Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
10 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
ลูกค้าในฝัน VS ลูกค้าในฝัน (ร้าย)


เปิดกิจการมาได้ครึ่งปีแล้ว เจอลูกค้ามาแล้วไม่ต่ำกว่าสิบราย ส่วนใหญ่ลูกค้าที่ดีจะเป็นชาวเยอรมันซะเป็นส่วนมาก แม้ว่า ตอนแรก ๆ จะไม่ค่อยเข้าใจคอนเซ็บป์อาหารไทยเท่าไหร่ อาจจะด้วยความเคยชินที่ไปกินแต่ที่อิมบิส (imbiss หมายถึง ร้านอาหารจานด่วนที่ขายอาหารราคาตั้งแต่ 3 ถึง 8 ยูโร ร้านแบบนี้มักจะต้องบริการตัวเอง ไปหยิบเครื่องดื่มเอง รับอาหารจากเคาน์เตอร์เอง กินเสร็จอาจจะต้องยกจานไปเก็บที่เคาน์เตอร์เอง) เลยมองว่ากิจการของปุ่นออกจะราคาสูงไปนิด


อย่างที่เพื่อน ๆ คงเคยเข้าไปคลิกในเว็บไซด์ปุ่น อาหารที่ปุ่นนำเสนอ เป็นอาหารที่มีขั้นตอน มีรายละเอียดในการเตรียม การทำ เครื่องปรุง วัตถุดิบสดใหม่ ไม่ใช้อาหารปรุงสำเร็จแช่แข็งแบบปอเปี๊ยะที่ห่อมาแล้ว (แต่วัตถุดิบบางอย่างต้องใช้แช่แข็ง เช่นเส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นสด แป้งเกี๊ยว แป้งปอเปี๊ยะ) ไม่ใช้ผงชูรส ร้านอาหารเอเชียที่นี่ส่วนใหญ่ลองไปกินดูได้เลย เหมือนกันแทบทุกร้าน ปอเปี๊ยะแช่แข็งมาทอดให้ น้ำมันทอดสามวันเติมที เดือนนึงเปลี่ยนที ก๋วยเตี๋ยวก็ใช้รสดีต้มน้ำมาให้กิน


อีกทั้งไอเดีย ความคิด การนำเสนอ การจัดวาง เรียกได้ว่า  งานราษฎร์ งานหลวง แขกไปใครมา เห็นเป็นต้องชมทุกราย ว่าอาหารหน้าตาดี สด หอม น่ากิน และสุดท้ายอร่อยและบริการดี คอยดูแล เติมไม่ให้ขาด อุ่นอาหารจานหลักให้ร้อนเสมอ ทำความสะอาดไลน์บุฟเฟต์เล็ก ๆ ของเราให้ดูน่ากิน คอยเก็บจานให้ดูเรียบร้อย ไม่ได้แค่ไปส่งแล้วกลับ และส่วนใหญ่ลูกค้าของปุ่นจะเป็นลักษณะบอกต่อกันปากต่อปาก (อี๋ ชมตัวเองซะไม่มียัยคนนี้ อนุญาตให้ หมั่นไส้ได้เลยค่ะ)



ตอนแรกลูกค้าจะมองว่าราคาแพงจังเลย บอกได้เลยว่า ถ้าเทียบกับร้านอิมบิส หรือบริการแบบอื่น ดังที่กล่าวมาแล้วนั้น อาจจะถือได้ว่าแพง แต่ถ้าคุณลูกค้าลองคิดเป็นชั่วโมงการทำงาน งานบริการ ความคิดสร้างสรรค์ ที่ดัดแปลงอาหารไทยจานหลักที่กินยากมาเป็นของกินเล่นแล้วอิ่มด้วย สวยด้วย วัตถุดิบสด ๆ ที่มาจากแหล่งที่มาต่างกัน แบบปลา หรืออาหารทะเล ก็มาจากร้านขายอาหารทะเลเฉพาะ ที่มีของทะเลมาส่งจากฝรั่งเศสและฮอลแลนด์ทุกวันอังคารและพฤหัส เรียกว่าซื้อกันมาปรุงวันต่อวันกันเลยทีเดียวไม่มีของค้าง คิดแบบคุณแม่คุณโน้ส อุดม ที่เคยตำส้มตำขาย เธอบอกว่า ทำกินอย่างไร ทำขายอย่างนั้น


ส่วนงานสอนทำอาหารนั้นลูกค้าชาวเยอรมันส่วนใหญ่ที่มาเรียน มักจะมีความสนใจในวัฒนธรรมไทยและการกินอาหารนานาชาติอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ราคาที่เสนอไปไม่เคยมีใครบ่นว่าแพงเลย มีแต่เรียนแล้วแนะนำให้เพื่อน ๆ มาเรียนกันอีก ทำกินกันเป็นกลุ่ม ๆ ทั้งสนุกทั้งอร่อยและเป็นส่วนตัว


ลูกค้าในฝันร้ายนั้น คุณ ๆ ลองทายกันดูสิคะว่ามาจากประเทศอะไร


แอ่น แอ๊น


++


ประเทศไทยค่ะ


++++


ย้ำ


คนไทยด้วยกันนี่แหละค่ะ ที่ปุ่นเจอมาแล้วสองสามราย(จำนวนคนไทยนับเป็นหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ในจำนวนลูกค้าในฝันร้ายทั้งหมด)  ไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าทำไมคนไทยด้วยกัน พูดภาษาเดียวกัน ทำไมทำเรื่องให้คนทำมาหากินเขาเดือดร้อนกันก็ไม่รู้  ที่เจอก็คือ นัดแล้วไม่มา สั่งของไว้แล้วหายไป


