Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2549
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
3 กุมภาพันธ์ 2549
 
All Blogs
 
เหตุผล (ของตัวดิชั้น) ที่มีสาีมีฝรั่ง

ไม่รู้กี่หน กี่ครั้ง ที่ถูกถามว่า "ทำไมถึงมีแฟนฝรั่ง?" นี่อย่างสุภาพนะ จริง ๆ คนที่ถามคงอยากใช้คำว่า ผ.มากกว่า แต่พอหันมาเจอสายตานางพญามารเลยหุบปาก

ดวงค่ะคุณ มันเป็นเรื่องของดวง ประกอบกับการไขว่คว้าหาสามีนิดหน่อย (คิดว่านั่งยิ้มอยู่เฉย ๆ แล้วผู้ชายจะหล่นจากฟ้า ลงมาใส่ตักรึ)

จริง ๆ ดิชั้นก็ไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องมีสามีเป็นฝรั่งหรอกค่ะ แต่คิดตรองดูแล้ว ตามเหตุผลและสติปัญญาเฉพาะตัว ของดิชั้นเอง ข้อดีก็มีดังนี้

๑. จะได้ไม่ทะเลาะกัน เพราะเค้าก็พูดภาษาเราไม่ได้ เราอาจจะพูดอังกฤษได้ แต่ก็แค่ I, am, she, the แล้วจะทะเลาะกันได้ไง (ดิชั้นใช้ภาษามือไม่เป็น)

๒. จะได้ไม่แย่งอาหารไทยกิน เวลาโมโหหิวดิชั้นเห็นช้างเท่าหมู

๓. จะได้ช่วยดิชั้นทำงานบ้าน อันนี้สำคัญมาก ๆเพราะดิชั้นชอบเป็นคุณนายค่ะ

บอกแล้วนะคะว่าเป็นแค่เหตุผลของดิชั้น คนอื่นจะมีเหตุผลหรือไ่ม่ อย่างไร ดิชั้นไม่เกี่ยว
เอาเข้าจริง ๆ พอแต่งงานแล้ว กลับกลายเป็นว่า

๑. แฟนดิชั้นเป็นคนอังกฤษค่ะ เลยทะเลาะกันได้มันปาก สำเนียงไม่เป็นอุปสรรค คำไหนไม่เข้าใจก็ถามซะให้เข้าใจ แล้วทะเลาะกันต่อ

๒. ปรากฏว่าเดี๋ยวนี้เธอสามารถกินส้มตำปลาร้าได้ คิดดูละกัน...จะมีอะไรเหลือ

๓. ดิชั้นหางานทำไม่ได้ค่ะ พูดภาษาเยอรมันได้เท่าหางอึ่ง (จะรู้เรื่องเฉพาะศัพท์เรื่องกับข้าว)เลยต้องเป็นแม่บ้านสมองไว Stepford wife อยู่กับบ้าน ดังนั้น จงก้มหน้าก้มตาทำงานบ้านไปเถอะจ้ะ

นี่ล่ะค่ะ เค้าถึงว่า "ความรัก ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล"

เอียนสุด ๆไปดีกว่าค่ะ


Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2549 1:56:58 น. 19 comments
Counter : 1167 Pageviews.

 
ตรงข้ามกับอิชั้นเลยค่ะ ต้องคอยตอบคำถามคนว่า ทำไมถึงยังไม่มีแฟน "ฝรั่ง" ได้ยินบ่อยๆแล้วเซ็งค่ะ คนชอบคิดว่ามาเรียนเมืองนอกแล้วจะต้องมีแฟนฝรั่ง ฝรั่ทุกคนรวย สารพัดคลิเช่...


โดย: brasserie 1802 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:2:29:39 น.  

 

หุหุ แต่ก็สุขใช่ไหมล่ะ
ดีออกค่ะ มีใครมาแชร์ความรู้สึกร่วมกัน


โดย: p_tham วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:2:50:22 น.  

