เฟอร์กี้ รับงานบรรยายให้ ม.ฮาร์วาร์ด แนะเด็กถึงแนววิธีการสร้างความสำเร็จให้กับสิ่งที่ตัวเองทำ
ใครอยากรู้สูตรสำเร็จ ลองไปสมัครเรียนดูได้! เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือคนกระพันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก เมือง "ผู้ดี" โผล่รับจ๊อบเสริม โดยเดินทางไปเป็นวิทยากรพิเศษให้กับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สถานศึกษาชื่อก้องระดับโลก ที่ตั้งอยู่ ณ กรุงบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีเป้าหมายให้นักศึกษาทุกคนได้เรียนรู้ถึงหลักของการวางแผนจัดการสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ประสบความสำเร็จในแบบฉบับของ "จอมคนเลือดสกอต"
ผลจากการที่ "เฟอร์กี้" พา แมนฯ ยูฯ ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามตลอดระยะเวลา 26 ปีที่ผ่านมา จนถึงขั้นที่ว่า เดวิด กิลล์ ประธานบริหารของ "ปีศาจแดง" เคยเอ่ยวาทะสั้นๆ ขึ้นมาว่า "ถ้า สตีฟ จ๊อบ คือ แอปเปิ้ล...เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด!" ส่งผลให้ศาสตราจารณ์ของ ฮาร์วาร์ด เล็งเห็นว่ากุนซือรุ่นเดอะวัย 71 น่าจะถ่ายทอดเคล็ดลับความสำเร็จอะไรหลายๆ อย่างออกมาให้เด็กรุ่นใหม่ได้ซึมซับบ้าง ซึ่ง "ป๋าแพนด้า" ก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยหัวข้อหลักๆ ก็จะเจาะลึก ไล่ตั้งแต่การวางแผน, การซื้อตัวผู้เล่น, การจัดการเรื่องราวในห้องแต่งตัว, วิธีการเตรียมทีม, วิธีการพูดกับลูกน้อง และการตัดสินใจเปลี่ยนแท็กติกในช่วงพักครึ่ง รวมไปถึงความผิดพลาดต่างๆ ที่ "เฟอร์กี้" เคยทำ"
เฟอร์กูสัน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "คุณไม่สามารถเสียการควบคุมในห้องแต่งตัวได้ เพราะเรากำลังพูดถึงนักฟุตบอลอาชีพกว่า 30 คนที่เป็นมหาเศรษฐีกันทั้งนั้น ซึ่งถ้าใครก็ตามที่คิดจะแหกคอกที่ว่านี้ ผมก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องมอบความตายให้เพียงอย่างเดียว ทุกๆ วันนี้นักฟุตบอลมีชีวิตที่สุขสบายมากกว่าเดิม พวกเขาเปราะบางมากกว่าเมื่อ 25 ปีก่อนมาก และผมก็เคยเป็นคนที่นิสัยเกรี้ยวกราดมาก และหมกมุ่นกับชัยชนะสุดๆ แต่ทุกๆ วันนี้ผมผ่อนคลายกับเรื่องพวกนี้มากขึ้น"
"ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตัวผม มันทำให้ผมหาทางรับมือกับผู้เล่นสมัยใหม่ได้ดีขึ้น คุณไม่สามารถไปคำรามหรือตะคอกใส่ผู้เล่นได้ตลอดเวลา เพราะบางทีมันก็ไม่ได้ผล และถ้าจะพูดกันถึงในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง การให้กำลังใจผู้เล่นด้วยคำสั้นๆ ที่ว่า...ดีมาก! ก็ถือเป็นการประกอบกันของ 2 คำที่สวยที่สุดเท่าที่เคยถูกสร้างขึ้นมาในวงการกีฬาเลยทีเดียว"
สุดท้ายนี้ นอกจากจะเดินทางไปให้ความรู้กับเด็กๆ แล้ว เฟอร์กี้ ก็ยังได้ถือโอกาสหาความรู้เพิ่มด้วยการเข้าเรียนคลาสการจัดการของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วยเช่นกัน โดยกล่าวว่า "เวลาคุณได้มีโอกาสมาเยือนสถาบันที่ยิ่งใหญ่อย่าง ฮาร์วาร์ด คุณย่อมรู้ดีว่าคุณกำลังเจอกับสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งผมก็จำเป็นต้องพิจารณาถึงการเปิดตัวเองเพื่อเรียนรู้สิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนด้วยเช่นกัน" วันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ประกาศอำลาการคุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากทำหน้าที่ผู้จัดการทีมมายาวนานถึง 