ปุ่นไม่ได้ดูถูกคนไทยด้วยกันหรือจะถือตัวไม่คบคนไทยด้วยกันนะคะ เพื่อนคนไทยปุ่นก็มีสองสามคน แต่มันเจอมาแบบนี้จริง ๆ ที่จริงปุ่นก็เข้าใจว่าคนไทยที่มาอยู่ต่างประเทศนั้นบางทีก็มาจากหลาย ๆ ที่ พื้นฐานหลายอย่างก็ไม่เหมือนกัน บางทีแฝงตัวมาเป็นเพื่อนแต่แอบคิดอิจฉาก็มี บางคนก็ยังคิดว่าตัวเองอยู่เมืองไทย ใช้จ่ายอะไรเป็นต้องคูณกลับเป็นเงินบาท ปุ่นก็เป็นตอนแรก ๆ ค่ะ แต่ว่า ถ้าจะใช้จ่ายอะไรที่มันจำเป็นแล้ว ก็ใช้ไปเถอะค่ะ ถ้ามัวแต่คิดมากก็ไม่ต้องซื้อไม่ต้องได้ใช้กันพอดี อย่างค่าเรียนบางคนมาคิดเรียนเป็นคอร์สสามอย่าง เจ็ดสิบห้ายูโร ถ้าเรียนอย่างเดียวขอหารสามได้ไหม ไอเดียแบบนี้คนไทยคิดได้นะคะ เก่งค่ะแต่ไม่ได้เรื่อง  แล้วปุ่นว่าการรักษาคำพูดนั้นมันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของคนมีสามัญสำนึกนะคะ คุณพูดแล้วคุณทำไม่ได้  สามีคุณ ลูกค้าคุณหรือเจ้านายคุณจะเชื่อถือคุณได้ยังไง



การเรียนทำอาหารนั้น ก็ต้องใช้หัว ออกแบบคอร์ส ทดลองสูตร จนแน่ใจ ซื้อของมาเตรียมให้คุณลูกค้าเรียน ก็ต้องสด ๆ วันต่อวัน แล้วปุ่นก็ต้องจ่ายภาษีจ่ายประกันชีวิต ค่าแรงต่อชั่วโมงนั้นก็คิดออกมาสำเร็จเป็นแพคเก็จนั่นแหละ


การยกเลิกนัดในวินาทีสุดท้ายที่ปุ่นเจอกับคนไทย ไม่ว่าคุณจะมีเหตุผลอะไรที่ต้องทำให้ยกเลิกนัดกัน คุณลูกค้าก็ทำให้ปุ่นเสียหายแล้ว เสียหายในค่าใช้จ่ายที่เตรียมซื้อของไว้ การนัดเรียนอาหารที่ไม่มีในตาราง ปุ่นก็ต้องซื้อของมาทำเทสต์ เพราะอาหารบางอย่างที่ปุ่นทำที่เมืองไทย วัตถุดิบอาจจะไม่เหมือนกัน ข้าวของเครื่องใช้ที่เคยทำเมืองไทยก็อาจจะมีไม่ครบ แล้วที่สำคัญอาหาร สูตรที่คุณได้กลับไป คุณจะมั่นใจได้ว่าทำอาหาร ขนม ชนิดนี้ออกมาดีและอร่อยแบบไม่มีข้อผิดพลาด เพราะข้อผิดพลาดถูกแก้ไขแล้วตอนทำเทสต์ ที่จริง ถ้าจะเอากันตามกฎจริง ๆ ปุ่นก็มีเขียนในเว็บไซด์ว่าถ้ายกเลิกภายในสามวัน ปุ่นมีสิทธิ์ที่จะเก็บเงิน แต่ว่าเพราะว่าเป็นคนไทยด้วยกัน (เบื่อเหตุผลนี้ไหม) จึงไม่อยากจะมีปัญหายืดยาว สู้เอาเวลาไปเตรียมตัวงานอื่น ๆ ดีกว่า เรียกว่า เสียแล้วเสียไป อย่ามาเจอกันใหม่ก็แล้วกัน


 


การสั่งอาหารนั้นยิ่งแล้วใหญ่ พี่คะหนูอยากสั่งขนมไปให้เพื่อนต่างชาติกินวันเรียนจบค่ะ อยากสั่งสาคูไส้หมูให้คนซักสิบห้าคน หนูเรียนจบสิ้นเดือนนี้ค่ะ วันที่สามสิบเดือนจุดจุดจุด  พอใกล้วันมา เตรียมซื้อของ โทรไป ไม่รับ และไม่โทรกลับ ก็เชื่อได้แน่ว่า ออเดอร์นี้คงไม่เป็นจริงแล้ว หรือว่า หนูจัดงานวันเกิดค่ะ อาหารที่หนูทำ สามีแหลกไม่ล่ายเลย มาทำอาหารวันเกิดสามีให้หนูหน่อย วันที่บลา บลา พี่ปุ่นคิดราคาเท่าไหร่คะ บอกราคาลดมากแล้วไป ให้จ่ายแต่ค่าแรง ค่าของออกตามจริง ถูกแสนถูก ถึงเวลามา หายหัวไปอีกตามเคย   ทำไมหนอ คนเราสมัยนี้พูดแล้วทำไมไม่ทำอย่างที่พูด เอ จะบอกว่าอยากพูดให้เราดีใจ แต่จริง ๆ แล้วไม่มีเงิน ไม่มีเวลามาสั่ง มาติดต่อ แล้วเขาจะรู้ไหมหนอว่ามันทำให้เราผิดหวังในความเป็นคนไทย และเสียกำลังใจในการทำงาน แล้ววันหน้าปุ่นจะเชื่อใจคนชาติเดียวกันได้ยังไง  ชาวต่างประเทศซะอีกที่เขาบอกว่าสั่งก็คือสั่ง อาจจะมีต่อรอง อาจจะมีขอโน่นขอนี่เพิ่ม แต่ก็พูดคำไหนคำนั้น อย่างคนตุรกีที่ถูกคนเยอรมันดูถูกว่ามาอาศัยภาษีเขานั่งกินนอนกิน  คนตุรกีที่มาสั่งอาหารปุ่นก็ไม่ได้มาเบี้ยว  สัญญาก็เป็นสัญญา


เนี่ยค่ะ ชีวิตงานของปุ่นก็เป็นแบบนี้ แต่ที่ทำได้อยู่ทุกวันนี้ก็เพราะลูกค้าฝันร้ายสองสามรายนั้นมันน้อยกว่าลูกค้าดี ๆ ที่เจอมานัก ลูกค้าดี ๆ ทำให้เรามีกำลังใจทำงานต่อไป แล้วที่สำคัญได้เผยแพร่อาหารไทย ปุ่นว่าทางอ้อมก็ช่วยซื้อของที่ผลิตในประเทศไทย ช่วยซื้อข้าวชาวนาไทย ให้สายตาชาวต่างชาติที่มองคนไทยเต็มไปด้วยความชื่นชมวัฒนธรรมของเรา ให้เขาเห็นว่าเราเองก็มีรากเหง้า มีภูมิปัญญามายาวนาน และอาหารของเรามีคุณค่า ดีต่อสุขภาพ คนกินอร่อยมีสุขภาพดี คนทำก็ชื่นใจไปด้วย


