:: หลับฝันดีที่ สวัสดี วิลเล็จ ภูเก็ต ::

12 oct 2010 เดินทางจาก เขาหลักเข้าไปที่ภูเก็ตค่ะ วันนี้จะเข้าพักที่ สวัสดีวิลเล็จ หาดกะตะ
เห็นมีสอบถามไฟลท์การเดินทางมาที่ e-mail ตอนแรกก็นึกว่าจะมารับ แต่พอวันเดินทาง โทรไปถามอีกครั้ง
กลับบอกว่าไม่มีไม่ได้แจ้งล่วงหน้าว่าต้องการรถรับส่ง วาก็เลยเหวอนิดนึง แต่สุดท้ายก็ได้ทางช่องฟ้า
มาส่งถึงหน้าสวัสดีวิลเล็จ ขอบคุณทาง ช่องฟ้า รีสอร์ทมากๆที่อุตส่าห์มาส่งตั้งไกล
โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ _/_




 ก้าวเข้าไปที่ สวัสดี วิลเล็จ แห่งนี้ ก็รู้สึกว่า ที่นี่ตกแต่งได้อลังการงานสร้างจริงๆค่ะ
มีรูปปั้นคน วางตามรายทางเป็นระยะๆ แถมห่มสไบของจริงให้ด้วย เดินผ่านที ก็ตกใจทีนึง (- -")





เดินเข้าไปด้านใน จะเห็นสระว่ายน้ำ และมีห้องพักเป็นเรือนแถว เรียงรายอยู่ รอบบริเวณ
เห็นต้นไม้ตามทางเดิน และตามห้องพักเขียวครึ้ม เดินไปเรื่อยๆก็จะเห็น ล๊อบบี้ขนาดเล็ก เด่นเป็นสง่า
ตั้งคู่กันกับ เลาจน์ ที่สามารถเข้าไปนั่งเล่น อ่านหนังสือ และเล่นอินเตอร์เน็ตได้




 




 


เช็คอินเรียบร้อยก็เดินทางเข้าสู่ห้องพัก ห้องพักที่นี่เป็นเหมือนเรือนแถว ต่อๆกัน
มีขนาดกระทัดรัด หน้าตาเหมือนกันหมดทุกห้อง มีห้องบางส่วนจะติดกับสระว่ายน้ำค่ะ
มีเก้าอี้พักผ่อนหน้าบ้าน ที่ติดกับห้องข้างๆ
ไม่ค่อยเป็นส่วนตัว แต่ถ้ามาเป็นครอบครัว ก็น่าจะถูกใจค่ะ



 




ประตูห้องเป็นกระจก ครึ่งนึง มองเห็นด้านในหมดเลย ถ้าออกไปที่อื่นจำเป็นต้องปิดม่านทุกครั้ง
เพราะคนอื่นสามารถมองเข้าไปในห้องได้หมดเลย แอบหลอนเหมือนกันค่ะ



 




 




 






 ภายในห้อง มีเตียงนอนขนาดใหญ่มาก มีมุ้งเจ้าหญิง ตกแต่งอยู่ด้วย
ซึ่งตอนกลางคืนมีมาเทรินดาวน์โดยการ กางมุ้งให้ด้วยค่ะ
คงเพราะเตียงที่ค่อนข้างใหญ่ จึงมีพื้นที่ใช้สอยอื่นๆน้อยมาก
มีส่วนของ ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง มินิบาร์ อยู่รวมๆกัน
แต่เฟอร์นิเจอร์ที่นี่ เน้นแบบไทยๆ ไม้หวาย และหลายๆอย่าง
เก๋ตรงที่ เป็นที่เก็บของได้ในตัว  อย่างเช่นเก้าอีกค่ะ เปิดออกมาเป็นตระกร้าได้ด้วยแหน่ะ
ถึงจะมีพื้นที่ใช้สอยน้อย แต่ก็มีพวก กล่องตระกร้า หรือลิ้นชักใส่ของ มาเป็นตัวช่วยในการเก็บของต่างๆ



 