26 ปีครึ่ง ภายใต้การนำทีมของเซอร์อเล็กซ์ เขาทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครองแชมป์ต่างๆ ถึง 38 รายการ ในจำนวนนี้เป็นแชมป์พรีเมียร์ ลีก ถึง 13 ครั้ง แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีก 2 ครั้ง เอฟเอ คัพ 4 ครั้ง และลีกคัพ 1 ครั้ง ด้วยความเป็นผู้จัดการทีมที่ยอดเยี่ยมของเซอร์อเล็กซ์ ทำให้ทีมแมนยู ประสบความสำเร็จมายาวนานเกือบ 30 ปี ยากจะหาใครเทียบได้ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ อนิต้า เอลเบิร์ส และ ทอม ดาย อาจารย์คณะบริหารธุรกิจของ ฮาร์วาร์ด บิสซิเนส สกูล (Harvard Business School) แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นคณะบริหารธุรกิจอันดับ 1 ของโลก ทำการศึกษาถึงเคล็ดลับความเป็นผู้นำของเซอร์อเล็กซ์ในการบริหารทีมจนประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมกีฬาที่มีมูลค่ามากเป็นอันดับ 2 ของโลกจากการประเมินตัวเลขของนิตยสาร ฟอร์บส์ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยมีมูลค่า 3,165 ล้านดอลลาร์หรือ 95,000 ล้านบาท เป็นรองอันดับหนึ่งคือสโมสรฟุตบอลเรียล แมดริดของสเปนเล็กน้อย ฟอร์บส์ประเมินมูลค่าเรียล แมดริด ไว้ที่ 3,300 ล้านดอลลาร์ หรือ 99,000 ล้านบาท อนิต้า เอลเบิร์ส และ ทอม ดาย เดินทางไปสัมภาษณ์เซอร์อเล็กซ์ ที่เมืองแมนเชสเตอร์เมื่อปีที่แล้วเพื่อหาคำตอบว่าอะไรคือเคล็ดลับแห่งความสำเร็จของเซอร์อเล็กซ์ หลังจากสัมภาษณ์ เซอร์อเล็กซ์ อนิต้า เอลเบิร์ส และ ทอม ดาย ได้ร่วมกันเขียนรายงานการศึกษาชื่อ Sir Alex Ferguson : Managing Manchester United หรือ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน : การบริหารแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วเดือนธันวาคม ปี 2012 เซอร์อเล็กซ์ได้เดินทางไปฮาร์วาร์ด บิสซิเนส สกูลในฐานะอาจารย์รับเชิญ เพื่อให้ความรู้แก่นักศึกษาเรื่องการบริหารจัดการ จากรายงานการศึกษาและการเล็กเชอร์ที่เซอร์อเล็กซ์สอนนักศึกษาฮาร์วาร์ดเมื่อปีก่อนสามารถสรุปหัวใจในการบริหารทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ให้ประสบความสำเร็จติดต่อกันยาวนานเกือบสามสิบปีได้ดังนี้ 1. ให้ความสำคัญกับความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของทีม เซอร์อเล็กซ์จะไม่ยอมให้นักเตะคนหนึ่งคนใดคิดว่าตัวเองเป็นซูเปอร์สตาร์เป็นดาวเด่นของทีมเหนือกว่าเพื่อนนักเตะร่วมทีมคนอื่นๆหรือคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่กว่าแมนยูเรื่องนี้ เดวิด เบ็กแค่ม ซาบซึ้งดี คาดกันว่า เวย์น รูนี่ย์ จะเป็นคนต่อไป 2. รู้จักชมนักเตะเมื่อทำผลงานได้ดี เซอร์อเล็กซ์กล่าวว่า สำหรับนักฟุตบอลและมนุษย์ทุกคน ไม่มีสิ่งใดที่ทำให้มีความรู้สึกดีใจ ภาคภูมิใจมากไปกว่าการได้รับคำชมว่า well done หรือทำได้ดี คำคำนี้ เป็นคำที่ดีที่สุด ไพเราะที่สุดในโลกของกีฬา หลังการแข่งขันแม้นักเตะจะเล่นได้ไม่ดี ผู้จัดการทีมก็ไม่ควรจะตะโกนดุด่านักเตะไปหมดทุกครั้ง เพราะการดุด่าไม่อาจใช้ได้เสมอไป ไม่มีใครอยากถูกต่อว่า แต่เมื่อถึงล็อกเกอร์ รูม การชี้ข้อผิดพลาดให้นักเตะเห็นเป็นสิ่งที่ต้องทำทันที อย่ารอให้ถึงวันจันทร์แล้วถึงบอก