บ้านที่มีความรักและความอบอุ่นคือจินตนาการของคนไทยยามนี้ !
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
29 พฤศจิกายน 2548
 
All Blogs
 

ความกระตือรือร้นอีกบทหนึ่งสู่ความสำเร็จ








"ครั้งหนึ่งของการอับปางลงในมหาสมุทรแห่งชีวิต เรือบางลำยังคงมีดวงดาวคอยชี้ทางปลอดภัยอยู่ก็จริง หากว่ามันกลับลอยไปตามน้ำ"

วันนี้กลับมาทบทวนหลักการพื้นฐานที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จในชีวิตนั่นคือ "ความกระตือรือร้นในการทำงาน" ครั้งหนึ่งในชีวิตที่เคยมีประสบการณ์ในการขาย หัวข้อนี้ดูจะมีความสำคัญที่สุดในการที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพนี้ งานขายเป็นงานที่ต้องทำงานแข่งกับเวลาและการนำเสนอการขายด้วยความกระตือรือร้นก็ดูจะเป็นกระแสส่งให้การขายแต่ละครั้งนำไปสู่ความสำเร็จห่างไกลจากคำปฏิเสธ ที่นักขายทุกคนอยากจะหนีมันอย่างมากที่สุด..........

-----------------------------------------

(คัดจาก "ศาสตร์แห่งความสำเร็จ" เขียนโดย นโปเลียน ฮิลล์)


"ท่านทำได้ ถ้าท่านเชื่อว่าท่านสามารถทำได้!"

"ความกระตือรือร้น" เป็นสภาวะอันหนึ่งของจิตใจที่กระตุ้นหรือเร่งเร้าคนเราให้ลงมือ "ปฏิบัติ" ต่องานที่อยู่ในมือ นอกจากนี้มันยังสามารถติดต่อกันได้อีกด้วยและอิทธิพลของความมีชีวิตชีวานี้ไม่เพียงแต่มีผลต่อคนที่มีความกระตือรือร้นเท่านั้น แต่มันยังมีผลต่อคนที่เขาเข้าติดต่ออีกด้วย

"ความกระตือรือร้น" มีบทบาทสำคัญต่อสัมพันธภาพระหว่างมนุษย์เช่นเดียวกับน้ำมันเชื้อเพลิงมีผลต่อเครื่องจักร มันเป็นพลังผลักดันที่มีชีวิตซึ่งก่อให้เกิดการ "ปฏิบัติ" ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือคนที่รู้วิธีกระตุ้นความกระตือรือร้นภายในจิตใจของคนอื่น ๆ "ึความกระตือรือร้น" เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในศิลปแห่งการเดินตลาด ถ้าจะว่าไปแล้วมันเป็นหัวใจของการพูดในที่ชุมชนทีเดียว

ท่านจะเห็นคุณค่าของความกระตือรือร้นในตัวนักพูด เมื่อท่านเปรียบเทียบ บิลลี่ ซันเดย์ กับนักเทศน์พื้น ๆ ทั่วไป คำเทศนาชั้นเยี่ยมจะพบกับการต้อนรับอย่างเยือกเย็น ถ้าปราศจากการสนับสนุนด้วย "ความกระตือรือร้น"

ความกระตือรือร้นมีผลอย่างไรต่อท่าน

ผสมความกระตือรือร้นลงในงานของท่าน แล้วจะไม่มีงานที่ยากลำบากหรือน่าเบื่อหน่าย ความกระตือรือร้นจะให้พลังแก่ร่างกายทุกส่วนของท่านจนท่านสามารถที่จะรู้สึกสุขสบายจากการนอนเพียงครึ่งเดียวของเวลานอนตามปกติของท่าน และในขณะเดียวกันมันจะทำให้ท่านสามารถทำงานได้มากขึ้นสองถึงสามเท่าของงานที่ท่านทำได้ตามปกติในระยะเวลาที่เท่ากัน โดยปราศจากความเหน็ดเหนื่อยหรืออ่อนเพลีย

เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่ข้าพเจ้าชอบเขียนหนังสืออยู่จนดึก ๆ ดื่น ๆ คืนหนึ่ง ข้าพเจ้ามีความกระตือรือร้นต่องานของข้าพเจ้าบนแท่นพิมพ์ดีด จนถึงตอนหนึ่งข้าพเจ้ามองออกไปทางหน้าต่างเห็นเงาของดวงจันทร์ตามความเข้าใจในครั้งแรกของข้าพเจ้า มันเป็นตอนเช้านั่นเอง! ข้าพเจ้าได้ทำงานมาตลอดคืน ดูเหมือนว่าข้าพเจ้าจะหมกมุ่นอยู่กับงานจนเวลากลางคืนได้ผ่านไปอย่างรวดเีร็ว ข้าพเจ้ายังคงทำงานต่อไปอีกตลอดวันนั้น และจนกระทั่งในคืนต่อมา โดยมิได้หยุดพัก นอกจากเพื่อทานอาหารเบา ๆ เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

