:: ดอยอินทนนท์ / เฟริน ฟอเรส ::

ต่อจากตอนที่แล้ว


ตื่นเช้าขึ้นมา ก็ตรงดิ่งไปหาโจ้กกิน วันนี้เราไปกินโจ๊กต้นพยอม ตรงตลาดต้นพยอมค่ะ
ลืมหยิบกล้องลงมาจากรถ ซึ่งจอดไกลมากกกกกกกก เลยช่างมัน
แต่ที่แน่ๆ ไม่ค่อยถูกปากเลยค่ะ ต้มเลือดหมู โจ้ก ข้าวมันไก่
ที่อร่อยสุดคือ ปาท่องโก๋จิ้มนม 5555555


เสร็จแล้วก็ ขับรถวนๆ เพราะขบวนรถบุพชาติ มาแล้ววววววววววว
สวยงามอลังการ และ . . . รถติดยิ่งกว่ากรุงเทพอีก เกลียดถนนเชียงใหม่
หลงได้ทุกวินาทีจริงๆ แผนที่ 4 อันไม่ได้ช่วยอะไรเลย Y.Y



แล้วอยู่ๆก็คิดขึ้นได้ว่า ไปดอยอินทนนท์กันเถอะ ...!!


แล้วมาคิดได้ตอน 11 โมงนี่นะ ก็แบกของ ยัดใส่รถ แล้วก็เช็คเอาท์ บ้านกาแฟเลย
เพิ่งรู้ว่า ข้างในว่างไม่มีคนเลย แต่ห้องมันสำหรับหลายคน แต่สวยมาก
ห้อง v 650 บาทเอง มีอ่างอาบน้ำด้วย เริ่ดจัง แต่ไม่ทันแล้ว คืนนี้เต็มหมด
ไปหาเอาดาบหน้าโน่น...


กว่าจะหลุดพ้น คูเมือง และออกนอกเส้นทาง ฝ่าดงรถติดได้ ก็เมื่อ
ขบวนรถบุพชาติ หมดคันสุดท้ายพอดี คิดดูแล้วกันค่ะว่า ใช้เวลาเกือบ 1 ชม.
จากบ้านกาแฟ ไปถึงแยกตรง ม.เชียงใหม่ รถติดเป็นระลอกแถมวันเวย์


ในเมื่อเค้ามีงานกัน ถนนก็ลำบาก เลยแว๊บออกไปทางเลียบคลองประปาแทน
ไม่ได้รู้ทางหรือะไรเลย คิดเอาเองว่ามันต้องไปถึง หางดง หรือ สันป่าตองได้แน่นอน
พอไปเรื่อยๆก็จริงมันทะลุได้ค่ะ แต่ว่า ดูถนนสิ เอ่อ.............


มันกลายเป็นดินลูกรังซะงั้น วาเป็นคนดูแผนที่ มันก็มาถูกทางแล้วนะ
แต่ถนนมันแย่ไปเรือยๆเลย นนนี่ก็โมโห และไม่เชื่อวาอีกต่อไป เลยจอดถามเค้าดีกว่า
ได้คำตอบมาเป็นภาษาคำเมืองขนานแท้ เลยต้องหันมาเชื่อวาต่อแล้วกัน งงได้อีก


สุดท้ายเราก็ดันทุรังแบบมั่วๆ เลี้ยวขวาเข้าซอย จนไปออก ถนนรอบอำเภออะไรไม่รู้ เย่ๆๆๆ
มาจนได้เนอะ พอเข้าสู่ทางหลัก ก็ตรงดิ่งๆ เลยค่า ไปดอยอินทนนท์กันเล้ย



พอถึงทางขึ้น เราก็ต้องซื้อตั๋วก่อน ค่าเข้าอุทยาน ค่ารถด้วย รวม 110 บาท เค้าก็จะตรวจเป็นระยะๆ
เอาเป็นว่า พอเริ่มขึ้นเขา วาก็ออกอาการวิ๊งๆทันที รู้แล้วว่า ควรจะหลับดีกว่า
วาไม่เคยเมารถมาก่อนตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่กลับจากปาย แล้วเมารถคราวนั้นครั้งแรก
วาก็เมารถมาตลอดเลย เวนกำจริงๆค่ะ เลยได้เห็นแค่ หญ้าแห้งแล้งๆด้านล่าง


