เยอรมัน เป็นแหล่งกำเนิดรถยนต์คุณภาพมากมายหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น Mercedes Benz, BMW, Audi, Volkswagen ไปจนถึง Porsche แถมยังซื้อกิจการบริษัทรถยนต์อื่นๆ ทั่วโลกอีกหลายราย วันนี้เรากำลังจะไปเยือน BMW Welt ศูนย์แสดงรถยนต์และเทคโนโลยีของ BMW ในมิวนิค บ้านเกิดของรถยนต์หรูโลโก้ใบพัดฟ้าขาวตามความต้องการของชายหนุ่มเค้า เรื่องรถราฉันไม่ค่อยจะรู้เรื่องกับเขานักหรอก ได้แต่ขับอย่างเดียว อย่างอื่นปล่อยเป็นธุระของเขา เพราะฉะนั้นคราวนี้ฉันจึงทำตัวเป็นผู้ตามที่ดี ในเมื่อมีผู้ชายเยอรมันและผู้ชายไทยที่ชอบเรื่องรถอยู่ด้วยทั้งที เรื่องราวต่างๆ ในนี้จึงขอยกให้คุณชายทั้งสองเป็นคนถ่ายทอดให้ฉันนำมาเรียบเรียง
BMW Welt หรือในความหมาย BMW World อยู่ห่างออกมาจากตัวเมืองมิวนิคพอควร ถ้ามาทางรถไฟใต้ดินจากในเมืองก็ลงสถานีเดียวกับสนามกีฬาโอลิมปิคแล้วเดินอีกหน่อย แถบนี้เป็นถิ่นของ BMW เค้าโดยเฉพาะ มีทั้งพิพิธภัณฑ์และโรงงานผลิตอยู่ในบริเวณใกล้ๆ กัน ศูนย์นิทรรศการแห่งนี้ไม่ต้องเสียสตางค์ค่าเข้าชม ตัวอาคารออกแบบได้อย่าง “เดิ้น” มาก จุดเด่นอยู่ตรงอาคารโคนกระจกคู่บิดเป็นเกลียว โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์และเทคโนโลยีการก่อสร้าง สมกับเป็นสถานที่สำหรับยานยนต์ระดับโลก
อาคารสีเงินที่ดูล้ำสมัยแห่งนี้เป็นทั้งโชว์รูม ศูนย์ส่งมอบรถให้ลูกค้า และศูนย์แสดงเทคโนโลยีและความก้าวหน้าของ BMW ซึ่งเป็นที่แสดงตัวตนของ BMW ให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ไม่เฉพาะรถยนต์แต่รวมไปถึง รถมอเตอร์ไซด์ ทั้ง Big Bike และ Cruiser เครื่องยนต์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน รถจักรยาน สินค้าไลฟ์สไตล์ ในแต่ละปีมีผู้มาเยี่ยมชม BMW Welt แห่งนี้ปีละกว่า 850,000 คน
เราเดินผ่านประตูเข้าไป ข้างในจะเป็นเหมือน Hall ขนาดใหญ่ที่มีเพดานสูง มีชั้นลอยในลักษณะ Permanent Display อยู่กึ่งกลาง ชั้นล่างเรียงรายไปด้วยรถยนต์ BMW โมเดลล่าสุด ทั้งสปอร์ต Z4 และ M3 อ๊อฟโรด X6, X5, X3 รวมไปถึงรถยนต์นั่ง Series 3, 5, 7 บีเอ็มดับเบิ้ลยูเป็นผู้นำในการใช้ตัวเลขในการกำหนดรุ่นของรถและเครื่องยนต์ เช่น BMW 320d ก็คือรถนั่งอนุกรม 3 เครื่องยนต์ดีเซล(d) ขนาด 2,000 cc ซึ่งแตกต่างกับรถญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อเรียกเป็นตัวกำหนดรุ่นเช่น Toyota รุ่น Camry หรือรุ่น Corolla