ไฮไลท์ของห้องพักที่นี่ น่าจะเป็น TV LCD  ที่สามารถเล่นอินเตอร์เน็ตได้ด้วย
เพราะมี CPU ให้ด้วย เล่นได้ทันที แถม internet ก็เร็วมาก ค่ะเห็นว่าความเร็วประมาณ 30mb เลยทีเดียว
(ลองดาวน์โหลดหนัง แปปเดียวเสร็จเลยค่ะ โอ้โห ไม่ธรรมดา)
แต่ข้อเสียก็คือ จอใหญ่ไปเวลาเล่นแล้วค่อนข้างปวดตา และมึนงง
ซึ่งเห็นว่าในอนาคต จะมีเป็น เมาส์และ คีย์บอร์ดแบบไร้สายจะได้เอาออกไปเล่นไกลๆจอได้ไม่ปวดตาค่ะ
อ้อ..สำหรับคนที่เอา Labtop มาเอง สามารถใช้ wi-fi ฟรีได้เช่นกัน โดยขอ pass ได้ที่ front นะคะ



ห้องน้ำส่วนใหญ่จะใช้วัสดุที่ทำจากไม้เป็นการตกแต่ง ซึ่งก็ดูสวยแปลกตาดีนะคะ
แต่วาว่าห้องน้ำค่อนข้างแคบ เวลาเข้าห้องน้ำทีไร เหมือนตัวเองอยู่บนเรือตลอดเวลา
คือเหมือนมันมีพื้นที่จำกัดมากๆ เลยค่ะ เพดานก็ค่อนข้างเตี้ย
แต่มันก็ไม่ได้เตี้ยมากขนาดต้องก้มหัว แต่อาจจะเป็นเพราะที่อื่นสูงกว่านี้อ่ะค่ะ
(วาสูง 167 รู้สึกแบบนั้น) พื้นที่อาบน้ำ เป็นฝักบัว และมี ที่สามารถนั่งอาบน้ำเล็กๆอยู่อีกด้าน
เป็นรูปโค้งๆ ทำให้ห้องอาบน้ำดูไม่อึดอัดจนเกินไปนัก แต่ก็เล็กอยู่ดี อาบน้ำไม่สนุกเลย




 




 




 




 


รอบๆบริเวณของ สวัสดีวิลเล็จนี้ จะมีต้นไม้ มีบ่อปลา และมีรูปปั้นต่างๆ เหมือนเดินอยู่ในเมืองๆหนึ่ง
บางอย่างก็สวยแปลกตามากๆ แต่บางอย่าง วาก็กลัวค่ะ เช่นรูปปั้นรูปคนนั่งยิ้มขนาดใหญ่
เจอตอนกลางคืนไฟสลัวๆ วาผงะเลย (- -")




 




 




 




 


ที่น่าชื่นชมคือ มีต้นไม้ ดอกไม้ ร่มรื่นมากๆในทุกๆจุด มำให้รีสอร์ตดูร่มรื่น ไม่ร้อน คุณ md ได้บอกกับเราว่า ที่สวัสดีวิลเล็จนี้
จะไม่ซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารเคมีใช้เลย จะใช้เป็นพวกน้ำหมักชีวภาพ ซึ่งไปซื้อหัวเชื้อมาทำออกมาเป็นผลิตภัณฑ์เอง
เช่นน้ำยาถูพื้น น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ ผลิตภัณฑ์ กำจัดยุง และ น้ำในบ่อปลา หรือรดน้ำต้นไม้ ก็จะใช้น้ำหมักนี้ผสมลงไปด้วย
ซึ่งเป็นการประหยัดต้นทุน และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปในตัว เพราะน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดจากรีสอร์ท จะไม่มีตัวปนเปื้อนสารเคมี
 เวลาปล่อยออกไปตามธรรมชาติก็จะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม



 


 สระว่ายน้ำของที่นี่ คุณ md บอกว่าเป็นสระน้ำเกลือด้วยค่ะ เพราะส่วนใหญ่จะไม่มีสารเคมีอยู่แล้ว 
(แต่พี่เอ๋ ที่ไปพักที่ The Baray ได้ข้อมูลมาว่า ส่วนของ สวัสดีวิลเล็จ จะเป็นคอลีน)
แต่ด้วยความที่ฝนตก และสระปิดค่อนข้างไวมากคือ 18.00 เลยไม่มีโอกาศได้ไปเล่นน้ำในสระเลย
เสียดายเหมือนกันค่ะสระว่ายน้ำน่าเล่นมาก




 



 