และเมื่อชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดในการเล่นนัดนั้นจบแล้วก็จบกัน ไม่เก็บเอามาว่ากล่าวซ้ำอีก ให้คิดถึงการแข่งขันนัดต่อไป เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะตำหนินักเตะในเรื่องที่ผ่านมาแล้วและแก้ไขไม่ได้-ซ้ำแล้วซ้ำเล่า นอกจากนี้เซอร์อเล็กซ์บอกอีกว่าเขาไม่เคยตำหนินักเตะต่อหน้าสาธารณะซึ่งนักเตะทุกคนในทีมทราบดี มีอะไรไม่พอใจจะพูดคุยกันภายในทีมเท่านั้น 3. การลงโทษ หากนักเตะคนไหนไม่ทำตามกฎ จะถูกปรับเงิน เป็นวิธีการควบคุมความประพฤตินักเตะที่มีเงินระดับมหาเศรษฐี และการปรับเงินของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เคยเปิดเผยให้คนนอกทราบ 4. พัฒนานักเตะรุ่นใหม่ เซอร์อเล็กซ์จะพัฒนานักเตะรุ่นใหม่ของสโมสรให้มีคุณภาพ มาตรฐานในระดับเดียวกับที่นักเตะรุ่นก่อนๆ ทำไว้ ทั้งนี้ เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงตลอดไปให้กับสโมสร การสร้างนักเตะหน้าใหม่ให้มีฝีเท้าดีเยี่ยมจนสามารถลงเล่นเป็นตัวจริงได้ เซอร์อเล็กซ์ถือว่าเป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับสโมสรสืบต่อไป เซอร์อเล็กซ์กล่าวว่า 99 เปอร์เซ็นต์ของผู้จัดการทีมที่เพิ่งเข้ามาคุมทีมใหม่ทำก็คือซื้อนักเตะที่มีประสบการณ์ ที่เคยเล่นกับทีมที่ตัวเองเคยเป็นผู้จัดการทีมมาก่อนเข้ามาร่วมทีม เพราะต้องการให้ทีมชนะ และตัวเองจะได้คุมทีมต่อ ซึ่งไม่ใช่วิธีการของเขา 5. การฝึกซ้อม สิ่งที่เซอร์อเล็กซ์อบรมสั่งสอนนักเตะทุกคนในทีมคือการขยันซ้อม มีความมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังกับการซ้อมนั้นถือเป็นพรสวรรค์อย่างหนึ่งเช่นกัน นักเตะในทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องฝึกหนักกว่านักเตะทีมอื่นๆ หากทำไม่ได้ก็ไม่ต้องมาเป็นนักเตะทีมแมนยู เพราะตัวเขาสนใจเฉพาะนักเตะที่ฝึกซ้อมอย่างหนัก ต้องการเก่งจนผู้จัดการทีมต้องเลือกให้ลงเล่น และไม่ต้องการเป็นผู้แพ้เท่านั้น 6. การเลิกจ้าง หากจะเลิกสัญญาจ้างกับนักเตะคนใดก็ตาม เซอร์อเล็กซ์จะเป็นคนบอกด้วยตัวเอง จะไม่ส่ง SMS บอกเลิกแบบผู้จัดการทีมหลายคนที่ทำกันสมัยนี้ เซอร์อเล็กซ์บอกว่า สิ่งที่เขาพูดกับนักเตะเวลาบอกเลิกสัญญานั้นจะไม่พูดทำร้ายจิตใจให้นักเตะเสียความมั่นใจ แต่เขาจะบอกว่าที่เลิกจ้างเพราะสไตล์ของผู้เล่นคนนั้นไม่ตรงกับกลยุทธ์ในการสร้างทีม ประโยคที่เซอร์อเล็กซ์จะกล่าวออกตัวอยู่บ่อยๆ คือ "ผมอาจจะตัดสินใจผิดที่เลิกสัญญาจ้างกับคุณ แต่ผมคิดว่า ณ วันนี้มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทีม" ใครที่เป็นแฟนแมนยู และติดตามการทำงานของเซอร์อเล็กซ์มาตลอด อ่านทั้ง 6 ข้อก็จะทราบว่าเซอร์อเล็กซ์ปฏิบัติตามทั้ง 6 ข้อจริงๆ ด้วย
This spa bedding collection is a 6 piece Luxury Bedding Duvet Ensemble. Made of 100% Cotton, this High 300 Thread Count Designer Bedding set includes everything you need to turn your bedroom into a master suite. This elegant ensemble features a sophisticated palette in rich colors. The relaxed design will be an easy fit into any room decor. Has the style, elegance and luxury of the Contemporary Hotel Style Designs. The matching shams and bed skirt will instantly coordinate the look of your bedroom.