สุดท้ายนี้ (แบบว่าบ่นเสร็จแล้ว) ขอออกตัวนิดนึงว่าคงจะไม่ได้มาอัพบล้อกอีกพักนึง เพราะช่วงนี้ติดเรียนขับรถ ทำเรื่องย้ายบ้านรอรับสมาชิกใหม่ และงานเข้ามาอีกสามสี่ระลอก คงจะไม่ได้เข้ามาอีกนาน ยังไงได้เข้ามาก็ฝากเม้นท์ไว้นะคะ อาจจะไม่ค่อยได้กลับไปเยี่ยมบล้อกกันเท่าไหร่ แต่ยังไงถ้าเวลาลงตัวแล้วจะกลับมาทักทายกัน พร้อมเล่าเรื่องต่าง ๆ บวกของกินเหมือนเดิมค่ะ


สวัสดีค่ะ


 






Free TextEditor


Create Date : 10 สิงหาคม 2553
Last Update : 10 สิงหาคม 2553 15:51:34 น. 25 comments
Counter : 923 Pageviews.

 
หวัดดีจ้าปุ่น

ตะกี้แวะมาเม้นท์ทีนึงแล้ว ยังเป็นบล็อกเก่าอยู่ แถมเม้นท์สุด เค้าให้ล็อกอินก่อน (ลืมล็อกอินมา) พอกด Back กลับไปอีกที อ้าวเม้นท์ชั้น หายตัวไปซะแล้ว

อ่านแล้วนึกถึงตอนป้าทำเว็บขายเครื่องสำอาง พรีออเดอร์สมัยยังเป็นละอ่อนน้อยเหมือนกัน เป็นคนที่น้อง ๆ จะชอบเรา รักเรา เขียนอีเมล หรือส่งแมสเสจมาหาในเว็บเยอะมาก พอจะกลับเมืองไทยที เริ่มเปิดพรีออเดอร์ เอาล่ะ น้อง ๆ ที่รักทั้งหลาย ก็สั่งกันกระหน่ำมาก

ไอ้เราก็นึกว่าคนอื่นเค้าจะเหมือนตัวเองเนอะ อยากได้ มีเงินซื้อ มีเวลาไปโอนเงิน ถึงจะกล้าสั่งเนอะ

โอย ขาดทุนตลอด แรก ๆ อ่ะ คนมันไม่ใช่แม่ค้า เราไม่ได้ขายของอย่างเดียว เราขายใจกันด้วย

ได้ลองเครื่องสำอางที่ไม่เคยคิดจะซื้อมาใช้ก็บ่อย เพราะสั่งแล้วเบี้ยว ไอ้เครื่องสำอางถูก ๆ ซื้อง่ายขายคล่อง ปรกติไม่ใช้ (กร๊ากกส์) ก็ต้องแจก หรือไม่ก็แถมฟรีให้ลูกค้าที่เค้าจองแล้วจ่ายเงินไป

หลัง ๆ เขี้ยวขึ้น เป็นแม่ค้าขึ้น แต่ทำไป ทำไป มันไม่ใช่ตัวเองไง ตัวเองไม่เป็นแม่ค้าเลยอ่ะ ขายก็ถูก แถมตลอด แถมต้องกลายเป็นคนใจดำ ใจหิน มันไม่มีความสุข เลยเลิกทำไป

ของปุ่นเนี่ย หนักกว่าเยอะ เพราะเป็นอาหาร เป็นของสด เสียแล้วเสียเลย

เสียเวลา เสียอารมณ์ ยังไม่เท่ากับความรู้สึกที่มีต่อลูกค้าคนไทยด้วยกันชิมิส์


โดย: Oops! a daisy วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:16:19:09 น.  

 
ขออีกเม้นท์นะ เม้นท์เรื่องแล้ว ลืมเม้นท์รูป

รูปสวย ไอเดียเก๋ไก๋ดีจ้า ป้าอยากได้ไอ้รางคดเคี้ยวนั่นจังเลย เก๋ไก๋จัง

ไปงวดนี้ป้าหิ้วกระเป๋าใบเล็กไป แทบจะขนอะไรกลับมาไม่ได้เลย แถมไปได้สี่ห้าวัน ดันไปเจอเสื้อผ้าถูกใจมากมาย ซื้อกลับมาเพียบ กระเป๋าเต็ม

วันสุดท้ายถึงจะได้ไปเจอจานแนว ๆ ที่พอดูได้

แค่พอดูได้เท่านั้นนะ เพราะมันเป็นเนื้อพอร์ซเลน อยากได้เป็นเนื้อไชน่าไง แต่ก็ซื้อติดกระเป๋ามาหน่อย ไว้ถ่ายรูป

คราวนี้คงได้ทำอาหาร ถ่ายรูปสนุกขึ้น ได้ชามใหม่ ได้ฟิลเตอร์ใหม่ (C-PL) ถ้าหน้าป้าสามารถไปวัดตอนสาย ๆ ได้ คงได้ไปซื้อพร็อพมาเพิ่มเติม แค่คิดก็เป็นสุขใจ


โดย: Oops! a daisy วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:16:24:55 น.  

 
ไม่เคยเห็นบล็อกคุณเลย หรือเราไม่เข้าบล็อกบ่อยเอง หุ หุ

แนะนำค่ะ ว่าบอกปัดคนไทยไปเลยค่ะว่าไม่รับลูกค้าคนไทย จริงๆ นะ

แต่ถ้าอยากรับก็ต้องใจแข็งเข้าไว้ค่ะ


โดย: BeAcH ClUb วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:17:49:11 น.  

