ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก A giver is always be loved.
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2554
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
26 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
ลักษณะของผู้ที่จะคบ

หลิททราคชาดก
ว่าด้วยลักษณะของผู้ที่จะคบ


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ ความประเล้าประโลมของนางถูลกุมารี จึงตรัสเรื่องนี้ดังนี้

เรื่องปัจจุบันตามที่ปรากฏในจุลลนารทชาดก เตรสนิบาต.
เล่ากันมาว่า ธิดาของสกุลชาวกรุงสาวัตถีผู้หนึ่ง มีอายุประมาณ ๑๕ - ๑๖ ปี เป็นหญิงมีรูปเลอโฉม แต่ไม่มีใครสู่ขอนาง ลำดับนั้น มารดาของนางคิดว่า ธิดาของเราเป็นสาวแล้ว แต่ไม่มีใครสู่ขอนางเลย เราต้องใช้ นางล่อประเล้าประโลมภิกษุของพระศากยะรูปหนึ่ง เหมือนล่อปลาด้วยเหยื่อ ให้สึกเสียจนได้ แล้วจักอาศัยเธอเลี้ยงชีพ
ครั้งนั้น กุลบุตรชาวกรุงสาวัตถีผู้หนึ่ง บวชถวายชีวิตในพระศาสนา ตั้งแต่กาลที่อุปสมบทแล้ว ก็ละทิ้ง สิกขาบท เกียจคร้าน มัวแต่ประดับสรีระอยู่ มหาอุบาสิกาจัดแจงยาคูและ ข้าว ขาทนียโภชนียะไว้ในเรือน ยืนที่ประตูเรือนใคร่ครวญบรรดาภิกษุที่พากันเดินไปในระหว่างถนนสักรูปหนึ่ง ซึ่งมีท่าทางที่นางสามารถจะเกี้ยวได้ ด้วยรสตัณหา เมื่อขบวนพระผู้ทรงพระไตรปิฎก ผู้ทรงพระอภิธรรม ผู้ทรงพระวินัย พากันเดินไปกับบริวารเป็นอันมาก ก็ยังไม่เห็นรูปไรๆ ในกลุ่มที่พอจะเกาะไว้ได้ ในกลุ่มแห่งพระธรรมกถึกผู้กล่าวธรรมไพเราะก็ดี ในกลุ่มแห่งพระผู้สมาทานปิณฑบาตเป็นวัตร ผู้เช่นกับวลาหกอันกระจายฝอยก็ดี ผู้เดินไปภายหลังแห่งภิกษุกลุ่มนั้น ก็คงยังไม่เห็นสักรูปหนึ่งเลย
