แต่ถ้าแดดออก ก็จะอาบน้ำตากแดดกันไปค่ะ รับแสงยูวี แต่แบบนี้ดีนะคะ ทำให้ตรงห้องน้ำ
มีแสงสว่างอยู่เสมอ ไม่ทำให้เรารู้สึกว่าห้องน้ำอับชื้นค่ะ
ดอกไม้ที่เห็นตกแต่งอยู่บนเตียง เค้าปลูกเองในรีสอร์ตนะคะ
ซึ่งถ้าปล่อยเอาไว้เฉยๆดอกก็จะร่วงทิ้งไป ก็เด็ดมาตกแต่งที่นอนแบบนี้
สวยงามแถมได้ใช้ประโยชน์ด้วยเนอะ
คุณเสกที่ฟร้อนเล่าให้เราฟังว่า รีสอร์ทที่นี่ จะใช้ต้นไม้ดอกไม้ ในรีสอร์ตตกแต่ง
โดยที่พวก ระแนงไม้ต่างๆเช่นบันได หรือ ที่ตกแต่งร้านอาหาร
ก็ตัดมาตกแต่งเองนะคะ ไม่ได้ซื้อทั้งหมด ซึ่งถ้ามีใบไม้ร่วง
หรือมีเศษกิ่งไม้หักลงมา ทางคนสวนก็จะเอาไปรวบรวม แล้วก็เอาไปย่อย
ให้เป็นเศษไม้ เศษใบไม้เล็กๆ แล้วเอามาคลุมหน้าดิน เป็นปุ๋ยธรรมชาติอีกทีค่ะ
ถือว่าเป็นการรีไซเคิลหมุนเวียนเอาขยะมาทำให้เกิดประโยชน์มากๆ
เป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติ แถวนั้นได้ดีทีเดียวค่ะ ฟังแล้วทึ่งเลย
วันที่วาไปถึงเค้าเล่ากันว่า เมื่อคืน ฝนตกหนักมากๆค่ะ
วันนี้น้ำเลยขุ่น ตั้งแต่มาเที่ยวเสม็ด ครั้งนี้ ฝนน่าจะตกแรงจริงๆ เพราะว่า
วาเพิ่งเคยเห็นน้ำขุ่นขนาดนี้นะ พอถามเค้าก็บอกว่า เพราะน้ำป่าไหลลงมา
ทำให้น้ำขุ่น วาก็เพิ่งรู้นะคะเนี่ยว่ามันมีน้ำป่าไหลลงมาด้วย
ซึ่งน้ำที่ไหลมานี้ ทางรีสอร์ทบอกว่าเราจะไม่ทิ้งไปเฉยๆ จะมีบ่อพักเอาไว้
แล้วนำไปใช้รดน้ำต้นไม้ หรืออะไรต่อไปค่ะ
ที่เลอวิมานจะมี ห้องอาหาร สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องอินเตอร์เน็ต และสปากระจายอยู่รอบๆรีสอร์ท
โดยห้องอาหารจะมี 2 ที่ห้องอาหาร "O" จะเป็นที่ทานอาหารเช้า และ ขายอาหาร อิตาเลี่ยน
ช่วงเที่ยงและเย็นค่ะ อีกห้องอาหารนึง ชื่อว่า BUZZ จะขายอาหารไทยค่ะ
อินเตอร์เน็ตสามารถมาเล่นฟรีได้ที่ห้องอินเตอร์เน็ตค่ะ ซึ่งในนี้จะมีหนังสือพิมพ์ให้อ่านด้วย
มีคอมพิวเตอร์อยู่ 2 เครื่องนะคะ เน็ตค่อนข้างเร็วทีเดียว ส่วน wi-fi วาลองเปิดที่ห้องพัก
ไม่มีสัญญาณค่ะ บางห้องอาจจะมีสัญญาณแต่อ่อนมาก เค้าบอกว่า ให้ไปเล่นที่ล๊อบบี้จะดีกว่า
สระว่ายน้ำที่นี่ หันหน้าออกทะเล ไม่เล็กไม่ใหญ่ ลึกประมาณ 90 เซนติเมตร
จะมีช่วงนึงที่สโลปลงไปเป็นส่วนที่ลึกที่สุด ก็ราวๆเมตรนิดๆค่ะ วายืนแล้วก็อยู่ราวๆปาก
ไม่ได้ลึกมากค่ะ มีจากุชชี่เล็กๆอยู่ที่สระด้วยค่ะ ทะเลไม่ค่อยสวย เลยมาเล่นน้ำที่สระแทนสนุกไปเลย
สระไม่ได้เป็นส่วนตัวมากนัก แต่ก็ไม่ถึงกับคนพลุกพล่านนะคะ
เพราะ ช่วงสระว่ายน้ำจะเป็นพื้นยกสูงจากระดับทางเดินปกตินิดนึงค่ะ
