ทริปนี้ฉุกละหุกมาก แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ วาต้องไปที่ หาดสนรีสอร์ท หาดบางสัก จ.พังงา
ซึ่งโรงแรม อุตส่าห์ลงทุนมารับวาถึงกระบี่เลยทีเดียว ขออภัยด้วยนะคะ ที่ต้องลำบากกัน >.<
เดินทางด้วยรถตู้แสนสบาย ราวๆ 3 ชั่วโมงเราก็มาถึงค่ะ

รีสอร์ทนี้ตั้งอยู่ที่หาดบางสัก ซึ่งถ้าบอกว่า บางสักคงไม่ค่อยรู้จักกัน
ก็คือเลย อ.ตะกั่วป่ามานิดนึง แล้วก็ถึงหาดบางสักค่ะ
ซึ่งถ้าบอกว่า เขาหลัก น่าจะคุ้นเคยกันมากกว่าโนะ อันนี้ถือว่า อยู่ช่วงต้นๆของเขาหลักนั่นเองค่ะ

รีสอร์ทแห่งนี้สร้างเสร็จและเปิดบริการ ก่อนหน้าเหตุการณ์ สึนามิ ประมาณ 3 สัปดาห์
ซึ่งพอสึนามิมา รีสอร์ทก็เสียหาย 100% ก็ปิดปรับปรุงอีกปีกว่าๆจึงเปิดให้บริการต่อมาจนถึงปัจจุบัน

พื้นที่ของ หาดสนรีสอร์ทนี้ ค่อนข้างใหญ่โตมาก เข้าไปปุ๊บ จะเห็น Lobby ก่อน ซึ่งมีขนาดกระทัดรัดโปร่งๆดูสบายตาค่ะ
เช็คอินเสร็จแล้ว ก็เดินเข้าไปส่วนของห้องพักด้านใน เราจะต้องข้ามสะพาน ข้ามคลองไปก่อน สิ่งแรกที่เราเห็นได้ชัดเลยก็คือ
ที่นี่ ร่มรื่นมากๆ มีต้นสนขนาดใหญ่ ขึ้นเต็มพื้นที่ และมีต้นไม้อื่นๆอีกนานาชนิด เหมือนรีสอร์ทตั้งอยู่ในสวนเลยค่ะ

ข้ามมาแล้วก็จะเป็นส่วนที่เรียกว่า island เพราะบริเวณที่พักตรงนี้ จะมีน้ำล้อมรอบ คล้ายกับอยู่บนเกาะ
ที่พักในส่วนนี้ทั้งหมดจะเป็น villas ค่ะมีทั้งหมด 9 หลัง ซึ่งวันนี้ วาได้พักหลักแรกขวามือที่เดินไปถึงเลย
ช่วง Low แขกก็จะเบาบาง ทางรีสอร์ท มีโปรโมชั่นคือ จองในราคาห้องแบบ ถูกที่สุด จะได้อัพเกรดเป็น villas ฟรี!

ห้องพักเป็นแบบ Modern Tropical Style ค่ะตัวบ้านเป็นปูน
โดดเด่นที่หลังคามุงจาก แต่ไม่เหมือนที่อื่น ตรงที่จะมี ใบสน(?) คือจะเป็นเส้นๆ ลงมาอ่ะค่ะ
จะตกลงมาคลุมหลังคาหมดเลย เก๋ไปอีกแบบ (ตอนแรกนึกว่าเป็นหญ้าชนิดหนึ่ง) ที่ไหนได้ต้นสนมันร่วงนั่นเอง

มาดูห้องพักกันค่ะ ข้างใน ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้ดูอบอุ่นขึ้น
มีสิ่งหนึ่งที่เห็นแล้วก็ .......... อดแปลกใจไม่ได้ว่ามันคืออะไรกันหนอออ?
วาก็ขอถามหน่อยว่า คิดยังไง ถึงมีโต๊ะตัวนี้ มันแลดูเหมือน โต๊ะอาหาร บนเตียงผู้ป่วยป่ะคะ 5555
ซึ่งเค้าก็บอกเราว่า เป็นไอเดียของเพื่อนชาวญี่ปุ่นของเจ้าของรีสอร์ท ว่าโต๊ะแบบนี้มันอเนกประสงค์
ที่ญี่ปุ่นเค้าจะมีกัน สามารถเลื่อนได้ ขยับได้ ใช้งานได้