สองคืนกับอีกหนึ่งวันโดยมิได้นอนเลย กับอาหารอีกเล็กน้อยแต่ข้าพเจ้ามิได้มีความอ่อนเพลียเกิดขึ้นเลย มันคงจะเป็นไปไม่ได้หากข้าพเจ้ามิได้เพิ่มพลังให้แก่ตนเองด้วยความกระตือรือร้นต่องานที่กำลังทำอยู่นั้น

"ความกระตือรือร้น" มิได้เป็นเพียงถ้อยคำโก้ ๆ เท่านั้นแต่มันเป็นพลังที่มีชีวิตชีวาที่ท่านสามารถควบคุมและเอาไปใช้อย่างมีประโยชน์ ถ้าหากปราศจากมันเสียแล้วท่านก็จงเปรียบได้กับถ่านไฟฉายที่ไม่มีพลังไฟฟ้านั่นเอง

"ความกระตือรือร้น" เป็นพลังแห่งชีวิตที่ท่านสามารถเติมให้แก่ร่างกายของท่านและสร้างบุคลิกลักษณะที่มีเสน่ห์ให้กับท่านได้ คนบางคนมีความกระตือรือร้นเป็นพรสวรรค์มาแต่กำเนิด ขณะที่คนอื่น ๆ จะต้องแสวงหามาเองในภายหลัง การที่จะได้มันมานั้นมิใช่เป็นสิ่งที่ยากลำบากเลย มันเริ่มด้วยการทำงานหรือขายบริการที่ตนชอบที่สุด ถ้าท่านไม่อยู่ในสถานะที่จะทำสิ่งที่ท่านชอบที่สุดได้โดยสะดวกในขณะนี้ ท่านก็ยังสามารถที่จะทำงานอย่างมีประัสิทธิภาพด้วยการรับเอา "เป้าหมายที่สำคัญที่แน่นอน" ที่จะเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับงานของท่านในอนาคต

การปราศจากทุนรอนและส่วนประกอบที่จำเป็นซึ่งอยู่เหนือการควบคุมของท่านอาจบังคับให้ท่านต้องทำงานที่ท่านไม่ชอบ แต่มันก็ไม่อาจยับยั้งท่านจากการตัดสินเอาว่าอะไรเป็น "เป้าหมายสำคัญที่แน่นอน" ของท่านเอง ทั้งไม่มีใครที่จะอาจยับยั้งท่านจากการวางแผนและใช้ความตั้งใจของท่านที่จะทำให้เป้าหมายอันนี้เป็นความจริง อีกทั้งไม่มีใครจะอาจหยุดยั้งท่านจากการผสม "ความกระตือรือร้น" ลงในแผนของท่าน

"ความสุข" เป็นเป้าหมายสุดท้ายของความพยายามของคนทั้งมวล ซึ่งเป็นสภาวะอันหนึ่งของจิตใจที่จะสามารถรักษาเอาไว้ได้ก็ด้วยความหวังในการบรรลุความสำเร็จในอนาคตเท่านั้น

=================================

พบกับบทความ "วิเคราะห์โลกด้วยภูมิปัญญาตะวันออก" เขียนโดย ยุค ศรีอารยะ ในกลุ่มบร็อก การเมือง-สังคม




 

Create Date : 29 พฤศจิกายน 2548
6 comments
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2548 11:56:30 น.
Counter : 2502 Pageviews.

 

วันนี้อัพหลายบลอกนะคะ

 

โดย: rebel 29 พฤศจิกายน 2548 12:03:26 น.  

 

แวะมาเก็บเกี่ยวสาระประโยชน์ ขอบคุณครับ

 

โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) 29 พฤศจิกายน 2548 12:49:11 น.  

 

 

โดย: erol 29 พฤศจิกายน 2548 12:52:48 น.  

 

สวัสดีตอนเช้าค่ะ
กระตือรือร้นเป็นพักๆ ^^'

มีความสุขกับการทำงานนะคะ...

 

โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) 30 พฤศจิกายน 2548 7:53:10 น.  

 

ขอบคุณเพลง "โปรดเถิดดวงใจ" ของ คุณทูล ทองใจ ที่ได้รับการช่วยเหลือจาก คุณประกายดาว....

