|
อลังการ สง่างาม วังสราญรมย์
วังสราญรมย์ ซึ่งคนไทยใน พ.ศ.นี้ ต่างรู้จักคุ้นเคยกันในฐานะที่เคยเป็นอาคารที่ตั้งของกระทรวงการต่างประเทศมานานหลายสิบปี นับเป็นสถานที่ซึ่งมีประวัติความเป็นมาน่าสนใจยิ่งและจัดเป็นสถาปัตยกรรมสำคัญที่มีความงดงามอลังการในระดับเยี่ยมยอดที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
วังสราญรมย์ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2409 ตามพระราชประสงค์ของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีพระราชดำริที่จะใช้เป็นที่ประทับภายหลังจากทรงสละราชสมบัติแก่ สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ พระราชโอรส ซึ่งบริเวณที่โปรดฯ ให้สร้างนี้อยู่ระหว่างพระบรมมหาราชวังกับวัดราชประดิษฐ์ โปรดฯ ให้เจ้าพระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ (เพ็ง) เป็นผู้ดูแลงานก่อสร้าง พระราชทานนามว่า "สราญรมย์" แต่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน
การก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงต้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีพระราชประสงค์จะพระราชทานวังสราญรมย์ให้เป็นที่ประทับของเจ้านายเมื่อแรกออกจากวังก่อนที่วังประทับถาวรจะก่อสร้างแล้วเสร็จ ต่อมาภายหลัง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมแซมและตกแต่งวังสราญรมย์เพื่อใช้เป็นที่ประทับรับรองพระราชอาคันตุกะจากต่างประเทศ จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นที่วังสราญรมย์ได้รับหน้าที่เป็น "บ้านพักรับรอง" ของพระราชอาคันตุกะสำคัญ อาทิ เจ้าชายแห่งญี่ปุ่น พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 เมื่อครั้งยังทรงเป็นมกุฎราชกุมารแห่งรุสเซีย เจ้าชายจอร์จแห่งกรีซ
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวังสราญรมย์ อันทำให้สถานที่นี้กลายมาเป็นที่ทำการกระทรวงแห่งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ เกิดขึ้นเมื่อ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นเทววงศ์วโรปการ (พระยศในขณะนั้น) ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นเสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศในปี พ.ศ. 2428 ได้กราบบังคมทูลพระประสงค์ขอมีที่ทำการกระทรวงการต่างประเทศขึ้นโดยเฉพาะรัชกาลที่ 5 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานวังสราญรมย์ให้เป็นที่ทำการของกระทรวงการต่างประเทศ ในปีนั้นเอง
กระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำการอยู่ ณ วังสราญรมย์ได้ราว 2 ปี ก็ได้ย้ายไปทำการที่ตึกราชวัลลภในพระบรมมหาราชวัง ส่วนวังสราญรมย์นั้น ก็ได้กลับมาทำหน้าที่เป็นบ้านพักรับรองพระราชอาคันตุกะอีกครั้งหนึ่งเรื่อยมาจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ต่อมาในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ตึกราชวัลลภชำรุดทรุดโทรมลงอย่างมาก จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานวังสราญรมย์ให้กลับมาเป็นที่ทำการถาวรของกระทรวงการต่างประเทศดังเดิม
วังสราญรมย์ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนสองชั้น ออกแบบโดย เฮนรี่ อลาบาสเตอร์ ลักษณะอาคารดั้งเดิมนั้น มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรบรรยายไว้โดยเจ้าชายออสการ์ พระราชอาคันตุกะพระองค์แรกที่เข้ามาประทับใน พ.ศ. 2427 ว่า
"วังสราญรมยา ซึ่งเป็นบ้านของพวกเรานี้ เป็นตึกแบบตะวันออก มีลานกว้างอยู่หลายแห่ง พื้นเป็นหินอ่อน มีเสาเรียงเป็นแถว บริวารของเราอยู่ตามห้องซึ่งจะมองลงมาข้างล่างเห็นเป็นชาลาโล่ง รอบชาลาเป็นระเบียงมีหลังคาคลุม แบ่งออกเป็นสี่ตอน เพราะมีระเบียงอื่นตัดผ่าน เราจึงได้อยู่รวมกันในที่แห่งเดียวกันนี้ และอาจมาพบปะกันได้ตามระเบียงที่ร่มเย็นสบาย ซึ่งเขาจัดวางเก้าอี้ไว้ให้ หรือไม่ก็ไปพบกันในห้องบิลเลียด?บริเวณ ?วังของเรา? ตามที่เราเรียกกันนี้ มีอุทยานงามแปลกตา มีที่สำหรับเลี้ยงสัตว์ เช่น กวาง ลิง เสือดำตัวหนึ่ง กับสัตว์สี่เท้าอื่นๆ รวมทั้งนกด้วย"