อารมณ์ใครอยากทาน BF บนเตียง ก็จัดมาได้เลย สะดวกสบาย ซึ่ง พอได้ใช้งานจริง
วาว่ามันเจ๋งมาก ถ้าเราจะ วางโน๊ตบุ้ค แล้วเล่นบนเตียงนะ เอาหลังพิงหมอน โอ้โห เลิศอ่ะ อยากมีที่บ้านขึ้นมาเลย
ซึ่งเค้าบอกว่า จ้างคนท้องถิ่นทำ แต่ต้องใช้คนออกแบบที่ชำนาญ เพราะ ต้องทำให้แข็งแรงเสริมเหล็กข้างในด้วย

ซึ่งถ้าเป็นเตียงขนาดใหญ่ โต๊ะ ตัวนี้ก็จะใหญ่มาก คลุมเตียงเลย
แต่วากลับชอบแบบอันเล็กมากกว่า เพราะเวลาเราไม่ใช้ เราก็จะเอาเค้าไปพิงกำแพง
เป็นโต๊ะสำหรับวางของได้ไม่เกะกะพื้นที่ใช้สอยค่ะ

ภายในห้องมีทีวี มินิบาร์ ตู้เสื้อผ้า สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
พร้อมทั้งยากันยุง และเครื่องไล่ยุงอีกด้วยค่ะ

เมื่อก้าวเข้ามาในห้องพักเราจะได้กลิ่นหอมของใบเตยอ่อนๆ
พอเจอต้นตอของกลิ่นก็อดอมยิ้มไม่ได้ในความคิดสร้างสรรค์ค่ะ
สอบถามได้ความว่า ที่หาดสนรีสอร์ทมีการปลูกต้นไม้มากมาย
ซึ่งใบเตยก็เป็นอีกต้นหนึ่งที่มีอยู่มากมายเช่นกัน แม่บ้านเค้าเป็นคนคิด
ว่าให้เอาใบเตยหั่นแช่น้ำ แล้วจุดเหมือนน้ำมันหอมระเหย จะได้กลิ่นใบเตยอ่อนๆ ชื่นใจ
ไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินซื้อน้ำหอม และเป็นของจากธรรมชาติไม่เป็นอันตรายอีกด้วย

แม่บ้านที่นี่เลิศจริง

ห้องน้ำที่นี่ กว้างมาก มีส่วนของฝักบัวอาบน้ำ ชักโครก อ่างล่างหน้า
และมีส่วนของฝักบัว open air ด้วยค่ะ

ซึ่งถ้าเป็นวิลล่าใน island จะเป็นฝักบัว แต่ถ้าเป็นส่วนของ Lake view ด้านหลัง จะเป็นอ่างอาบน้ำนะคะ
ซึ่งจริงๆในวิลล่า จะมีอ่างอาบน้ำทุกห้อง แต่พอโดนซึนามิ ปรับปรุงใหม่ก็เลยไม่มีอ่างในส่วน island

ห้องวาไม่มีอ่างนะคะ อันนี้ไปขอถ่ายรูปจาก Villas อื่นที่ไม่มีแขกพัก

Villas จะมีระเบียงริมน้ำทุกหลังค่ะ ตรงนี้มีเก้าอี้ให้นั่งสบาย
ชมวิว พักผ่อนได้เพลินๆ

และนอกจากจะมีห้อง Villas ที่ island แล้ว ยังมีแบบ Lake view เรียงกันริมน้ำอีก 10 หลังด้วยค่ะ
ซึ่งจากที่พักเรา มองออกไปจะเห็นอยู่ฝั่งตรงข้ามพอดี แบบนั้นล่ะค่ะที่มีอ่างอาบน้ำ