 
ข้อดีข้อสองโดนใจมากเลยค่ะ ตอนนี้ยิ่งหิว ๆ อยู่ ตามหาอาหารไปทั่ว

ส่วนข้อสอง หลังแต่งงาน... อยากได้แบบนี้ัจังจะได้ไม่บ่นเหม็นเวลาต้มน้ำปลาร้า


โดย: แม่น้องธัย IP: 68.47.106.39 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:4:06:53 น.  

 
แต่ละคู่ก็มีเหตุผลต่างกันไป ขอบคุณที่เล่าสู่กันฟังค่ะ


โดย: petunia lover วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:4:23:52 น.  

 
รักข้ามขอบฟ้า และพรหมลิขิตบรรดาลชักพาด้วยมังคะ


โดย: เฉลียงหน้าบ้าน วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:4:50:55 น.  

 
เป็นบุพเพสันนิวาสค่ะ
ดีจัง ที่กินส้มตำเป็นด้วย
พูดถึงแล้วก็อยากกินในทันที

เป็นแม่บ้าน ถือว่ามีบทบาทสำคัญนะคะ
ภูมิใจได้เลย อิอิ


โดย: ~มณีลัลลา~ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:5:32:45 น.  

 


โดย: อ้วนดำปื๊ดปื๊อ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:6:06:58 น.  

 
สรุปสามข้อแรกหวืดหมด สามข้อหลังท่องอย่างเดียวต้องทำ ๆ


โดย: ชายคา วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:7:11:23 น.  

 
Ha ha,สาเหตุที่ไม่ค่อยกลับบ้านก็เพราะคำถามนี้แหละคะ อีกอย่างคนโน้นก็บอกหาให้ที คนนี้ก็บอกหาให้ที เฮ้อ เดี้ยนไม่ใช่แม่สื่อนะยะ ใครอยากได้ยังไงก็ไขว่คว้าหาเอาเองตามความสามารถเหอะ

เหตุผลหลักที่ตัวเองได้เพราะไม่มีหนุ่มไทยเอาเรา (ขอเราแต่งงาน)


โดย: เสียงซึง วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:7:46:45 น.  

 
ของมังคุดมักจะเจอคำถามว่า
"เจอกันได้ยังไง"
นึกในใจ จะอยากรู้ไปทำไมวะ
มันเรื่องส่วนตัว

มังคุดชอบแฟนฝรั่ง เพราะอิสระดีค่ะ
มีความเป็นส่วนตัวมาก คุยกันด้วยเหตุผล
และเค้าเสมอต้นเสมอปลาย
(ดียังไงก็ดีอย่างนั้น แย่ยังไงก็แย่อย่างนั้น)
แถมพ่อแม่ก็ไม่มายุ่งย่ามมากมาย
มีไปเยี่ยม แต่ไม่มาจุ้นจ้านให้รำคาญในค่ะ

แต่จะมีแฟนเป็นผู้ชายไทยหรือฝรั่ง
สำหรับมังคุดไม่เป็นไร
ขอแค่หาที่มันดีๆได้ก็ดีใจแล้วค่ะ

ไม่อยากเจอพวกเลี้ยงด้วยลำแข้ง


โดย: mungkood วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:9:07:57 น.  

 
ก่อนจะมาเป็นแฟนก็ไม่ได้คิดหรอกค่ะว่าทำไม ทำไม ทำไม

มีคนถามเหมือนกันแต่บางทีเราก็ไม่ตอบนะเพราะว่าด้วยน้ำเสียงบางคนถามก็ถามด้วยกริยาดี แต่ว่าบ้างก็เจอแบบถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่อยากตอบ ... แอบมีเฉยๆ ไปบ้างแค่ยิ้มข้างหน้าแต่ว่าข้างในก็จะคิดว่าแล้วจะอยากรู้เอาไปทำไมล่ะนั่น


โดย: JewNid วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:12:04:35 น.  

