หกพันไมล์
Location :
จันทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
23 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หกพันไมล์'s blog to your web]
Links
 

 

สิบหก.....W A T C H E S เมืองริมทะเลและสถานีรถไฟ




 - 2 0 1 1 -


W A T C H E S....




เช้าวันนี้ฝนตกปรอยๆ..

เรานั่งละเลียดกาแฟ กับแพนเค้กในบ้านอันอบอุ่น

โปรแกรมวันสุดท้ายในอังกฤษของเราคือไปเมือง Watches

ซึ่งอยู่ทาง Somerset ตอนใต้ และอยู่ห่างจาก Burn Ham On Sea

ราวๆ 29 ไมล์ นับว่าไม่ไกลเกินไป..


ก่อนจะเดินทางไป Watches เราออกไปซื้อของเพิ่ม พวกขนมปัง

องุ่น และไก่ แล้วก็เอามาเก็บไว้ที่บ้านเพื่อเป็นอาหารเย็น

หลังจากนั้นก็ออกเดินทางไปกันสองคนเหมือนเดิม โดยมีอาหารกลางวัน

คือแซนด์วิซไก่งวง และองุ่นที่ใส่ในกล่องพลาสติกไว้แล้วเรียบร้อย

อ้อ..มีลูกกวาดที่เหลืออยู่ในถุงกระดาษเล็กๆ ติดไปด้วยเหมือนทุกครั้ง






G o..t o..W a t c h e s













สองข้างทางที่ผ่านไป ยังคงน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับฉันเสมอ

ไม่ว่าจะเป็นบ้านที่มุงหลังคาสวยๆ เหมือนหลังคากระท่อมหิน

ทุ่งหญ้าสีเหลืองทอง และหญ้าแห้งที่ม้วนกลมก้อนโตกลางทุ่ง

บางช่วง เราก็อยู่บนถนนที่ร่มครึ้มด้วยต้นไม้ใหญ่สองข้างทาง

นี่ถ้ามาคนเดียว คงจะเหงาเหมือนกันนะ..















พอใกล้จะถึงเมือง Watches วิวก็ยิ่งสวย

ด้านขวามือเป็นทะเลที่มองเห็นอยู่ไกลๆ จากถนนบนเนินเขา

เห็นบ้านเรือนเป็นกลุ่มๆ รวมทั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่อยู่ริมทะเลด้วย

เพิ่งจะเคยเห็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของจริงก็วันนี้























พอรถแล่นเข้าไปในเมือง Watches กล้องถ่ายรูปก็ทำหน้าที่ของมัน

แทบไม่ได้หยุดหย่อนอีกตามเคย

หลังจากจอดรถซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟแล้ว เราก็เดินไปชมวิวทะเล

และเรือยอร์ตซ์ ที่จอดอยู่ในอ่าว Watchs Harbour























วันนี้ลมไม่แรง อากาศหนาวกำลังดี..

ใกล้ๆ กันมีพิพิธภัณฑ์ย่อมๆ ตั้งอยู่ริมทะเลด้วย ไม่เสียค่าเข้าชมอีกต่างหาก

เราเดินเข้าไปดูข้างใน พบว่ามีภาพถ่ายสมัยเก่าที่น่าสนใจมากมายเป็นร้อย

เป็นพันภาพ และมีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ของคนสมัยก่อนด้วย

ฉันชอบตรงที่เขาพยายามรวบรวมข้อมูลและภาพถ่ายของบุคคลต่างๆ

ที่มีความสัมพันธ์กับเมืองท่าเล็กๆ แห่งนี้

เป็นต้นว่า ชาว Watches ที่เคยไปร่วมรบในสงครามโลก

หรือบุคคลสำคัญๆ ที่เคยมาเยือนเมืองนี้ในอดีต...

ดูแล้ว รู้สึกดีจัง..






ด้ า น ห น้ า พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์











ช ม เ มื อ ง















ป ร ะ ภ า ค า ร ริ ม ท ะ เ ล






ห น้ า ผ า..






ป ร ะ ตู เ ก๋






ไ ม้ พ า ย...







ก ร ะ ถ า ง ด อ ก ไ ม้....














พอหิวเราก็เข้ามานั่งกินอาหารกลางวันกันในรถ

ฉันรู้สึกชอบแซนด์วิซไก่งวงมากจริงๆ...มันอร่อยกว่าแฮมแซนด์วิซเป็นไหนๆ

อืมม..อร่อยกว่าเนื้อไก่ธรรมดาๆ ด้วยน่ะแหละ

พออิ่มอาหารกลางวันกันแล้วก็ออกมาเดินเล่นข้างนอกกันอีกครั้ง

คราวนี้เดินขึ้นเนินไปยังสถานีรถไฟซึ่งอยู่ใกล้ๆ..

ที่นี่เป็นสถานีรถไฟ Watches อันเก่าแก่คลาสสิค ที่เปิดให้บริการตามปกติ

แต่ที่ไม่ธรรมดาก็คือ รถไฟที่วิ่งให้บริการ ยังคงเป็นรถไฟเครื่องจักรไอน้ำ

ที่ใช้พลังงานจากถ่านหิน

โอย...ฟังแล้วฉันแทบจะรอไม่ไหว..อยากให้รถไฟวิ่งมาซะเดี๋ยวนั้น












ส ถ า นี ร ถ ไ ฟ W a t c h e s











ท า ง ร ถ ไ ฟ..




