Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
23 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
กลิ่นที่คิดถึง



          ช่วงนี้นับว่าเป็นฤดูร้อนของที่นี่ แต่อากาศเมืองโคโลญจ์ก็อย่างว่า วันอากาศดี ฟ้าใส แดดร้อน มันช่างหาได้ยากยิ่ง แถมวันดีคืนดีมีหนาวมาอีกต่างหาก วันไหนได้ใส่อะไรบางเบาแบบที่เมืองไทย วันนั้นนับเป็นวันดีอย่างยิ่งสำหรับปุ่น  ด้วยความอารมณ์ดีปุ่นดันไปแปะในเอ็ม ว่า Summer Dress สาวไคลี่ที่ฮ่องกง เข้ามาหัวเราะ (เยาะ) เรื่องนี้โดยเฉพาะ  ยังมีหน้ามาถามด้วยนะว่าทำไมต้องเป็นซัมเมอร์เดรส โถ คุณไขลี่ คงไม่เข้าใจว่าความหนาวเหน็บอันนานแสนนานมันทำให้เรารอคอยฤดูร้อนที่สวยงามอย่างทรมานขนาดไหน  ไขลี่ไม่เข้าใจปุ่นไม่ว่า ทำไมต้องเข้ามาหัวเราะเยาะกันโดยเฉพาะก็ไม่รู้


          ฤดูร้อนนี้ วันไหนวันแดดดี ชาวเยอรมันจะออกมาปิ้งมาย่างกันเต็มสวนสาธารณะเต็มไปหมด ออกไปข้างนอกก็จะได้กลิ่นเนื้อปิ้ง ไหม้บ้าง เพราะบางคนไม่รับผิดชอบ เอาไปทิ้งถังขยะทั้ง ๆ ที่ยังไม่ดับไฟ ใครว่าฝรั่งมีวัฒนธรรม เห็นจะไม่ใช่ทุกคน แถมตอนเช้าพอไปเดินเล่นที่สวนเดิม ขยะเกลื่อน ขวดเบียร์แตกมีให้เห็นกันทั่วไป  บวกด้วยบอลโลก วันไหนทีมเยอรมันเตะ คนที่นี่จะเอาธงออกมาโบก บ้างก็เอาเป็นถุงผ้ายืดมาสวมกระจกรถบ้าง ผับเต็มไปด้วยแฟนบอล แล้วดีจังเลย ที่ไม่ต้องนอนดึกรอดูบอลเหมือนตอนอยู่เมืองไทย


หน้าร้อนเนี่ยแหละ มันจะได้กลิ่นโน่นกลิ่นนี่ลอยตามลม แต่กลิ่นที่ปุ่นคิดถึงที่สุด คือ


กลิ่นดินหลังฝน บ้านเราฝนตกแรง ถนนดินแห้ง ๆ เวลาโดนฝนใหม่ ๆ มันช่างหอมชื่นใจ


กลิ่นพริกแห้งอังไฟ ที่บ้านเชียงราย จะมีอาหารหลาย ๆ อย่างที่ต้องใช้พริกแห้งอังไฟ ที่บ้านเรียก พริกแอน เอาพริกมาแอนไฟ แล้วจะได้กลิ่นหอม ๆ วันก่อนปุ่นเกิดอยากกินต๋ำบ่าม่วง ตำมะม่วงแบบทางเหนือ เลยต้องใช้พริกแห้งอังไฟ หอม ๆ กับปลากระดี่กรอบปิ้งไฟแกะก้างออก ตำรวมกับพริกแห้ง หอม กระเทียม เกลือ ปุ่นแอบใส่ข่าคั่วลงไปนิดนึง หอมชื่นใจ ตำกับมะม่วงสับหอมแดง แซ่บลืมโลกไปเลย


กลิ่นมะเขือเผา เอ่อ อย่าคิดลึกนะคะ มะเขือเผานี้เป็นส่วนประกอบสำคัญของอาหารเหนือชนิดหนึ่ง ชื่อต๋ำบ่าเขือ วันก่อนเห็นอ้อม Cerulean Blue  เล่าให้ฟังว่า ต๋ำบ่าเขือ ปุ่นก็คิดถึงกลิ่นนี้เลย มะเขือยาวเขียว ๆ เผาเตาถ่าน พริกหนุ่ม หอม กระเทียมเผาทำน้ำพริกหนุ่มแล้วเอามะเขือยาวลอกเปลือก ตำลงไป กินกับไข่ต้ม ข้าวเหนียวร้อน ๆ ถึงไหนถึงกัน