 
คุณ brasserie 1802 เข้าใจค่ะ
คุณ p_tham ก็สุขบ้าง ทุกข์บ้าง รักเศร้าหวานซึ้งเจือขื่นขมระทมโศกไปตามเรื่องน่ะค่ะ จะต่างจากหนังอินเดียตรงเราไม่มีคฤหาสน์กับเต้นระบำรำฟ้อนไม่เป็น นอกนั้นพอไหวค่ะ
คุณแม่น้องธัย เวลาดิชั้นทอดปลาหมึกแห้งกับปลาเค็มเธอก็เ้ม้งแตกเหมือนกันค่ะ ทีชีสเหม็นยังกะกลิ่นถุงเท้า ดิชั้นยังไม่แอะซักคำ
คุณ petunia lover จริงคะ
คุณ เหลียง แหม ช่างรู้ใจจริง ดิชั้นชอบทั้งคุณสวลี และสุนทราภรณ์ (คงเดาอายุได้นะคะ)
คุณ มณีขา ดิชั้นก็พยายามคิดอย่างนั้นค่ะ จริง ๆ นะคะ
คุณ แม่น้องบัดดี้ นู๋ลินใส่ชุดน่ารักโดนใจมาก จะมีใครตัดชุดให้หมายักษ์อย่างน้องโน่บ้างมั้ยคะ
คุณ ชายคา ค่ะ สเป็คน่ะมีได้ แต่เวลาได้มาก็เงี้ยค่ะ หาตรงสเป็คยาก
คุณ เสียงซึง ค่ะ แหมเห็นเราเป็นมาม่าซังไปได้ ยิ่งตอนนี้ Memoir of Geisha กำลังฮิตอยู่
คุณมังคุด ค่ะ ทำไมคนถึงอยากรู้กันนัก ดิชั้นก็สงสัยเหมือนกัน เวลาคนถามดิชั้นเลยตอบว่า "เจอกันที่โบ๊เบ๊" แล้วก็คอยเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อย ๆ เช่น ตลาดใหม่ดอนเมือง ตรอกจันทน์สะพาน ๓ ซอยไผ่สิงโต ฯลฯ บางทีออกต่างจังหวัดไปเลย เช่น ดอนหอยหลอด ดอยแม่ปั๋ง บรบือ นานเข้าก็เลิกถาม ลองดูนะคะเผื่อ work
คุณ นิด ลองแบบที่ดิชั้นแนะนำน้องมังคุดนะคะ อาจดูบ้า ๆแต่ work จริง ๆ ค่ะ แค่พยายามหาที่แปลก ๆ เท่านั้น


โดย: Amber n the Gang วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:15:33:58 น.  

 
บางทีคิดไปคิดมาก็งงๆอยู่เหมือนกัน ไม่เคยนึกว่าจะต้องแต่งกับฝรั่งเลย แต่พรหมลิขิตมั้งค่ะ อยู่ๆมันก็มาเองโดยไม่ได้ตั้งใจ


โดย: jeab&michelle วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:17:54:08 น.  

 
อ๊ะ..มาเจอชมรมสามีฝรั่งที่บล็อกนี้แฮะ...ฮาฮา..ขอเม้นท์บ้างละกัน
จริงๆแล้วจะฝรั่ง หรือไทย หรือชาติไหน ก็ไม่สำคัญค่ะถ้าได้เจอคนดีและเป็นคนที่ใช่ เรื่องนี้เป็นเรื่องบุปเพสันนิวาส ดิฉันไม่เคยคิดเรื่องมีสามีฝรั่งแต่อยู่ๆกับแฟนคนไทยที่คิดว่าใช่ก็กลับไม่ใช่ พอมาเจอกับคนนี้กลายเป็นว่าคนนี้ล่ะใช่เลย...เอไปอยู่ไหนกันมาน๊า ทำไมถึงเพิ่งมาเจอกัน...แปลกดีค่ะ