เราคอยจนรถไฟแล่นเข้ามาเทียบชานชาลา

เป็นขบวนรถไฟที่จะแล่นไปยัง Minehead

หัวรถจักรไอน้ำที่โผล่มาจากอุโมงค์ และแล่นตรงเข้ามายังชานชาลาพร้อมกับ

ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ข้า้งใน ซึ่งนั่งหันหน้าเข้าหากัน มีโต๊ะอาหารคั่นกลาง

ดูราวกับเป็นเหตุการณ์ในฉากภาพยนตร์เก่าๆ เรื่องใดเรื่องหนึ่ง..ยังไงยังงั้น











รถไฟขบวนนี้ดูทั่วไปก็คล้ายๆกับรถไฟของไทย..

แต่ละโบกี้ดูเก่าแก่ ขรึมขลัง..ให้บรรยากาศโบราณ โบราณ

หลายคนในนั้นกำลังเอ็นจอยกับอาหารบนโต๊ะ บ้างก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์

หรือไม่ก็กำลังนั่งคุยกัน และมองออกมานอกหน้าต่าง

ผู้โดยสารมีไม่มากนัก พนักงานบนรถไฟแต่งตัวเนี้ยบ

และคอยช่วยเปิด ปิดประตู ดูแลผู้โดยสารเป็นอย่างดี

คุณนิวแมนบอกว่า ค่าตั๋วรถไฟสำหรับหนึ่งที่นั่ง คือ 11 ปอนด์

นับว่าแพงพอสมควร แต่ถ้าแลกกับบรรยากาศเก่าๆ เก๋ๆ

และโรแมนติกเยี่ยงนี้...ก็สมควรอยู่หรอก

























ระหว่างที่คุณนิวแมนรอรถไฟขบวนที่สอง ที่กำลังจะมา

ฉันก็เลยถือโอกาสเดินเข้าไปในร้านขายของฝากในสถานีรถไฟ

ห้องน้ำในสถานีสวย สะอาดและหอมมาก..

แต่ของที่ระลึกที่วางขายในร้านราคาค่อนข้างแพง เพียงเข็มกลัดอันเล็กๆ

ก็หนึ่งปอนด์ครึ่งเข้าไปแล้ว

ฉันซื้อมันฝรั่ง Pringle มาหนึ่งกระป๋องเล็ก และซื้อช็อกโกแลตสำหรับ

คุณนิวแมนหนึ่งแท่ง รวมแล้วก็หนึ่งปอนด์กับสี่สิบห้าเพนนี

ฉันหยิบเหรียญหนึ่งปอนด์ สองเหรียญส่งให้คุณยายคนขายท่าทางใจดี

รอรับสตางค์ทอนแล้วก็เดินยิ้มออกมา

ก็แค่ดีใจที่ได้มีส่วนร่วมในสถานีรถไฟแห่งนี้

และได้อยู่ในบรรยากาศอันอบอุ่น..อวลๆ กลิ่นอายของอดีต

รู้สึกคล้ายๆ..เหมือนกำลังยืนอยู่ที่สถานีรถไฟขุนตาน

เมื่อสิบแปดปีก่อน ประมาณนั้น..

เพียงแต่ว่าเวลานี้....ไม่ได้ไปขึ้นดอย และไม่ได้อยู่บนรถไฟ ก็แค่นั้น








ข้ า ง ใ น ร้ า น ข า ย ข อ ง ที่ ร ะ ลึ ก







ที่ ข า ย ตั๋ ว






ร อ บ ๆ ส ถ า นี ร ถ ไ ฟ...
























ป ร า ส า ท ส ว ย ๆ ริ ม ท า ง...ข า ก ลั บ







G o o d - B y e - W A T C H E S

















 

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2554
5 comments
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2555 9:19:05 น.
Counter : 845 Pageviews.

 

น่าเที่ยวจังครับ

 

โดย: Zabby 24 พฤศจิกายน 2554 0:51:01 น.  

 

น่าเที่ยวจังครับ

 

โดย: Zabby 24 พฤศจิกายน 2554 0:51:11 น.  

 

ขอบคุณที่ตามไปชมบล็อกนะครับ

 

โดย: Zabby 25 พฤศจิกายน 2554 5:04:46 น.  

 

วิวสวยอีกแล้วครูส้ม..
เห็นรถไฟแล้วน่ากระโจนขึ้นนิ แต่ต้องชะงักกึกตรงราคา

ครูส้มลองนับดูหรือยังจ๊ะว่าทริปนี้ถ่ายไปกี่ประตู?

 

โดย: ป้าโซ 26 พฤศจิกายน 2554 16:23:40 น.  

 

Zabby - บล็อกสวยนะคะ แล้วจะตามไปอ่านอีกน้าา


ป้าโซ - แหม่...ก็ประตูเค้าสวยทั้งนั้นเลยนี่คะ
หนูละช๊อบ ชอบ..
แต่ยังไม่ได้นับเลยค่ะ ว่ามีกี่รูป 5555
ป้าโซสบายดีหรือเปล่าคะ..
ที่โน่นคงจะหนาวมากแล้ว ดูแลสุขภาพด้วยนะคะป้าโซ

 

โดย: หกพันไมล์ 26 พฤศจิกายน 2554 20:38:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.