เล่นน้ำจนฟ้ามืดลง พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า วันนี้เป็นที่น่าเสียดายว่า ฟ้าปิด
เลยได้เห็นแต่เมฆสะท้อนแสงพระอาทิตย์สีสวย แต่ไม่เห็นเป็นดวงกลมๆโตๆจมน้ำ
สงสัยต้องเอาไว้ถ้ามีโอกาส มาพักแก้ตัวใหม่ค่ะ :D
พอฟ้ามืดลงไฟที่ล๊อบบี้ก็จะเปิดค่ะ ช่วงเวลาที่ยังมีแสงธรรมชาติ
เค้าจะยังไม่เปิดไฟที่ล๊อบบี้ เป็นการประหยัดพลังงานค่ะ ไฟหลายดวงแบบนี้
พอเปิดแค่ช่วงหัวค่ำหรือฟ้ามืดเป็นต้นไป ก็คงประหยัดไปได้เยอะเลยค่ะ
อาหารเย็นที่ห้องอาหาร "O" คนเยอะมากๆ 90% เป็นแขกต่างชาติค่ะ สังเกตุดูแล้ว
ชาวต่างชาติแต่งตัวดีๆทั้งนั้นเลยค่ะ วาเลยไม่กล้าถ่ายรูปทั่วๆไป เพราะเกรงใจแขกท่านอื่น
ห้องอาหารคนค่อนข้างเต็ม เปิดเมนูดูแล้ว อาหารที่นี่ ราคาสูงประมาณนึง
แต่อาหารที่ได้ปริมาณเยอะอยู่เหมือนกันค่ะ ขนมปังที่นี่อร่อยใช้ได้เลย
(ข่าวว่าเอามาจาก ทรายแก้วบีช รีสอร์ท เพราะที่นั่นมีร้านเบเกอรี่ ทำขนมปังเองค่ะ)
ที่ห้องอาหารนี้จะมีเตาอบพิซซ่าเองค่ะ ซึ่งก็ไม่ควรพลาดที่จะลองเมนู พิซซ่าของที่นี่
พอได้ชิมแล้วก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ชิ้นใหญ่ 8 ชิ้น เป็นแบบ บางกรอบ ชีสมากันทั้งครอบครัวเลย ^^
ใครชอบทานพิซซ่าชีสเยิ้มๆเหมือนวา ปลื้มแน่นอนค่ะ อันนี้เป็น ซีฟู๊ดนะคะ อัดแน่นด้วยคุณภาพจริงๆ
อาหารอื่นๆที่สั่งก็คือ ซีซ่าร์สลัด ลาซานญ่า แล้วก็ พอคชอป(จานยักษ์)ค่ะ สลัดและลาซานญ่ารสฝรั่งสุดๆ
ส่วนพอคชอปนี่ พอยกมาเสริปปั๊บ ถึงกับต้องร้องเสียงหลงเลยค่ะ เพราะจานใหญ่มากกว่าที่เคยกินมาทุกที่เลย
เนื้อก็ใหญ่นะคะ แต่จานใหญ่มากจริงๆ 55555 เนื้อสุกไปหน่อย แต่เหนียวนุ่มมาก นึกว่าทานเนื้อวัวแหน่ะ
ตบท้ายด้วยไอศครีม 1 ถ้วย 2 ลูก เพราะคุณชา พนักงานเสริฟที่น่ารักของห้องอาหารนี้ เชียร์ให้ทาน
จริงๆเค้าก็เชียร์มาตลอดตั้งแต่สั่งอาหารแล้วค่ะ แนะนำดีมาก เป็นกันเองสุดๆ แอบฮาด้วย เหอๆ
อิ่มแล้วก็เข้านอนอย่างมีความสุข อิ่มจุกกันเลยค่ะ (^^)
อ้อ ตอนที่เราไปทานอาหาร แม่บ้านมาเทรินดาวน์ห้อง แล้วเอาขนมมาวางบนเตียงให้ด้วยค่ะ
เวลคัมฟรุ๊ตตอนเช้ายังไม่ได้ทานเลยนะ แหะๆ
เช้าตื่นขึ้นมาก็ไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร "O" เช่นเดิม เป็น Buffet แต่อาหารไม่ค่อยเยอะค่ะ
แต่คุณภาพคับแก้วมากๆ ไส้กรอก แฮม เบค่อน น่าจะใช้วัตถุดิบดีเพราะอร่อยมากๆ ติดใจไส้กรอกรมควัน
และเบค่อนสุดๆ เมนูไข่ สั่งได้จากพ่อครัวนะคะ
วันนี้เป็นที่น่ายินดีว่า แดดแรงมากๆเลยค่ะ น้ำทะเลก็เลยสีสวยตามไปด้วย
