Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
5 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 

บริการแบบเยอรมัน....

เมื่อวันก่อนระหว่างทางที่ปุ่นปั่นจักรยานกลับมาจากทาสีที่บ้านใหม่  สามีสังเกตเห็นไฟท้ายจักรยานมืดสนิท ไอ้เราก็ไม่รู้ตัว ปั่นไหนมาไหนรอบเมืองแล้ว  ไม่รู้ว่ามันอันตราย  กลับมาคุณสามีเลยลองถอดไฟท้ายมาเปลี่ยนหลอดดู  เปลี่ยนแล้วก็ยังไม่ติด  เราสองคนก็ไม่ใช่ช่าง คุณสามีเลยบอกให้เอาจักรยานไปให้ที่ร้านซ่อมจักรยานดู ปุ่นก็ถือไฟท้ายที่ถอดออกมาไปหาช่าง


บอกว่า


"ไฟท้ายจักรยานมันไม่ติดอ่ะค่ะ ช่วยดูให้หน่อยได้ไหมคะว่าเป็นเพราะอะไรแล้วช่วยซ่อมให้ด้วย"


ช่าง: หลอดเนี่ย เราซ่อมไม่ได้หรอก ต้องเปลี่ยนไฟท้ายหมดเลย เราขอนำเหนอ ชุดไฟท้ายใหม่ ราคา 13.9ยูโร


ปุ่น: ช่วยเปลี่ยนให้ด้วยได้ไหมคะ


ค่าเปลี่ยน ไขน็อตสองสามตัว รวมราคาไฟท้ายกับค่าเปลี่ยนแล้ว  18 ยูโร  ผลปรากฎว่า ไฟท้ายยังไม่ติด


ช่าง: คุณเจอปัญหาเข้าแล้วล่ะ แบบนี้ทางเราต้องเปลี่ยนสายไฟใหม่ เพราะไฟหน้ายังติดอยู่ อย่างนี้คุณเอาจักรยานทิ้งไว้นี่ ราคาเปลี่ยนสายอีกประมาณ สิบถึงสิบเอ็ดยูโร


ความคาดหวังของกระเหรี่ยงอย่างปุ่นก็คือว่า เวลาเราบอกว่าปัญหาไฟท้ายไม่ติด เราคาดหวังว่าช่างจะช่วยดูให้ทั้งระบบ มีปัญหาก็จะได้แก้ไปเลยไม่ต้องมาขยักสองทีสามทีแบบนี้  ที่ไม่เหมือนเมืองไทยคือ ร้านซ่อมจักรยานทุกที่ที่ปุ่นเคยเจอที่กรุงเทพหรือที่ต่างจังหวัด เค้าจะไม่มาคิดค่าบริการเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้  นึกถึงอาแปะซ่อมจักรยานที่เมืองพานบ้านปุ่น แกปะยางให้จักรยานแม่แล้วแกก็ปั่นจักรยานแก อีกมือหนึ่งก็ไสเอาจักรยานแม่ที่ปะยางเสร็จแล้วมาส่งให้ถึงบ้าน คิดแค่ค่าซ่อมปะยาง แกบอกว่าเป็นทางผ่านไปบ้านแกพอดี แม่ก็เรียกแกกินน้ำกินขนม อันนี้ปุ่นว่าเป็นบริการแบบไทย ๆ ที่คงหาไม่ได้ในเมืองใหญ่


สรุปงานนี้ปุ่นต้องเอาจักรยานไปทิ้งไว้ที่ร้านหนึ่งวัน แล้วเสียเงินเบ็ดเสร็จทั้งหมด 31.30 ยูโร เพื่อให้ไฟท้ายจักรยานกลับมาดีดังเดิม


เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า


1. อยู่ในโคโลญจ์ อย่าไปคาดหวังว่าบริการอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ จะได้มาฟรี ทุกอย่างเป็นเงินหมด


2. อย่าไปคาดหวังว่ามาตรฐานเยอรมนี ช่าง จะเก่งดีกันหมด  ขนาดจักรยานที่ไม่ซับซ้อน เขายังไม่ดูสายไฟให้เลย บอกว่าไฟท้ายไม่ติดก็เปลี่ยนแต่ไฟท้าย ปัญหาต่อเนื่องจากนั้น ไปลุ้นกันเอาเอง