ด้านหลังอีกแถวจะเป็นห้องแบบ Coconut Villas มีทั้งหมด 5 หลัง
ซึ่งแบบนี้จะมี 2 ชั้นนะคะ ซึ่งใน 1 หลังจะมีทั้งหมด 4 ห้องค่ะ
จะมีห้องแบบ connecting อยู่เป็นบางห้องด้วย เหมาะกับแขกที่มาเป็นครอบครัว
มีบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านประมาณนึงด้วยค่ะ ส่วนห้องก็ตกแต่งแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง

มาดูที่สระว่ายน้ำกันบ้างสระว่ายน้ำที่นี่ ค่อนข้างใหญ่ แถมมีส่วนที่ตื้นมากๆ ราวๆครึ่งแข้ง สำหรับเด็ก
แล้วก็ค่อยๆลึกลงไปเรื่อยๆ จนมิดหัว จมหายไปเลย เท่าที่เดินลุยๆดู ตรงที่ลึกที่สุด น่าจะ 2 เมตรได้เลยค่ะ
แต่เก๋ตรงที่ ขอบด้านหนึ่งของสระ มีขอบสูงๆขึ้นมา เหมือนเป็นเก้าอี้ในน้ำอ่ะค่ะ ยาวเท่ากันตลอดแนว
มีจากุชชี่ตรงนี้ด้วยค่ะ กระโดดน้ำสนุกเลย น้ำลึกสะใจดีค่ะ

นอกจากนี้ยังมีห้องอ่านหนังสือ ที่มี computer ไว้บริการ
แต่ตอนที่วาไป wi-fi มีปัญหาพอดี คือมีชื่อขึ้นแต่ว่า เชื่อมต่อไม่ได้
ก็เลยไม่ได้เล่นค่ะ แต่ถ้าปกติก็มี wi-fi ให้ใช้ฟรีได้ในบริเวณรีสอร์ทด้วยค่ะ

Zone ด้านหลัง จะเป็น Spa นะคะ ซึ่งที่นี่เค้าเป็น Spa ของ The Royal Spa ค่ะ
สามารถมาใช้บริการได้ มีห้องแยกเป็นสัดส่วน แต่วันที่วาไปเค้ากำลังปรับปรุงส่วนต้อนรับอยู่เลยไม่ได้เข้าไปดู

แต่ด้านหลังเลยจริงๆทางรีสอร์ทจะปลูกต้นไม้ดอกไม้ เอาไว้ใช้ตกแต่งในรีสอร์ทนะคะ
รวมๆกับการดูแลต้นไม้ใบหญ้าที่มีอยู่แล้วรอบๆบริเวณ ซึ่งคงเป็นงานที่หนักมาก
เพราะต้นไม้เยอะจริงๆค่ะ

ต้นไม้ส่วนใหญ่จะไม่ถูกตัด นอกจากจะมีการหักโค่นลงมาเอง
เพราะต้นสนที่มีอยู่ทั่วบริเวณ เป็นไม้ใหญ่ที่มีลำต้นสูง เวลาผ่านไป ก็หักโค่นลงมาเองตามธรรมชาติ
ซึ่งส่วนใหญ่ก็เอามาตกแต่งรีสอร์ท แล้วบางส่วนก็แบ่งให้พนักงานที่ต้องการนำไม้ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ

เดินออกไปดูหน้าหาดของที่นี่กันบ้าง หาดของ บางสัก ค่อนข้างกว้าง และเดินได้สะดวกค่ะ
ถ้าเดินเก่งๆ เดินไปเขาหลักได้เลย เพราะชายหาดยาวมากกกก
ตรงนี้เหมือนเป็นหาดสาธารณะ มีคนขับรถมาจอดแล้วก็นั่งเล่นแถวชายหาดได้ด้วย
ตอนที่ไป น้ำแรงมาก สะดุ้งอยู่หลายทีเวลาได้ยินเสียงคลื่น วาถามพนักงานที่นั่นตลอดเวลาว่า นี่คือเสียงดังเป็นปกติใช่ไหม
เพราะเสียงดังมากๆ น่ากลัวค่ะ แต่จะได้ยิน ตอนทานอาหารเท่านั้น ถ้าเดินเข้าไปในส่วนที่พักจะไม่ได้ยินเข้าไปถึงค่ะ

