คะเร่ไร้ซ์.. แกงกะหรี่ญี่ปุ่น

หลายๆท่านคงทำเป็นกัน ขั้นตอนมันก็ไม่ได้แตกต่างกันซักเท่าไหร่หรอกค่ะ ส่วนผสมก็คล้ายๆกัน บางคนอาจเพิ่มโน่นนิดนี่หน่อยตามแต่ความชอบ เช่นบางคนอาจใช้แอปเปิ้ลขูด หรือมะเขือเทศสับละเอียดใส่ปนลงไป แต่สุดท้ายแล้วมันก็คือโยนของทุกอย่างลงไปต้มให้สุก เปื่อยพร้อมทานนั่นเอง


ลุงที่บ้านเคยจู้จี้เรื่องแกงกะหรี่มาเหมือนกันค่ะ เพราะส่วนตัวแล้วลุงจะชอบทานเลยพยายามสรรหาคิดว่าทำอย่างไรถึงจะอร่อยที่สุดประมาณกินแล้วเหาะเหินได้ปานนั้น เคยลองทำมาหลายหลาก ซื้อเครื่องเทศมาปรุงเองก็เคย สุดท้ายลิ้นไอ้เข้อย่างลุงก็บอกว่ามันไม่ต่างกันซักเท่าไหร่กับเครื่องแกงแบบกล่อง ได้ความภูมิใจว่าฉันทำเองปรุงเองมากับมือเท่านั้นเองบวกกับคิดเข้าข้างตัวเองว่าอร่อย


ลุงเคยถามป้าโซว่าถ้าเปิดร้านขายข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่นอย่างเดียวที่เมืองไทยนี่จะขายได้ไหม ป้าโซตอบว่าได้.. สักอาทิตย์นึงมั้งแล้วก็เจ๊ง เพราะคนไทยกินอย่างเดียวเป็นที่ไหน เรามันช่างเลือก ขนาดเมนูที่ทางร้านมีหลากหลายก็ไม่วายจะขอสั่งตามใจตัวเอง


มาค่ะ มาดูลุงที่บ้านทำแกงกะหรี่ดีกว่า บอกก่อนนะคะว่าแกค่อนข้างเรื่องมาก จุกจิกนิดนึงแต่ออกมาแล้วใช้ได้ทุกครั้ง ทำครั้งนึงหม้อโตๆ เก็บค้างคืนทานต่อได้อีกสองวัน ยิ่งค้างยิ่งอร่อยเหมือนแกงส้มบ้านเราค่ะ


บ้านป้าโซจะใช้หม้ออัดความดันเป็นตัวสำคัญ เพราะไม่เปลืองเวลาและแก๊ส แถมอาหารที่ได้ก็นุ่มได้ใจรสชาติเข้าเนื้อเข้าน้ำ รูปทรงวัตถุดิบก็ไม่เปลี่ยนเท่าไหร่เพราะของบางอย่างถ้าใช้เวลานานๆในการต้มตุ๋น มักจะยุ่ยไม่เหลือรูปทรงเดิมให้เห็นว่ามันคืออะไร เวลาที่ใช้ในการต้มให้เปื่อย รู้สึกจะย่นระยะเวลาจากปกติสามเท่านะคะถ้าจำไม่ผิด อย่างมันฝรั่ง ไชเท้า ไข่ตุ๋น สามนาทีอยู่หมัดเลยค่ะ ลงทุนครั้งเดียวแล้วประหยัดไปได้หลายๆอย่าง แต่ก่อนป้าโซก็กลัวที่จะใช้เพราะเวลาอัดความดันมันจะเสียงดังมาก กลัวระเบิด.. แต่ก็ไม่มีอะไร เป็นปกติของเขาอย่างนั้นเอง


แกงกะหรี่วันนี้ทำด้วยหม้ออัดความดันเช่นเคยค่ะ สำหรับคนที่ไม่มีก็ใช้เวลาในการต้มหน่อย..