3. ต้องทำใจกับเวลา ที่นี่จะทำอะไรก็ไม่ได้รวดเร็วทันที เผื่อเวลา กับทางเลือกอื่น ๆ เสมอ เช่นถ้าจำเป็นต้องไปไหน อาจจะต้องนั่งรถไฟไป


 ขออีกเรื่อง


ปุ่นได้รับจดหมายจาก หน่วยงานดูแลคนต่างด้าว ให้นำเอกสารที่แสดงว่าสอบภาษาผ่าน (ไปเมื่อปีที่แล้ว) พร้อมทั้งเอกสารที่แสดงว่าสอบผ่านคอร์ส ปรับตัวสำหรับคนต่างด้าว Orientierungskurs ที่เรียนเกี่ยวกับสังคม การเมืองของเยอรมัน  ไปยื่น เผื่อว่า เผื่อว่า พอวีซ่าครบกำหนดแล้วอยากสมัครขอพาสปอร์ตเยอรมนี เขาจะได้มีข้อมูลว่าเราสอบภาษาผ่านแล้ว ไม่ต้องไปเรียน ไปสอบซ้ำอีก


ปุ่นตรวจสอบเอกสารตัวเองแล้วโทรไปถามเจ้าหน้าที่ที่ส่งจดหมายมาให้ ปรากฎว่าขาดใบรับรองอันหลัง ซึ่งปุ่นสอบผ่านแล้ว แต่ยังไม่ได้รับใบรับรอง เจ้าหน้าที่ให้เบอร์โทรของ Bundesamt für Migration มาให้โทรไปตาม ถ้าได้แล้วค่อยส่งเอกสารมาให้เขา


ปุ่นโทรไปทุกวันตั้งแต่วันจันทร์ เจ้าหน้าที่ที่รับสาย ถามเหมือนเดิมทุกครั้ง คุณชื่ออะไร เกิดวันไหน ทุกวันแล้วโอนให้เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่ง





วันจันทร์---> สายไม่ว่าง


วันอังคาร---> สายไม่ว่าง


วันพุธ---> สายไม่ว่าง


วันพฤหัส---> ไม่มีคนรับสาย


วันศุกร์---> โทรไปหาเจ้าหน้าที่คนเดิม บอกว่าเบอร์ที่ให้มาติดต่อไม่ได้ คุณเจ้าหน้าที่ถามเหมือนเดิม (อีกแล้ว) คุณชื่ออะไร เกิดวันไหน แต่คราวนี้ไม่เหมือนเดิม





ปุ่นบอกว่า: ฉันโทรมาตั้งแต่วันจันทร์แล้ว ยังติดต่อเจ้าหน้าที่ไม่ได้เลยค่ะ อย่างนี้ต้องทำยังไงคะ


เจ้าหน้าที่: โอเค เราจะส่งเอกสารให้คุณวันจันทร์ หลังจากนั้นคุณจะได้รับเอกสารเป็นจดหมาย


ปุ่น (ไชโยในใจ ทำไมใจดีเกินคาดอย่างนี้เนี่ย) กะว่าคงจะยืดเยื้อไปอีกเป็นเดือน ฮ้า  และแล้วก็จัดการเสร็จไปอีกหนึ่งเรื่อง


 เรื่องนี้ไม่สอนอะไร คุณคิดเอาเองแล้วกันเนอะ


จบกันดื้อ ๆ แล้วค่ะ สวัสดี


 






Free TextEditor




 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2553
19 comments
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2553 16:25:41 น.
Counter : 945 Pageviews.

 

อ้าว เราคิดว่ามีแค่อิตาลีเสียอีกที่เป็นแบบนี้ ยิ่งระบบราชการไม่ต้องพูดถึง ทำพาสปอร์ตใช้เวลาสองอาทิตย์ ต้องไปเอาเองด้วย ไม่มีส่งไปรษณีย์หรอก แถมต้องถ่ายรูปไปเอง ถ่ายเอกสารบัตรประชาชนอีกต่างหาก เมืองไทยยังสะดวกสบายกว่านี้เยอะ รวดเร็วทันใจกว่า

ปล ปีที่แล้วเรียนจบได้วุฒิมอสามของที่นี่ จนถึงบัดนี้ประกาศนียบัตรยังไม่มาเล้ย ได้แค่ใบรับรอง เจ้าหน้าที่ที่โรงเรียนบอกฤดูใบไม้ผลิปีหน้าค่อยมาเอา นี่แหละ อิตาเลี่ยนของแท้และดั้งเดิม

 

โดย: settembre 5 พฤศจิกายน 2553 16:45:37 น.  