เจอกันบนยอดดอยนะนนนี่ ... สู้ๆ


แล้วก็มาโผล่อีกทีด้านบน ด้วยอุณหภูมิ ............ กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
แล้ว 2 คนเรา มาขาสั้นกันเลย พระเจ้าช่วยกล้วยทอด หนาวเว่อร์ๆๆๆ
เหมือนคนละโลกกับข้างล่างเลยค่ะ



มาถึงแล้วก็ต้องไปหลักหมุด จุดที่สูงที่สุด ขอบคุณหนังสือนายรอบรู้ ที่บอกไว้
ไม่งั้นคงไม่ได้มาที่หมุดนี่แน่นอน หาไม่เจอ จนต้องถามเจ้าหน้าที่เอาค่ะ เซ่อได้อีก..
(แต่เรื่องค่าเข้าอุทยานหรือค่าเข้าสวนสัตว์ นายรอบรู้ ผิดหมดเลยนะยะ ฮึ่ม!!)



เดินไปเรื่อยๆก็จะเจอที่เก็บพระอัษฐิ ของพระ . . . . . อย่ามั่วดีกว่าวา แต่เท่าที่จำได้คือ
เป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่ พอเอามาไว้ที่นี่ เดิมที่เคยชื่อ ดอยอ่างกา ก็เลยเปลี่ยนชื่อเป็น
ดอยอินทนนท์ตามชื่อเจ้าเมืองค่ะ ...


( ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ )



หันมาก้จะเจอโรงงานหน้าประหลาด ดูล้ำดีเหมือนกันแหะ ถ่ายรูปหน่อย แชะ...
พอลงมาข้างล่างก็เจอป้าย ....... ห้ามถ่ายรูป


กำ!



แล้วก็ไปเดินศึกษาธรรมชาติ ไปดูกุหลาบพันปีกันค่ะ ใจจริงรู้ว่ามันไม่สวยเลย อ้าวววว
แต่นานๆขึ้นทีนะ หาดูยาก ก็เลยเดินลงไป เป็นป่าแบบ ชื้นๆ หนาวๆ เย็นๆ เขียวๆ เดินไต่สะพาน
เมื่อยได้โล่ห์เลยค่ะ



ชอบต้นไม้ ดงดิบๆ สวยดีค่ะ สร้างสรรค์ๆ แต่อยู่นานๆก็หลอนนะ เหอๆ



เอาล่ะ ลงดอยกันดีกว่า วันนี้ยังไม่รู้เลย จะนอนที่ไหน มีโพยมาเลือกอยู่ 4-5 โรงแรม
เต็มบ้าง ใกล้กับที่ขายดอกไม้บ้าง ไม่มีที่จอดรถบ้าง สุดท้าย ลงตัวที่ วิภานันท์แมนชั่น
เพื่อนแนะนำมา ดูในเวปก่อนมาก็โอเค ราคาก็โอเค 450 บาท
คว้าโทรศัพทขึ้นมากดๆ อ้าว ไม่มีสัญญาณเลย แง๊วววววววว ดีแตก ของนู๋
แล้ววันนี้จะมีที่นอนม๊ายย



แล้วก็หันไปเจอ ของประหลาด ที่อยู่ในรถ นั่นก็คือ ........


เจ้าอ้วน 3 ถุงนี้ กรี๊ดดดดดดดดดดดด นนนี่ ระเบิด!!!!!
นนนี่ก็ตกใจ อะไร ระเบิด พอคว้ามาให้ดู ก็ตกใจกันทั้งคู่
ทำไมมันอ้วนแบบแน้ พองแบบ ถึงขีดสุด วาก็หลอนสุดแรงเกิด
นนๆๆ มันจะระเบิดมั๊ย กรี๊ดๆๆๆ


แล้ว เราก็พิสูจน์โดยการ .......... ฉีกแคว่กกกกกกกกก!!


