม่มีคนรับสาย วันศุกร์---> โทรไปหาเจ้าหน้าที่คนเดิม บอกว่าเบอร์ที่ให้มาติดต่อไม่ได้ คุณเจ้าหน้าที่ถามเหมือนเดิม (อีกแล้ว) คุณชื่ออะไร เกิดวันไหน แต่คราวนี้ไม่เหมือนเดิม
ปุ่นบอกว่า: ฉันโทรมาตั้งแต่วันจันทร์แล้ว ยังติดต่อเจ้าหน้าที่ไม่ได้เลยค่ะ อย่างนี้ต้องทำยังไงคะ เจ้าหน้าที่: โอเค เราจะส่งเอกสารให้คุณวันจันทร์ หลังจากนั้นคุณจะได้รับเอกสารเป็นจดหมาย ปุ่น (ไชโยในใจ ทำไมใจดีเกินคาดอย่างนี้เนี่ย) กะว่าคงจะยืดเยื้อไปอีกเป็นเดือน ฮ้า และแล้วก็จัดการเสร็จไปอีกหนึ่งเรื่อง เรื่องนี้ไม่สอนอะไร คุณคิดเอาเองแล้วกันเนอะ จบกันดื้อ ๆ แล้วค่ะ สวัสดี
Free TextEditor
Create Date : 05 พฤศจิกายน 2553 |
|
19 comments |
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2553 16:25:41 น. |
Counter : 945 Pageviews. |
|
|
|
ปล ปีที่แล้วเรียนจบได้วุฒิมอสามของที่นี่ จนถึงบัดนี้ประกาศนียบัตรยังไม่มาเล้ย ได้แค่ใบรับรอง เจ้าหน้าที่ที่โรงเรียนบอกฤดูใบไม้ผลิปีหน้าค่อยมาเอา นี่แหละ อิตาเลี่ยนของแท้และดั้งเดิม