 

สวัสดีจ้าคุณปุ่น ขอบคุณค่ะที่แวะมาไปทักทายเปิ้ล...เปิ้ลว่า เมืองไทยบ้านเรามีน้ำใจกว่าเยอะค่ะ..บางทีเปิ้ลขี่จักรยานออกไปเล่น ยางแบน..ไปเติมลม เจ้าของร้านจักรยานแถวบ้านเปิ้ล ไม่เคยเอาเงินเลย...เปิ้ลมีญาติอยู่ Copland 3 คนค่ะ พี่สาวสองคน(ลูกพี่ลูกน้อง)หลานสาวอีกหนึ่ง พี่สาวคนแรก ตั้งรกรากที่โน่นแล้ว มีร้านอาหารไทยเล็กๆ ค่ะ..พี่สาวอีกคนไปช่วยเป็นแม่ครัว ส่วนหลานสาวเพิ่งไปได้ 3 ปี และพึ่งสอบภาษาผ่านด้วย บอกว่า น้าจ้า ยากมากๆๆเลย ทุกคนแต่งงานกับหนุ่มเยอรมันหมดค่ะ...คุณปุ่น รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ...

 

โดย: Miacara 5 พฤศจิกายน 2553 17:27:37 น.  

 

อืม

ก็รักษาตามอาการนะ ก็ถือว่าตรงดี

คนไทยเน้นบริการ+น้ำใจน่ะ

ส่วนรถไฟก็คงรออีก 100 ปี เหอๆๆ บริการอยู่กับที่

 

โดย: jejeeppe 5 พฤศจิกายน 2553 18:03:41 น.  

 

หวัดดีค่ะคุณปุ่น
ว้ากกกกก อ่านแล้วต๊กกะใจนิดๆๆๆ บริการเค้าหยุมหยิมๆๆ
ส่วนจัดการเอกสาร ขอเอกสารต่าง ที่อิตาลีนรกมากค่ะ
ระบบราชการเค้าป่วน ช้า แถมหยุดเยอะ
เอิงว่าบ้านเรายังทำได้ดีกว่า เหอเหอเหอ
แต่ปลงแล้วค่ะ ตอนนี้ทำใจได้ เค้าให้ทำอะไรก็ต้องทำไป
แอบแค้นนิดๆๆๆ มันช้ามากๆๆๆ
ปล่อยมันไปนะคะ เราปรับตัวให้เข้าใจระบบเค้าดีกว่าค่ะ

 

โดย: diamondsky 5 พฤศจิกายน 2553 20:38:54 น.  

 

เดี๋ยวทานเด็กเผื่อเยอะๆ ค่า คริคริคริ
งานชิมอาหาร ชอบแว้บไปดูค่ะ ที่นี่พวกสมาคมแม่บ้านเค้าจัด
สนุกดี บรรยากาศเป็นกันเอง ของกินแบบโฮมเมด
ถูกใจมั่กๆๆๆๆ เอิงอบขนมบ้างค่ะ ไม่บ่อยเท่าไหร่
ตอนนี้กำลังอยู่ในมู้ดฝึกทำอาหารคาว อิตาเลี่ยน คริคริ
เดี๋ยววันหลังจะลองทำของหวานดูบ้างน่ะค่ะ

 

โดย: diamondsky 5 พฤศจิกายน 2553 21:08:04 น.  