มันต้องอย่างนี้สิถึงจะเป็นเกาะเสม็ดที่สวยสุดยอดของเรา ฟ้าสวย น้ำใส เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม ^________^
ถึงแม้ที่รีสอร์ตจะยุ่งๆ เพราะมีเตรียมงานแต่งงานที่อ่าวพร้าว และเตรียมรับเสด็จ ในฝั่งของ ทรายแก้วบีช
เรายังได้มีโอกาสคุยกับหลายคนที่รีสอร์ทค่ะ เพราะอยากรู้อะไรก็เรียกถามเลย
ทุกๆคนจะใส่ยูนิฟอร์ม และมีป้ายชื่อเล็กๆ ติดที่หน้าอกค่ะ ทุกคนยิ้มแย้มและดูเต็มใจบริการ
โดยเฉพาะคุณเสก ที่อยู่หน้าฟร้อน ถามอะไร รบกวนอะไรก็ จัดให้ได้ทุกอย่าง
ทั้งจองโต๊ะทานอาหาร และจองสปา แถมให้ข้อมูลน่ารักๆของรีสอร์ต ที่ฟังแล้วรักที่นี่จัง
เช่น ที่เลอวิมานจะมีต้นไม้ต้นนึงค่ะอยู่หน้าฟิตเนส คือต้นสำโรง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนกเงือกค่ะ
ซึ่งนกเงือกเค้าจะมาเกาะที่ต้นนี้เพื่อกินลูกสำโรงนี่แหล่ะ ราวๆ 6-7 โมงเช้า แต่วาตื่นไม่ทันอดเห็นเลย
ลูกสำโรงที่ว่าเค้าจะเอาไปจัดในงานแต่งงานเพราะลูกนี้ถ้าผ่าาออกมา จะมีรูปร่างเหมือนรูปหัวใจ
และ นกเงือกจะเป็นสัญลักษณ์ของ รักนิรันดร์ เพราะเค้าจะไม่เปลี่ยนคู่ จะรักกันไปตลอดชั่วนิรันดร์
เค้าเลยนิยมมาแต่งงานกันที่นี่นั่นเอง (โรแมนติกสุดๆ)
และคู่แต่งงานที่มาจัดงานเค้าจะมีธรรมเนียมปฏิบัติคือ จะต้องปลูกต้นไม้ร่วมกันค่ะ
และจะมีป้ายปักไว้แบบนี้ด้วย น่ารักจังเลย ทุกๆงานแต่งงานจะมีต้นไม้ขึ้น 1 ต้น
เห็นอยู่หลายจุดเลยนะคะ คนนิยมมาแต่งงานที่นี่เยอะเลย น่าอิจฉาจริงๆ
วาได้เอ่ยปากถามว่าเห็นจากข่าวปีที่แล้ว ว่าเกาะเสม็ดมีปัญหา
ทั้งน้ำในอ่างเก็บน้ำของเกาะแห้ง และปัญหาขยะล้นเกาะ หลายฝ่ายลงมาช่วยกัน ตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว
คำตอบที่ได้ก็น่ายินดีมากค่ะ ว่าปีนี้หลายๆอย่างดีขึ้น เรื่องปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำก็สูงขึ้นมากกว่าปีก่อน
แต่รีสอร์ทในเครือ เสม็ดรีสอร์ทกรุ๊ป ตามปกติจะซื้อน้ำและมีพาหนะขนย้ายข้ามมาจากฝั่งเลย
จึงไม่ได้มีผลกระทบเท่าไหร่ แต่ก็ต้องแลกด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามไปด้วย
ส่วนปัญหาเรื่องขยะนั้น ตามปกติแล้วเค้าจะใช้วิธีฝังกลบค่ะ แต่นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น
ไม่มีที่จะฝังกันแล้ว มันล้นเกาะเสม็ดจริงๆ แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากเพราะคนในเกาะเริ่มที่จะแยกขยะกันมากขึ้น
และนำขยะรีไซเคิลไปขายบนฝั่ง ทำให้ปัญหาขยะลดน้อยลงไปมาก
แล้วทางรีสอร์ตก็ใจดีค่ะ พาไปดูสถานที่จริงกันเลยทีเดียว ซึ่งต้อง เดินทางออกไป