ครั้นเห็น ภิกษุรูปหนึ่งหยอดยาตาจนถึงขอบตา นุ่งอันตรวาสกทำด้วยผ้าทุกูลพัสตร์ ห่มจีวรเนื้อเกลี้ยงเป็นมันระยับ ประคองบาตรสีเหมือนแก้วมณี กั้นร่มอันชวนใจให้ยินดี ปล่อยอินทรีย์ร่างกายล่ำสันอันใหญ่โตกำลังเดินมา คิดว่า เราอาจเกี้ยวภิกษุนี้ได้ จึงเดินไปไหว้รับบาตร กล่าวว่า นิมนต์มาเถิดเจ้าข้า พามาเรือนให้นั่งแล้วเลี้ยงดูด้วยข้าวยาคูเป็นต้น กล่าวกะภิกษุนั้นผู้ฉันเสร็จแล้วว่า ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ ตั้งแต่บัดนี้ไป พระคุณเจ้าพึงมาที่นี้เท่านั้นนะเจ้าคะ ตั้งแต่นั้น ภิกษุนั้นก็ไปบ้านนั้นเป็นประจำ ต่อมาได้คุ้นเคยกัน.
อยู่มาวันหนึ่ง มหาอุบาสิกายืนอยู่ในระยะพอที่ภิกษุรูปนั้นจะได้ยิน กล่าวว่า ในเรือนนี้มีเครื่องอุปโภคบริโภคพอประมาณ แต่ลูกชายหรือลูกเขยอย่างนั้น ที่สามารถจะตรวจตราเหย้าเรือนไม่มีเลย ภิกษุรูปนั้นฟังคำของนางแล้วคิดว่า นางพูดเพื่อประโยชน์อะไรเล่านะ จึงได้มีอาการเหมือนถูกเจาะที่หัวใจเข้าไปหน่อยหนึ่งแล้ว
นางกล่าวกะธิดาของตนว่า เจ้าจงยั่วยวนภิกษุนี้ให้เป็นไปในอำนาจของเจ้าให้ได้เถิด ตั้งแต่นั้นมา นางก็ประดับกายพริ้มเพรา ยั่วยวนเธอด้วยกระบิดกระบวนสตรีต่าง ๆ
ภิกษุรูปนั้นยังหนุ่ม ยังตกอยู่ในอำนาจกิเลส ก็คิดว่า บัดนี้เราคงไม่อาจดำรงอยู่ในพระพุทธศาสนาได้ กล่าวว่า ฉันต้องไปวิหาร มอบบาตรและจีวรแล้ว จักไปที่ตรงโน้น เธอจงส่งผ้าของฉันไปที่นั้น แล้วไปสู่วิหารมอบบาตรจีวร กราบเรียนพระอาจารย์อุปัชฌาย์ว่า ผมจะสึกละครับ ท่านเหล่านั้นพาเธอไปสู่สำนักพระศาสดา กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภิกษุนี้จะสึกพระเจ้าข้า
พระศาสดาตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุ ข่าวว่าเธอจะสึกจริงหรือ เมื่อกราบทูลให้ทรงทราบว่า จริงพระเจ้าข้า จึงตรัสว่า เหตุอะไรให้เธอสึก เมื่อเธอกราบทูล ให้ทรงทราบว่า นางสาวเทื้อ พระเจ้าข้า ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ แม้ในครั้งก่อน นางคนนี้ ก็เคยกระทำอันตรายแก่พรหมจรรย์ ก่อความเสื่อมเสียอย่างมหันต์ แก่เธอผู้อยู่ในป่า เธอยังจะอาศัยนางนี้คนเดียวกันสึกเสียอีก เพราะเหตุไรเล่า พวกภิกษุพากันกราบทูลอาราธนา จึงทรงนำอดีตนิทานมาแสดง ดังต่อไปนี้.
ส่วนเรื่องที่เป็นอดีต มีความดังต่อไปนี้:

เรื่องในอดีตตามที่ปรากฏในจุลลนารทชาดก เตรสนิบาต
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติ ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในสกุลพราหมณ์ มีสมบัติมากในแคว้นกาสี เรียนศิลปะ สำเร็จตั้งหลักฐาน ลำดับนั้น ภรรยาของท่านคลอดบุตรคนหนึ่ง แล้วได้ถึงแก่กรรมไป ท่านได้คิดว่า ความตายมีได้แก่ภรรยาที่รักของเราฉันใด ความตายจักต้องมาถึงเราฉันนั้น เราจะต้องการอะไรด้วยฆราวาส บวชเถอะน่ะ จึงละกามทั้งหลาย พาลูกชายเข้าสู่หิมพานต์ บวชเป็นฤๅษีกับลูกชายนั้น บำเพ็ญเพียรจนได้ฌานอภิญญา ได้มีเผือกมันและผลไม้ในป่าเป็นอาหาร อยู่ในราวป่า
ครั้งนั้น พวกโจรชาวปัจจันตคาม เข้าสู่ชนบทปล้นบ้าน จับคนเป็นเชลย ให้ขนข้าวของเดินทางไปสู่ชายแดน ในกลุ่มเชลยนั้น หญิงสาวผู้หนึ่งหน้าตาสวยงาม ประกอบด้วยปรีชาในเชิงล่อลวง นางคิดว่า โจรเหล่านี้จับพวกเราไป คงจักใช้สอยอย่างใช้ทาส เราต้องหาอุบายอันหนึ่งหนีไปเสียให้ได้ นางจึงกล่าวว่า นายเจ้าข้า ดิฉันประสงค์จะกระทำสรีรกิจ โปรดหยุดรอสักหน่อยเถิดเจ้าคะ แล้วลวงพวกโจรหนีไป
เมื่อหนีเข้าไปในไปในป่า บรรลุถึงอาศรมในเวลาเช้า ตอนที่พระโพธิสัตว์ ให้ลูกชายเฝ้าอาศรมแล้วไปหาผลาผล จึงยั่วยวนดาบสเด็กนั้นด้วยการยินดีในกาม ทำลายศีลเขาเสีย
นางกุมาริกานั้น ทำลายศีลของดาบสหนุ่มนั้นแล้ว รู้ว่าดาบสหนุ่มตกอยู่ในอำนาจของตน คิดว่าเราจักลวงดาบสหนุ่มนี้นำไปตามวิถีทางของมนุษย์ คิดดังนี้แล้วพูดว่า ขึ้นชื่อว่าศีลที่รักษาในป่าซึ่งเว้นจากกามคุณมีรูปเป็นต้น ย่อมจะมีผลใหญ่ไปไม่ได้ ศีลที่รักษาในครรลองมนุษย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งแห่งกามคุณ มีรูปเป็นต้น ย่อมมีผลใหญ่ มาเถิดท่านจงไปรักษาศีลกับเราในครรลองมนุษย์นั้น ป่าจะเป็นประโยชน์อะไรแก่ท่าน ดังนี้ จึงได้กล่าวคาถา ที่ ๑ ว่า:
[๑๒๘๓] ความอดทนด้วยดีอยู่ในป่า อันมีที่นอนและที่นั่งสงัดเงียบ จะมีผล
ดีอะไร ส่วนชนเหล่าใดอดทนอยู่ในบ้าน ชนเหล่านั้นเป็นผู้ประเสริฐ
กว่าท่าน.
ดาบสหนุ่มได้ฟังดังนั้นแล้ว กล่าวว่า บิดาของเราไปป่า เมื่อท่านมาแล้ว เราจักลาท่านก่อนแล้วจึงไป.
นางกุมาริกานั้นคิดว่า ได้ยินว่า ดาบสหนุ่มนี้มีบิดา ถ้าท่านเห็น เราก็จักโบยตีให้เราถึงความพินาศด้วยไม้คาน เราควรไปก่อนเถิด ครั้นแล้วก็กล่าวกะพระดาบสหนุ่มว่า ถ้าเช่นนั้น ฉันจะทำเครื่องหมายในหนทางไว้ แล้วไปก่อน ท่านจงตามมาภายหลัง
ดาบสหนุ่มนั้นครั้นนางกุมาริกา ไปแล้วก็มิได้เก็บฟืน มิได้ตั้งน้ำใช้ น้ำฉัน ได้แต่นั่งซบเซาอยู่อย่างเดียว เท่านั้น แม้เวลาบิดามาก็มิได้ต้อนรับ ลำดับนั้น บิดารู้ว่าบุตรของเรานี้ ตกอยู่ในอำนาจของหญิงเสียแล้ว จึงถามดาบสหนุ่มนั้นว่า แน่ะพ่อ เหตุไรเจ้าจึงไม่เก็บฟืน ไม่ตั้งน้ำใช้น้ำฉัน ได้แต่นั่งซบเซาอยู่อย่างเดียว เท่านั้น ดาบสหนุ่มถามว่า ข้าแต่พ่อ ได้ยินว่า ศีลที่รักษาในป่าไม่มีผลมาก ศีลที่รักษาในครรลองมนุษย์มีผลมากกว่า ฉันจักไปรักษาศีลในครรลองมนุษย์ สหายของฉันสั่งว่าจงตามมาภายหลัง แล้วเขาไปล่วงหน้า ฉันจักไปกับสหายนั้น เมื่อฉันอยู่ในครรลองมนุษย์นั้น ควรคบคนเช่นไร ดังนี้ จึงได้กล่าวคาถาที่ ๒ ว่า:
[๑๒๘๔] คุณพ่อครับ ผมออกจากป่าไปถึงบ้านแล้ว จะพึงคบหาบุรุษมีศีล