หน้าตาวัตถุดิบที่จะใช้ค่ะ หลักๆเลยสำหรับพวกผักก็มี มันฝรั่ง แครอท หอมใหญ่ ส่วนผักอื่นจะใส่ตามชอบอีกก็ได้ค่ะไม่ว่ากัน ที่บ้านจะใส่มะเขือม่วงกับเห็ดชิเมะจิด้วย แชมปิญองก็น่าจะเข้ากันนะคะ .. เคล็ดไม่ลับของลุงเขาก็คือมะเขือเทศกระป๋อง ใช้แบบ cut tomato นะคะ ไม่ใช่แบบลูกๆ หรือถ้าไม่มีก็ใส่ซอสมะเขือเทศแทนก็ได้ค่ะ แล้วก็เครื่องปรุงแกงกะหรี่หลับหูหลับตาคว้ามาซักยี่ห้อ เลือกระดับความเผ็ดเอาค่ะ บ้านเราคงเป็นเผ็ดมากแต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เผ็ดสำหรับลิ้นอย่างเราๆ .. สำหรับวันนี้ใช้เผ็ดกลางเพราะคนตัวเล็กชอบโวย






หน้าตาของวัตถุดิบตัวอื่นๆ มีหมู เห็ด อ้อ แอบมีแม้กกี้ปรุงรสก้อนด้วย ก็พวกซุปไก่ ซุปหมูก้อนทั้งหลายแหละค่ะ ไม่อร่อยให้มันรู้ไป หย่อนไปซักสองก้อนเล็กๆ ที่นี่ก้อนเล็กเท่าลูกเต๋าค่ะ




หั่นผักให้ดูบางอย่างนะคะ แครอทหั่นเฉียงไปเฉียงมา มันฝรั่งเหมือนกันค่ะ อาหารญี่ปุ่นบางอย่างนี่ จู้จี้แม้กระทั่งลักษณะการหั่น แต่รายการนี้ หั่นตามใจป้าโซค่ะ มะเขือม่วงไม่ต้องหั่นเล็กนัก เพราะเวลาสุกแล้วจะนิ่มเหี่ยวไปหมด อ้อ..ผักที่หั่นดูเยอะกว่าที่โชว์ข้างบน เพราะที่บ้านจะทำเยอะค่ะ ใช้เครื่องแกงกะเอา แต่ถ้าทำตามข้างกล่องที่ระบุไว้ก็ใช้วัตถุดิบประมาณที่บอกไว้ข้างบนนะคะ







สำหรับหอมใหญ่ เพราะป้าโซใช้หม้ออัดความดันเลยหั่นใหญ่ได้ พอตุ๋นก็หายหมดค่ะ แต่ตามตำราบางอันที่ต้มแบบธรรมดาเขาจะสไลซ์แล้วเอาไปคั่วกับน้ำมันก่อนให้เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลค่อนไปทางเข้มๆ แต่อย่าให้ไหม้แล้วค่อยใส่หม้อต้มค่ะ อันนี้หั่นแบบบักเอ้กแบบนี้




แล้วโยนลงไปในหม้อที่ใส่น้ำไว้ตามข้างกล่องเครื่องแกง 1500 มล. พอดีโยนกล่องทิ้งไปแล้ว แหะๆๆ ประมาณนี้แหละค่ะ .. พร้อมกับแครอท เห็ด แม้กกี้ก้อน มะเขือเทศกระป๋อง






หมูค่ะ..





เตรียมหั่นหมูเป็นก้อนพอดีคำ ถ้าใช้หม้ออัดความดันจะใช้ส่วนไหนก็ได้เพราะนิ่มง่าย แต่ถ้าต้มด้วยหม้อธรรมดาใช้ที่ติดมันนิดหน่อยจะดี จะได้นุ่มหน่อย ไม่ต้องถึงกับสามชั้นหรอกนะคะ อาจเป็นพวกสันคอ สะโพก ก็ว่าไป ลองดูค่ะป้าโซก็ไม่สันทัดนักหรอก





หั่นหมูแล้วทอดในกะทะใส่น้ำมันเล็กน้อย พอให้หมูเกรียมๆ แล้วใส่นี่.. สาเกทำอาหารหรือใครจะเหยาะเหล้าอะไรไปก็ได้ ยกเว้นกระแช่ แล้วก็เหยาะวูสเตอร์ซอส หรือซอสเปรี้ยวลงไปเล็กน้อย ใครไม่มีจะเว้นขั้นตอนนี้ก็ได้ค่ะ เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยที่ลุงปรุงแต่งตามแต่คิดว่ามันน่าจะทำให้อร่อยขึ้น