 

อ่านแล้วก็ให้แปลกใจว่า เมืองที่ได้ชื่อว่าเจริญแล้ว
ไม่ได้เป็นเมืองที่กำลังพัฒนาแบบบ้านเรา ระบบราชการ
ทำไมจึงยังไม่พัฒนา แต่เรื่องน้ำใจนี่คิดว่าอยู่ที่แต่ละคนมากกว่านะคะ ทุกที่มีทั้งคนดีและไม่ดีแล้วแต่ว่าเราจะเจอใคร ถ้าคุณปุ่นว่างก็ไปเที่ยวเชียงคานด้วยกันนะค ที่นั่นเป็นเมืองคนรวยน้ำใจจริงๆค่ะ

 

โดย: แมงหวี่@93 5 พฤศจิกายน 2553 22:15:02 น.  

 

แหม เรื่องบริการประชาชน หน่วยงานของเยอรมันนีมันคุ้น ๆ คล้ายของประเทศเราเลยน้อปุ่นว่ามะ ดีว่าปุ่นยังได้พูดกับคน ไม่ต้องพูดกับคอมพิวเตอร์

แต่เรื่องจักรยาน แค่ปัญหาไฟท้าย จ่ายไปสะอ่วมเลยนะนั่น ดีว่าพลอยู่ปักกิ่งนะ จักรยานพลที่ใช้อยู่นี่ไม่เคยซ่อมแพง ๆ สักที ครั้งแรกซ่อมที่พักเท้า (ที่เท้าถีบเวลาเราขี่จักรยานนะ) เปลี่ยนเลยนะ ห้าหยวนหรือสิบหยวนนี่แหละ ครั้งหลังสุด ไปสูบยางรถ หน้าหลัง หยวนเดียวเอง สะมะถูกใจดีแท้ ๆ แต่อย่างว่าที่นี่มันก็เปรียบกะเยอรมันไม่ได้อะน้อ ไงก็เอาใจช่วยอย่าให้จักรยานปุ่นต้องเสียบ่อย ๆ แล้วกันเน้อ

ท้องเจ็ดเดือนแล้วยังขี่จักรยานอยู่เลยเก่งจังเลยอะปุ่น อย่างนี้แข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูกเลย ดีใจด้วยจ้า แล้วก็อย่าลืมรีบมีเผื่อพลอีกคนด้วยเน้อ

 

โดย: พล (aoigata ) 6 พฤศจิกายน 2553 10:02:21 น.  

 

ขอบคุณนะคะที่เข้าไปแวะเยี่ยมเยียนที่ Blog ค่ะ สงสัยเรื่องแบบนี้จะเป็นกับหลายๆประเทศในแถบยุโรปนะคะ

 

โดย: little_angel_com 6 พฤศจิกายน 2553 14:09:46 น.  

 

เมืองที่เราอยู่ ทางราชการยังถือว่า ดีเลยทีเดียว ทำงานไม่สลับซับซ้อนมาก และรวดเร็วทันใจ

ส่วนการบริการของคนเยอรมันทั่วไป ถือว่าช้าบ้าง บางครั้งก็ทำให้เราหงุดหงิดเหมือนกัน

 

โดย: ณ เมืองเบียร์ 7 พฤศจิกายน 2553 8:22:51 น.  

 

เออเนอะ... คิดค่าบริการซับซ้อนดีแท้ สงสัยเราต้องเรียนทางช่างไว้บ้างแล้วแหละ จะได้ซ่อมเองได้ มีแต่พี่หมีใหญ่นี่แหละซ่อมเองทุกอย่าง ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ แกถือว่าเป็นวิศวกร ทำเองหมด แต่เราบ่ใช่วิศวกรน่ะเป็นแต่วิศวะเกิน ต่อประกอบอะไรเนี่ยะจะต้องมีอุปกรณ์เหลือทุกครั้ง เราก็จะปลอบตัวเองว่าเค้าคงให้มาเกิน (ที่แท้เราใส่อุปกรณ์ไม่ครบตามขั้นตอนน่ะ ฮ่า ฮ่า)

 

โดย: Jujastar 7 พฤศจิกายน 2553 16:48:03 น.  

 

อ่าาาาา กะจะมาคุยเรื่องป้อนนมลูกเืพื่อน ทาสีบ้านใหม่ กับฤดูใบไม้ร่วงที่อ่านไปเมื่อวันก่อนแต่ไม่มีเวลาเม้นท์ พอมาวันนี้ปุ่นอัพบล้อกแล้ว ฮะๆๆ ไม่เป็นไรมาคุยทีเดียวเลยก็ได้...