อย่างไร มีวัตรอย่างไร ผมถามคุณพ่อแล้ว ขอคุณพ่อช่วยบอกข้อนั้น
แก่ผมด้วย?
ลำดับนั้น ดาบสผู้บิดาเมื่อจะบอกแก่ดาบสหนุ่ม จึงได้กล่าว คาถาที่เหลือว่า:
[๑๒๘๕] ลูกเอ๋ย ผู้ใดพึงคุ้นเคยกับเจ้า อดทนต่อความวิสาสะของเจ้าได้
เป็นผู้ตั้งใจฟังคำพูดของเจ้า และอดทนต่อคำพูดของเจ้าได้ เจ้าไปจากที่
นี้แล้วจงคบผู้นั้นเถิด.
[๑๒๘๖] ผู้ใดไม่มีกรรมชั่วด้วยกาย วาจา ใจ เจ้าไปจากที่นี้แล้วจงตั้งตน
เหมือนลูกที่เกิดแต่อกของผู้นั้น แล้วจงคบผู้นั้นเถิด.
[๑๒๘๗] อนึ่ง ผู้ใดย่อมประพฤติโดยธรรม แม้เมื่อประพฤติอยู่ก็ไม่ถือตัว เจ้า
ไปจากที่นี้แล้วจงคบผู้นั้นผู้กระทำกรรมอันบริสุทธิ์มีปัญญาเถิด.
[๑๒๘๘] ลูกเอ๋ย เจ้าอย่าคบบุรุษผู้มีจิตกลับกลอกดุจผ้าที่ย้อมด้วยน้ำขมิ้น รัก
ง่ายหน่ายเร็ว ถึงแม้ว่าพื้นชมพูทวีปจะพึงไร้มนุษย์.
[๑๒๘๙] เจ้าจงเว้นคนเช่นนั้นเสียให้ห่างไกล เหมือนบุคคลผู้ละเว้นอสรพิษ
ที่ดุร้าย เหมือนบุคคลผู้ละเว้นหนทางที่เปื้อนคูถ และเหมือนบุคคลผู้ไป
ด้วยยานละเว้นหนทางขรุขระ ฉะนั้น.
[๑๒๙๐] ลูกเอ๋ย ความฉิบหายย่อมเจริญแก่บุคคลผู้คบหาคนพาล เจ้าอย่า
สมาคมกับคนพาลเลย การอยู่ร่วมกับคนพาล เป็นทุกข์ทุกเมื่อ ดังอยู่
ร่วมกับศัตรู ฉะนั้น.
[๑๒๙๑] ลูกเอ๋ย เพราะเหตุนั้น พ่อจึงขอร้องเจ้า ขอเจ้าจงกระทำตามถ้อย
คำของพ่อ เจ้าอย่าสมาคมกับคนพาลเลย เพราะการสมาคมกับคนพาล
เป็นทุกข์.
ดาบสหนุ่มนั้นได้ฟังคำสอนของบิดาอย่างนี้แล้ว กล่าวว่า ข้าแต่ พ่อฉันไปสู่ครรลองมนุษย์ จักไม่ได้บัณฑิตเช่นพ่อ ฉันกลัวการไปในครรลองมนุษย์นั้น ฉันจักอยู่ในสำนักของพ่อนี้แหละ ลำดับนั้น ดาบส ผู้เป็นบิดาได้ให้โอวาทแก่ดาบสหนุ่มยิ่งขึ้นไปอีก แล้วสอนให้บริกรรมในกสิณ ต่อมาไม่นานนักดาบสหนุ่มก็ได้อภิญญาและสมาบัติ เป็นผู้มีพรหมโลกเป็นที่ไปในเบื้องหน้ากับดาบสผู้เป็นบิดา.
พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแสดงแล้ว ได้ทรงประกาศสัจธรรม เวลาจบสัจจะ ภิกษุผู้กระสันได้ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล พระทศพลทรงประชุมชาดกว่า พระดาบสหนุ่มในครั้งนั้น ได้มาเป็น ภิกษุผู้กระสันในบัดนี้ นางกุมาริกาในครั้นนั้น ได้มาเป็นนางถูลกุมาริกา ในบัดนี้ ส่วนพระดาบสผู้เป็นบิดา คือเราตถาคต ฉะนี้แล.

ยังมีสาระเรื่องราวดี ๆ ที่อยากเล่าตามมาดูเราได้ที่ ;
My blogs link 👆
https://sites.google.com/site/dhammatharn/
https://abhinop.blogspot.com
https://abhinop.bloggang.com
ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
A giver is always beloved.




Create Date : 26 สิงหาคม 2554
Last Update : 26 มีนาคม 2564 13:20:56 น. 1 comments
Counter : 552 Pageviews.

 
ททมาโน ปิโยโหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
A giver is always be love. _/|\_



โดย: ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก วันที่: 11 ธันวาคม 2563 เวลา:11:24:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ททมาโน ปิโยโหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
A giver is always beloved.
New Comments
Friends' blogs
[Add ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.