จากรีสอร์ทไกลพอสมควรแต่วาก็อยากไปมานานแล้วค่ะ ตั้งแต่เห็นข่าว
รู้สึกเหมือนเกาะเสม็ดเป็นบ้านของเราอีกหลังนึง เราก็ไม่อยากให้บ้านของเราถูกขยะ
บดบังความสวยงามของบ้านของเรานะ อันนี้จากใจเลย แอบผูกพันเล็กน้อย :)
พอไปถึงคุณสมนึก ผู้ที่พาเราไปทัวร์ลงพื้นที่ (ประหนึ่งอบต.มาดูงานที่เกาะ) ที่นั่น
ก็บอกว่า ปีก่อน กองขยะสูงกว่านี้อีกสองเท่าได้ เกือบเท่าแนวยอดไม้สีเขียวนั่นเลย
คุณสมนึกบอกว่าไม่ได้มาเป็นปีแล้วเหมือนกัน มาเห็นตอนนี้ ถือว่าขยะลดลงเยอะมากทีเดียว
ตรงนั้นมีคอกหมูป่าขนาดใหญ่ ที่เค้าเลี้ยงเอาไว้ด้วยค่ะ เดินกันไปมา เหมือนสุนัขเลย น่ารัก ^^
คุณสมนึกบอกเราว่า ถ้ามีขยะพวกเศษอาหาร เค้าจะเอามาให้หมูกิน
เจ๋งมากๆค่ะ เป็นวิธีรีไซเคิลขยะเศษอาหารด้วยวิธีธรรมชาติสุดๆ น้องหมูอวบอ้วนทุกตัวเลย ><
รีสอร์ทขนาดใหญ่อย่างเลอวิมาน หรือเครือ เสม็ดรีสอร์ท เริ่มมีการแยกขยะมานานแล้ว
ซึ่งถ้าเป็นขยะที่รีไซเคิลได้ก็จะนำไปขาย ขยะเศษต้นไม้ใบหญ้าเอาไปทำปุ๋ย
ขยะเศษผักผลไม้จากห้องครัวเอาไปแยกไขมัน แล้วเอาไปทำน้ำหมักชีวะภาพ
แต่ก็มีขยะที่เอาไปทำอะไรไม่ได้ก็จะรวบรวมมาทิ้งที่นี่เป็นบางครั้ง หรือขนย้ายขึ้นไปทิ้งที่ฝั่ง
แต่วาว่า ที่เกาะเสม็ด มีที่พักแบบชาวบ้าน และ ชุมชนเยอะมาก ซึ่งวาเชื่อว่าเค้าอาจจะไม่มีระบบ
อะไรมากมายเท่าไหร่ อย่างน้อย นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ควรที่จะปลูกสำนึกของตัวเอง
ไม่ถึงกับต้องแยกขยะทุกครั้ง แค่ไม่ทิ้งขยะลงบนพื้น หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้ แหล่งท่องเที่ยวต่างๆไม่ใช่แค่ที่เกาะเสม็ด น่าเที่ยวและอยู่คู่บ้านเราไปอีกนานๆค่ะ
สำรวจพื้นที่เรียบร้อยคุณสมนึกใจดี พาแวะไปที่ บ้านพักของป่าไม้ค่ะ (หรือบ้านพักอุทยานหว่า)
ถ้าได้มาพักที่อ่าวพร้าว แล้วไม่รู้จะทำอะไร สามารถเดินมาตรงนี้ได้นะคะ ไม่ไกลเลย
ตรงนี้มีจุดชมวิวที่สวยงามมาก เห็นแล้วกรี๊ดเลยค่ะ เพราะน้ำใส และสีสวยมากๆเลย
กลับถึงที่พัก เราก็ไปสปาต่อค่ะ สปาที่นี่ ชื่อว่า " ทิวาริน สปา " มีหลากหลายเมนูให้เลือกผ่อนคลาย
วันนี้วาขอลองนวด อโรมา เป็นครั้งแรกค่ะ ปกติเคยแต่นวดไทย ทางเข้าสปา ร่มรื่นดีจริงๆ
มาถึงห้องเค้าก็ยื่น ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ให้ค่ะ พร้อมทั้งกางเกงชั้นในโปร่งแสง 1 ตัว
คือ ใส่ กับ ไม่ใส่ มีค่าเท่ากันเลยค่ะ สยิวกิ้ววววว 555555
แล้วพอเข้าไปที่ห้องนวด เค้าก็ให้เรานอนคว่ำบนเตียง
