คนที่ประสบความสำเร็จ(ชีวิตที่ก้าวหน้าและสำเร็จ)
วันนี้ไปค้นหนังสือเก่า ๆ มาได้อีกหนึ่งเล่ม--"ธรรมนูญชีวิต พุทธจริยธรรมเพื่อชีวิตที่ดีงาม" เขียนโดยพระเทพเวที(ประยุทธ ปยุตโต) จัดพิมพ์โดยสมาคมศิษย์เก่ามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้นำเนื้อหาบางส่วนมาโพสต์เพื่อเผยแพร่ต่อ หวังว่าคงมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย...
-------------------------------------------------------
ผู้ที่ต้องการดำเนินชีวิตให้เจริญก้าวหน้าประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะในด้านการศึกษา หรืออาชีพการงานก็ตามพึงปฏิบัติตามหลักต่อไปนี้
ก. หลักความเจริญ ปฏิบัติตามหลักธรรม ที่จะนำชีวิตไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ที่เรียกว่า จักร (ธรรมประดุจล้อทั้งสี่ที่นำรถไปสู่จุดหมาย) ซึ่งมี 4 ข้อคือ
1. ปฏิรูปเทสวาสะ เลือกอยู่ถิ่นที่เหมาะ คือเลือกหาถิ่นที่อยู่หรือแหล่งเล่าเรียนดำเนินชีวิตที่ดี ซึ่งมีบุคคลและสิ่งแวดล้อมที่อำนวยแก่การศึกษาพัฒนาชีวิต การแสวงหาธรรมหาความรู้ การสร้างสรรค์ความดีงาม และความเจริญก้าวหน้า
2. สัปปุริสูปัสสยะ เสาะเสวนาคนดี คือ รู้จักเสวนาคบหาหรือร่วมหมู่กับบุคคลผู้รู้ผู้ทรงคุณ และผู้ที่จะเกื้อกูลแก่การแสวงธรรมหาความรู้ ความก้าวหน้างอกงามและความเจริญโดยธรรม
3. อัตตสัมมาปณิธิ ตั้งตนไว้ถูกวิถี คือ ดำรงตนมั่นอยู่ในธรรมและทางดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ตั้งเป้าหมายชีวิตและการงานให้ดีงามแน่ชัด และนำตนไปถูกทางสู่จุดหมายแน่วแน่ มั่นคง ไม่พร่าส่าย ไม่ไถลเชือนแช
4. ปุพเพกตปุญญตา มีทุนดีได้เตรียมไว้ ทุนดีส่วนหนึ่งคือ ความมีสติปัญญา ความถนัด และร่างกายดีเป็นต้น ที่เป็นพื้นมาแต่เดิม แลอีกส่วนหนึ่งคือ อาศัยพื้นเดิมเท่าที่ตัวมีอยู่ รู้จักแก้ไขปรับปรุงตน ศึกษาหาความรู้ สร้างเสริมคุณสมบัติ ความดีงาม ฝึกฝนความชำนิชำนาญเตรียมไว้ก่อนแต่ต้น ซึ่งเมื่อมีเหตุต้องใช้ก็จะเป็นผู้พร้อมที่จะต้อนรับความสำเร็จ สามารถสร้างสรรค์ประโยชน์สุข และก้าวสู่ความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป
ข. หลักความสำเร็จ ปฏิบัติตามหลักธรรม ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จแห่งกิจการนั้น ๆ ที่เรียกว่า อิทธิบาท (ธรรมให้ถึงความสำเร็จ) ซึ่งมี 4 ข้อคือ
1. ฉันทะ มีใจรัก คือ พอใจจะทำสิ่งนั้น และทำด้วยใจรัก ต้องการทำให้เป็นผลสำเร็จอย่างดีแห่งกิจหรืองานที่ทำ มิใช่สักว่าทำพอให้เสร็จ ๆ หรือเพียงเพราะอยากได้รางวัลหรือผลกำไร
2. วิริยะ พากเพียรทำ คือ ขยันหมั่นประกอบ หมั่นกระทำสิ่งนั้นด้วยความพยายาม เข้มแข็ง อดทน เอาธุระ ไม่ทอดทิ้ง ไม่ท้อถอย
3. จิตตะ เอาจิตฝักใฝ่ คือ ตั้งจิตรับรู้ในสิ่งที่ทำ และทำสิ่งนั้นด้วยความคิด ไม่ปล่อยใจให้ฟุ้งซ่านเลื่อนลอย ใช้ความคิดในเรื่องนั้นบ่อย ๆ เสมอ ๆ
4. วิมังสา ใช้ปัญญาสอบสวน คือหมั่นใช้ปัญญาพิจารณา ใคร่ครวญตรวจตราหาเหตุผล และตรวจสอบข้อยิ่งหย่อนเกินเลยบกพร่องขัดข้อง เป็นต้น ในสิ่งที่ทำนั้น โดยรู้จักทดลอง วางแผน วัดผล คิดค้นวิธีแก้ไขปรับปรุง เป็นต้น
ค. หลักเผล็ดโพธิญาณ ดำเนินตามพระพุทธปฏิปทา ด้วยการปฏิบัติตามธรรม 2 อย่างที่เป็นเหตุให้พระองค์บรรลุสัมโพธิญาณ เรียกว่า อุปัญญาตธรรม (ธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงปฏิบัติเห็นคุณประจักษ์กับพระองค์เอง) คือ
1. อสันตุฏฐิตา กุสเลสุ ธัมเมสุ ไม่สันโดษในกุศลธรรม คือไม่รู้อิ่ม ไม่รู้พอ ในการสร้างความดีและสิ่งที่ดี
2. อัปปฎิวาณิตา จะ ปธานัสมิง บำเพ็ญเพียรไม่ระย่อ คือเพียรพยายามก้าวหน้าเรื่อยไป ไม่ยอมถอยหลัง ไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมท้อถอยต่ออุปสรรคและความเหน็ดเหนื่อยยากลำบาก
----------------------------------------------------
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2548 |
|
18 comments |
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2548 14:29:29 น. |
Counter : 973 Pageviews. |
|
|
|