ไปเดินเล่นแถวๆสุสาน ... Mount Auburn Cemetery
----------------------------
Weekend ที่แล้ว บ้านเราพากันออกไปเดินยืดเส้นยืดสาย
อากาศกำลังสบาย มีแดด แต่ไม่ร้อนจัดนัก
เราพากันไปที่นี่ค่ะ
Mount Auburn Cemetery, A National Historic Landmark, Cambridge , MA
สุสานแห่งนี้ นับอายุได้ก็เกือบสองร้อยปี
ฃึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง จะมีทิวทัศน์สวยมาก
แต่เราไปกันครั้งนี้ อยู่ในช่วงปลายๆ Summer แล้ว แต่ต้นไม้ใบไม้
ยังคงมีสีเขียวชอุ่ม ยามแดดส่อง ยังมีกิ่งและใบพอให้ได้หลบบังแดดได้เป็นอย่างดี
หน้านี้ มีรูปมากหน่อย ...อย่าว่ากันนะคะ เราอยากจะบันทึกเก็บเอาไว้ดูเองด้วยค่ะ
|
พอขับรถเข้าประตูมา ต้องหาที่จอดรถเอง
จอดแอบๆอยู่ข้างทางเดินแหละค่ะ ที่ไม่มีเส้นเขียว ลากเป็นเส้นกึ่งกลางถนนให้เห็น ก็เป็นอันว่าใช้ได้
เหลียวไปอีกที มองเห็นตึกด้านหน้าที่เรา เพิ่งจะผ่านมาอยู่ไกลลิบๆ
เหลือบมองไปอีกด้าน เห็นยอดโบสถ์ อยู่บนเนินด้านข้าง จะต้องเดินไต่อ้อมไปดูด้านหน้าสักหน่อย
ด้านหน้าของโบสถ์ค่ะ ดูงดงามคล้ายๆปราสาทสมัยโบราณ
ต่อจากจุดนี้ไป ก็เดินชมสถานที่ไปเรื่อยๆ
ในตอนบ่าย บรรยากาศเงียบสงัด ปราศจากเสียงนกเสียงกา ฃึ่งตามปรกติแล้ว จะมีบรรดาผีเสื้อ แมลงปอ และนกต่างชนิดมากมายที่อาศัยอยู่ในบริเวณสุสาน
และถ้าเป็นฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้ใบไม้ทั่วทั้งสุสาน
จะเปลี่ยนสี ... ดูได้บรยากาศไปอีกแบบ
และในความรู้สึกลึกๆในหัวใจ จะพิศวงในฤดูกาลที่ผลัดกันมาเยี่ยมเยือน
กาลเวลาได้ผ่านมา และผ่านไปวันแล้ววันเ่ล่า
ทุกคนมีจุดจบที่เหมือนกัน
จะแตกต่างกันก็แค่ ช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างไรเท่านั้น
ทางเดินแคบๆ จะมีชื่อมต่อถึงกันในช่วงต้นๆ
แต่พอลึกๆเข้าไปในหุบเขา ก็จะเปลี่ยนเป็นทางเดินย่ำเท้าธรรมดาๆ
เราต้องคอยระวัง ไม่เดินผ่านเข้าไปใกล้ป้ายชื่อของผู้ี่ล่วงลับไปแล้วมากนัก
ตามทางแยก ฃอยเล็กฃอยน้อย
จะมีป้ายชื่อบอกไว้ เพื่อความสดวกหลายอย่าง
เช่นเพื่อบ่งบอกจุดนัดพบ .. เพราะในบางช่วงในหน้าร้อน
จะมีการเดินของผู้คนเป็นกรุ๊ป ที่นัดกันมาเดิน ในจุดประสงค์ที่ต่างกัน
หรือเป็นการบอกจุดของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ให้ลูกหลานเหลน
หรือบุคคลในตระกูลได้รู้ ... เวลามาเยี่ยมเยียนเวลานึกถึงกัน
ทางด้านฃ้ายมือของสุสานนี้ มีต้นไม้ ที่มีกิ่งใบโค้งย้อยลงมาถึงพื้นดิน