แล้วก็ดึงผ้าเราออก แว๊กกกกก ตกใจเล็กๆ แล้วเค้าก็เอาผ้าคลุมตัวเรานะคะ
แล้วลงมือนวด ซึ่ง เพิ่งรู้ว่านวดแบบนี้ถึงเนื้อถึงตัว ถึงเส้นดีเหมือนกันนะ
แต่แอบเกร็งตรงมันโป๊ นี่ล่ะค่ะ แต่จริงๆแล้วเค้ามีสเตปของเค้า
ซึ่งเค้าคงจะไม่ได้อยากดูเราเท่าไหร่หรอก
นวดเสร็จ เวลาผ่านไปไวมากค่ะ เค้าบอกว่ายังไม่ต้องอาบน้ำ ให้น้ำมันซึมเข้าผิวก่อน
ซึ่งตอนแรกวาก็ไม่รู้ไปอาบน้ำใหญ่เลย ทั้งๆที่ ตัวก็มันๆ ล้างไม่ค่อยออกอ่ะนะ
แต่พอทิ้งไว้เฉยๆเค้าก็ซึมไปเอง นวดคราวนี้ก็เฉยๆนะ
อาจจะเพราะว่า วาชินกับนวดไทย แบบนวดทีแทบพิการมากกว่า
เจอแบบนี้เลยรู้สึกเพลินๆ มากกว่าหายปวดเมื่อย
ทำสปาเสร็จก็ได้เวลา บ๊าย บาย ที่เลอวิมาน คอจเทจ แอนด์สปาแล้วค่ะ เตรียมเช็คเอาท์กันดีกว่า
ตอนนี้ เครือ เสม็ดรีสอร์ท ได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นค่ะ Adopt-a-Turtle
ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะอนุรักษ์เต่าตนุแห่งน่านน้ำทะเลอ่าวไทย
และหารายได้สนับสนุนการอนุบาลเต่าของศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล
และชายฝั่งอ่าวไทยตะวันออก เกาะมันใน
ซึ่งอยู่ภายใต้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นะคะ
โดยการเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศที่มาท่องเที่ยว
และเข้าพักที่โรงแรม/รีสอร์ทบนเกาะเสม็ด และรีสอร์ทในเครือของเสม็ด รีสอร์ท
ร่วมบริจาคเงินจำนวน 100 บาท นักท่องเที่ยวจะได้รับตุ๊กตาเต่าทะเลที่ทำจากผ้าฝ้ายไทย
เพื่อเป็นที่ระลึกที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเต่าทะเลของไทยด้วยค่ะ
วาก็ไม่พลาดค่ะ นานๆจะได้ร่วมโครงการดีๆแบบนี้นะ ร่วมอนุรักษ์น้องเต่ากับเค้าไป 100 บาท
ก็ได้เวลาปล่อยน้องเต่าออกมาจาก ตู้แล้วค่ะ น่ารักไหมเอ่ย ตัวนี้เค้าชื่อน้อง องุ่น นะค๊า
2 วัน 1 คืนของที่นี่ สมชื่อ เลอวิมาน ที่แปลว่า " ที่อยู่ของพระอินทร์ " จริงๆค่ะ สะดวกสบายสมชื่อ
(จินตนาการเอาเองว่าที่อยู่ของพระอินทร์นั้นคงจะเลิศมากๆ ^^)
อยู่ที่นี่รู้สึกเวลาผ่านไปเร็ว เพราะเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ
ขอบคุณโครงการ Thailand Boutique Awards 2010 มากๆ ที่ให้วาได้มีส่วนร่วม
ในโครงการนี้โดยการไปพักที่ รีสอร์ท เลอวิมาน คอจเทจ แอนด์ สปา 1 ใน 97 โรงแรมที่เข้ารอบด้วยค่ะ
และขอขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามรีวิวนี้จนจบ ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะ
เต่าน้อยก็น่ารักค่ะ