วังแห่งนี้ เคยได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2441 โดยใช้เวลาประมาณหนึ่งปีมี นายคาร์โล อาแลกรี ชาวอิตาลี เป็นผู้ออกแบบและควบคุมงานก่อสร้าง โดยกรมโยธาธิการเป็นผู้ดำเนินการ โดยด้านหน้าของวังซึ่งเป็นส่วนที่ทำขึ้นใหม่ในครั้งนั้น ประกอบด้วยมุข 3 ด้าน ที่หน้าจั่วกลางซึ่งเป็นทางเข้าออกหลักมีตราประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งประกอบไปด้วย พระมหามงกุฏ แวดล้อมด้วยเบญจปฎลเศวตฉัตร 1 คู่ อยู่ด้านบน ด้านล่างเป็นตราไอยราพต (ช้าง 3 เศียร) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตราแผ่นดินสมัยรัชกาลที่ 4 อันมีความหมายถึงพระราชอาณาจักร ส่วนล่างสุดเป็นราชสีห์และคชสีห์
มุขอีกสองด้านซึ่งเป็นปีกอาคารด้านทิศเหนือและทิศใต้เป็นจั่วรูปสามเหลี่ยม มีตราพระเกี้ยวอยู่ตรงกลาง มุขทั้งสามนี้ชั้นบน ทำเป็นระเบียง มีเสารับหน้าบัน ภายในตัวอาคารมีสนามตรงกลาง มีประติมากรรมประกอบน้ำพุซึ่งเป็นของเดิมแต่ครั้งเริ่มสร้าง ทางเดินชั้นบนเป็นระเบียงยาวเดินได้ตลอด ชั้นล่างมีคูหาเป็นช่อง มีประดับลายฉลุไม้ที่ชายคา ภายในวังสราญรมย์ประกอบด้วยห้องซึ่งมีความงดงามอลังการอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชั้นบนซึ่งเคยใช้เป็นห้องพักของพระราชอาคันตุกะหรือที่ประทับของพระบรมวงศานุวงศ์มาก่อน
บริเวณคอร์ทภายในซึ่งเป็นลานโล่งกว้าง มีประติมากรรมน้ำพุประดับ
ห้องที่เปรียบเสมือน ท้องพระโรง ของวังสราญรมย์ ใช้เป็นห้องสำหรับลงนามในสนธิสัญญาสำคัญต่างๆ ที่หน้าห้องมี "ประตูบัวแก้ว" เป็นบานประตูไม้สัก 4 ชิ้น ส่วนบนเป็นรูปโค้ง มีลายแกะสลักฉลุสีทองเป็นตราบัวแก้วใหญ่ ตราบัวแก้วน้อยและดอกบัวหลวง
ประตูบัวแก้ว งดงามและสูงค่าด้วยการแกะสลักลวดลายฉลุทอง ถือเป็นของสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ ติดตั้งอยู่ระหว่างตึกเก่าและตึกใหม่ ภาพที่เห็นเป็นด้านของตึกใหม่ เมื่อเปิดประตูผ่านเข้าไปจะเป็นห้องโถงใหญ่ซึ่งเป็นท้องพระโรงของวัง
ห้องเทววงศ์ อยู่ถัดจากท้องพระโรง ขนานนามไว้เพื่อเป็นการระลึกถึงพระบิดาแห่งการทูตไทย ภายในห้องมีภาพเขียนเก่าของอิตาลีที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงซื้อกลับมาเมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2
ภายในห้องเทววงศ์ ฝ้าเพดานแบ่งเป็นช่องสี่เหลี่ยมด้วยไม้และเดินคิ้วทอง ผนังประดับภาพเขียนฝีมือช่างชาวอิตาเลียนซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงซื้อกลับมาเมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรป รูปปั้นหินอ่อนสลักที่เห็นด้านขวาของภาพเป็นพระรูปของกรมพระยาเทววงศ์วโรปการ พระบิดาแห่งการทูตไทย
ห้องไตรทศ ขนานนามเพื่อเฉลิมพระเกียรติแก่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าไตรทศประพันธ์ กรมหมื่นเทววงศ์วโรทัย พระโอรสในกรมพระยาเทววงศ์วโรปการ ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งสืบจากพระบิดาเมื่อ พ.ศ. 2466 เดิมเคยใช้เป็นห้องทำงานของปลัดทูลฉลอง และต่อมาได้ใช้เป็นห้องรับรองและห้องประชุมของกระทรวงฯ
บริเวณมุมรับแขกภายในห้องไตรทศ เดิมใช้เป็นห้องทำงานของปลัดทูลฉลอง
ภายในห้องโถงใหญ่ซึ่งเปรียบเสมือนท้องพระโรงของวัง งามเด่นด้วยโทนสีเหลืองทอง และฝีมือแกะสลักลวดลายฉลุไม้ประดับตามเพดานและช่องลม
ความงดงามแห่งศิลปสถาปัตยกรรมที่เลิศล้ำของแผ่นดินชิ้นนี้ เป็นเสมือนจารึกแห่งอดีตที่จะคงอยู่และสืบทอดต่อเนื่องไปภายหน้า เพื่อบอกเล่าประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าหน้าสำคัญของสยามประเทศสู่ชาวไทยรุ่นลูกรุ่นหลานในวันนี้และวันข้างหน้า
ขอขอบคุณข้อมูลจากwww.homedd.com/
Create Date : 28 มิถุนายน 2550 |
Last Update : 28 มิถุนายน 2550 5:00:15 น. |
|
42 comments
|
Counter : 3821 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Htervo วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:5:08:37 น. |
|
|
|
โดย: เอสเจ~* วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:5:31:08 น. |