พนักงานทุกคนที่นี่ จะใส่เสื้อผ้าชุดไทยประยุกต์เต็มรูปแบบ
แสดงออกถึงความเป็นไทย และจะทักทายคำว่า สวัสดี
เพื่อแสดงความเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยกับแขกทุกท่าน ซึ่งเป็นที่น่าชื่นชมค่ะ
แต่สังเกตุดูพนักงานไม่ยิ้มแย้มเท่าไหร่ หรือเพราะวาเป็นคนไทยก็ไม่รู้ค่ะ
เพราะกับแขกต่างชาติก็เห็นยิ้มแย้ม เอาใจใส่ดีอยู่เหมือนกัน




 


ช่วงเย็นวันนี้ได้ไปทานอาหารที่ร้านอาหารของทาง รีสอร์ท ชื่อว่า Sawasdee Thai Cuisine
ไปยืนเคอะเขิน เก้ๆกังๆ อยู่หน้าร้านซักพัก เห็นพนักงานกำลังจัดโต๊ะอยู่ เราอาจจะมาเร็วเกินไป
จึงมีพนักงาน เดินเข้ามาหา ตอนนั้นเรารู้สึกไม่ค่อยดีนะ คือเราต้องมายืนรอเค้าจัดโต๊ะเสร็จก่อน ถึงเดินมาหาเรา





 





ได้ที่นั่งแล้วก็ สั่งอาหารมาเป็นเซตอาหารค่ะ สำหรับ 1 ท่าน จะมาเป็นเซตเลย
เสริฟพร้อมข้าวเปล่า และน้ำเปล่า ที่สามารถขอเพิ่มได้
อาหารโดยรวมรสชาตดี ให้คะแนน ต้มยำ อร่อยมากค่ะ ส่วนตัวอื่นๆก็โอเคนะไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้กรี๊ดอะไร
แต่ที่ตกใจก็คือ ราคาอาหารค่ะ เซตนี้ราวๆ 600 กว่าบาท นี่ 2 เซต ก็พันกว่าบาท
ซึ่งคงเป็นค่าตกแต่งประดับ จัดอาหาร เค้าเน้นขาย ชาวต่างชาติจริงๆค่ะ (- -")
ซึ่งตอนที่วาไปนั่งทานก็มีชาวต่างชาติมาสั่งอาหารทาน หลายโต๊ะอยู่เหมือนกัน
ข้อดีของร้านอาหารนี้คือ อาหารอร่อย บรรยากาศดี มีมุมถ่ายรูปเยอะมากๆ ถ้าคนชอบถ่ายรูปที่นี่เจ๋งมาก
ข้อเสียมีเพียงข้อเดียวคือ อาหารราคาสูงมาก (สำหรับคนไทย งบน้อยแบบวา แต่ท่านอื่นอาจจะรู้สึกปกติก็ได้ค่ะ ^^)




 
มาถึงอาหารเช้า ที่จะต้องมาทานที่ร้านอาหารนี้เช่นกัน วารู้สึกว่าอาหารเช้าที่นี่ดีมากเลยค่ะ คุณภาพดีมาก
มีให้เลือกหลากหลาย มีซุ้มเมนูไข่ให้เลือกสั่งได้ ที่เจ๋งก็คือ zone ของคอนเฟรค มีให้เลือกเยอะมาก
ที่กรี๊ดเลยก็คือ เม็ดมะม่วง หิมพานต์ โอ้โห เพิ่งเคยเห็นเป็นที่แรกเลยค่ะ




 




 




 




 




 


แล้วที่ทำให้รู้สึกดีกับอาหารเช้า ก็คงเพราะภาชนะต่างๆ ที่ใช้ตกแต่ง หรือจัดวางอาหาร
ค่อนข้างสวยงามและมีเอกลักษณ์มากๆค่ะ ตกแต่งเหมือนสไตล์แขกๆ นิดๆ แต่มีกลิ่นอายของความเป็นไทย
วาชอบอะไรที่เว่อร์ๆอยู่แล้วเลยชอบอะไรแบบนี้จัง