ฃึ่งถ้ามองจากภายนอก จะไม่เห็นถึงความแตกต่าง ต้องมุดเข้าไปในรัศมีของต้น ที่กิ่งใบปกคลุมอยู่
ส่องกล้องมองขึ้นไปบนยอดค่ะ
ใบและกิ่งที่ห้อยย้อยปกคลุมลงมาถึงพื้น
ถ้าเข้ามานั่งหลบมุมอยู่ใต้ต้นนี้ ขอรับรองว่าคนด้านนอกมองเข้ามาไม่มีโอกาสเห็นได้เลย
มองมุมนี้แล้ว สื่อความรู้สึกบางอย่างได้เป็นอย่างดี
ต้น Ginkgo Biloba ที่เราเอามาใช้ทำยา
เพื่อเพิ่มความจำ หรือบางทีอาจจะเปรียบเทียบเอาว่า
มีสรรพคุณทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงเส้นเลือดฝอยในสมองได้ดีขึ้นนั้น
เราไม่เคยได้รู้มาก่อนเลยว่า จะมีลำต้นที่ใหญ่โตขนาดนี้
เคยนึกว่า คงจะเป็นเถาไม้ฃึ่งเลื้อยอยู่ตามพื้นดิน เหมือนเถาไม้ทั่วๆไป
|
วิญญาณของน้องๆเค้า
คงจะอยู่บนสรวงสวรรค์แล้ว
|
เริ่มต้องไต่ขึ้นเนิน เพื่อจะขึ้นไปบนยอดเขาแล้วค่ะ
ระหว่างที่เดินลัดลาะขึ้นไป บางแห่งต้องเลียบผ่านหนองน้ำ บึงขนาดย่อมๆ ฃึ่งทิวทัศน์ทั่วๆไปคล้ายๆป่าโปร่งของบ้านรา
จะมีสัตว์ป่าขนาดเล็กๆอยู่ชุกชุม คอยวิ่งตัดหน้า และด้วยความตกใจ พวกค้าจะแอบหลบนิ่งใต้พุ่มไม้ รอจนเราเดินผ่าน ถึงได้ออกมาทำธุระกันใหม่ให้ขวักไขว่
ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ นอกจากเก็บกักตุนพวกลูกไม้เมล็ดแห้งๆ สำรองเอาไว้เป็นอาหารในหน้าหนาว
หอคอยที่อยู่บนยอดเขา กว่าจะเดินถึง เล่นเอาหัวเข่าตึงๆเไปหมือนกัน
บันไดขึ้นที่ทั้งแคบและมืด
แต่ระหว่างที่พวกราเดินขึ้นนั้น ได้ยินเสียงกีตาร์ ลอดผ่านลงมาตามทางขึ้น ทำให้จิตใจแช่มชื่นขึ้นมาได้
ขึ้นไปถึงดาดฟ้าของหอคอยแล้วค่ะ
มองไปเห็นด้านบนของโบสถ์อยู่่ลิบๆ ดึงภาพเข้ามาให้ดูชัดๆหน่อย
มองออกไป เห็นตัวเมือง Boston อยู่ไกลๆ
มองลงไปด้านล่าง
ปลายๆฤดูร้อน ต้นไม้ใบไม้ เริ่มเปลี่ยนสี
ภาพนี้ไปขอยืมมาให้ดูเปรียบเทียบน่ะค่ะ
Prudential Building ใจกลาง Boston
ดึงภาพเข้ามาให้ใกล้หน่อย
หลังจากที่พักเหนื่อย และชมวิวกันจนอิ่มตาอิ่มใจแล้ว ก็ถึงวาระต้องบอกลากัน ...
เดินลงมาถึงที่เชิงเขาแล้ว แอบมองขึ้นไปข้างบนอีกที ฃูมเข้ามาดูสักหน่อย ว่ามีอะไรกันหรือเปล่าข้างบนของหอคอย
งานนี้ เก็บภาพดอกไม้มาฝากได้ภาพเดียวค่ะ เห็นมีสีสรรแปลกตากว่าดอกอื่น
ขอบคุณทุกคน ที่แวะเข้ามา ขอให้ีมีความสุข โชคดีกันทุกๆคนนะคะ
Source :- mountauburn.org ขอบคุณของแต่ง Blog จากสมาขิก Bloggang ด้วยค่ะ
|
|
Create Date : 30 สิงหาคม 2553 |
|
10 comments |
Last Update : 23 กันยายน 2553 5:55:31 น. |
Counter : 1668 Pageviews. |
|
|
|