 
หวัดดีจ้า
เห็นด้วยกับคุณปุ่นง่ะ
ทำงานอยู่ร้านเอเชียค่ะตอนนี้
ลูกค้าที่งี่เง่าที่สุดคือคนไทย กะคนดำ

ลูกค้าที่ดีที่สุด จะยกให้คนด๊อยซ์ค่ะ
เจอลูกค้าทุกวัน ปวดหัวทุกวันเหมือนกัน แหะๆๆ


คอนเซฟเราจะคล้ายๆกันในเรื่องการทำอาหารง่ะ ส่วนมากมดเวลาแขกมาบ้านจะต้องทำอาหารให้อร่อย เริ่ดไว้ก่อน ที่สำคัญต้องสะอาด สด และใช้แต่ของดีๆ ทั้งนั้น เพราะถือคติว่า ทำอะไรก็ต้องให้ดีที่สุด

ยังงัยเอาใจช่วยนะจ๊ะ
ถ้ามีเวลาว่างเมื่อไรมาอัพบล็อคด้วยนะคะ
มาเป็นกำลังใจค่ะ


โดย: ณ เมืองเบียร์ วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:17:54:55 น.  

 
เอาใจช่วยค่ะ


โดย: โยเกิตมะนาว วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:18:58:52 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณปุ่น
เดาไว้ว่าคนไทย อ่านเนื้อเรื่องลงมาก็ถูกต้องจริงๆด้วย
เรื่องเหล่านี้เคยได้ยินได้ฟังมาจากพี่ชายค่ะ
พี่ชายตวงอดีตทำงานเป็นพ่อครัวแล้วก็รับจัดแคทเทอริ่ง
แบบคุณปุ่นนี่หละ แต่พอดีเค้าค่อนข้างเขี้ยว
และมีหนามแหลมคมรอบตัวเนื่องจากมีประสพการณ์มานาน
สิ่งเหล่านี้ เป็นประสพการณ์ตรง จะทำให้เราแกร่งขึ้น
และสามารถรับมือกับลูกค้าได้ทุกรูปแบบในอนาคต
ที่สำคัญความใจดีและเกรงใจของคุณปุ่น
เป็นศัตรูตัวฉกาจที่ทำให้เราเจ็บตัวน่ะค่ะ
เอาใจช่วยค่ะ


โดย: T+c+ake Time 2002 วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:20:16:04 น.  

 
หวัดดีจ้า ว่าที่คุณแม่ อ่านเเล้วน่าเบื่อนะ พวกประเภทอย่างนี้ ปุ่นมีพรสวรรค์ด้านนี้จริงๆ อาหารน่าทานมาก วันนี้เราไม่สบาย ตื่นมาอ้วก เป็นไข้ พรุ่งนี้เพื่อนก็มาเยี่ยมที่บ้าาน พาเด็กมาด้วย บ้านคงจะะวุ่นๆแน่เลย เพราะเด็กตั้งห้าคน ก็เลยขอหยุดงานทั้งอาทิตย์เลย ขาดรายได้้ แต่ก็ไม่เป็นไร นนานๆเพื่อนมาเยี่่ยมที ปุ่นจะย้ายบ้้านเหรอ แต่อยู่ในเคิ์รนเหมือนเดิมใช่ไหม ปีหน้าเราย้ายอีก เหนื่อย แต่ก็ทำไงได้ ทนเอา ซักห้าปี เดี่ยวแฟนก็จะเกษียณ ตอนนี้ก็ต้งผ่อนให้หมด เพราะหมดหนี้มมันก็สบายแล้ว ตอนนี้ก็อยู่แบบประหยัด ทำงานหนักกันไปก่อน ขอใ้ห้สอบใบขับขี่ได้เร็วๆเด้อ


โดย: สาวเซาะกราว วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:21:47:36 น.  

 
เห็นด้วยกับคุณ T+c+ake Time 2002 ค่ะ ความเกรงใจเป็นศัตรูตัวฉกาจจริงๆ แต่ก็อย่าให้ถึงกับเลิกรับงานจากคนไทยเลยค่ะ บางทีอาจจะมีคนที่เขาอยากเรียนจริงๆ แต่อาจจะเปลี่ยนเป็นเก็บค่ามัดจำแทน เราก็บอกเหตุผลไปตรงๆเลย ถ้าเขาอยากจะให้เราสอนจริงๆก็ต้องยอมจ่ายนะคะ ถ้าเขาไม่จ่ายก็ไม่ต้องสอน การที่จะเป็นแม่ค้าได้มันก็ต้องเคี่ยวบ้างกับลูกค้าประเภทนี้ ไม่งั้นก็เสียเปรียบตลอด ยังไงก็ขอให้เจอแต่ลูกค้าดีๆนะคะ


โดย: แบม (Chip_biscuit ) วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:22:28:54 น.  

 
น้องปุ่นใจดีมาก...ถ้าพี่เป็นหนูพี่คงจะ "ส่งบิลไปเรียกเก็บเงิน" เสียความรู้สึกได้ไม่เป็นไร แต่เสียเงินไม่เอาๆๆ ถ้าเราทำได้แค่ "ทำใจ"...ว่าที่..ลูกค้าเลวๆแบบนี้ก็จะ "ได้ใจ..." จ้ะ คำว่า "คนไทย" ใช้ไม่ค่อยได้ผลกะพี่(ว่ะ)ค่ะ ... คนไทย คนลาว ก็คนเหมือนกัน พี่จัดวางตำแหน่งคนไว้ "เท่ากันหมด" ทำธุรกิจมันต้อง แฟร์ ทั้งสองฝ่ายจริงมั๊ย ... อยากแนะนำให้ทำ "เอกสาร" ให้เซ็นต์กันเลยจะได้เอาไว้เป็นหลักฐานในการเรียกเก็บเงินได้จ้ะ


โดย: Flowerfun วันที่: 11 สิงหาคม 2553 เวลา:3:28:00 น.  

 
อ่านแล้วแอบเซ็งไปด้วย

ดีใจกับสมาชิกใหม่ด้วยนะจ๊ะ กี่เดือนแล้วเนี่ย แล้วแพ้มั๊ยค่ะ ตื่นเต้นกับคุณแม่คนใหม่จริงๆ


โดย: ich habe kein Geld วันที่: 11 สิงหาคม 2553 เวลา:14:35:43 น.  

 
มาอีกเป็นรอบที่สามจ้าปุ่น

เห็นเม้นท์ปุ่นในบล็อกป้าแล้ว นึกขึ้นมาได้ว่า มีที่กินอยากจะแนะนำ ถ้าปุ่นพักที่เดิมนะ มาที่แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณก็น่าจะสะดวกชิมิส์ มีร้านอาหารไทยในนั้นชื่อ Erawan Tea Room

อาหารและเครื่องดื่มเด็ดมาก all-you-can-eat แบบ a-la-carte เหมือนกัน บริการอาจกวนจิตบ้างเพราะเหมือนกับเค้าจัดระบบไม่ดี แต่ว่าคุ้มค่าสุด ๆ ใส่ลงไปในลิสต์ด้วยนะ

ไว้อัพบล็อกนี้แล้ว จะมาชวนไปดูจ้า


โดย: Oops! a daisy วันที่: 11 สิงหาคม 2553 เวลา:15:11:59 น.  