.
.



เลย์ปลาหมึกย่าง อร่อยเจงๆเลย ฮ่าฮ่าฮ่า
(กลัวไม่ได้กิน มากกว่า กลัวมันระเบิด ทำไปได้ เอิ๊กกกกกก)


พอลงไปจนถึงข้างล่าง อีก 2 ถุงที่เหลือ ก็กลับสู่สภาพปกติค่ะ ... สงสัยมันจะหนาวแหะ
ลงมาถึงวัดข้างล่าง สวยงามมากเลยบอกให้นนเข้าไปจอดมันกลางลานเลย จะถ่ายรูป
ได้มา 1 รูปถ้วนค่ะ



อยู่ๆก็มี ชาวเขาน้อยวิ่งเข้ามาหา แล้วบอกว่า ดอกกระดาษค่า ให้...


เฮ้ยยย อะไรมาให้ไรเนี่ย งง? ก้เลยถามว่า มาให้ทำไมคะ เค้าก็ตอบว่า เห็นพี่สวยดี
กรี๊ดดดดดดดดดดดด กี่บาทเหมาหมด เอาหมดเลยยยยย!!!
สรุปก็เลย ยื่นเงินไป 20 บาท เพราะตาถึง กร๊ากกกกก
ได้ ดอกไม้ มาสองช่อ มาชื่นชมๆ


นนนี่เงียบมาตั้งแต่ต้นก็เอ่ยปากพูดระหว่างทางว่า
"ชาวเขาก็หัดโกหกเก่งเนอะ จริงๆมันก็จะขายแหล่ะ การตลาดใช้ได้เลย"
เอ้าวอนนนนนน วอนแล้วววว พูดงี้หมายความว่าไง


แต่ก็จริงของนนนี่ เด็กบ้าที่ไหนจะมาเดินแจกดอกไม้ฟระ
แต่ไม่ต้องพูดก็ได้ เงียบไว้ก็ได้ นนนี่บร้า . . . .!!



แล้วเราก็เลือกกันค่ะว่าจะไปน้ำตกซักที ที่ไหนดี...สรุปเอาอันใกล้ก่อนแล้วกันนะ ค่ำมืดแล้ว
เราเลือกไปน้ำตกแม่กลางค่ะ ใกล้ดี..... ไปถึงก็ ต้องเสียค่าเข้าอีก คนละ 40 บาท


กินแห้ว
สมองประมวลผลไวกว่าความไวแสง ขึ้นมาทั้งคู่ ทันทีว่า "กลับเหอะ" ฮ่าฮ่าฮ่า
เลยถ่ายรูปรอบๆแถวนี้ไปนิดหน่อย แล้วก็กลับค่ะ (งกเนอะ มาถึงแล้วไม่เข้าไปดู เอิ๊กก)



พอขึ้นรถ ก็ยังติดใจอยู่ รู้มาว่า มีน้ำตกแม่ยะ ที่เข้าไปกว่า 14 กิโลอ่ะ สวย และยิ่งใหญ่อลังกาลมากๆ
อยากเห็นจัง ... เลยชวน นนนี่บึ่งไปทันที ไหนๆก็มาแล้ว สวยนะขอบอก นนนี่ก็เชื่อ
แต่จริงๆแล้ว สวยป่าวไม่รู้ แล้ววาก็ยัง ลังเลว่า น้ำตกอันไหนกันแน่ที่เป็นแผงใหญ่ๆสวยๆสูงๆ
ขอให้ใช่ น้ำตกแม่ยะด้วยเถอะ


พลขับนนนี่ก็ บึ่งไปทันที แข่งกับแสงอาทิตย์ที่ใกล้ลับขอบฟ้าเต็มทน



แต่ทางไปน้ำตกนี้ไม่ใช่หมูๆเลยแหะ วิ่งผ่านบ้านคน ผ่านตลาด ผ่านทุ่งนา
ที่สำคัญ วาบอกทางถูกป่าวฟระ เด๋วจะโดนบ่นมั๊ยเนี่ย แต่โชคยังดี มีป้ายบอกด้วย