ข้างๆห้องอาหาร มี Spa ที่เลิศมากๆ ชื่อว่า ... ซึ่งเป็นสปารระบบอัฉริยะค่ะ
คือ สั่งการด้วยระบบคอมพิวเตอร์ อย่างเช่นจะนวดอะไรแบบไหน ก็จะไปกดเมนูหน้าห้อง
แล้วทุกอย่างในห้องก็จะดำเนินการเอง เช่น ในแพคเกจมี นวดเท้า พอกดปุ่มปุ๊บ น้ำในบ่อแช่เท้าจะเติมเองอัตโนมัติ
หรือถ้ามีแบบต้องลงไปแช่ในอ่าง น้ำในอ่างก็จะเปิดเติมเองทันที ไฮเทคสุดๆค่ะ
แถม บรรยากาศและการตกแต่งก็สวยเก๋ อลังการมากๆอีกด้วย
ไม่น่าเชื่อว่า ของตกแต่งนี้ จะทำขึ้นในประเทศไทยทั้งสิ้นนะคะเนี่ย




 




 




 




 




 



อันนี้เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่เลยค่ะ *
เป็นหยดน้ำมันลงบนหน้าผากด้วยเจ้าตัวนี้ แล้วก็นวดผ่อนคลาย


ด้วยชื่อของ สปา และป้ายด้านหน้าของโรงแรม จะมีคำว่า The baray อยู่ด้วย
ซึ่งสวัสดีวิลเล็จนี้ จะมีห้องพักแบบ วิลล่าอยู่ด้วย ชื่อว่า The baray จะเรียกว่าเป็นรีสอร์ทเดียวกันก็ได้
หรือจะเรียกว่าเป็น คนละรีสอร์ทก็ได้อีกเช่นกัน แต่ทั้ง 2 ที่ ใช้ทางเข้าที่เดียวกันนะคะ
แต่ของ The baray จะแยกเป็นสัดส่วนออกไป โดยคนที่ไม่ได้พักโซนนั้น จะไม่สามารถเข้าไปได้ค่ะ
วาแอบขอไปชมห้องเป็นบุญตามาด้วย กรี๊ดมากๆค่ะ อยากจะมีโอกาสเป็นเจ้าหญิง
ได้นอนในห้องสวยๆแบบนี้ซักครั้งเหมือนกันนะ ^^




 



ที่นี่ตั้งอยู่บริเวณหาด กะตะ แต่อยู่ค่อนข้างไกลชายหาดกะตะนะคะ เดินไปได้ แต่ก็จะไกลหน่อย
โรงแรมจะอยู่ในซอย ด้านหลัง ClubMed
ถ้าจะไปที่หาดกะตะ จะมีรถไปส่งที่หาด ทุก 1 ชม. ตลอดทั้งวัน
แต่จะต้องไปแจ้งที่ front ไว้ ว่าจะไป เค้าจะได้ อำนวยความสะดวกให้ค่ะ
แถวๆรีสอร์ท มี 7-11 ด้วยค่ะ สะดวกสบายมากๆ เดินไปราวๆ 100 เมตร


สุดท้ายเราก็ต้องโบกมือ บ๊าย บาย สวัสดีวิลเล็จค่ะ
ตอนออกมา สอบถามที่ front ว่า ไปที่ บขส. จะไปยังไง ได้คำตอบว่า มีรถไปส่งของโรงแรม 500 บาทค่ะ (- -")
แต่ด้วยความที่ไม่อยากเสียเงินมากมายขนาดนั้น เลยเดินออกไปหารถด้านนอกดีกว่า
แล้ววาเฝ้าของอยู่ด้านใน ซักพักมีโทรศัพท์จากคนที่ไปหารถ โทรมาบอกว่า
ได้รถตู้มาในราคา 400 บาท พาชมเมืองเล็กน้อยด้วย ก็เลยตกลงค่ะ




 ตอนออกมา มีเรื่องให้ต้องคิดนิดนึงค่ะ จะว่าวาเรื่องมากก็ได้นะ
แต่คือ พอวาเช็คเอาท์ก็มีต่างชาติ 2 คนลากกระเป๋าคนละใบ เช็คเอาท์เสร็จพอดี
เค้าวอ บอกกันว่า ส่งลูกค้าด้วย ต่างชาติ 2 คน ก็มี เหมือน รปภ. ค่ะ รีบมารับกระเป๋าไปอย่างรวดเร็ว
แต่ต่างชาติบอกไม่เป็นไรไปเองได้ เค้าก็วอมาบอกว่า เค้าจะไปเอง รปภ. ก็เดินจากไป