กลิ่นข้าวหลาม ตอนฤดูข้าวใหม่ปลายหน้าหนาวหรือไงเนี่ยแหละ พ่อจะเอาข้าวใหม่ กับกระบอกข้าวหลามไม้ไผ่มาให้พวกเราทำข้าวหลามด้วยตัวเอง  วิธีทำก็กรอกข้าวเหนียวลงไปในกระบอก  ใส่น้ำลงไปแช่ไว้ข้ามคืน ตอนเผาต้องปิดปลายกระบอกด้วยใบตองหรือกาบมะพร้าว ตอนตีสี่ตีห้า พ่อปลุกพวกเราขึ้นมาก่อกองไฟหน้าบ้านเพื่อเผาข้าวหลามกันสุกแล้วเราก็ต้องใช้มีดอีโต้แบบเหนือ ๆ ค่อย ๆ จักเปลือกกระบอกข้าวหลามออก จนเหลือแต่ที่ติดข้าวบาง ๆ ถ้าอยากหรูหราหน่อยก็ใส่กะทิลงไป กลิ่นข้าวเหนียวใหม่ ๆ ที่มันติดไม้ไผ่ มันหอมอย่าบอกใคร


กลิ่นปลาแอบ ป๋าแอ๊บ คือปลาเล็กปลาน้อยเอามาผสมกับเครื่องแกง มีพริก ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม เกลือ ใบมะกรูด ห่อใส่ใบตองปิ้ง จิ้มข้าวเหนียวอีกแล้ว แซ่บ


กลิ่นไส้เพี้ยจี่ แปลกไหม มันคืออะไร ทางเหนือบ้านปุ่นจะกินเนื้อควายกัน ตอนที่ล้มควายนั้น อวัยวะทุกส่วนจะถูกนำมากิน ไส้เพี้ยนั้นคือไส้อ่อน ผู้ชายทางเหนือก็จะลาบกัน เพราะได้เนื้อสด ๆ เลือดสด ๆ มา ฟังดูอาจจะสยดสยองนิดนึงแต่ว่ามันเป็นของที่คนท้องถิ่นเขากินกัน สมัยก่อนจะมีสาม ลอ ลาบ หลู้ เหล้า ลาบก็เป็นเนื้อสดสับกับเลือด ใส่พริกลาบที่มีส่วนผสมหลายอย่าง ที่สำคัญคือมะแขว่น เป็นสมุนไพรที่ได้รับอิทธิพลมาจากทางจีน บ้างก็เรียกพริกหอม ผู้หญิงกับเด็กจะกินแบบลาบคั่ว คือฮาร์ดคอร์น้อยหน่อย เอามาผัดให้สุก อร่อยไม่แพ้กัน ที่สำคัญจะมีเครื่องในต้มมาด้วย จำได้ว่าพ่อปุ่นจะขยักไส้อ่อนไว้นิดนึง เอาไว้ปิ้งกับเตาถ่าน ไส้ปิ้งแล้วหดนิดเดียว แหม อร่อยอย่าบอกใคร ผู้ใหญ่สมัยก่อนมีหวง ไม่ให้เด็กกิน อ้างว่ากินแล้วจะโง่หรืออะไรซักอย่าง หลู้นี่ ปุ่นก็ไม่เคยกิน เค้าจะเอาเลือดสด ๆ มาคั้นกับใบตะไคร้และไข่ไก่ ใส่เครื่องมากมายที่เรียกว่า หมี่ ประกอบด้วย เครื่องในทอดกรอบ หอมเจียว กระเทียมเจียว ตะไคร้เจียว และเครื่องพริกตำ สมัยก่อนต้องเป็นโอกาสพิเศษเท่านั้นถึงจะได้ล้มควายกัน ไม่เหมือนสมัยนี้


กลิ่นต้นกล้วย ตอนเป็นเด็ก ที่บ้านมีต้นกล้วย พอเปลือกต้นกล้วยแห้ง ปุ่นก็มักจะไปลอกออก เห็นเปลือกข้างในเขียว ๆ ขาว ๆ ตอนไหนต้นกล้วยขึ้นเยอะเกิน แม่จะล้มต้นกล้วย เอาหยวกกล้วยมาแกงกิน กลิ่นหยวกสด ๆ นี้แหละ ที่ปุ่นยังจำได้ แต่ไม่ได้กลิ่นมานานแล้ว


และยังมีกลิ่นอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ปุ่นคิดถึง ส่วนใหญ่จะเป็นกลิ่นอาหาร คงเป็นเพราะชีวิตปุ่นผูกพันกับครัวมานานแล้วนี่เอง


สวัสดีค่ะ






Free TextEditor




Create Date : 23 มิถุนายน 2553
Last Update : 23 มิถุนายน 2553 21:00:18 น. 18 comments
Counter : 608 Pageviews.

 
ตอนนี้ทรายอยู่เดวอนทาง south west ของอังกฤษค่ะ ... ใกล้กับทะเลแค่ 10 นาทีทีเท่านั้น แต่ละวันเลยได้กลิ่นทะเล แต่ที่สำคัญทำงานในครัวกลิ่นอาหารที่ติดมาทุกวันนน - -!!