จริง ๆเพลงนี้เก่ามาก จำได้ฟังตอนเด็ก ๆ บรรยากาศตอนรุ่งสางสมัยเด็ก ๆ ก็ได้บรรยากาศยามเช้าไปอีกแบบสำหรับชีวิตที่อยู่ในชนบทในยุคนั้น........

พูดถึงหัวข้อบร็อกสักหน่อย รู้สึกตัวเองก็หย่อน ๆลงไปเหมือนกัน ยังสางงานไม่ค่อยออก ก็คงต้องกลับไปหาบรรยากาศเก่า ๆสมัยที่เคยทำงานแข่งกับเวลา
ก็ขอให้ทุท่านลองทบทวนดูด้วยเช่นกันครับว่าช่วงนี้มีแรงเฉื่อยในตัวเองมากไหมและจะแก้ไขอย่างไร?

 

โดย: คนเดินดินฯ 30 พฤศจิกายน 2548 7:58:07 น.  

 

ขอบคุณมากครับ กับสาระประโยชน์ดี ๆ

 

โดย: Culture 5 ธันวาคม 2548 15:23:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


คนเดินดินฯ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








ปณิธาน

การเดินทางของชีวิตของทุกผู้คน
ทุกคนต่างต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่จะมีสักกี่คนที่จะก้าวไปถึง
เมื่อเราก้าวถึงจุดนั้น
ขออย่าลืมการแบ่งปันและเจือจาน
แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม

เราจะเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน
เพื่อสร้างสรรค์สังคมใหม่ที่ดีงาม

เพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลัง
ได้ใช้ชีวิตของเขา
ตามศักยภาพและความตั้งใจของเขา
ตราบเท่าที่เขาต้องการ







เดินไปสู่ความใฝ่ฝัน


ชีวิตหนึ่งร่วงหล่นไปตามกาลเวลา
คลื่นลูกใหม่ไล่หลังคลื่นลูกเก่า
นั่นคือวัฏจักรของชีวิตที่ดำเนินไป

เยาว์เธอรู้บ้างไหม
ว่าประชาราษฎรนั้นทุกข์ยากเพียงใด
เสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่เหลืออยู่
เธอเคยมีความใฝ่ฝันที่แสนงามบ้างไหม

สักวันฉันหวังว่าเธอจะเดินไปตามทางสายนี้
ที่อาจดูเงียบเหงาและโดดเดี่ยว
แต่ภายใต้ฟ้าเดียวกัน
ฉันก็ยังมีความหวัง
ว่าผู้คนในประเทศนี้
จะตื่นขึ้นมา
เพื่อทวงสิทธิ์ของพวกเขา
ที่ถูกย่ำยีมาช้านาน
และฉันหวังว่าเธอจะเดินเคียงคู่ไปกับพวกเขา

เพื่อสานความใฝ่ฝันนั้นให้เป็นความจริง
สัญญาได้ไหม
สัญญาได้ไหม
เยาว์ที่รักของฉัน


***********



ขอมีเพียงเธอเป็นกำลังใจ




ทอดสายตามองออกไปยังทิวทัศน์ข้างหน้า
แลเห็นต้นหญ้าโบกไสว
เห็นดอกซากุระบานอยู่เต็มดอย
ความงามที่อยู่ข้างหน้า
เป็นสิ่งที่ฉันจะเก็บมันไว้
ยามที่จิตใจอ่อนล้า...

ชีวิตยามนี้แม้ผ่านมาหลายโมงยาม
แต่จิตใจข้างในยังคงดูหงอยเหงา
หลายครั้งอยากมีเพื่อนคุย
หลายครั้งอยากมีคนปรับทุกข์
และหลายครั้งต้องนั่งร้องไห้คนเดียว

รางวัลสำหรับชีวิตที่ผ่านมา
มันคืออะไรเคยถามตัวเองบ่อย ๆ
ความสำเร็จ...เงินตรา...เกียรติยศชื่อเสียง
มันใช่สิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า
ถึงจุดหนึ่งชีวิตต้องการอะไรอีกมากไปกว่านี้

หลายชีวิตยังคงดิ้นรนต่อสู้
เพื่อปากท้องและครอบครัว
มันเป็นความจริงของชีวิตมนุษย์
ที่ต้องดำรงชีพเพื่อความอยู่รอด
มีทั้งพ่ายแพ้ มีทั้งชนะ
แต่ชีวิตต่างต้องดำเนินไป
ตามวิถีทางของแต่ละคน

ลืมความทุกข์ ลืมความหลังที่เจ็บปวด
มองออกไปข้างหน้า
ค้นให้พบตัวตนของตนเองอีกครั้ง
แล้วกลับไปสู้ใหม่
การเริ่มต้นของชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป
จะต้องดำเนินต่อไป

ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต....