ซึ่งวาก็เช็คเอาท์พอดี แต่ไม่ยักกะมีใคร มาช่วยถือกระเป๋าแหะ
สัมภาระก็แค่ เป้ใบใหญ่ 2 ใบ กระเป๋าเดินทางเล็ก 1 ใบ กระเป๋าถือ 1 ใบ
และกระเป๋ากล้อง 1 ใบ เท่านั้นเอง (มีกระเป๋าโน๊ตบุ้คด้วยแต่ยัดไว้ในเป้ อย่างหนัก) (- -")
ลองคิดสภาพว่ามันจะทุลัก ทุเลขนาดไหน ตอนเดินถือสมบัติทั้งหมดนี้
(สมบัติเยอะเพราะอีกคนออกไปหา Taxi อยู่ วาก็รับผิดชอบเฝ้ากระเป๋าคนเดียว)
พอได้ Taxi แล้ว ก็โทรมาให้วาเดินออกไปรอหน้าโรงแรม เดินผ่านพนักงานหลายคนเค้าก็มองๆ
แต่ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด (ซึ้งจริงๆขอบอก)


พอ ออกมาถึงข้างนอก ก็กองทุกอย่างบนพื้นหน้าโรงแรม รอรถตู้มารับ มีพนักงานคนนึงวิ่งมา
พูดภาษาอังกฤษกับวาว่า " ต้องการเรียก Taxi ไปไหนมั๊ย ให้ช่วยเรียกรึเปล่า "
วาหันไปบอกว่า " ไม่เป็นไรค่ะ ไปเรียก Taxi มาเองแล้ว เดี๋ยวเค้ากำลังจะมารับ "
พอเห็นเราพูดไทยเค้าก็ตกใจนิดนึง รับทราบแล้วก็เดินจากไป



 


โรงแรมนี้ดีในหลายๆเรื่องนะคะ แต่เรื่องพนักงานของที่นี่ วาว่าเค้า 2 มาตรฐานมากๆ
วาไปพักไม่เห็น คนไทยเลย จะว่าตอนนั้น พนักงานอาจจะเหนื่อยๆยุ่งๆ เพราะแขกเต็ม 100% ช่วงเทศกาลกินเจ
แต่ก็เห็นยิ้มแย้ม ให้ความช่วยเหลือกับชาวต่างชาติเป็นอย่างดี แต่คนไทยไปเที่ยวแล้วเจอแบบนี้ ก็ไม่ไหวเหมือนกันค่ะ


 




 



วันนี้เดินทางกลับด้วยรถทัวร์ของ ภูเก็ตท่องเที่ยว คนเยอะ รถเต็ม
แต่ที่ประทับใจคือ เค้าจอดแวะให้ทานข้าวที่ร้าน คุณสาหร่าย อาหารดูดีมีคุณภาพมากมายค่ะ
ร้านก็ใหญ่โตน่าเสียเงินซื้ออะไรทานมากๆ ห้องน้ำก็สะอาดใช้ได้เลย
แต่คนขับซิ่งไปหน่อย แต่ก็เดินทางกลับถึง กทม. อย่างปลอดภัยค่ะ (^____^)



Free TextEditor




 

Create Date : 24 ตุลาคม 2553
4 comments
Last Update : 24 ตุลาคม 2553 9:26:54 น.
Counter : 2729 Pageviews.

 

เที่ยวได้คุ้มชีวิตมากจิงๆเพื่อน...

 

โดย: nookui IP: 183.89.35.33 24 ตุลาคม 2553 15:56:33 น.  

 

^^ คุณวาท่องเที่ยวตลอดปีเลยน๊า.. อิจฉาๆๆค่ะ ว่าแต่ที่ทำงานไม่ว่าเหรอคะ..หรือว่าวันพักร้อนเยอะมากมาย?? แอบอยากรู้อ่ะค่ะ แหะๆๆ

 

โดย: กำไลสีส้ม 25 ตุลาคม 2553 8:41:25 น.  

 

ปีนี้พักร้อนวามีราวๆ 18 วันอ่ะจ้า ยังเหลืออีกอื้อเลย แหะๆๆๆ

 

โดย: นังนู๋วา 26 ตุลาคม 2553 1:51:19 น.  

 

^
^
^
ป๊าดดดดดดดด... ขอแบ่งวันพักร้อนบ้างจิ อิอิ

 

โดย: กำไลสีส้ม 27 ตุลาคม 2553 12:27:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


นังนู๋วา
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 150 คน [?]








Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
24 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add นังนู๋วา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.