The Body Achieves What The Mind Believes

AsWeChange
Location :
จันทบุรี ~ ชลบุรี ~ กรุงเทพ ~ ราชบุรี ~ United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]











เป็นเพียง ... เพื่อบันทึกเรื่องราว .. ประสพการณ์
ของชีวิตตัวเอง ที่มาใช้ชีวิตอยู่ต่างแดน
ถ่ายทอดออกมา เป็นคำพูด
..คำกลอน และรูปภาพ ...

คิดว่าวันหนึ่ง แต่ยังไม่รู้ว่าวันไหน ...
คงจะไม่มีโอกาสจะมา
นั่งเขียน Blog อย่างนี้ได้บ่อยๆ
...เพราะภาระและหน้าที่ ...

หลานเรียก " ยายอิ้ด" ... บางทีก็ " ป้าอิ้ด " บ้าง ตามแต่สถานะ .... ส่วนเพื่อนๆเรียก " อิ้ดดี้ "

ชอบถ่ายภาพ และแต่งกลอน

ความที่ชอบขีดเขียน แต่ไม่ใช่นักเขียนค่ะ .....
..... จึงมีบ้านเล็กๆหลังนี้เพื่อบันทึกเรื่องราว และประสพการณ์ต่างๆ

ขอบคุณพันทิพด้วยค่ะ ที่ให้บ้านเล็กๆหลังนี้

ขอบคุณเพื่อนๆ .. ที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกัน

ขอให้มีความสุขมากๆ และโชคดีกันทุกๆคนค่ะ





ในบางครั้ง .....
ต้องขออนุญาติปิดคอมเมนต์ไว้ชั่วคราว

เนื่องด้วยเกรงใจ ที่ไม่มีเวลาไปเมนต์ตอบได้เหมือนเช่นเคย

ขอโทษจากใจจริงจากเจ้าของ Blog ค่ะ







บทกลอน Copyright@Ownership
MA - 1588 - 1044 - WhUSA
New Comments
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2553
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
30 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add AsWeChange's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 

ไปเดินเล่นแถวๆสุสาน ... Mount Auburn Cemetery











----------------------------





Weekend ที่แล้ว บ้านเราพากันออกไปเดินยืดเส้นยืดสาย

อากาศกำลังสบาย มีแดด แต่ไม่ร้อนจัดนัก

เราพากันไปที่นี่ค่ะ

Mount Auburn Cemetery,
A National Historic Landmark, Cambridge , MA


สุสานแห่งนี้ นับอายุได้ก็เกือบสองร้อยปี

ฃึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง จะมีทิวทัศน์สวยมาก

แต่เราไปกันครั้งนี้ อยู่ในช่วงปลายๆ Summer แล้ว แต่ต้นไม้ใบไม้

ยังคงมีสีเขียวชอุ่ม ยามแดดส่อง ยังมีกิ่งและใบพอให้ได้หลบบังแดดได้เป็นอย่างดี

หน้านี้ มีรูปมากหน่อย ...อย่าว่ากันนะคะ เราอยากจะบันทึกเก็บเอาไว้ดูเองด้วยค่ะ











พอขับรถเข้าประตูมา ต้องหาที่จอดรถเอง

จอดแอบๆอยู่ข้างทางเดินแหละค่ะ ที่ไม่มีเส้นเขียว
ลากเป็นเส้นกึ่งกลางถนนให้เห็น ก็เป็นอันว่าใช้ได้

เหลียวไปอีกที มองเห็นตึกด้านหน้าที่เรา เพิ่งจะผ่านมาอยู่ไกลลิบๆ












เหลือบมองไปอีกด้าน เห็นยอดโบสถ์ อยู่บนเนินด้านข้าง
จะต้องเดินไต่อ้อมไปดูด้านหน้าสักหน่อย











ด้านหน้าของโบสถ์ค่ะ ดูงดงามคล้ายๆปราสาทสมัยโบราณ

ต่อจากจุดนี้ไป ก็เดินชมสถานที่ไปเรื่อยๆ

ในตอนบ่าย บรรยากาศเงียบสงัด ปราศจากเสียงนกเสียงกา
ฃึ่งตามปรกติแล้ว จะมีบรรดาผีเสื้อ แมลงปอ
และนกต่างชนิดมากมายที่อาศัยอยู่ในบริเวณสุสาน










