แล้วเหยาะเกลือพริกไทยลงไปค่ะ






ทอดให้เกรียมเป็นสียังงี้




แล้วเอาใส่หม้อรวมกับพวกผักที่ใส่ไปตะกี้ เกือบลืม.. ชงกาแฟดำซักแก้วนะคะ ใส่กาแฟสักสองสามช้อนชา ผสมน้ำร้อนสักครึ่งแก้ว ใส่ไปในหม้อต้ม โรยวูสเตอร์ซอส.. ซอสเปรี้ยวลงไปอีกสักช้อนสองช้อนโต๊ะ เขาว่าซอสเปรี้ยวนี่จะทำให้รสชาติอาหารดีขึ้นไม่ว่าใส่อะไร ถ้ากลัวรสเปรี้ยวออกหน้าเกินก็ใส่แต่น้อย เขาว่า(อีกละ) กินเปรี้ยวดีต่อสุขภาพกว่ากินเค็มหรือหวานค่ะ





ปิดฝาต้มไปประมาณสิบห้านาทีด้วยหม้ออัดความดันนะคะ แต่ถ้าเป็นหม้อธรรมดาก็ต้มไปเคี่ยวไปจนกว่าหมูจะนิ่มได้ใจ






อ้อ ไอ้เวลาที่จับสำหรับหม้ออัดความดันน่ะ จับหลังจากที่มันร้องฟี้ๆๆ นะคะ ต้มไปสักสิบห้านาที แล้วปิดไฟ เปิดจุกข้างบนให้ไอน้ำมันออกมาให้หมดแล้วเปิดฝา คราวนี้ใส่ผักที่เหลือคือมะเขือม่วงกับมันฝรั่ง ปิดฝาต้มอัดความดันไปอีกสามนาที เช่นเคย.. จับเวลาตั้งแต่ตอนมันร้องฟี้ๆๆ ที่ใส่มันฝรั่งตอนนี้เพราะสุกง่าย ถ้าใส่แต่ตอนต้นกว่าหมูจะนิ่มมันฝรั่งก็จะเละไป วุ่ยวายนิดหน่อยแต่ออกมาแล้วอร่อยค่ะ


ปิดไฟ เปิดฝามาดูโฉมหน้ากันหน่อย




ทีนี้บิเครื่องแกงเป็นก้อนๆตามที่เขาแบ่งมาไว้ใส่ลงไปในหม้อ ใส่ตอนร้อนๆกระจายๆให้ทั่วหม้อนะคะ แล้วใช้ทัพพีไม้คน หรือพลาสติกก็ได้ไม่แนะนำให้ใช้สแตนเลสเดี๋ยวผักจะเละหมด คนให้เครื่องแกงละลายให้หมด แอบขโมยนมสดลูกเติมลงไปอีกหน่อย เอานมจืดนะคะ อย่าไปเอานมที่มีรสปรุงแต่งแล้ว .. เปิดไฟอ่อนๆ ต้มให้เดือดปุดๆไปสักแป๊บ ระวังหมั่นคนอย่าให้ไหม้ติดก้นหม้อ แกงกะหรี่ไหม้ก้นหม้อละจบกันเลย.. เหม็นไหม้ ไม่อร่อย เสร็จละค่ะ มาดูหน้าตากัน





ตักใส่จานเลยค่ะ .. ใครจะทานคู่กับพวกของชุบผงขนมปังทอดเช่นหมู กุ้ง ปลา ก็เข้ากัน จานนี้ของเด็ก ทานแกล้มกับผักดองที่ทานคู่กับแกงกะหรี่






ส่วนจานนี้ของป้าโซเองค่ะ ยักกะสายมาทานคู่กับผักลวก พอดีไปได้ถั่วฝักยาวมา ปีนึงจะเห็นซักครั้งนึง จับมาลวกแล้วจัดใส่จานอย่างนี้







แกงกะหรี่ เป็นอาหารที่ประยุกต์ทานได้หลากหลายค่ะ ร้านขายเฉพาะแกงกะหรี่ที่นี่ โดยหลักแล้วเขาจะทำน้ำแกงกะหรี่ที่มีมันฝรั่ง แครอท หอมใหญ่ เป็นหลัก หรือไม่ก็ทำแต่น้ำแกงล้วนๆ มีหมู เนื้อ แล้วแต่ร้าน แล้วแยกพวกผักต่างๆมาใส่ทีหลัง ตามแต่ลูกค้าจะเลือกตามเมนู ที่เห็นๆก็มีปวยเล้ง มะเขือยาว เห็ด ผักรวม ทงคัทสึ คือเอาน้ำแกงเป็นหลัก ลูกค้าสั่งอะไรก็ค่อยมาต้มรวมอีกทีกับของที่ลูกค้าสั่ง คะเร่ย์คนยากก็คือมีแต่น้ำแกงกับวิญญาณหมูค่ะ เคยไปทานบุฟเฟ่ต์ที่เรียวคังอยู่ที เป็นเรียวคังที่ถูกมากๆ เขาจัดแกงกะหรี่มาให้แบบนี้ ป้าโซเล็งหาเนื้อสัตว์อยู่นาน ลุงบอกอย่าเล็งให้ยากเลย ไม่มีหรอก..
แต่เขาก็ให้ทงคัทสึมาคนละชิ้น โปะบนข้าวเอาน้ำแกงราดเข้า ใครอยากเติมก็เติมได้ แต่งบหมูทอดมีชิ้นเดียวค่ะ