ดิฉันมีข้อสังเกต ที่ต้องยอมรับว่าผู้ชายฝรั่งส่วนใหญ่ (ไม่ใช่ทุกคนนะคะ) ก็มีข้อดีเยอะค่ะถ้าเปรียบเทียบกับผู้ชายไทย

ขอให้มีความสุขนะคะ ก็แบ่งๆ สามีทานส้มตำปลาร้าไปก็ละกัน ทำอะไรแล้วทานด้วยกันได้มีความสุขดีออกนิ


โดย: VA_Dolphin วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:19:52:16 น.  

 
คุณ jeab&michelle ค่ะ แอมเบอร์ได้แต่คิดเฉย ๆ แล้วมันก็มาเป็นแบบนี้เอง เหมือนกันค่ะ
คุณ VA_Dolphin ค่ะ ชาติอะไรก็ได้ แต่ขอให้ดีกะเราเป็นพอ บางคนเค้าก็หมั่นไส้ว่านิยมของนอกก็มีค่ะ แต่ใครจะว่าไงก็ช่าง เราไม่ถือ ของพรรค์นี้ต่างจิตต่างใจค่ะ


โดย: Amber n the Gang วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:2:01:20 น.  

 
ชอบมากๆเลยค่ะ อ่านไปหัวเราะไป มีแฟนเปงคนอังกฤษเหมือนกันค่ะ หัวอกเดียวกันเลย อิอิอิ ตอนนี้แฟนชอบกินข้าวเหนียวไก่ย่างส้มตำมากๆ ไม่รู้เปลี่ยนสัญชาติตั้งแต่เมื่อไหร่


โดย: angielicious วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:20:31 น.  

 
หวัสดีจ้าชมรมสามีฝรั่ง ดิฉันก้อเป็นหนึ่งในชมรมที่มีสามีฝรั่ง สามีดิฉันอายุ 63 ปีปีนี้ อืมไม่ใช่น้อยเลยนะ ดิแนอายุ 27 ปี แต่งงานกันแล้ว เราอยู่ด้วยกัน มา 4 ปีแล้วไม่เห็นมีปัยหาอะไรเลย เรารักกันมาก เราอยู่ด้วยกันด้วย ความเข้าใจ เราคุยกันทุกเรื่องราว ภายใต้ของเหตุผล ... ดิฉันก้อมีความสุขดีทุกอย่าง หลายๆคนมองว่าเราจะไปกันไม่รอดแน่ ไม่รู้สิคะ รู้แต่ว่าสัยยากับตัวเองแล้วว่า จะเป็นคนดีของสามีตราบจนวันสุดท้าย... ที่สามีจะมีชีวิตอยู่ เราจะดุแลกัน และกัน ดิฉันจะจบปริญาตรีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้....
และกะว่าจะต่อโท เลย ถ้าใครอยากรู้ เรื่องราวมากกว่านี้มีต่อนะจะ จะมาเล่า ให้ฟังอีก อ้อ..ลืมบอกสามีเป็นคน ฝรั่งเศษนะคะ
จบการศึกษาระดับ ปริยญาเอก เป็นผู้บริหารระดับสุง ของบริษัท แห่งหนึ่ง .. ในกรุงปารีส . เดี๋ยวมาเล่า ต่อนะถ้ามคนมาเม้นให้
เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่า


โดย: อีกหนึ่งคนที่มีสามีฝรั่ง IP: 125.27.227.196 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:18:48 น.  

 
55555555 ชมรมเดียวกันค่ะ ดิฉันโด้ยยย


โดย: [7th Heaven] วันที่: 17 กรกฎาคม 2551 เวลา:4:32:43 น.  

 
ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ อยากมีมั่ง


โดย: na IP: 125.24.183.56 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:17:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Amber n the Gang
Location :
สมุทรปราการ United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Friends' blogs
[Add Amber n the Gang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.