 
เฮ้อ!คนเรา น่าจะเห็นใจกันหน่อยนะ
ชัดเจนไปเลยว่าจะเอายังไง
ปล่อยให้เรามานั่งติดตามอยู่ได้
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
สู้ๆ


โดย: far_sexy1 วันที่: 11 สิงหาคม 2553 เวลา:17:13:23 น.  

 
ปุ่นเอ๊ย...เป็นพี่ก็เซ็งเหมือนกันค่ะถ้าเจอคนไทยประเภทนี้ คิดว่าคนพวกนี้คงไม่เคยมีอาชีพเป็นสาวออฟฟิศที่ต้องทำงานแบบมีระบบระเบียบ ก็เลยอะไรก็ได้ตามใจฉันใครเดือดร้อนก็ไม่สนใจ (หน้าหนาซะอย่าง) ทีหลังทำอย่างคุณแพ็ทว่าดีกว่าค่ะจับเซ็นสัญญาไปก่อนเลย เก็บเงินล่วงหน้าไปเลยจะได้ไม่เสียประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คุณจ่ายตังค์แล้วก็ต้องมาเรียนไม่งั้นก็เสียเงินฟรี เราก็ไม่ต้องเตรียมของเก้อ เฮ้อ...เซ็งเนอะเจอคนไทยเน่า ๆ พาคนอื่นเสียชื่อไปด้วย


โดย: Jujastar วันที่: 11 สิงหาคม 2553 เวลา:23:55:53 น.  

 
เห็นใจอ่ะ ทีหลังจองแล้วต้องเรียกเก็บล่วงหน้า 25 เปอร์เซ็นต์ เหมือนเวลาไปเช่า Ferienwohnung ไง

ปุ่นเก่งนะท้องอยู่ก็ยังทำงาน ตอนท้องเราขี้เหนื่อยอ่ะ หงุดหงิด ซุ่มซ่าม แล้วก็ขี้ลืมเป็นที่หนึ่ง อย่าว่าแต่ทำงานเลย ทำกับข้าวกินเองก็ทำชามแตกไปจนจะหมดตู้แระ พอชามแตกก็หงุดหงิด พาลไม่ทำมันซะเลย แต่ลูกดันออกมาอารมณ์ดี ยิ้มเหงือกบานทั้งวัน

ปล.คนข้างบนที่ตื่นมาอ้วกอ่ะ ท้องป่าว


โดย: LittleBlueTwingo วันที่: 12 สิงหาคม 2553 เวลา:2:49:54 น.  

 
หวัดดีจ้าปุ่น

เข้ามาเม้าท์ต่อเรื่องคอนโดฯ ไม่ต้องให้เค้าโอนเงิน ให้เค้าไปซื้อเป็นเช็คเงินสด ขีดคร่อม สั่งจ่ายมาเป็นชื่อเรามาจ้า ซื้อจากธนาคารเสียค่าธรรมเนียมไม่เท่าไหร่หรอก สะดวกทั้งคนซื้อคนขาย ไม่ต้องถือเงิน ให้พี่ที่เค้าโอน ไปเข้าบัญชีเราได้เลย

เรื่องนายหน้า ก็คุยกันตรง ๆ (จะช้าไปมั้ยเนี่ย) ถ้าเธอจะเป็นนายหน้าแล้วเอาคอมมิสชั่น ก็ทำตัวให้เป็นนายหน้าหน่อย ถ้ามาทำเป็นเพื่อนนายหน้าเพื่อคอมฯ แต่ใช้ความเป็นเพื่อนมาต่อรองนั่นนี่เพื่อความสะดวกของตัวเอง ถ้าอย่างนั้นจะมาเป็นนายหน้าไปทำไมล่ะจ๊ะ

เรื่องหนูแหม่ม เป็นคนน่ารักอย่างที่บอก แต่พอไหว้วานหนูแหม่มให้เป็นนายหน้า ป้าก็ทรีทหนูแหม่มแบบนายหน้า ไม่ให้เค้าเสียสิทธิ์ ขณะที่เราอยากได้อะไร อยากให้ลูกค้าทำไง ก็บอกเค้าไปด้วย

เรื่องซื้อขายเนี่ย คนซื้อก็มีส่วนเหมือนกัน เจอคนซื้อดีก็ดีไป ไม่อะไรกันมากมายเนอะ

ปุ่นอยู่มาหลายปีรึยัง หมายถึงย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาในคอนโดฯเนี่ย ถ้าหลายปีแล้ว waive ค่าโอนได้อีก

เอาใจช่วยให้ขายได้ โอนเสร็จโดยเร็วนะ

ป้ายังว่าเลย พักนี้อ่านจากเม้นท์แล้ว รู้สึกปุ่นไม่ค่อยสบายใจ ยังนึกว่าเป็นแค่ฮอร์โมน คนท้องแล้วมันจะเศร้า ๆ ไง อ่ะ...ที่แท้มีเรื่องกวนจิตหลายเรื่องนี่เอง

อย่าคิดมาก...ไปทีละขั้น ทีละตอนเนอะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปจ้า


โดย: Oops! a daisy วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:11:22:32 น.  

 
ยังเม้าท์ไม่จบ ฮ่า ฮ่า

อย่างที่เคยบอกอ่ะ ป้าได้ไปอบรมถ่ายภาพกับเว็บตากล้อง ได้เรียนรู้ทริคอะไรเยอะแยะเลย ได้รู้ว่าสิ่งที่ฉันจะต้องซื้ออันดับแรกคือ ฟิลเตอร์ C-PL ตัวนี้จะทำให้ภาพที่ถ่ายมีมิติเหนือชั้น กร๊ากกส์

ป้าว่าเหมาะมากกับปุ่น เพราะป้าเห็นปุ่นเที่ยวบ่อย ถ่ายแลนด์สเกปบ่อย ซื้อเมืองไทยราคาระหว่าง 800-1600 ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ (Kenko, Hoya) และความกว้างของเลนส์ มีรึยังตัวเอง ??