เพื่อนปุ่นใจดีจัง เด็กโตไว ของใช้ต่างๆก็ต้องคอยเปลี่ยน แต่ถ้ามีคนเอามาให้แบบนี้มันก็ประหยัดไปได้เยอะเลยเนอะ แอบเห็นรูปสามีเพื่อนปุ่น อ๊ายยย เค้ายังเด็กอยู่เลยเนอะ มีลูกกันละ ดีจัง แบบนี้มีลูกทันใช้ดีเนอะ (พูดแบบที่แม่อ้อมชอบพูดกรอกหูให้ฟังบ่อยๆ ((แต่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาทุกที))

อ้อ..รูปป้อนนมรูปนี้ใช่มั้ยฝีมือสามีที่ปุ่นเล่าให้ฟัง ฮะๆๆ

รูปใบไม้ร่วงนี่ถ่ายจากปาร์คใช่มั้ย สวยจังเนอะ อ้อมชอบฤดูนี้ที่สุดเลย บรรยากาศมันเหงาๆดี ให้แรงบันดาลใจบางอย่างที่ฤดูอื่นเราจะไม่รู้สึกแบบนี้ ออกแนวอารมณ์ศิลปินเนอะ

ปุ่นทาสีใกล้เสร็จละยัง เมื่อวานอ้อมก็ทาสีที่ห้องครัว ไปทีละนิดๆแต่ใกล้ความจริงเข้าไปทุกทีแล้ว วันนี้ก็ไปอิเคียมา ไปเล็งๆของไว้หลายอย่างแต่ยังไม่ได้ซื้อมาเพราะเวลามันมีน้อยน่ะ

กลับมาที่บล็อกนี้บ้าง...

อ้อมว่าช่างฝรั่งบางทีเค้าก็มั่วเนอะ เหอๆๆ เหมือนกับว่าทำงานเพราะอยากได้ค่าจ้างรายชม.มากกว่ามั้ง เอ้อ...อ้อมมีเพื่อนชาวอารูบ้าที่ตอนนี้เค้าเป็นช่างทาสี เค้าเล่าว่าพวกคนดัตช์น่ะขี้เกียจ ทำงานวันนึงแปดชม. แต่พักเบรคคิดรวมๆกันแล้วก็ปาไปสองชม. เดี๋ยวก็พักๆ...เดี๋ยวดูดบุหรี่ เดี๋ยวจิบกาแฟ

ส่วนระบบราชการและการบริการทั่วไปของที่นี่ก็คงไม่ต่างจากที่เยอรมันเท่าไหร่มั้ง ดูจากที่ปุ่นเล่าน่ะ และอ้อมเคยเล่าเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลของตัวเองให้ฟังแล้วใช่ไหม... สามสี่ปีที่เสียเวลาไปกับมัน อ้อมว่าตัวเองกลายเป็นคนด้านชากับระบบราชการไปแล้วล่ะ คือมันผ่านตรงนั้นมาหมดแล้วน่ะเลยไม่รู้สึกอะไรแล้วล่ะ จะรอก็รอ จะอะไรก็ว่ามา รับได้หมดแระ บางทีฝรั่งก็ทำงานชุ่ยๆ ข้อมูลบางอย่างก็ไม่อัพเดต

อย่างของอ้อมช่วงที่เรื่องยังอยู่ในศาล มีอยู่ครั้งนึงเค้าส่งตำรวจสองนายมาเช็คอ้อมที่บ้านล่ะ นึกภาพตามนะ เหมือนในหนังเลย มีคนมากดกริ่ง อ้อมไปเปิดประตู ผู้ชายสองคนในเครื่องแบบกล่าวสวัสดีพร้อมกับโชว์ไอดีว่าเค้าเป็นใคร จากนั้นก็ถามว่าทำไมอ้อมยังอยู่ในประเทศนี้อยู่ แป่ววว...มาแบบนี้อ้อมก็ปล่อยโฮหน้าตำรวจเลยอ่ะดิ ในหัวก็นึกถึงภาพถูกตำรวจจับขึ้นเครื่องส่งกลับแบบที่เคยเห็นในทีวี เราตกใจ ตำรวจก็ตกใจ(ที่เราเป่าปี่ไม่หยุด) เลยต้องโทรตามแพทริคที่ทำงาน แพทริคก็โทรตามทนายอีก ถามไถ่ทนายกันวุ่นวายว่าตำรวจมาทำไมเนี่ยยย สุดท้ายปรากฏว่าทางตม.ลืมอัพเดตข้อมูลว่าเรื่องของเรายังอยู่ในชั้นศาล แบบนี้เค้าก็ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรเราได้จนกว่าศาลจะตัดสินน่ะ เลยรอดตัวไป ตำรวจก็ขอโทษขอโพยใหญ่ที่ทำให้เราตกใจ ฮึมมม ไม่เอาเรื่องนะ แต่แอบโมโหอ่ะเพราะคนยิ่งจิตตกๆอยู่ช่วงนั้น