และแล้วก็ขึ้นเขา ผ่านด่านตรวจ กรี๊ดดดดดดดดดดดด เสียตังค์อีกแล้วหรอ มาถึงขนาดนี้แล้ว
แต่โชคดี เค้าใช้บัตรเดียวกับ ดอยอินทนนท์ ไม่ต้องเสียเพิ่มค่า ดีใจๆ ประหยัดๆๆ


แต่ทาง วกวนมากๆ นนนี่บอก " ทางยากกว่าดอยอินทนนท์อีก วาหลับไปเลยอีกรอบ "
วากรี๊ดอยู่ข้างๆแล้ว คงเกร็งอ่ะ เวลามานลงดิ่งๆ น่ากลัว เบรคแตก (-*-)
พอเห็น ถนนเป็นรู วาก็ เอนเบาะมุดลงไปทันที น่ากลัวววววววววว


นนนี่บอกเห็นก้อนอึ๊ช้างด้วย
(วาก็หลอนอีก ช้างจะออกมาจ๊ะเอ๋ เหมือนทู้คนอื่นป่าว ไม่อาววววว กลัววว)



แล้วก็มาถึงจนได้ค่ะ จะมืดแล้ว รีบไปเถอะๆๆ เห็นน้ำตกแต่ไกลเลย กรี๊ดดดดด
อันนี้แหล่ะ อันนี้แหล่ะ ที่วาอยากมา เย่ๆๆๆ


เจ้าถิ่นหล่อเนอะ ยิ้มแป้นเชียว อิอิ
ตรงนี้จะเป็นทางเดินไปเรื่อยๆค่ะ ไกลอยู่นะ จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่
รู้แต่มีมอไซต์รับจ้าง ขอด่วนเลยค่ะ มืดแล้วเดี๋ยวลงเขาลำบาก มอไซต์มาเลย



เดินได้นิดเดียวก็เจอความอลังกาลแบบธรรมชาติสร้างค่ะ สวยมากกกก
แต่แสงหมดแบบสุดๆแล้ว เห็นแค่นี้ก็ประทับใจค่ะ ยิ่งใหญ่ดี เคยรู้สึกแบบนี้
ตอนไปน้ำตกเหวนรกครั้งนึง แต่นี่ใกล้ชิดๆ อลังคนละแบบ ชอบจังเลย
แอบน่ากลัวด้วย อยู่กัน 2 คน



อยู่ได้ไม่เกิน 10 นาทีก็รีบกลับ เพราะมืดแล้วค่า เพิ่งจะ 5 โมงกว่าๆเอง
ก็บึ่งมอไซต์กลับตามเดิม มีคันสุดท้ายพอดี เบียดกันก็ยอมละ แล้วรีบลงเข้าอย่างด่วน....



พอลงมาสู่ทางหลวง เส้นใหญ่สายเมน ก็นึกขึ้นมาได้ว่า . . . .
คืนนี้ ยังไม่มีที่นอน เอิ๊กกกกกก เหนื่อยจะแย่แล้ว ทำไงดี
คว้ามือถือมากดโทรไป วิภานันท์แมนชั่น ทันที เค้าก็บอกว่ามี 1 ห้อง ชั้น 7
vip เลยค่ะ ขอคิด 500 บาท
ได้ยินแล้วก็ชื่นใจค่ะ จองตามนั้น เย่ๆ รอดแล้วเรา
แวะเติมน้ำมันตอน 5 โมง 55 แล้วบึ่งกลับไปเลยทันที
หลับอีกแล้ววา นนนี่ขับไวเกินกว่า วาจะรับได้ Y.Y



พอเข้าสู่ตัวเมือง ผ่านประตูท่าแพ แล้วตรงไปทาง ราชภัฎเชียงใหม่(ใช่ป่าวหว่า)
ผ่านโนโวเทลอ่ะค่ะ ก็คือกลับรถแล้วถึงเลย วิภานันท์แมนชั่น ตรงข้าม กาดธานินท์ (มั๊ง)
จะถึงอยู่แล้ว แต่ ว่า มัน ......... ห้ามกลับรถ!!