@@@@@@@@@@@




การเดินทางของความรัก

...ฉันเดินไปด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า
สมองได้คิดใคร่ครวญ
ความรักในหลายครั้งที่ผ่านมา
ทำไมจึงจบลงอย่างรวดเร็ว

ฉันเดินไปด้วยสมองอันปลอดโปร่ง
ความรักทำให้ฉันเข้าใจโลก
และมนุษย์มากขึ้น
และรู้ว่าความแตกต่าง
ระหว่างความรักกับความหลงเป็นอย่างไร?

ฉันเดินไปด้วยดวงตาที่มุ่งมั่น
บทเรียนของรักในครั้งที่ผ่าน ๆ มา
มันย้ำเตือนอยู่เสมอว่า
อย่ารีบร้อนที่จะรัก
แต่จงปล่อยให้ความสัมพันธ์
ค่อย ๆ พัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เรียนรู้และทำเข้าใจกันให้มากที่สุด

ก่อนที่จะเริ่มบทต่อไปของความรัก...




*******************



จุดไฟแห่งศรัทธาและความมุ่งมั่น

เข้มแข็งกับอ่อนแอ
สับสนหรือมุ่งมั่น
จะยอมแพ้หรือลุกขึ้นท้าทาย
กับชีวตที่เหลืออยู่
ทุกสิ่งล้วนอยู่ที่ใจเราจะกำหนด

ไม่ใช่เพราะอิสระเสรี
ที่เราต้องการหรอกหรือ?
ที่มันจะนำทางชีวิต
ในห้วงเวลาต่อไป
ให้เราก้าวทะยานไป
สู่วันพรุ่งที่สดใส

มีแต่เพียงคนที่รู้จักตนเองอย่างดีพอเท่านั้น
จะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
เมื่อผ่านการสรุปบทเรียน
จากปัญหาต่าง ๆ ที่ประสบ
เราก็จะมีความจัดเจนกับชีวิตมากขึ้น
และการเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ
ในอนาคตก็จะเป็นเพียงปัญหาที่เล็กน้อยสำหรับเรา
ในการที่จะก้าวผ่านไป



ด้วยศรัทธาและความมุ่งมั่นที่มีอยู่ในใจ
ที่จะต้องย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอ
หนทางในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
ย่อมอยู่ไม่ไกลห่างอย่างแน่นอน

*********************



ก้าวย่างที่มั่นคง

บนทางเดินแคบ ๆ ที่เหลืออยู่
หากขาดความมั่นใจที่จะก้าวเดินต่อไป
ชีวิตก็คงหยุดนิ่งและรอวันตาย
แม้ทางข้างหน้าจะดูพร่ามัว
และไม่รู้ซึ่งอนาคต
แต่สิ่งที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
คือก้าวย่างไปอย่างมั่นคง
และมองไปข้างหน้าอย่าเหลียวหลัง
เก็บรับบทเรียนในอดีต
เพื่อจะได้ระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาดอีกในอนาคต

"""""""""""""""""""""""""""""""""



ใช้สามัญสำนึกทำงาน

ไม่มีแผนงานที่สวยหรู
ไม่มีปฏิบัติการใดที่สมบูรณ์แบบ
ในยามนี้มีเพียงการทำงานด้วยการทุ่มเท
ลงลึกในรายละเอียดเท่านั้น
จึงจะสามารถคลี่คลายปัญหาของงานลงได้
บางครั้งโจทย์ที่เจออาจยากและซับซ้อน
แต่เมื่อลงไปคลุกคลีอย่างแท้จริง
โจทย์เหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

""""""""""""""""""""""""""""""""



เรียบ ๆ ง่าย ๆ


อย่ามองสิ่งต่าง ๆ ด้วยแว่นสีที่ซับซ้อน
เพราะในโลกนี้มีเพียงสิ่งสามัญที่เรียบง่าย
สำหรับคนที่สงบนิ่งเพียงพอเท่านั้น
จึงจะแก้โจทย์และปัญหาต่าง ๆ
ด้วยกลวิธีที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ
ไม่ซับซ้อนและตรงจุดได้อย่างเพียงพอ

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ใจถึงใจ

บนหนทางไปสู่ความสำเร็จ
บนหนทางของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
มีเพียงคนที่เข้าใจในสภาพจิตใจของคนทำงานเท่านั้น
จึงจะสามารถนำทีมงานไปสู่เป้าหมายได้
อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน








Friends' blogs
[Add คนเดินดินฯ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.