เมื่อก่อนอ้อมไม่ได้สดใสร่าเริงแบบนี้หรอกปุ่น energy ติดลบแล้วลบอีก แทบจะเป็นคนละคนกับตอนนี้

เล่าอดีตให้ฟังเฉยๆ ตอนนี้ก็อย่างที่ปุ่นเห็น หลั่นล้าๆ...

 

โดย: ~ Cerulean Blue ~ 8 พฤศจิกายน 2553 3:10:45 น.  

 

พิมพ์ตก *energy ถูกสูบฉีดออกจากร่าง ติดลบแล้วลบอีก

ปล.ลืมเล่าเรื่องนึงให้ฟัง วันนี้อ้อมกับแพทริคไปบ้านคนๆนึงที่แพทริคไปตกลงซื้อหนังสือคอมเก่าของเค้ามา โอววว มายก็อด เกิดมาอ้อมไม่เคยเห็นบ้านใครสกปรกโสโครกน่าขยะแขยงเท่าบ้านของคนๆนี้มาก่อน ปุ่นเคยเห็นรายการทีวีที่เค้าไปถ่ายบ้านที่โสโครกมากจากนั้นรายการก็ไปทำความสะอาดให้มั้ย ที่ทีวีฮอลแลนด์มันมีน่ะ ในทีวีเราก็ว่าแย่แล้ว แต่ที่เจอวันนี้ยิ่งแย่กว่าอีก ไม่ได้โอเวอร์แอคติ้งนะ แต่มันจริงๆล่ะปุ่น บ้านหลังนี้อยู่กันสองคนผัวเมีย แล้วเค้าเลี้ยงแมวสามสิบกว่าตัว หมาอีกห้าตัว นกแก้วตัวใหญ่อีกตัว บ้านมันเล็กเกินสำหรับสัตว์มากมายแบบนี้น่ะ แล้วไม่รู้เค้าทำความสะอาดบ้านครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ กลิ่นอึหมาอึแมว ฉี่หมาฉี่แมว คลุ้งไปหมด แถมข้าวของ อาหารแมว อาหารหมา วางรกรุงรังแทบไม่มีที่จะเดิน เค้าแต่งบ้านประหลาดอีกด้วยการเอาพรมลายเสือติดฝาผนังบ้านด้วย มันยิ่งหมักหมมสิ่งสกปรกเข้าไปอีก อ้อมแทบจะอ๊วกออกมาจริงๆนะ คอยสะกิดให้แพทริครีบๆเช็คหนังสือ รีบๆจ่ายเงินแล้วออกมา แต่ยิ่งรีบก็เหมือนยิ่งช้าเพราะหนังสือมันมีหลายเล่ม เจ้าของเค้าก็ไม่ได้เตรียมให้เราเรียบร้อยทั้งที่นัดกันล่วงหน้าแล้วอ่ะ เบ็ดเสร็จต้องติดอยู่ในบ้านหลังนั้นกว่าครึ่งชม.