โดย: เกรซายน์ วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:5:12:31 น.  

 
เอากลิ่นดินหลังฝนมาฝากค่ะ ฝนเพิ่งตกเมื่อวานชุ่มฉ่ำ อากาศบรรเทาร้อนไปได้มากๆ เลยค่ะ


โดย: kim_tiger วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:8:02:55 น.  

 
ชอบกลิ่นไอดินหลังฝนเหมือนกันเลยค่ะ สมัยพี่เด็ก ๆ ก็จะถือกระป๋องคนละใบออกไปวิ่งไล่จับปลา ปู หลังฝนตกใหม่ ๆ จับกันมาเต็มกระป๋องเลย เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว เพราะมันไม่มีทุ่งนา ทุ่งหญ้าแล้ว มีแต่ถนนคอนกรีตปลาที่ไหนจะแถกเหงือกมาบนถนนเนี่ย หุ หุ


โดย: Jujastar วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:8:21:06 น.  

 
แม่เจ้า บล็อกปุ่นฮ็อตเฟร้ย กะจะมาเจิมนะเนี่ย แป่ว....ปาเข้าไปสามเม้นท์แหล่ว

กร๊ากกับแม่นางไขลี่ แหม...ผวนซะจู๊ด จู๊ดเลยนะ

ฟ้อนท์ปุ่นตัวเล็กมากอ่ะ ว่าจะทักตั้งแต่บล็อกที่แล้วและ เห็นเค้าเม้นท์กันได้ ไม่โวยวาย เลยแน่่ใจว่าเราเป็นคนเดียว ปุ่นใช้ Mozilla Firefox หรือเปล่าอ่ะ

บล็อกนี้น่าสนใจมาก สารพัดกลิ่นที่เป็นตัวแทนของความทรงจำแสนหวาน ความสุขในกาลครั้งนั้น ที่ขำคือ ปุ่นจะเน้นกลิ่นอาหารเป็นพิเศษเนอะ มีเยอะกว่าพวกเลย อิอิ

ของป้าก็จะมีกลิ่นของความทรงจำแสนสุขอยู่เหมือนกัน ขอเล่านะ....

ป้าเป็นคนติดน้ำหอมมาก น้ำหอมกลิ่น Signature คือ Pleasures ของ Estee Lauder ถึงแม้ว่ามันจะขายดิบขายดี จนปัจจุบันแตกหน่อ แตกลูกแตกหลานในตระำำกูลเดียวกันอีกหลายตัว ลองซื้อมาใช้ก็ถูกใจอยู่ไม่น้อย

นอกจากนี้ป้ายังปันใจให้ยี่ห้ออื่นอยู่หลายครั้ง คือพอหมด ก็ลองซื้อยี่ห้ออื่นมามั่งอะไรเงี้ย แต่ก็กลับมาตายรังกับน้ำพริกถ้วยเก่าทุกครั้ง

เวิ่นเว้อมานาน จะเข้าเรื่องว่า....ด้วยความที่ย้ายบ้าน แล้วก็ได้ไปนั่น ไปนี่บ่อย ๆ บางครั้งเอาน้ำหอมขวดนึงมาฉีด แล้วมันทำให้เรานึกถึงว่า กลิ่นนี้เราเคยใช้ตอนอยู่ที่นั่น (แล้วมีความสุข) หรือกลิ่นนี่เราเคยใช้ตอนทำไอ้นี่ อะไรเงี้ยอ่ะปุ่น

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าความทรงจำมันมีกลิ่นเนอะ


โดย: Oops! a daisy วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:10:01:11 น.  

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:11:43:01 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณปุ่น

พอเห็นคุณปุ่นบรรยายเรื่องกลิ่นแล้วก็มานั่งนึกกลิ่นตามเลยค่ะ บางกลิ่นเราไม่รู้จักก็มาคิดตามตามที่คุนปุ่นเขียนเลยค่ะ ฮ่าๆ.....มานั่งนึกไปนึกมาทำให้นึกถึงบ้านจังเลย...กลิ่นไอดินหลังฝนตก......กลิ่นดอกราตรี....กลิ่นดอกไม้ป่า....กลิ่นต้นข้าวและเกษรจากท้องทุ่ง..... กลิ่นโคลนสาบควาย(กลิ่นจริงๆ ค่ะ)....มันทำให้สงบอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ

สำหรับคนที่ไม่เข้าใจความแฮปปี้ของเราเมื่อถึงซัมเมอร์ก็อย่าได้แคร์สื่อค่ะคุณปุ่น ถ้าเค้าอยู่เมืองหนาวแล้วเค้าจะรู้ซึ้ง ตุ๊กตาชอบค่ะหน้าร้อน ชอบแม็กซี่เดรส ชอบดอกไม้ ชอบอะไรที่เป็นฟลอรัลสไตล์เก๋ๆ แม้เราจะออกเถื่อนก็ตาม ฮ่าๆ ก็ผู้หญิงนี่โนะ


โดย: Thairabian วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:13:27:23 น.  