มาดูส่วนร้านอาหารกันบ้างค่ะ ห้องอาหาร ตกแต่งด้วย ต้นไม้ ตอไม่ต่างๆ ดูร่มรื่นมากค่ะ
ของตกแต่งก็เอามาจาก ดอกไม้ ต้นไม้ ที่ปลูกในรีสอร์ททั้งนั้น ดูสดชื่นดีนะคะ
มีห้องอาหาร 2 ส่วน คือ Left และ Right ซึ่ง ตอนนี้ หน้า Low คนไม่มาก
มีแต่คนมาทานที่ Right ฝั่งเดียวเพราะใกล้ครัวมากกว่า

หน้า Low มีอาหารให้เลือกไม่มากนัก
แต่ก็โอเคนะคะ  อาหารกลางวัน ลองสั่งข้าวผัดพริกแกงซีฟู๊ด กับ ข้ากระเพราทะเลมาลอง
รู้สึกต้องรออาหารนานไปหน่อย(อาจเพราะหิวมาก หุหุ) แต่มาเสริฟจานใหญ่ดีค่ะ ราคาก็มาตรฐานโรงแรมทั่วไป

ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลากหลายค่ะ เพราะตรงนี้มีเหมือนเป็น บาร์เล็กๆด้วย
เหมือนจะเน้นขายเครื่องดื่ม สำหรับแขก walk-in ด้วยค่ะ เสริฟมาแต่ละอย่าง
มีประดับตกแต่งเล็กๆน้อยๆมาตลอด ของหวานก็มีเป็น ไอศครีม น่ารักๆเสริฟด้วยค่ะ

 อาหารเย็นลองเป็นอาหารตะวันตกหน่อย มื้อนี้เลยสั่งสลัด และสปาเกตตี้ คาโบนาร่ามาลองทาน
โอ้โห จานใหญ่ยักษ์มากทานแทบไม่หมดค่ะ ทั้งปริมาณ ทั้งคุณภาพ ทั้งราคาเหมือนร้านอาหารในกรุงเทพฯเลย

อีกจานเป็นซีฟู๊ดค่ะ ก็อร่อยดีนะคะ สำหรับคนที่ไม่อยากทานอะไรที่เลี่ยนๆจนเกินไป จานนี้เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ

ห้องอาหารตอนกลางคืน สวยมากๆเลยค่ะ
มีของตกแต่งส่วนใหญ่จะเป็น ต้นไม้ และไม้ดอกไม้ประดับ ที่ทางรีสอร์ทปลูกเอง

ส่วนอาหารเช้า เราก็ทานที่ห้องอาหารนี้เหมือนกันค่ะ
เป็นเมนูมาให้เลือกสั่ง (แต่หน้า High อาจจะมีบุฟเฟ่ต์ เพราะแอบเห็นโต๊ะยาวๆแถวนั้น)
ถ้าทานไม่อิ่ม อยากได้อะไรเพิ่ม สั่งได้ตลอดเวลาค่ะ

สายๆเราออกไปเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ของพังงา ชื่อว่า The Little Amazon
ซึ่งต้องเข้าไปที่อำเภอตะกั่วป่า แล้วไปที่ท่าเรือ สังเหน่ ประมาณนั้นค่ะ ซึ่งเราจะต้องนั่งเรือแบบนี้
เห็นเค้าว่าเรียกว่าเรือ พีท นะคะ ล่องไปตามป่าโกงกาง อายุกว่าร้อยปี

ลงเรือกันเลยค่ะ จะเจออะไรบ้างหนอ

สิ่งที่เราเห็นได้ชัดเจนคือ ตรงนี้มีต้นไม้ ต้นใหญ่ๆ และแลดูเป็นป่าดงดิบมากๆ
มีนกแปลกๆร้องกันระงม วาแอบเห็นนกเงือก บินผ่านไปแต่ถ่ายรูปไม่ทัน

ต้นไม้พวกนี้ ต้นใหญ่และดูลึกลับมากๆ
สมชื่อ The Little Amazon จริง

สิ่งที่เจอได้ง่ายที่สุดคือ งู ค่ะ ตอนไปนี่เจอเกือบ 10 ตัวเป็นพันธุ์เดียวกันหมด "งูปล้องทอง"
ตัวใหญ่น่าดูเหมือนกันนะคะ ตรงที่ตัวใหญ่ๆนี่เกาะอยู่กิ่งไม้ต่ำๆ บนหัวเราพอดี สยองงงงงง