อ้าววววว ! ผานต่อไปอีก ก็กั้นรั่ว ห้ามกลับอีก เลยไปเลยมา
ออกไปโน่นเลย ตามน้ำไปโน่น...แง๊วววว พอเห็นที่กลับรถก็ออกไม่ทัน
เลยไปกลับรถตรงสะพานแม่น้ำปิงแหน่ะ กลับมาเลยแวะโลตัส หาอะไรกิน (ยังห่วงกิน)
ได้ ไส้กรอกรมควันถุงใหญ่โตมา ประทังชีวิตค่ะ เหนื่อยมากๆ ไม่ไหวแล้ววว


กลับออกมาจากโลตัส ก็วิ่ง ตรงดิ่งเข้าวิภานันท์ แมนชั่น ทันที
พอลงไป นนนี่ก็เก็บของเคลียรถ วาก็วิ่งไปติดต่อห้องพัก
เข้าไปเจอต่างชาติ 3 คนยืนหน้าเคาท์เตอร์ วาก็เบียดๆเข้าไป
บอกว่า จองไว้ ชื่อ วา ค่ะ.......


พอเค้าเงยหน้ามา แล้วก็พูดว่า
อ้อคุณนี่เอง กำลังจะโทรหาพอดีเลยค่ะ ว่าห้องไม่ได้แล้ว เจ้าของเค้ามาแล้ว


O.o!!!!



วาก็แทบ สติแตกค่ะ เมื่อได้ยินคำว่า " กำลังจะโทรหาอยู่พอดี "
ตอนนี้ทุ่มครึ่งพอดิบพอดี จองตอน 5 โมงครึ่ง มีห้อง
แล้วมาบอกว่ากำลังจะโทรหา เพราะห้องไม่มี กรี๊ดๆๆๆๆ


เค้าก็พยายามอธิบายวา ว่า ฝรั่งกลุ่มนี้ จองห้องไว้เป็นรายเดือน แล้วเค้าบอกจะมา 1 ก.พ.
แต่เค้าไม่มา เลยเอาห้องมาขาย แล้วพอดีว่า วาจองแล้วเค้ามาถึงพอดี เย็นวันที่ 2 พอดีเลย
เลยต้องให้ห้องเค้าไป แต่ตอนนั้น วาไม่ได้มีสติรับรู้อะไรเลย วิ่งลงมาหา นนนี่
แล้วก็สติแตกแหกปากๆใส่ บอกว่า ไม่มีที่นอนแล้ว ห้องเต็มแล้ว เค้าบอกไม่มีห้อง บลา บลาๆ
นนนี่คง งง เลยไปคุยเอง วาก็สงบสติอารมณ์อยู่ในรถ ตอนนี้เหนื่อยมาก และอยากร้องไห้ เหอๆ


สรุป ได้ความมาว่า เค้าจะพาไปอยู่ ที่อื่นแทน ในราคาเท่ากัน
ตอนแรกวาก็ไม่ยอมรับ พยายามโทรหาที่อื่น ที่เราลิสต์มา ที่เราเคยเห็นสภาพห้อง
เพราะก่อนมา จะดูทุกอย่างที่รับได้ ขอผ่านตาหน่อยเหอะ มาเจองี้แล้ว ลมแทบใส่
แต่เมื่อใน ลิสต์เต็มหมด ก็เลยจำเป็นต้องไปนอนที่นี่แทน


บอกตรงๆว่า วาจำชื่อที่พักนี้ไม่ได้ และ ป่านนี้ยังไม่รู้ว่า อยู่ตรงไหนของแผนที่เชียงใหม่เลย
แผนที่วางไว้ ว่าจะซื้อของที่กาดธานินท์ หรือหาอะไรกินก็ต้องล้มไป