 
ตามมาอย่างว่อง ฮ่าๆ

คุณปุ่นขาถ้าคุณปุ่นธุรกิจไปได้ดีหนีมาเปิดที่เซี่ยงไฮ้ด้วยเลยนะคะแม่บ้านเอ็กซ์แพทและพวกจีนไฮคลาสแถวนี้กำลังรุ่งเลยค่ะ อยากให้มามากๆ เวิร์คช็อปเริ่ดๆ แบบนี้ขยายให้เป็นธุรกิจใหญ่ๆ เลยค่ะ ตอนนี้ตุ๊กตาพยายามศึกษาเรื่องอิมพอร์ตเอ็กซืพอร์ตอยู่มีแพลนทำอะไรนิดๆ โหน่ยหาตังค์ค่าแม็กซี่และค่าเครื่องบินไปยุโรปและหาคุณปุ่นถ้ามีโอกาสคร่า ฮ่าๆ (ฝันอันยาวนานซะละทีนี้ อิอิ)

ส่วนช่างน่ะเค้าตัดให้คุรปุ่นแล้วเค้านำโชคมาให้ก็เอาเลยค่ะถือว่าเป็นทุกขลาภโนะ อิอิ ผมยาวได้แต่ชื่อเสียงและความไว้วางใจมันหายไปแล้วหายไปเลย

ส่วนลูกหยังเหม่ยน่ะคุณปุ่นมีโอกาสแวะมาจีนอีกทีหน้าร้อนค่อยลองก็ได้ค่ะลองลูกเรดเบอร์รี่ไปก่อนก็ได้ค่ะ สตอร์บอรี่ก็โอเคแต่คนละกลิ่นเท่านั้นเอง


โดย: Thairabian วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:15:47:57 น.  

 
หวัดดียามเย็นแถวบ้านพลจ้าปุ่น

้ก่อนอื่นขอตกใจเล็กน้อยถึงปานกลางก่อนเลยนะ ว่าทำไมบล็อกนี้ ตัวหนังสือมันเล็กนักอะปุ่น เล็กมาก ๆ เมื่อก่อนก็ไม่เล็กอย่างนี้นะ หรือว่าพลจะอายุมากไปหน่อยเนี่ย

หายตกใจแล้วก็มาเม้าท์เรื่องกลิ่น ๆ กัน ที่ติดใจอยากจะดมตามด้วยนี่ ก็มีกลิ่นดินหลังฝน จำได้แม่นเลยว่ามีครูอยู่คน (ที่ตอนนี้ก็ยังติดต่อรักใคร่กันดีอยู่) พลกับเธอเนี่ยเป็นคนชอบดมกลิ่นดินหลังฝนตกเหมือนกัน แล้วครูคนนี้เธอจะเป็นคนตลกไง เธอว่า แกกับฉันเนี่ย ชอบดมกลิ่นดินหลังฝนเหมือนกัน สงสัยว่าชาติก่อน แกกะฉันคงเคยเป็นวัวเป็นควายแหง ๆ เลย ฟังแล้วก๊ากเลยอะตอนนั้น คิด ๆ ไป เออท่าจะจริง เมื่อสองอาทิตย์ี่แล้วมั้ง เพื่อนคนฝรั่งเศสชวนไปกินข้าวที่บ้านเค้า แล้วฝนมันก็ค่อย ๆ หยดแหมะ ๆ ลงมา ได้กินดินอะ นึกถึงบ้านเลย

กลิ่นต่อมาก็กลิ่นข้าวหลามนี่แหละ เป็นอะไรที่ได้อ่านปุ๊บน้ำลายไหลปั๊บ อยากกินขึ้นมาทันทีทันใดเลยปุ่น ไม่ได้กินนานแล้ว กลับไปเมืองไทยคราวที่แล้วก็ได้กินไม่กี่ครั้ง นาน ๆ กลับบ้านที โน่นก็อยากกิน นี่ก็อยากกิน เลยกินได้แค่ไม่เท่าไร แล้วข้าวเหนีียวกะพลเนี่ยนะ เป็นอะไรไม่รู้ คือถ้าให้กินข้าวเหนียวส้มตำ ไก่ย่าง หมูย่างเนี่ย เด็ด ๆ ไม่กินเลยนะ แต่ถ้าข้าวเหนียวแปลรูปมาเมื่อไร เรียบไม่มีเหลือ ข้าวเหนียวมูนกินเปล่า ๆ ก็ยังได้อะ เดี๋ยวอีกหน่อยต้องฮึดทำข้าวเหนียวมูนกินเองสักวันอะ ปีที่แล้วเคยลองทีแล้ว ผลนะหรอ แหลกไม่ล่าย ใส่กะทิเยอะเกิน เละสะไม่มี

ส่วนกลิ่นอื่น ๆ ก็เคยได้กลิ่นบ้างไม่ได้กลิ่นบ้าง แต่ที่ได้อ่านแล้วอยากกิน เอ๊ยอยากได้กลิ่นอีกที ก็มะเขือยาวเผานะแหละ อยากกิ๊นอยากกิน อะไร ๆ ก็อยากกินไปหมดเลย


โดย: พล (aoigata ) วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:17:53:47 น.  