ตรงนี้คนขับเรือไม่ได้จอดให้เราชมใกล้ๆ เพราะงูอยู่ใกล้เรามาก
เป็นงูป่าและเค้ามีพิษด้วยค่ะ กลัวว่าจะเป็นอันตราย
ซึ่งตอนนั้น อยากถ่ายรูปก็อยาก กลัวก็กลัว แต่น้องงูเค้านอนหลับสบายใจ

ออกจาก Zone ต้นไม้ป่าโกงกางขนาดใหญ่ เราก็จะออกไปที่ แม่น้ำขนาดใหญ่ค่ะ นั่งชมวิวเพลินเลย
แล้วก็ย้อนกลับมาทาง อเมซอนอันเดิม นั่งไปก็กลัวอย่างเดียว กลัวงูจะโผล่ขึ้นมาจากน้ำ กระโดดเข้าเรือ (- -")

จบทริปนี้แบบ ตื่นเต้นมากค่ะ กลัวงูกระโดดลงมา แหะๆ
ขอบคุณทางรีสอร์ต ที่พามาเปิดประสบการณ์ใหม่ กับการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ของจังหวัดพังงาค่ะ

ถ้าใครไดมีโอกาศไปเที่ยวพังงาแถว ตะกั่วป่า เขาหลักแล้วสนใจ
ก็ลองสอบถามที่รีสอร์ทดูนะคะ เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่เค้ากำลังโปรโมทให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวกัน
ซึ่งตามปกติที่ชาวต่างชาติซื้อทัวร์ไป ก็จะมีทั้ง พายแคนูไปเองค่ะ ซึ่งเค้าชอบกันมากๆ
แต่วาขอนั่งแบบนี้ดีกว่า กลัวเจองูแล้วกลัว พายไม่ออก (- -")

ขากลับได้แวะไปที่ตลาดเก่า ของตะกั่วป่าด้วยค่ะ ไปดูสถาปัตยกรรมแบบ ชิโนโปตุกีส คล้ายๆกับที่ภูเก็ต
แต่ที่นี่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์บ้านเก่าทั้งหมด ยังไม่ได้ปรับปรุงใหม่แบบภูเก็ต

มีศาลเจ้าขนาดใหญ่ ที่เตรียมตัวกับเทศการกินผักประจำปีด้วยค่ะ
และก็ได้แวะดู จวนเจ้าเมือง ที่เป็นซากกำแพงขนาดใหญ่อีกด้วย
เมืองพังงา เป็นเมืองเก่า ที่คงมีเรื่องเล่าเยอะแยะมากมายเลยจริงๆ

วันนี้ต้องเดินทางกลับแล้ว อ้อ ก่อนกลับทานอาหารกลางวันอีกซักมื้อค่ะ วาสั่งข้าวผัดแต่มาหน้าแบบนี้
แต่พอชิมแล้ว มันคือผัดพริกแกงล่ะ อร่อยดีค่ะ ไม่คิดว่าข้าวผัดจะหน้าตาแบบนี้อ่ะ
อีกจานเป็นข้าวผัดแกงเขียวหวาน แต่งมาซะเริ่ดเลย น่าทานป่ะคะ อร่อยด้วยนะ

ไม่นานนัก ก็ต้อง ออกเดินทางกลับแล้วค่ะ ทางรีสอร์ท มาส่งวาที่กระบี่ นั่งรถกันยาวๆอีก 3 ชั่วโมง
ขอบคุณมากๆเลยค่ะที่เสียเวลามาส่ง >.<
แล้วก็นั่งเครื่องกลับบ้านอย่างเหนื่อยอ่อน ฝนตกตลอดเวลาเลย

บ๊าย บาย หาดสนรีสอร์ท บ๊ายบายเมืองกระบี่ ทริปนี้เหนื่อยและสนุกมากค่ะ เย่! 

Create Date : 22 ตุลาคม 2553
Last Update : 29 ตุลาคม 2553 16:44:58 น.		5 comments
Counter : 7971 Pageviews.
Share Tweet