ขอให้อร่อยในฝีมือตัวเองค่ะ สวัสดี




 

Create Date : 25 กรกฎาคม 2552
10 comments
Last Update : 25 กรกฎาคม 2552 13:35:26 น.
Counter : 5365 Pageviews.

 

ชอบข้าวราดแกงกะหรี่ญี่ปุ่นค่ะ
กินได้ไม่อั้นเลย
ยิ่งมีเครื่องเยอะๆ อย่างที่คุณลุงทำนะ โอยแค่คิด ก็ใจลอยไปถึงญี่ปุ่นแล้วค่ะ

เคยกินแต่ข้าวราดแกงกะหรี่คนยากค่ะ ที่เซนทรัลเวิร์ด
มีแต่น้ำกับของทอดชิ้นเดียว ร้อยกว่าบาท

เห็นของบ้านป้าโซ แล้วน่ากินกว่ากันเยอะเลยค่ะ

 

โดย: oanotai 25 กรกฎาคม 2552 13:42:19 น.  

 

ป้าโซ น่าทานมากๆๆๆๆ ถึงมากที่สุด
เพราะชอบทานคาเรไรซ์มากๆ
หม้อแรงดันนี่ดีจังเลยเนอะ
เห็นสีแล้วน่าทานมาก ราดข้าวร้อนๆ โหยยย

 

โดย: mame (@FirstblusH ) 25 กรกฎาคม 2552 17:31:27 น.  

 

ของโปรดวิสกี้เลยค่ะ หม่ำง่ายคล่องคอดีนะคะ

 

โดย: วิสกี้โซดา 25 กรกฎาคม 2552 23:11:48 น.  

 

แหม ดีนะ ทานข้าวมาแล้วอิ่มๆ ไม่งั้นนั่งน้ำลายย้อยแน่ค่ะ

 

โดย: มาดามอุ้ย 26 กรกฎาคม 2552 9:07:13 น.  

 

น่าทานมากๆเลยค่ะ ป้าโซ แต่ไม่ค่อยทำอะไรที่เป็นกะทิสักเท่าไรค่ะ เพราะฝามีไม่ทาน

 

โดย: Macys 26 กรกฎาคม 2552 15:19:29 น.  

 

เห็นแล้วหิว
น่าทานมากมายค่ัะ

 

โดย: บังเอิญสวย(ช่วยไม่ได้) 26 กรกฎาคม 2552 21:50:25 น.  

 

ความฝันเป็นจริง ป้าโซจัดให้
จะลองทำดูนะครับ ต้นตำหรับจากญี่ปุ่นแท้เลย^^

ขอบคุณครับบบบ....

 

โดย: bigbird IP: 202.176.180.239 21 สิงหาคม 2552 2:54:20 น.  

 

แอบมาขโมยตำรา

เป็นคนบ้าแกงกะหรี่ญี่ปุ่น

 

โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) 28 ธันวาคม 2552 14:13:59 น.  

 

เคยทำเองอ่ะป้าโซ แต่ว่ารสชาติไม่ได้เรื่องเลยยยย

 

โดย: Goizd 13 กรกฎาคม 2553 16:01:02 น.  

 

มาสอนที่บ้านเลยได้มั้ยอ่ะ T^T

 

โดย: พลอยมี่ IP: 124.122.186.80 9 กรกฎาคม 2554 20:47:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ป้าโซ
Location :
คุรุเม่ ฟุกุโอกะ Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]




สวัสดีค่ะ ..

ป้าโซอยู่อำเภอเล็กๆแห่งหนึ่งในจังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งอยู่ในเกาะคิวชู เกาะทางใต้ของญี่ปุ่น

เรื่องราวที่เล่าๆสู่กันฟังนี่ มาจากประสบการณ์ส่วนตัวซึ่งสอดแทรกความคิดเห็นเข้าไปด้วย อันไหนไม่เข้าทีก็อ่านผ่านๆไปละกันนะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาค่ะ
New Comments
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
25 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ป้าโซ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.