 
หวัดดีอีกทีจ้าปุ่น

กลับบ้านมาแล้ว ลองมาเปิดบล็อกปุ่นด้วยเว็บบราวเซอร์ Mozilla Firefox ก็ยังเห็นฟ้อนท์ตัวเล็กเหมือนเดิม เป็นตั้งแต่บล็อกที่แล้วอ่ะปุ่น ปุ่นลองเ็ช็คดูนะ ว่าแก้ไขอะไรได้มั่ง ปุ่นไปใส่โค๊ดใหม่ไว้หรือไร

เห็นเม้นท์ปุ่นว่าคิดถึงแล้วดีใจ มันมีอะไรก็ไม่รู้วิบวับขึ้นในหัวใจมาวูบนึง แต้งกิ้วนะ คิดถึง อยากเม้าท์กะปุ่นอยู่เหมือนกัน

ไว้เสาร์-อาทิตย์นี้ ป้าว่าง ๆ จะไปเม้า์ท์ที่หลังไมค์เนอะ มีเรื่องเม้าท์เยอะมาก


โดย: Oops! a daisy วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:19:26:23 น.  

 
อ่านปุ่นเขียนแรกๆ เห็นด้วยเลย ตอนไปโคโลญจ์แรกเหมือนต้าไปจากบ้านนอกเลยอ่ะ 555 แบบมันเป็นเมืองจริงๆ คนเยอะๆ นักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ ต่างบ้าน ต่างเมือง มันเลยแปลกๆ ไม่รู้สิ ตอนได้กลิ่นเมืองแล้วมันแปลกไป มีขยะ มีขวดเบียร์ มันไม่เหมือนที่ OB แถบที่ต้าอยู่อ่ะ ไปครั้งแรกตกใจเลย แต่ก็ชอบโคโลญจ์นะ



โดย: asita วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:3:57:53 น.  

 


โดย: blog..ชั้นเอง วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:17:29:51 น.  

 
ใช่แล้วล่ะช่วงนี้อากาศดีเนอะ (แต่แอบร้อนนิดๆแฮะ แดดแรงอ่ะแถวบ้านอ้อม) กินบาร์บีคิวช่วงนี้ก็เข้ากันดีกับบรรยากาศเชียร์บอลโลกช่วงนี้มากๆ นี่เดี๋ยวหลังเลิกงานแพทริคจะแวะมารับอ้อมแล้วจะไปเชียร์บอลกันที่บ้านพ่อแม่น่ะ อ้อมเองไม่ได้ตั้งใจดูแบบพวกผู้ชายหรอกจ้ะ ก็ไปทำอย่างอื่นน่ะ ถ้าฮอลแลนด์ยิงประตูได้ก็จะรีบวิ่งมาดีใจกับพวกเค้า จากนั้นก็กลับไปทำอะไรของอ้อมต่อ เอิ๊กๆๆ

เห็นปุ่นเขียนเรื่องกลิ่นๆพวกนี้ก็ทำให้หิวขึ้นมาเลย ชอบที่ปุ่นบรรยายลาบเลือด ฮะๆๆ นั่นของโปรดพ่ออ้อมเลยนะเนี่ย แต่อ้อมกินไม่ได้ล่ะ คือไม่เคยกินเลย ไม่คิดลองด้วย กลัวพยาธิอ่ะ เวลาอยากกินลาบก็กินแบบลาบคั่ว กินกับยอดผักคำใต้(กระถิน) แล้วก็ถั่วฝักยาวดิบ ลำขนาดเน้ออออ