พูดถึงรถญี่ปุ่น การสร้างคุณค่าและความน่าเชื่อถือของรถเยอรมันทั้ง Mercedes Benz และ BMW ให้คงอยู่ในระดับ Premium ไว้ตลอด ทำให้รถญี่ปุ่นหลายยี่ห้อพยายามที่จะเจาะตลาดบ้าง แต่ก็ไม่สำเร็จ นั่นเป็นเหตุผลให้ TOYOTA ต้องปั้นรถ LEXUS ขึ้นมาอีกยี่ห้อ เพื่อสร้างภาพพจน์อีกระดับให้แตกต่าง ถึงจะสามารถก้าวสู่ตลาดระดับบนได้
แล้วมื้อกลางวันของวันนี้ ฉันก็ฝากท้องไว้ที่ร้าน Leon de Bruxelles ริมถนนชองป์เอลิเซ่ส์ กับเมนูหอยแมงภู่อบชีสแสนอร่อยแล้วเดี๋ยวจะนั่งรถไฟใต้ดินไปยืนอฐิษฐานที่หน้ามหาวิหารนอตเตรอดามอีกรอบ ตามด้วยไอสกรีมโฮมเมดสุดอร่อย ที่ร้านดังใกล้ๆ วิหาร สำหรับคนชอบไอสกรีม นอกจากประเภทโฮมเมดแล้ว มายุโรปขอแนะนำยี่ห้อ “Movenpick” สกู๊ปละ 2 ยูโร ซึ่งในเมืองไทยแพงมาก รับรองไม่ผิดหวัง
ทุกครั้งที่มาปารีส เราสองคนก็ยังต้องวนเวียนไปทักทายถ่ายรูปกับหอไอเฟล ซึ่งถือเป็นภาคบังคับสำหรับผู้มาเยือนปารีสได้ซะทุกที เพียงแต่เปลี่ยนมุมจากจตุรัสทร็อคคาเดโลเป็นฝั่งตรงข้ามบ้าง มุมอื่นๆ บ้าง แล้วก็เกี่ยวก้อยเดินเล่นริมแม่น้ำแซนน์ เปลี่ยนเนื้อเพลงจาก I wanna hold your hand walk along the sand เป็น walk along the Seine ชอบที่จะเอ้อระเหยเดินดูผู้คน สลับกับเดินให้คนฝรั่งเศสที่นั่งจิบกาแฟใต้หลังคาผ้าใบนอกร้านแถวนั้นดูเราบ้าง เดินเลาะดูภาพถ่ายเก่าๆ หนังสือเก่าๆ ที่วางขายแถวแผงลอยริมน้ำ แล้วชะโงกดูเรือที่พานักท่องเที่ยวขึ้นล่องจากบนสะพาน ได้ชื่นชมบรรยากาศก็มีความสุขแล้ว
ชื่อเสียงเลื่องลือด้านสถาปัตยกรรมและความงามของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่อายุหลายร้อยปีในปราก ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในมรดกโลกขององค์การ UNESCO ทำให้เราสองคนไม่ลังเลที่จะบรรจุเมืองนี้ไว้ในแผนการเดินทาง และเมื่อโอกาสและเวลามาถึงเราก็มาไม่พลาดที่จะไปดูให้เห็นด้วยตา
ข้ามสะพานไปจะพบกับถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ร้านขายไอสกรีมและร้านอาหารเป็นแถว โดยมีโบสถ์ St Nicholas Church ที่เด่นสะดุดตาด้วยยอดโดมขนาดใหญ่อยู่ทางขวา จากนั้นทางเดินจะเริ่มลาดชัน และมีบันไดขึ้นสู่ลานกว้างหน้าปราสาท มีทหารรักษาการณ์ยืนนิ่งเป็นรูปปั้นอยู่ด้านล่างรูปปั้นของยักษ์ใหญ่ที่กำลังทุบและแทงคู่ต่อสู้บริเวณประตูทางเข้า ดูแล้วเหมือนจะมีชีวิตมากกว่าทหารรักษาการณ์เสียอีก