ที่แย่สุดๆคือเราต้องคอยเก็บอาการ ต้องทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร เค้าคุยอะไรมาเราก็คุยตอบแบบยิ้มแย้มแจ่มใส คุยไปอ้อมก็สังเกตบ้านเค้าไป พื้นพรมเค้ามีรอยอุจจาระหมาแมวเต็มไปหมด และที่ทนไม่ได้สุดๆคือมันเหม็นมากๆๆ เกิดมาไม่เคยเจอ ฮือๆๆๆ แพทริคก็ไม่เสร็จซะที ทั้งๆที่อ้อมก็คอยสะกิดแล้วสะกิดอีกนะ เค้าถามด้วยว่าเราจะเอาเครื่องดื่มอะไรมั้ย เราก็รีบตอบไป No, thanks! พอสุดท้ายทุกอย่างเรียบร้อย เราออกมาจากบ้านหลังนั้น กลับเข้ามานั่งในรถ แพทริคบอกทันทีว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะติดต่อซื้อขายกับคนๆนี้แล้วล่ะ (เค้าคุยกันบ่อยๆผ่านเว็บเกี่ยวกับคอมน่ะ เคยเจอกันครั้งนึงไม่กี่เดือนก่อน แต่ตอนนั้นนัดกันที่ตลาดน่ะ ไม่เคยไปบ้านเค้ามาก่อน) อ้อมเลยถามกลับไปว่าแล้วที่อยู่ซะนานนี่ไม่รู้สึกอะไรเหรอ แพทริคบอกทำไมจะไม่รู้สึก โคตรจะช็อค แต่ทำไงได้ล่ะ มันอยากได้หนังสืออ่ะ

จากนั้นเราก็พูดกันมาตลอดทางว่าตั้งแต่นี้ไปเราจะคำนึงถึงความสะอาดของบ้าน เราจะเห็นความสำคัญของบ้านที่สะอาดว่ามันเป็นยังไง แต่ปุ่นรู้ป่าว ถึงตอนนี้กลิ่นและภาพมันยังติืดตาติดจมูกอยู่เลย คงอีกนานกว่าจะลืมอ่ะ สยองเหมือนกันนะนี่ จริงๆเค้าสองคนคงจะเป็นคนดีคนนึง แต่การที่เค้าอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนี้ มันก็เป็นการยากที่เราจะสานต่อความสัมพันธ์นะปุ่นว่ามั้ย สมมติถ้ายังติืดต่อกันไปแล้ววันนึงเค้าชวนไปดื่มกาแฟหรือกินข้าวบ้านเค้าล่ะ โอยย ทำไงทีนี้ แค่คิดก็สยองแล้วอ่ะ จริงๆบ้านอ้อมก็ไม่ใช่สะอาดสะอ้านทุกตารางนิ้วนะ แถมรกด้วยเพราะเรายังทำอะไรไม่เสร็จใช่มั้ย แต่คือหลังจากเหตุการณ์วันนี้อ้อมว่าจะพยายามไม่ให้บ้านตัวเองรกแล้วล่ะ บางทีไปบ้านพ่อแม่แพทริค แม่แพทริคจะเป็นคนที่สะอาดมากกกกกกกก วันๆนึงไม่รู้เก็บกวาดกี่รอบ พวกเราก็จะชอบล้อแม่ว่าจะอะไรนักหนา แต่ตั้งแต่นี้ไปจะไม่ล้อแล้วล่ะ สะอาดไว้เป็นดีที่สุดเนออออะ ฮี่ๆๆ

ลืมตัว คุยยาวอีกแล้ว

 

โดย: ~ Cerulean Blue ~ 8 พฤศจิกายน 2553 4:07:16 น.  

 

แวะมาทักทายคุณปุ่นค่ะ
สงสัยกำลังยุ่งกับเรื่องบ้านอยู่รึป่าว
ขอให้ช่างซ่อมทั้งหลาย ทำงานกันเสร็จเรียบร้อย รวดเร็วนะคะ

 

โดย: diamondsky 10 พฤศจิกายน 2553 17:05:33 น.  

 

แย่เลยนะจ๊ะแบบนี้

 

โดย: ข้ามขอบฟ้า 12 พฤศจิกายน 2553 3:20:33 น.  