วันนี้อ้อมว่าจะทำต๋ำบะเขืออีกแล้ว พอดีบะเขือที่เหลือมันใกล้จะเหี่ยวคาตู้เย็น เลยต้องเอามาตำกินอีกมื้อ อิอิ เวลาอ้อมทำอ้อมไม่ทำแบบเคี่ยวปลาร้านะปุ่น อ้อมแค่เอาปลาร้า(สับ)ธรรมดาๆแล้วเอายัดใส่ไมโครเวฟให้มันสุกแค่นั้นเอง จริงๆสูตรที่แม่อ้อมทำเค้าต้องเอาหมกใบตองด้วย แต่มาอยู่แบบนี้ก็ดัดแปลงเอาเนอะ มะเขือยาวกับพริกหนุ่มอ้อมเอาเผาบนเตาแก๊สเลยอ่ะ เผาโดยตรงแบบนี้ไม่รู้มันถูกต้องตามหลักสุขลักษณะหรือเปล่านะเนี่ย แต่ช่างมันเถอะเนอะ นานๆกินที อิอิ ตอนนี้อยากกิ๋นของกิ๋นเมืองหลายอย่างมาก ลาบปลาดุกก็อยากกิน แก๋งโฮะก็อยากกิน อ้อมเองจะว่าไปถนัดทำอาหารเหนือมากกว่าอาหารภาคกลางล่ะปุ่น แกงฮังเลอะไรพวกนี้ก็ทำได้หมดนะ (ผงฮังเลแม่ส่งมาจากไทยให้น่ะ) เวลาทำก็ทำแบบที่แม่เคยทำให้กิน ปรุงรสชาติอย่างที่เคยคุ้นปากน่ะ

กลับไปอ่านที่ปุ่นไปเม้นท์ไว้ที่บล็อกอ้อม...

อ้อมชอบที่ปุ่นบอกว่า "ทุกคนมีหนทางของตัวเอง บางทีการที่จะเอาวิธีของคนอื่นไปใช้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้ผลเหมือนกัน" อ้อมเองก็คิดแบบนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องเรียนภาษา แต่รวมไปถึงเรื่องอื่นๆในชีวิตด้วยน่ะ ปุ่นรู้ไหม เวลามีปัญหาอ้อมไม่ค่อยที่จะไปปรึกษาใครเท่าไหร่ (ถ้าไม่นับแพทริคอ่ะนะ) พูดแบบนี้คนจะหาว่าอีโก้สูงแน่ๆเลย แต่ไม่ใช่หรอก คือจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ผ่านมาเวลามีปัญหาแล้วอยากได้คำแนะนำ อ้อมว่า 99% ของคำแนะนำที่คนอื่นให้มาเราเอามาใช้กับตัวเราไม่ค่อยจะได้อ่ะ คือเรารู้ตัวเราเองดีไง อ้อมเลยตัดปัญหาด้วยการพยายามจัดการและฝ่าฟันอุปสรรคด้วยตัวเอง อีกอย่างคืออ้อมไม่ใช่คนที่ฟูมฟายกับอะไรง่ายๆหรือต้องการคนอื่นอยู่ตลอดด้วยล่ะ มันเลยช่วยได้เยอะเวลาจะตั้งสติและไม่ว่อกแว่กเวลาต้องการแก้ไขปัญหาอะไรซักอย่าง

พูดจาออกแนวจริงจังอีกแล้วแฮะ เดี๋ยวต้องไปแต่งตัวไปข้างนอกแล้วล่ะจ้ะ ไว้คุยกันใหม่เน้ออออ


โดย: ~ Cerulean Blue ~ วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:23:32:16 น.  

 

มาขอบคุณที่โหวตให้นะคะ Smiley


ในกิจกรรม " Dinner For Two " Smiley


นำภาพมาฝากค่ะ จากหัวหิน Smiley


 




โดย: Pastel pied วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:17:42:59 น.  


 
ที่ร๊ากกก

จะมาเม้าท์ให้ฟังว่า คุณพ่อบ้านกับคุณลูกบ้านปิดเทอม ไปลั้นลาที่ภูเก็ตสามอาทิตย์ ปล่อยแม่มันเฝ้าเกาะอยู่คนเดียว

แม่มันเลยคิดการณ์ใหญ่ เสาร์-อาทิตย์นี้อยากลองทำกระทงทองเล่นดูจังเลย ซื้อพิมพ์มานอนรอซะหลายเดือนแล้ว แต่ป้าไม่ชอบไส้ที่เค้าทำ ๆ กันเลยอ่ะ จะทำไส้อะไรดีน้า ปุ่นว่าไส้ลาบจะเข้าท่ามั้ยอ่ะ หรือว่าไส้ไชโป๊สับแบบสาคูไส้หมูดีหว่า


โดย: Oops! a daisy วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:20:56:00 น.  

 
หนูปุ่น.... พี่โตสพิมพ์คุยไปตั้งเยอะแล้ว.. แต่.. จู่ๆ หน้าบล๊อกปุ่นมันก็ปิดวูบบบบ....ไปเองเฉยเลย .. นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลเลยนะที่ทำให้พี่โตสเบื่อบล๊อก.. พี่โตสไม่ค่อยชอบพิมพ์ที่อื่นก่อนด้วยสิ.. แบบว่าพี่ติดคุยไปใส่อีโมไปอ่ะปุ่น ไม่งั้นมันคุยไม่เพลิดเพลิน

ขอเวลาพี่โตสทำใจหน่อยนึงนะ.. เดี๋ยวจะกลับมาอ่าน (ให้จบ) มาคุยใหม่นะปุ่นนะ.. สัญญา

ว่าแต่ว่า.. งานเลี้ยงวันนี้จบหรือยังเนี่ย.. ตอนนี้ที่เยอรมันน่าจะเย็นแล้วนะ.. ผ่านไปด้วยดีใช่ไม๊หนูปุ่น.. เหนื่อยมากมั๊ย.. เทคแคร์.. เทคแคร์ตัวเองเยอะๆ เน้อ

ปล. ช่วงนี้พี่โตสติดเกมงอมแงมที่ face book ล่ะ.. ครั้งแรกในชีวิตเลยนะเนี่ยที่พี่โตสติดเกม


โดย: Chini วันที่: 26 มิถุนายน 2553 เวลา:1:11:18 น.  