ส่วนเรื่องเลนส์ ป้าว่าถ่ายภาพอาหารเลนส์คิทก็โออยู่ ปุ่นใช้เลนส์คิทชิมิส์ ทีนี้มันน่าจะอยู่ที่มุมมองของการถ่ายภาพ การจัดพร็อพ และการรีดเอาคุณภาพจากเลนส์คิทให้ได้มากที่สุด

เลนส์คิทปุ่นนี่มัน 18-55 mm f/3.5-5.6 เหมือนของป้าป่าวอ่ะ เค้าว่าเวลาถ่ายก็ควรให้ f stop อยู่ในช่วง 3.5-5.6 เพราะมันเจ๋งสุดในระยะนี้ ถ้าซูมและถ่ายรูปมุมกว้างก็ไม่ควรเกิน f/8

ป้าเพิ่งจะซื้อ น้องหนอน 400D ให้ลูกชาย (เฉพาะตัวกล้องอ่ะนะ ซื้อมือสอง) เพราะเลนส์คิทป้าไม่ได้ใช้แล้ว ตัวปัจจุบัน EF-S 18-200 mm. มันครอบคลุม ถ้าใกล้ก็ได้ ซูมก็ได้ แต่.......

นายตากล้องเค้าว่า มันก็โอในระดับหนึ่ง แบบว่าสะดวกสบายใช้ง่าย ไปไหน เลนส์เดียว เที่ยวทั่วไทย แต่คุณภาพมันสู้เลนส์เฉพาะไม่ได้ ชั้นอ้าปากหวอเลย ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ คิดแต่เอาสะดวกเข้าว่า

แล้วพอไปอบรมมา โอย...อยากได้กล้องใหม่ ตอนนี้ป้าใช้ 450D เป็น entry level ไง อยากได้ semi-pro เพราะตอนนี้เลนส์ที่มีทั้งสองตัวมันเทพกว่ากล้อง ทำให้รีดคุณภาพเลนส์ได้ไม่เยอะ คุณสามีค้อนดิ เพิ่งจะซื้อกล้องใหม่ให้ลูก จะซื้อใหม่ให้ตัวเองอีกและ ฮ่า ฮ่า คงต้องรออีกซักหลายปีหน่อย ดูก่อน

เรื่องการจัดองค์ประกอบภาพอาหารเนี่ย เมื่อซักสองสามวันก่อน ป้าเข้าไปอ่านบล็อก คุณ Pastel Pied เธอพูดเรื่องคลาสถ่ายภาพอาหาร เด็ดอ่ะ ลองคลิกเข้าไปดูนะ

ป.ล. ป้ามีเรื่องคุยกับปุ่นเยอะแยะ แถมเราไม่ได้ออนไลน์ตรงกัน ไม่มีโอกาสแชทกัน ป้าว่าเม้นท์กันยาวนิด ยาวหน่อย ไม่เป็นไรหรอกนะ ปุ่นมาคุยกับป้ายาว ๆ ในเม้นท์-ป้าชอบ ไม่ต้องเกรงใจ


โดย: Oops! a daisy วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:11:57:38 น.  

 
ปุ่น แพ้เปล่าอ่ะ เก่งจังทำงานได้อยู่เลย

เรานะแพ้มากมาย แพ้ไปนู่น 5 เดือนยังไม่หาย

เห็นอาหารปุ่นแล้วอยากกินอ่ะ ยิ่งพูดถึงสาคูไส้หมูนะอยากกินมากๆ อดเป็นลูกค้าปุ่นเลยมั้งเนี่ย 555 เป็นคนไทยอ่ะ


โดย: asita วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:17:45:30 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณปุ่น
พูดถึงต้มแซ่บ เดี๋ยวต้องให้แม่ตวงทำ แล้วเอามารีวิวลงบล็อกค่ะ
เพราะตวงก็ทำไม่เป็นเหมือนกัน อาหารคาวน่ะ

พี่ชายตวง(ลูกพี่ลูกน้อง)อยู่ที่มิวนิค เข้าปีที่26 แล้วค่ะ
ไม่ต้องเดาค่ะ ตอบเลยว่าพี่ชายใกล้ 50 แล้ว
ก็เป็นพ่อครัวแล้วก็รับทำแคทเทอริ่งด้วย
แต่ตอนนี้วางมือมาได้ 3ปีแล้ว
เปลี่ยนไปทำงานนวดแทนเพราะอายุเยอะแล้ว
งานนวดก็ทำเป็นชั่วโมงๆ ไป
แต่ยังรับงานทำอาหารบ้างนิดๆหน่อยๆค่ะ

เรื่องงานคุณปุ่น เดี๋ยวนานวันเข้าก็เข้าที่เข้าทางค่ะ
ลูกค้ามาหลากหลายรูปแบบเข้า มีประสพการณ์เยอะขึ้น
อีกหน่อยก็รับมือกับลูกค้าได้สบาย



โดย: T+c+ake Time 2002 วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:22:02:50 น.  

 
ปุ่น หลังไมค์ด้วยจ้า


โดย: asita วันที่: 14 สิงหาคม 2553 เวลา:19:19:23 น.  

 
พึ่งไปเห็นเม้นท์ของปุ่นในบล็อกเก่าของอ้อมเกี่ยวกับชั้นหนังสือบิลลี่กับเรื่องแต่งบ้าน แต่ตอนนี้ง่วงแล้วจ้ะ ไว้ไปนอนก่อน พรุ่งนี้ได้หยุดอยู่กับบ้าน แล้วจะมาตอบอีกทีนะจ้ะ

ดีจังเนอะ ได้บ้านพร้อมๆกัน ช่วยกันคิดช่วยกันแต่งแลกเปลี่ยนไอเดียกันเนอะ แต่ปุ่นคงมีงบแต่งเยอะใช่มั้ยจ้ะ อ้อมกับแพทริคไม่มีอ่ะ ที่กู้ได้ก็ไปลงกับราคาบ้านหมด งบแต่งเลยต้องหากันเองทีหลัง


โดย: ~ Cerulean Blue ~ วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:5:45:47 น.  