 

ฮ่า ฮ่า เข้ามาขำก่อน ป้าว่าตอนปุ่นเจอเนี่ย ปุ่นคงขำไม่ออก แต่พอมันผ่านมาแล้ว คงขำกลิ้งเลยเนอะ กับเหตุการณ์ทั้งสองอย่าง

เรื่องของเสียเนี่ย พอมาอยู่ประเทศเจริญ ๆ เมืองใหญ่ ๆ ที่ค่าแรงแพงเป็ดแบบนี้ กลายเป็นว่าเราต้องเพิ่มขยะเทคโนโลยีให้โลกโดยไม่จำเป็น

อย่างป้าเนี่ย เมื่อต้นปีตอนออกมาทำงานที่บ้าน ได้งานแปลมา แล้วต้องใช้เครื่องปริ้นท์ ลองปริ้นท์กับเครื่องที่ซื้อและหอบหิ้วมาจากภูเก็ต ปรากฎว่าปริ้นท์ไม่ได้ เปลี่ยนตลับหมึกก็แล้ว อะไรก็แล้ว ก็ยังปริ้นท์ไม่ได้ ตั้งใจจะยกไปซ่อม

แต่พอรู้ค่าซ่อมว่ามันสามร้อยเหรียญ เลยเปลี่ยนใจซื้อเครื่องพริ้นท์เตอร์ใหม่หกร้อยกว่าเหรียญดีกว่า ถ้าอยู่เมืองไทยรึ

 

โดย: Oops! a daisy 12 พฤศจิกายน 2553 10:14:47 น.  

 

น้ำใจมันหายากเนอะ ยิ่งต่างบ้าน ต่างเมือง คนละภาษาอีก

ถึงได้รักเมืองไทย สุดใจขนาดนี้

แต่เรื่องติดต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ คิดว่าที่ไหนก็เหมือนกันนะคะ

ติดต่อยาก ตลอดๆ

 

โดย: Azizan 12 พฤศจิกายน 2553 11:32:47 น.  

 

หวัดดีค่ะคุณปุ่น
เอิงแวะมาชวนไปชิมพาสต้าที่บล็อกนะคะ
มัวแต่เรียนหัวฟูอยู่หลายวัน ขอทำอาหารหน่อย
เมนูอิตาเลี่ยน แต่ไม่เลี่ยนค่ะ อิอิอิอิอิอิอิ

 

โดย: diamondsky 12 พฤศจิกายน 2553 20:59:18 น.  

 

ยุ่งล่ะสิเธอ

แวะมาบอกว่า โจชัวขยับไซส์เสื้อผ้าแล้วเด้อ มี 62-68 ไว้ให้ลูกปุ่นอีกแล้ว

 

โดย: asita 13 พฤศจิกายน 2553 3:02:07 น.  

 

หวัดดีค่ะคุณปุ่น
มิว่างมิเป็นไรค่ะ มีเวลาค่อยมาทักทายกันได้
เพสโต้ทานง่ายดี บางครั้งขี้เกียจทำก็เดินไปซื้อในซุปเปอร์ค่ะ อิอิอิอิ
เห็นบล็อกคุณปุ่นแล้วคิดถึงอาหารไทยขึ้นมาตะหงิดๆๆๆ
อยากไปซื้อครกมาบ้างน่ะค่ะ มีแต่ครกไม้ใหญ่
อยากได้ครกหินเล็กๆ ไม่หนักมากแบบคุณปุ่นเคยเอามาลง
สงกะสัยพรุ่งต้องไปเดินไชน่าทาวหน่อยแล้ว
อากาศเริ่มหนาว รักษาสุขภาพด้วยนะค้า

 

โดย: diamondsky 15 พฤศจิกายน 2553 0:52:29 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Bananarumba
Location :
โคโลญจ์ Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




จากเชียงราย ผ่านเชียงใหม่ ไปกรุงเทพ ปัจจุบันลงตัวอยู่ที่โคโลญจ์ มีความสุขดีเหมือนเป็นบ้านที่สอง
ผ่านชีวิตมาเกือบครึ่งคนแล้ว เขียนบล้อกมาหลายปี จากตอนแรกที่อยากเขียนเพราะต้องการแบ่งปันและอยากมีเพื่อน ตอนนี้จุดหมายในการเขียนเปลี่ยนไปเป็น เขียนเพราะใจอยากเขียน รู้สึกรักภาษาไทยเหมือนเป็นนางงามมิตรภาพ
กิจการปิ่นโตดำเนินไปด้วยดีค่ะ ขอขอบคุณที่สนใจคลิกเข้าไปดูเว็บไซด์นะคะ
Friends' blogs
[Add Bananarumba's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.