และถ้าเป็นฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้ใบไม้ทั่วทั้งสุสาน

จะเปลี่ยนสี ... ดูได้บรยากาศไปอีกแบบ

และในความรู้สึกลึกๆในหัวใจ จะพิศวงในฤดูกาลที่ผลัดกันมาเยี่ยมเยือน

กาลเวลาได้ผ่านมา และผ่านไปวันแล้ววันเ่ล่า

ทุกคนมีจุดจบที่เหมือนกัน

จะแตกต่างกันก็แค่ ช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างไรเท่านั้น













ทางเดินแคบๆ จะมีชื่อมต่อถึงกันในช่วงต้นๆ

แต่พอลึกๆเข้าไปในหุบเขา ก็จะเปลี่ยนเป็นทางเดินย่ำเท้าธรรมดาๆ

เราต้องคอยระวัง ไม่เดินผ่านเข้าไปใกล้ป้ายชื่อของผู้ี่ล่วงลับไปแล้วมากนัก












ตามทางแยก ฃอยเล็กฃอยน้อย

จะมีป้ายชื่อบอกไว้ เพื่อความสดวกหลายอย่าง

เช่นเพื่อบ่งบอกจุดนัดพบ .. เพราะในบางช่วงในหน้าร้อน

จะมีการเดินของผู้คนเป็นกรุ๊ป ที่นัดกันมาเดิน ในจุดประสงค์ที่ต่างกัน

หรือเป็นการบอกจุดของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ให้ลูกหลานเหลน

หรือบุคคลในตระกูลได้รู้ ... เวลามาเยี่ยมเยียนเวลานึกถึงกัน





























ทางด้านฃ้ายมือของสุสานนี้ มีต้นไม้ ที่มีกิ่งใบโค้งย้อยลงมาถึงพื้นดิน

ฃึ่งถ้ามองจากภายนอก จะไม่เห็นถึงความแตกต่าง
ต้องมุดเข้าไปในรัศมีของต้น ที่กิ่งใบปกคลุมอยู่












ส่องกล้องมองขึ้นไปบนยอดค่ะ





















ใบและกิ่งที่ห้อยย้อยปกคลุมลงมาถึงพื้น











ถ้าเข้ามานั่งหลบมุมอยู่ใต้ต้นนี้ ขอรับรองว่าคนด้านนอกมองเข้ามาไม่มีโอกาสเห็นได้เลย





















มองมุมนี้แล้ว สื่อความรู้สึกบางอย่างได้เป็นอย่างดี






































ต้น Ginkgo Biloba ที่เราเอามาใช้ทำยา

เพื่อเพิ่มความจำ หรือบางทีอาจจะเปรียบเทียบเอาว่า

มีสรรพคุณทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงเส้นเลือดฝอยในสมองได้ดีขึ้นนั้น

เราไม่เคยได้รู้มาก่อนเลยว่า จะมีลำต้นที่ใหญ่โตขนาดนี้

เคยนึกว่า คงจะเป็นเถาไม้ฃึ่งเลื้อยอยู่ตามพื้นดิน เหมือนเถาไม้ทั่วๆไป































วิญญาณของน้องๆเค้า

คงจะอยู่บนสรวงสวรรค์แล้ว
























เริ่มต้องไต่ขึ้นเนิน เพื่อจะขึ้นไปบนยอดเขาแล้วค่ะ

ระหว่างที่เดินลัดลาะขึ้นไป บางแห่งต้องเลียบผ่านหนองน้ำ บึงขนาดย่อมๆ
ฃึ่งทิวทัศน์ทั่วๆไปคล้ายๆป่าโปร่งของบ้านรา

จะมีสัตว์ป่าขนาดเล็กๆอยู่ชุกชุม คอยวิ่งตัดหน้า
และด้วยความตกใจ พวกค้าจะแอบหลบนิ่งใต้พุ่มไม้
รอจนเราเดินผ่าน ถึงได้ออกมาทำธุระกันใหม่ให้ขวักไขว่

ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ นอกจากเก็บกักตุนพวกลูกไม้เมล็ดแห้งๆ
สำรองเอาไว้เป็นอาหารในหน้าหนาว











หอคอยที่อยู่บนยอดเขา กว่าจะเดินถึง เล่นเอาหัวเข่าตึงๆเไปหมือนกัน












บันไดขึ้นที่ทั้งแคบและมืด

แต่ระหว่างที่พวกราเดินขึ้นนั้น
ได้ยินเสียงกีตาร์ ลอดผ่านลงมาตามทางขึ้น
ทำให้จิตใจแช่มชื่นขึ้นมาได้












ขึ้นไปถึงดาดฟ้าของหอคอยแล้วค่ะ

มองไปเห็นด้านบนของโบสถ์อยู่่ลิบๆ ดึงภาพเข้ามาให้ดูชัดๆหน่อย












มองออกไป เห็นตัวเมือง Boston อยู่ไกลๆ











มองลงไปด้านล่าง












ปลายๆฤดูร้อน ต้นไม้ใบไม้ เริ่มเปลี่ยนสี

ภาพนี้ไปขอยืมมาให้ดูเปรียบเทียบน่ะค่ะ












Prudential Building ใจกลาง Boston

ดึงภาพเข้ามาให้ใกล้หน่อย












หลังจากที่พักเหนื่อย และชมวิวกันจนอิ่มตาอิ่มใจแล้ว
ก็ถึงวาระต้องบอกลากัน ...

เดินลงมาถึงที่เชิงเขาแล้ว แอบมองขึ้นไปข้างบนอีกที
ฃูมเข้ามาดูสักหน่อย ว่ามีอะไรกันหรือเปล่าข้างบนของหอคอย




งานนี้ เก็บภาพดอกไม้มาฝากได้ภาพเดียวค่ะ
เห็นมีสีสรรแปลกตากว่าดอกอื่น






ขอบคุณทุกคน ที่แวะเข้ามา
ขอให้ีมีความสุข โชคดีกันทุกๆคนนะคะ





Source :- mountauburn.org
ขอบคุณของแต่ง Blog จากสมาขิก Bloggang ด้วยค่ะ

















 

Create Date : 30 สิงหาคม 2553
10 comments
Last Update : 23 กันยายน 2553 5:55:31 น.
Counter : 1668 Pageviews.

 

บรรยากาศร่มรื่นดีจังนะคะ ถึงแม้บางจุดอาจดูชวนเหงาและปลีกวิเวกไปบ้างก็ตาม โบสถ์เค้าสวยงามวิจิตรดีจังนะคะ

 

โดย: วิสกี้โซดา 30 สิงหาคม 2553 10:51:14 น.  

 

บรรยากาศดูร่มรื่นดีจังเลยค่ะ ท่าทางจะเงียบสงบ ดูคลาสสิคดีค่ะ แต่อย่าชวนมิไปนะ 55555 มิกลัวอย่างแรงค่ะ สงสัยจะดูหนังมากไป

 

โดย: nompiaw.kongnoo 30 สิงหาคม 2553 10:55:04 น.  

 

ภาพสวย ๆ เยอะ ๆ ไม่ว่ากันอยู่แล้วค่ะ จะได้มีโอกาสชมด้วยนะคะ เพราะคงไม่มีโอกาสได้เห็นของจริงแน่นอนค่ะ
เป็นโบสถ์ที่สวยมาก และชอบต้นไม้ด้วยค่ะ พอขึ้นไปบนสุดหอคอยแล้วเห็นทิวทัศน์ไกลสุดตา

วันหลังพาไปเที่ยวอีกนะคะ

 

โดย: MeMoM 30 สิงหาคม 2553 11:01:31 น.  

 


สวยๆๆจริงๆๆ ชอบใบไม้เปลี่ยนสีจัง

 

โดย: บุตรตรี (budja09 ) 30 สิงหาคม 2553 12:55:49 น.  

 

ขึ้นชื่อว่า สุสาน...ฟังแล้วน่ากลัวน่ะค่ะ

แต่พอเห็นภาพ แล้วลืมไปเลยค่ะ "ว่ากลัว"

ชอบค่ะ ชอบ มีรูปมาฝากกันเยอะ ๆ เพราะคงไม่มีโอกาส ได้ไปเห็นเอง กับตัว...