 
วันนี้อ้อมมีเวลา เลยมานั่งอ่านบล้อก และอ่านบล็อกของปุ่นวันนี้ก็เพลินไปเลย ได้รู้ถึงความตั้งใจของปุ่นกับงานที่ทำ ปุ่นเป็นคนละเอียดละออและให้ความสำคัญกับสิ่งที่ทำอย่างแท้จริงจริงๆนะ อ้อมชื่นชมปุ่นตรงนี้น่ะ ส่วนราคาอาหาร อ้อมว่ามันก็ไปตามคุณภาพใช่ไหม อ้อมเองบางทีก็มองตรงนี้อยู่บ้างเหมือนกันเวลาจะซื้อของ ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือของใช้ คือคุณภาพบางทีมันเป็นไปตามราคาจริงๆนะปุ่น อย่างอาหารถูกๆราคาถูกก็จริง แต่บางทีรสชาติกับความสดใหม่มันสู้กับของที่มีราคามากกว่านิดนึงไม่ได้อ่ะ

พออ่านๆมาจนถึงเรื่องของคนไทย อ่ะ...ทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมทำกันแบบนี้อ่ะเนอะ แย่จัง เจอเข้าแบบนี้จากที่(พยายาม)ไม่อคติ มันก็อดไม่ได้ใช่ไหม คนชาติเดียวกันทำกันได้เนอะ แต่อ้อมสงสัย พอเจอแบบนี้สมมติคราวหน้ามีคนไทยมาสั่งอีก ปุ่นมีวิธีรับมือยังไงเหรอ จะบอกปัดไป หรือจะลองรับดู แค่อยากรู้น่ะจ้ะ อิอิ

แล้วขับรถไปถึงไหนแล้วจ้ะ ใกล้สอบละยัง ช่วงนี้อย่างที่รู้อ้อมก็ยุ่งๆ ก็คงจะหายไปเป็นพักๆจากบล็อกเหมือนกัน เหนื่อยอ่ะปุ่น หมายถึงเหนื่อยกายนะ ส่วนใจนั้นก็โอเคเลย เราแฮ้ปปี้กับที่ใหม่มากๆ อะไรหลายๆอย่างมันดีกว่าที่คาดไว้เยอะเลย

ปุ่นเข้ามาหาไอเดียแต่งบ้านที่บล็อกอ้อมเหรอ เขินอ่ะ อิอิ... แต่สิ่งที่อ้อมทำๆไปก็พอจะให้ไอเดียได้บ้างใช่มั้ย ไม่รู้ส่วนมากปุ่นจะชอบแต่งบ้านแนวไหนนะ สำหรับอ้อมก็อย่างที่เห็นในบล็อก อ้อมไม่ชอบอะไรที่โมเดิร์นเลยน่ะ อะไรที่มีเงางับๆ ลายโค้งดีไซน์แปลกใหม่ หรือห้องโล่งโต้งนี่ไม่ใช่สไตล์อ้อมเลยอ่ะ แล้วบ้านที่ย้ายเข้ามาอยู่ตอนนี้ก็ออกแนวโบราณด้วย สร้างตั้งแต่ต้นศตวรรษแน่ะ อายุเป็นร้อยปีแล้ว มันก็เหมาะเจาะพอดีกับความชอบของอ้อมเลย

ถ้าปุ่นอยากหาของมือสอง อ้อมได้ยินมาว่าที่เยอรมันเว็บอีเบย์นี่จะฮิตสุด อ้อมเองยังเข้าไปดูเลย ของเยอะเหมือนกัน แต่ว่ายังไม่เคยซื้อหรอกเพราะค่าขนส่งมาที่นี่มันแพง ไปรับเองก็ไม่ได้ด้วย เพราะไกลเกิน อ้อ..ปุ่นชอบอ่านแม็กกาซีนไหม อ้อมเองตามอ่านแม็กกาซีนแต่งบ้านทางฝั่งเยอรมันอยู่หลายเล่มเหมือนกันนะ จะแวะซื้อทุกทีเวลาแว้บไปซื้อของฝั่งนู้น ที่อ่าน(ต้องบอกว่าเปิดดูรูปจิถึงจะถูก ฮะๆๆ)ตอนนี้คือ Living & More เล่มนี้ออกแนวที่อ้อมชอบน่ะ แนวๆ IKEA แนวสีสันอย่างที่เห็นที่อ้อมแต่งให้บ้านตัวเอง แล้วก็อีกเล่มคือ Landhaus (คิดว่าคงชื่อนี้น่ะ ชักไม่แน่ใจเพราะหลังๆมาอ่านแต่ Living & More) อันนี้จะออกแนวคอทเทจๆ คันทรีๆ แม็กกาซีนพวกนี้เค้าจะแทรกที่มาแหล่งซื้อของที่เค้าเอามาลงในเล่มน่ะจ้ะ หวังว่าข้อมูลพวกนี้คงจะช่วยได้นะจ้ะ

ไว้คุยกันใหม่เน้อ แต่งบ้านให้่สนุกๆน้าาา


โดย: ~ Cerulean Blue ~ วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:18:15:19 น.  

 
เอ้อ..เกือบลืม..อ้อมชอบเข้าเว็บนี้ด้วย //decor8blog.com/ เว็บนี้ค่อนข้างดังนะในแวดวงแต่งบ้าน เจ้าของเว็บเป็นสาวอเมริกัน แต่แต่งกับสามีเยอรมัน เค้าก็พึ่งจะย้ายไปอยู่เยอรมันไม่นานนี่เอง เค้าก็มีบล้อกส่วนตัวด้วย เขียนถึงชีวิตใหม่ที่ประเทศเยอรมัน //hollymaus.blogspot.com/

อ้อมชอบเข้าเว็บเค้าเพราะรูปเยอะดีเวลาต้องการหาไอเดีย เว็บนี้เน้นรวบรวมข้อมูลแต่งบ้านและเทรนด์แต่งบ้านของชาวบ้านชาวช่องน่ะ แต่ถ้าให้บอกตรงๆอ้อมไม่ชอบเจ้าของเว็บเป็นการส่วนตัว ที่ชื่อฮอลลี่น่ะ เหมือนเค้าจะเก่ง จะรู้เยอะ วิจารณ์การแต่งบ้านของคนอื่นงั้นๆงี้ๆ แต่ไม่รู้สิ อ้อมตามอ่านมาจะสองปีแล้วมั้ง แต่รู้สึกว่าเค้าเก่งแต่รวบรวมข้อมูลบ้านของคนอื่น โปรโมทตัวเองเหมือนอินทีเรียดีไซเนอร์มืออาชีพ ให้คำปรึกษานู่นนี่ แต่กับบ้านเค้าเองก็ทำออกมางั้นๆ เหมือนจะรู้เยอะแต่ไม่ลงมือทำเอง อ่านๆไปความน่าเชื่อถือมันก็ค่อยๆหายไปอ่ะ แบบว่าทำออกมาไม่สมราคาคุย ฮะๆๆๆ อ้อมปากห-ม-าอีกแล้ว ว่าให้เค้าแต่อ้อมก็ยังเข้าไปดูเว็บเค้าอยู่น่ะ อย่างที่บอกข้างบน เพราะรูปเยอะดี ดูแล้วได้ไอเดียเยอะ


โดย: ~ Cerulean Blue ~ วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:18:30:55 น.  