มีน้องคนนึง หน้าจืดๆ ขับรถมาส่งเรา แล้วก็พยายามขอโทษๆ เราตลอด เค้าก็คงทำดีที่สุดแล้วล่ะ
เพียงแต่ วาเหนื่อยมาก แล้วก็ไม่คิดว่าจะเจออะไรแบบนี้เลย เง้ออ
ดีนะว่าตอนนั้น นนนี่ไม่ใจร้อนด้วยอีกคน ยังพอมีสติฟังเค้า และเข้าใจได้
วานี่บ้าไปแล้ว จำได้ว่าเค้าหันมาคุยอะไรไม่รู้ แล้ววาก็บอกว่า
นนจัดการนะ วายังไงก็ได้ แต่อยากร้องไห้ ฮือ ฮือ


แต่ที่นี่ถือว่า ใช้ได้เลยค่ะในราคา 450 บาท มีที่จอดรถอย่างดี ห้องก็ใช้ได้
แต่ไม่รู้อยู่ตรงไหน มันเข้าซอยไปอีก เลยหาอะไรกินยาก
แล้วก็อดซื้อของกินในตลาด จำพวกแคปหมูแบบที่วางแผนไว้
ตกดึกก็มีก๋วยเตี๋ยวแถวนั้น ประทังชีวิตไปแทน เพราะกล้วออกไปแล้วหลง กลับมาไม่ถูก



ตื่นเช้าขึ้นมา เราต้องคืนรถให้เจอร์นี่แล้วค่ะ ... เช่าไว้ 2 วัน
วันนี้ความตั้งใจคือ เที่ยวแถวๆในเมืองเพราะไม่มีรถแล้ว ตกเย็นไปถนนคนเดิน
พอ 3 ทุ่มก็กลับบ้าน ด้วย นครชัยแอร์ เย็นวันนั้น ค่าตั๋วหางแดง เรท 2400 บาทค่ะ (-*-)


ตอนเช้าตรู่ก็ออกไปซื้อตั๋ว นครชัยแอร์ ได้เที่ยวดึกสุด 4 ทุ่มครึ่ง แล้วก็ไม่รู้จะทำยังไงกับกระเป๋า
เอารถไปคืนที่เจอร์นี่ ตรงประตูท่าแพ เยื้อง Starbucks นิดเดียว อ้อ ตรงข้ามร้าน บูท อ่ะค่ะ
คืนรถเสร็จ ก็นึกขึ้นมาได้ว่า .............. ตรงนี้มีที่พักสุดหรู 150 บาทที่เราเคยมาพักนี่นา


รอดแล้วววววววววว ขออาศัยอยู่ซัก 7-8 ชั่วโมงแล้วกัน คุ้มสุดแล้ว


 


คราวนี้ ค่าห้องขึ้นเป็น 200 บาทถ้วน ห้องเดิมเลยนะ แต่มีตู้เสื้อผ้าเพิ่มมา (ไม่เอาได้มั๊ยเนี่ย)
แต่ก็ยอมค่ะ คิดซะว่า จ่ายค่าอยู่ครึ่งวัน แถมใกล้ประตูท่าแพ แบบสุดๆ ถนนคนเดินอยู่ตรงข้ามนี่เอง เริ่ด!


บ่าย 3 เดินออกมาปากซอย เจอส้มตำศรจันทร์ มีในนายรอบรู้ด้วย กินซักหน่อย
อร่อยป่าวไม่รู้ แต่ไม่แย่เท่าไหร่ แต่จำได้อย่างเดียวว่า แม่ค้าหน้าเนียน ทั้งพี่ทั้งน้อง อิจฉา



หลังจากอิ่มมากๆ ก็ชวนนนี่ไปนวดฝ่าเท้า แต่นนนี่ไม่ได้เมื่อยขาอ่ะ อยากนวดหลังมากกว่า
ตกลงกันไม่ได้เลย ลากขึ้นรถแดงไปกินเค้กดีกว่า (ข่าวว่าไม่เกี่ยว และยังอิ่มตื้อ ไม่ใช่หรอ?)