 
กลับมาใหม่แระ.. ต้องรีบกลับมาก่อนที่จะลืมไปหมดว่าคุยอะไรไปบ้างในเม้นท์ที่หายไป

คุณไข่ลี่เนี่ย.. ดูท่าทางเธอจะเป็นคนที่... โลกแคบพอสมควรเลยนะ ถ้าเธอเป็นเพื่อนกับปุ่น ปุ่นน่าจะช่วยแนะนำให้เค้าคิดแบบคนที่มีโลกทัศน์กว้างๆ หน่อยน่าจะดีนะพี่โตสว่า

พี่โตสมีเพื่อนอยู่คนนึงอยู่ที่เมืองหนาวอย่างฟินแลนด์.. ซึ่งอากาศที่นั่นก็น่าจะเป็นอะไรประมาณที่โคโลญจ์ล่ะมั้งเนอะ (แต่พี่โตสเดาว่าที่ฟินแลนด์น่าจะแย่กว่าที่โคโลญจ์) และเพื่อนมันก็บอกพี่โตสเหมือนกันล่ะว่าในวันที่อากาศอุ่นๆ มีแดดดีๆ ทีไร คนที่นั่นเค้าก็จะเป็นอะไรที่แฮ๊ปปี้กันออกหน้าออกตาเลยทีเดียว

ส่วนตัวพี่โตสเองก็บ่อยๆ เลยนะ (แต่ไหนแต่ไรแล้วด้วย) กับวันที่อากาศมันร้อนโคตรๆ แบบทำให้จิตหงุมหงิมไปเลย.. พี่ก็จะพยายามคิดถึงคนที่เค้าอยู่ในเมืองหนาวหดหู่หดหู่เกือบทั้งปีทั้งชาติ.. แต่..... ก็ไม่เคยเวิร์คซักที.. คิดถึงคนเมืองหนาวแล้ว แต่จิตก็ยังหงุมหงิมอยุ่ดี

พอเห็นปุ่นพูดถึงกลิ่นดินแล้วก็คิดถึงบ้านตาที่กาญจนบุรีขึ้นมาทันทีเลยล่ะ
แม่พี่โตสเคยเล่าให้ฟังว่า.. ตอนที่พี่ยังเป็นเบบี๋อยู่ ครั้งนึงที่แม่ไปบ้านตา (และก็แน่นอนที่แบกพี่โตสไปด้วย) แล้วบ้านตาตอนนั้นเป็นบ้านยกสูงเหมือนกับบ้านในต่างจังหวัดส่วนใหญ่ในสมัยก่อน แล้ววันนึง.. ไม่รู้อีท่าไหน พี่โตสดันตกบ้านลอดช่องบันไดขั้นแรกล่ะ!!! แต่สาเหตุที่รอดมาได้ก็เพราะว่าตอนที่พี่ตกมันเป็นช่วงหลังฝนตกใหม่ๆ ซึ่งพื้นตอนนั้นมันกำลังนิ่มๆ แฉะๆ อยู่นั่นเอง.. และก็คงเพราะงี้แหละมั้ง พี่โตสเลยกลายเป็นคนที่.... ความคิดไม่ค่อยสมประกอบเท่าไหร่

ก๊ากกก... ดักทางทันวุ๊ย... กลิ่นมะเขือเผา.. พออ่านปุ๊บ พี่โตสก็........ อยากกินมะเขือเผาจิ้มน้ำปลาพริกที่แม่ทำให้กินอยู่บ่อยๆ ทันทีเลยล่ะปุ่น.. อิอิอิ
ว่าแล้วก็อยากกินมะเขือเผา (เวอร์ชั่นไม่คิดลึก ) จิ้มน้ำปลาพริกขึ้นมาทันทีจริงๆ เลยล่ะปุ่น.. แถวนี้มีขายหรือเปล่าไม่รุ๊.. ต้องไปเซิร์ชๆ ดูหน่อยแระ