|
|
|
โดย: the Vicky วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:5:35:21 น. |
|
|
|
โดย: the Vicky วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:5:43:21 น. |
|
|
|
โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:7:05:11 น. |
|
|
|
โดย: ลุงกล้วย วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:7:25:27 น. |
|
|
|
โดย: ลุงกล้วย วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:8:35:28 น. |
|
|
|
โดย: ประกายดาว วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:8:44:30 น. |
|
|
|
โดย: อู๋ (ฟ้าสีส้ม ) วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:9:03:35 น. |
|
|
|
โดย: เนระพูสี วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:9:09:23 น. |
|
|
|
โดย: ratana_sri วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:9:27:04 น. |
|
|
|
โดย: ลุงกล้วย วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:9:35:20 น. |
|
|
|
โดย: ลุงกล้วย วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:9:37:16 น. |
|
|
|
โดย: หนุ่มร้อยปี (หนุ่มร้อยปี ) วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:10:24:01 น. |
|
|
|
โดย: ดาวทะเล วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:11:04:01 น. |
|
|
|
โดย: ดาวทะเล วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:11:06:57 น. |
|
|
|
โดย: ลุงกล้วย วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:11:08:08 น. |
|
|
|
โดย: เราสองคน (ฝากเธอ ) วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:11:13:54 น. |
|
|
|
โดย: ลุงกล้วย วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:11:19:08 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:12:45:23 น. |
|
|
|
โดย: loverose วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:13:50:45 น. |
|
|
|
โดย: ลุงกล้วย วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:14:00:29 น. |
|
|
|
โดย: midori-jp วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:15:18:18 น. |
|
|
|
โดย: ลุงกล้วย วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:15:29:10 น. |
|
|
|
โดย: จิชฎา วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:16:36:26 น. |
|
|
|
โดย: pataramin วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:16:56:15 น. |
|
|
|
โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:17:54:12 น. |
|
|
|
โดย: แซนด์ซี วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:18:19:46 น. |
|
|
|
โดย: largeface วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:19:35:41 น. |
|
|
|
โดย: whitelady วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:20:46:52 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:0:39:03 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:2:02:26 น. |
|
|
|
โดย: บิว IP: 58.8.136.177 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:02:03 น. |
|
|
|
โดย: น้อต IP: 118.172.239.203 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:19:18:51 น. |
|
|
|
โดย: '' IP: 202.129.32.178 วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:16:18:53 น. |
|
|
|
โดย: ^_^mK IP: 202.129.32.178 วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:16:20:11 น. |
|
|
|
โดย: พิไลพรรณ IP: 93.232.250.63 วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:5:35:10 น. |
|
|
|
|
|
|
|
สมกับเป็นวังเลยค่ะพี่ต้อ....สวยทุกห้อง งามอลังการมากๆค่ะ
ชอบประตูบัวแก้วจังค่ะ ดูแปลกและแตกต่างจากจากประตูที่อื่นๆ สวยจังค่ะ ...
วันนี้บุ๋มไม่นอนดึกหรอกค่ะ พรุ่งนี้มีแขกที่บ้าน ....ต้องตื่นเช้าหน่ะค่ะ หลับฝันดีนะคะ คิดถึงพี่ต้อค่ะ