ไม่รู้แหล่ะแปปเดียวก็มาโผล่ที่สิงหราชซอย 4 ร้าน เฟริน ฟอ เรส
วาเพิ่งเปิดนายรอบรู้เจอในร้านศรจันทร์เลยอยากมากิน แค่นั้นล่ะ
แล้วก็ได้รู้อีกว่า บ้านกาแฟ ซอยสิงหราช 3 ตอนนอนที่นี่ไม่รู้จักมากินกันเข้าล่ะ เอิ๊กกก



ร้านเค้กในสวนเฟริน ร่มรื่นแล้วเย็นสบาย จัดเค้กมาคนละ 1 ห้ามแย่ง!
นนนี่ได้ ชอคโกแลต ของวาได้ บานอฟฟี่ และสั่ง กาแฟปั่นเพิ่มวิปครีมมา 1 แก้ว
ซึ่งหกเป็นทางมาเลย ข่าวว่า วิปครีมมานพุ่งลงไปจนล้น หกหมดเลย
(แล้วความผิดใครละค๊า . . .ไม่เปลี่ยนแก้วมาให้ด้วยนี่)อ้อ...น้ำเปล่าฟรี ...


บานอฟฟี่ชิ้นเท่าบ้าน อร่อยใช้ได้ค่ะ แต่เค้กชอคไม่ได้เรื่องเลยอ่ะ หรือเราคอไม่ถึงหว่า
กินจนเอียนและเลี่ยนแทบจะกลิ้ง แต่ความเลี่ยนสูงส่งมาก เลยจัด ราสเบอรี่ชีสเค้กมา พร้อมกับ ชามะนาว 1 แก้ว
สีสวยดี แต่ คิดถึง คอฟฟี่บีน จับใจเลย แง๊..... เช็คบิล 300 ถ้วนไม่ขาดไม่เกิน


เค้กแพงกว่าข้าวทุกมื้อเลย คิดดู .... เง้ออ



ขากลับ โบกรถแดงอีกรอบ ค่าเค้ก 300 ค่ารถไปกลับ 80 เศร้าใจ เค้ก 1 มื้อของเรา
ดูบรรยากาศไปเรื่อยๆ หนังท้องตึง หนังตาหย่อนแล้วค๊าบบบ



หลังจากกลับถึงห้องก็หลับเป็นตายด้วยความอืด นอนไปได้ 3 ชั่วโมงก็มืดพอดี
ได้เวลาไปถนนคนเดินแล้ว เย่ๆ ตรงดิ่งเข้าวัดทันที กร๊ากกกกกกกกก
ในวัดมีแต่ของน่าสนใจทั้งน๊านนน



แล้วก็มีการแสดงกลางทางอีกมากมาย ทึ่ง คนตาบอด เสียงดีมากๆ
วันนี้มี หนุ่มอินดี้คนนึงเสียงเพราะมากๆอ่ะ นึกว่าหลุดมาจาก ค่ายเบเกอรี่ ได้ใจไปเลย
แต่ไม่ควักตังค์ให้นะ ดูเฉยๆ


งกได้โล่ห์


ชาวเขาน้อยคนนี้ ก็ยังมาเหมือนเดิม วันนี้เต้นเพลงที่มันร้องว่า "ปากแดงๆจะไว้ใจได้กา"
แล้วก็มีคนแกะสลักด้วย สวยดีๆ เก่งจัง (ดูเฉยๆตามเคย)



ตัดตอนมาที่กลับห้องเตรียมกลับบ้านดีกว่า มีเด็กข้างเวทีมาแซวและ หุหุ
ได้ของมาพอประมาณ แม่ศรีเรือนมะคะ ซื้อที่จับของร้อนอ่ะ
ข่าวว่าถูกมาก อันใหญ่ หนานุ่ม แต่โดน นนนี่ฉกไปอันนึง กำ!!
แล้วก็ จิปาถะอีกมากมาย โดยเฉพาะ กางเกงสะดอ 2 คนกวาดมา 6 ตัวถ้วน ..