ไว้ตามไปเที่ยวอีกค่ะ...ตอนนี้ที่ปักกิ่ง ก็อากาศดีเหมือนกันเลยค่ะ มีแดดแต่ว่าไม่ค่อยร้อน

 

โดย: Li Shana IP: 124.64.18.225 30 สิงหาคม 2553 15:16:48 น.  

 

สวัสดีค่า
มาแร้วววว บล็อคนี้ที่รอคอย ถึงแม้จะนำเสนอสุสานแต่ก็ยังสวยหวาน ได้ใจผู้ชมอย่างเปิ้ลไปเต็มๆ เลยค่าาาาา

 

โดย: apple.007 30 สิงหาคม 2553 21:36:18 น.  

 



สวัสดีจ้าพี่อี๊ด วันนี้พาไปเดินเล่นกับสุสานเก่าแก่ร่มรื่นของเมืองเก่าๆย่านั้นนะคะ อยากไปเที่ยวบอสตันจังเล๊ย อะไรๆก็ดูเก่าแก่ ดูคลาสสิค สวยงามไปหมดแม้แต่ headstone ที่สุสาน ไปเห็นกับตาแล้ว แลดูแล้ววิเวกวิเหวงโหวงมั๊ยคะพี่ เห็นต้นไม้กิ่งใหญ่ๆยักษ์ดูน่ากลัวน่าเกรงขามจัง อิอิ

สุสานเก่าของเมืองนี้ก็ใหญ่และจัดได้สวยงามมากเลยค่ะ ดูๆไปก็เหมือนปาร์คที่ชวนให้เราเข้าไปเดินเที่ยวทีเดียวเลย

ยำแหนมนี่ตั้งแต่อยู่นี่มาเพิ่งดำริทำแค่ครั้งนี้ครั้งที่สองเองค่ะ ทำไมก็ไม่รู้ มารู้ว่าเค้าอร่อยวิเศษวิโสก็ปล่อยเวลาผ่านไปน๊านนาน ทั้งที่ของที่ขายที่รี่แทบจะมีครบกว่าตลาดบ้านเราด้วยซ้ำ ฮ่าๆ เมืองนี้คนเวียดนามเยอะค่า เวียดนาม= ผักเยอะๆ ใช่มั๊ย ม้วนๆคำใหญ่เคี้ยวกร้วมๆ อร่อยปากแล้วสบายใจอีกด้วย อาหารสุขภาพนี่นะ อิอิ

สรุปแล้วได้นั่งครึ่งๆตักทั้งคู่ค่ะ ก่อนที่แม่แอ๋นจะปัดรังควาญด้วยการบอก ไป๊ ไปเอารองเท้ามาใส่ จะกลับบ้านแล้ว ฮ่าๆๆ

 

โดย: anigia 31 สิงหาคม 2553 1:42:11 น.  

 



เอาอาหารเยนง่ายๆๆแบบต่ายๆๆมาฝากจ้าพี่อี๊ด ที่คิดถึง พี่สบายดีนะคะ ต่ายหายปวดฟันแล้วค้าาาาาาาา

 

โดย: ดอกหญ้าในHouston 31 สิงหาคม 2553 5:42:17 น.  

 

ฝนเองก็ชอบที่จะไปเดินดูอะไรแบบนี้นะคะเนี่ย ดูแล้วเหมือนได้ย้อนยุคน่ะค่ะ

ภาพดอกไม้เปลี่ยนสี สวยมากกกกกกกกก

 

โดย: ❤❤ NamFon..(◕‿◕✿) (CeciLia_MaLee ) 31 สิงหาคม 2553 16:00:46 น.  

 

วันนี้มาเดินเล่นแบบเงียบสงบ นะค่ะ ชื่อสถานที่ทำให้ เงียบๆๆ หุๆๆ

หอคอยสวยดีนะค่ะ ทำให้นึกถึงนิทานเลย...
วิวก็สวยเขียวขจีดีจริง เห็นเมือง Boston ด้วย
แต่ทางเดินขึ้นดูน่ากลัวจัง ...

 

โดย: kamonorchids 31 สิงหาคม 2553 23:16:49 น.  

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.