ตรงที่ปุ่นพูดถึงกลิ่นข้าวหลาม.. อ่านแล้วเห็นภาพมากๆ เลยล่ะปุ่น... บรรยากาศต่างจังหวัดของไทยเราจริงๆ เลยอ่ะ.. เมื่อก่อนตอนเด็กๆ จำได้ว่าลุงพี่โตสที่กาญฯ ก็จะเผาข้าวหลามกินกันเองอยู่บ่อยๆ .. ในวันที่อากาศหนาวๆ .. ได้อารมณ์ความสุขดีจังเลยเนอะปุ่นเนอะ

อื่ม... ใส้เพี้ยจี่มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างหยดหยองใช้ได้เลยนะปุ่น.. จานนี้พี่โตสคงขอผ่าน

วันนี้เจอศัพท์แปลกๆ หลายคำเลยแฮะ.. แต่ชอบคำว่า "แอน" ที่แปลว่า "อัง" ล่ะ.. จำง่ายดีด้วย เอาใส่หมองเก็บไว้ใช้แระ


อย่างที่บอกด้านบน.. ช่วงนี้พี่โตสติดเกมที่ face book แบบหนึบหนับเลยล่ะปุ่น
แบบว่าช่วงหลังๆ นี้อาการเบื่อบล๊อกของพี่โตสมันเข้าขั้นรุนแรงอ่ะปุ่น.. เมื่อก่อนมันเป็นอาการเบื่อที่พี่โตสจะยังเข้ามาเช็คบล๊อกอยู่แทบทุกวันอ่ะนะ.. แต่ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานี่.. มันเป็นอาการเบื่อที่ไม่แคร์แม้กระทั่งเข้ามาเช็คบล๊อกเลยล่ะ.. แต่พี่โตสก็ยังไม่ไปไหนหรอกเน้อ.. ยังวนเวียนอยู่แถวนี้แหละ.. ยังอยากจะมาอ่านบล๊อกเพื่อนๆ (ที่เหลือคบกันอยู่ไม่กี่คนเนี่ยแหละ) อยู่เหมือนเดิม แต่อาจจะทิ้งระยะนานหน่อย และก็ยังอยากอัพบล๊อกอยู่เหมือนเดิมเช่นกัน เพียงแต่แต่ละบล๊อกคงจะใช้เวลาในการอัพประมาณชาตินึง

ปล. อีกรอบ.. หวังว่างานเลี้ยงวันนี้ของปุ่นผ่านพ้นไปได้อย่างสวยงามนะจ๊ะ.. ถ้าอยู่ใกล้ๆ จะไปช่วยเสริฟให้ฟรีๆ จริงๆ นะเนี่ย.. ปุ่นจะได้ทุ่นแรงไปได้อีกหน่อยนึง


โดย: Chini วันที่: 26 มิถุนายน 2553 เวลา:4:28:16 น.  

 
อ่ะ...เข้ามาวันนี้ฟ้อนท์เป็นปรกติแล้ว

เสาร์-อาทิตย์นี้ฝนตกทั้งหนักทั้งสองวัน เลยไม่ได้ออกไปไหนกับใครเค้าเลย กระทงทองก็อดทำไปด้วย

คงได้ทำอีกทีอาทิตย์หน้าแหละ กระทงทองไส้เมี่ยงคำนี่แหละน่าสน ถ้ามีเวลาไปช็อปคงได้ทำแน่ ฝากไว้ก่อน

ดีใจด้วย (อีกแล้ว) เรื่องงานเลี้ยง แล้วถ้างานเข้าแรง ๆ แบบนี้ไปเรื่อย ๆ จะมีเวลา มีแรงไปทำเหรอเนี่ย

เวลาปุ่นไป มีคนไปช่วยมั้ยหรือว่าโซโลตลอด


โดย: Oops! a daisy วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:15:09:41 น.  

 
คุณปุ่นเขียนเรื่องได้น่ารักมากค่ะ โดยเฉพาะเรื่องอะไรก็ตามที่มีอาหารเป็นองค์ประกอบ อ่านแล้วได้กลิ่นตามเลยค่ะ


โดย: Princess Peace วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:21:07:05 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Bananarumba
Location :
โคโลญจ์ Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




จากเชียงราย ผ่านเชียงใหม่ ไปกรุงเทพ ปัจจุบันลงตัวอยู่ที่โคโลญจ์ มีความสุขดีเหมือนเป็นบ้านที่สอง
ผ่านชีวิตมาเกือบครึ่งคนแล้ว เขียนบล้อกมาหลายปี จากตอนแรกที่อยากเขียนเพราะต้องการแบ่งปันและอยากมีเพื่อน ตอนนี้จุดหมายในการเขียนเปลี่ยนไปเป็น เขียนเพราะใจอยากเขียน รู้สึกรักภาษาไทยเหมือนเป็นนางงามมิตรภาพ
กิจการปิ่นโตดำเนินไปด้วยดีค่ะ ขอขอบคุณที่สนใจคลิกเข้าไปดูเว็บไซด์นะคะ
Friends' blogs
[Add Bananarumba's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.