เก็บของ ไปขึ้นรถดีกว่า โบกรถแดงอีกแล้วววววววว


 


ค่ารถทัวร์ นครชัยแอร์ คนละ 627 บาทค่ะ นอนสบายประมาณนึง แต่ขาวายาวเลยเบาะของขาลงไป
มันเลยรู้สึก ขาดๆเกินๆเวลานอน แต่รถขับนิ่มมาก ไม่ปวดเนื้อตัว แต่แอบเพลียๆ
มีพนักงานต้อนรับ ยังกะแอร์โฮสเตทแหน่ะ หรูได้อีก ของแจกเพียบ จนกินไม่หมดเลย
แต่ห้องน้ำเหม็นมาก เวลาคนเข้าเยอะๆ แต่พนักงานต้อนรับสาวสวยนั่นแหล่ะ เข้าไปขัดๆ
ก็กลับมาหอมสะอาดเหมือนเดิม . . . ซึ่งเวลานั้นคือ คนลงที่รังสิตหมดแล้ว
ตอนคนเยอะๆไม่มาขัดเนอะ เหม็นมากๆ (-*-)



สรุป ก็แยกย้ายที่ปลายทาง สถานีขนส่งหมอชิตใหม่ค่ะ จัดการ ต้มเลือดหมู ข้าวมันไก่แถวนั้น
แล้วก็แยกย้ายกลับบ้านทันที ง่วงมากๆ อยากนอนที่นอนสบายๆแล้ว


สรุปทริป ... ค่าใช้จ่ายทั้งหมด  Smiley


ค่าเดินทาง กทม.-เชียงใหม่-กทม. , ค่าเช่ารถ , ค่าน้ำมัน , ค่ารถแดง รวม 6284 บาท
ค่าที่พัก รวม 1100 บาท
ค่าเข้าอุทยาน , สวนสัตว์ รวม 480 บาท
ค่าขนม มินิมาร์ทต่างๆ รวม 1050 บาท
ค่าอาหารทุกมื้อ และ อาหารอื่นๆที่ไม่ได้ซื้อจากมินิมาร์ท รวม 1867 บาท


รวมทั้งสิ้น 10,781 บาท ค่ะ (พอดี จดทุกอณู เลยเป๊ะๆค่ะ) เยอะอยู่แหะ


ปล. ค่าเช่ารถ 2 วัน รวมประกัน 2580 บาท น้ำมัน 1020 บาท รวม 3600 บาทแล้ว
ถือว่าโอเคซื้อความสะดวกสบายค่ะ
ปปล. Yaris วิ่งดี ไม่กินน้ำมันเท่าไหร่ เพราะวาวิ่งกันไกลมาก
แถมหลงวันเวย์อีกหลายรอบทีเดียว



จบแล้วค่า ขอบพระคุณทุกๆท่าน ที่เข้ามาทักทายกันนะค๊า





Create Date : 03 กันยายน 2553
Last Update : 9 กันยายน 2553 23:56:09 น. 3 comments
Counter : 2615 Pageviews.

 
เป็นทริปที่ ค่าเดินทางแอบเยอะเหมือนกันแหะ


โดย: TheJacKer IP: 110.168.129.235 วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:0:23:28 น.  

 
ได้เที่ยวบ่อยจังเลยค่ะคุณวา ที่ทำงานมีวันลาให้ปีละกี่วันคะเนี่ย?? แอบอยากรู้ แหะๆๆ


โดย: ปุ๊กปิ๊ก (กำไลสีส้ม ) วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:8:53:18 น.  

 
ตอนนี้วาลาได้ปีละ 18 วันจ้า


โดย: นังนู๋วา วันที่: 16 กันยายน 2553 เวลา:7:00:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นังนู๋วา
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 150 คน [?]








Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
3 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add นังนู๋วา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.