 
อ่ะ ส่งเม้นท์เสร็จพึ่งไปเห็นข้อความใหม่ของปุ่นที่บล้อกอ้อมอ่ะ นั่นจิ ไว้คุยกันทางเสียงจริงๆคงใช้เวลาเท่าๆกับพิมพ์เนอะ ฮะๆๆ


โดย: ~ Cerulean Blue ~ วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:18:38:04 น.  

 
ป้าอิ๋วไม่รู้ว่าราคาอาหารแพงแค่ไหน แต่เห็นสไตล์การจัดอาหารและวัตถุดิบแล้ว ไม่น่าจะแพงนะคะ ยิ่งบอกว่า ไม่ใส่ผงชูรสเนี่ย ป้าอิ๋วว่า ดีมากๆ เลยค่ะ น้อยร้านอาหารนะคะที่จะคิดแบบนี้ เพราะเขากลัวลูกค้าทานแล้วไม่อร่อยไงคะ แล้วจะไม่กลับมาทานอีก
ป้าอิ๋วก็ทำอาหารทานเองไม่ใส่ผงชูรสค่ะ และหากวัตถุดิบเราดี ผงชูรสก็ไม่จำเป็นค่ะ จริงๆนะคะ
ป้าอิ๋วได้อ่านบล็อกนี้จนจบแล้วเซ็งไปด้วยเลยค่ะ คนไทยก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะ ไม่ค่อยเอาใจเขามาใส่ใจเรา และที่สำคัญคือ ดูถูกคนไทยด้วยกันเองในต่างประเทศนะคะ
คราวหน้าคุณปุ่นน่าจะต้องให้มัดจำ และริบซะให้เข็ดค่ะ
ขอให้กิจการรุ่งเรืองนะคะ เอาใจช่วยนะคะ


โดย: Sai Eeuu วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:16:22:27 น.  

 
หวัดดีจ้าปุ่น

จริง ๆ แล้วบล็อกขนมจีนน้ำยาปูนั่นน่ะ ทำเร็วมากเลยหละ ตื่นสาย ไม่ได้กินอะไร ออกไปจ่ายตลาด กลับมาทำ มาถ่ายรูป เลยไม่ได้ประดิดประดอยอะไรเอย หิว...กว่าจะเสร็จได้กินก็เกือบบ่ายสี่โมงเย็น มื้อแรกของวันน่ะนั่น ฮ่า ฮ่า

เวลาถ่ายรูปที่บ้าน มันค่อนข้างยาก มันเป็นแฟลต ลักษณะจะเหมือนกล่องไง ปุ่นนึกภาพออกใช่มั้ย เหมือนหนังฮ่องกงที่เราเคยดูกันอ่ะ

ห้องนั่งเล่น เป็นห้องกินข้าวไปด้วย ถ่ายรูปกันในห้องนี้แหละ มันมีหน้าต่างอยู่สองข้าง แถมอยู่ผิดทิศ เข้าว่าหน้าต่างที่อยู่ทางทิศเหนือ จะให้แสงดี

ของป้าเนี่ยมีแต่แสงลอดเข้ามานิดหน่อย หน้าต่างอยู่ทางทิศตะวันออกกับตะวันตก เวลาถ่ายรูปจะเสียตรงนี้ ถ้าบ่ายแล้วต้องเปิดไฟสถานเดียว แล้วไฟที่บ้านเป็นไฟหลอดกลมสีเหลือง มันสะท้อนแสงเป็นดวงเลย ป้าจะเจอปัญหานี้เวลาถ่ายรูปตอนบ่าย ยังแก้ไม่ได้ ถ้าถ่ายเช้าจะไม่มีปัญหา

เพื่อนที่ทำงานของสามี (เพิ่งจะลาออกไป) เค้าเป็นตากล้องด้วย กำลังจะย้ายกลับแคนาดา เห็นส่งอีเมลหาสามีป้า จะชวนไปดินเนอร์ ดื่ม-คุย อะไรเงี้ย

ป้าเลยแย๊บ ๆ กับสามีไปว่า ให้ชวนมากินข้าวที่บ้านสิ เดี๋ยวชั้นทำอาหารไทยเลี้ยง อาจเป็นอาทิตย์หน้า

อันนี้คือเว็บเค้า Tim Bowman

เห็นปุ่นกิจกรรมเยอะ ๆ แบบนี้แล้ว นึกถึงคนเก่าคนแก่ เค้ามักจะบอกว่า ตอนท้องให้ทำนั่น ทำนี่ จะได้คลอดง่าย ๆ อิอิ


โดย: Oops! a daisy วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:19:36:37 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Bananarumba
Location :
โคโลญจ์ Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




จากเชียงราย ผ่านเชียงใหม่ ไปกรุงเทพ ปัจจุบันลงตัวอยู่ที่โคโลญจ์ มีความสุขดีเหมือนเป็นบ้านที่สอง
ผ่านชีวิตมาเกือบครึ่งคนแล้ว เขียนบล้อกมาหลายปี จากตอนแรกที่อยากเขียนเพราะต้องการแบ่งปันและอยากมีเพื่อน ตอนนี้จุดหมายในการเขียนเปลี่ยนไปเป็น เขียนเพราะใจอยากเขียน รู้สึกรักภาษาไทยเหมือนเป็นนางงามมิตรภาพ
กิจการปิ่นโตดำเนินไปด้วยดีค่ะ ขอขอบคุณที่สนใจคลิกเข้าไปดูเว็บไซด์นะคะ
Friends' blogs
[Add Bananarumba's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.