"ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก มันถูกต้องอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด (หลวงพ่อชา สุภัทโท)"
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
5 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
นิทานธรรมะสอนศิลปะการใช้ชีวิต

นิทานธรรมะสอนศิลปะการใช้ชีวิต : พระมหาวีระพันธ์ ชุติปัญโญ





ชีวิตของคนเราล้วนมีปัญหาเกิดขึ้นและต้องเรียนรู้ที่จะแก้ไขเรื่องที่คาใจนั้นให้ได้อยู่ตลอดเวลา อาจเป็นปัญหาที่เล็กน้อย กระทั่งเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้น แต่เราผู้เกี่ยวข้องกับปัญหาก็ควรรู้จักเกี่ยวข้องอย่างผู้รู้จักปล่อยวางและเข้าใจ แม้จะไม่สามารถละวางได้ทั้งหมดก็ตาม แต่ก็ควรรู้จักวางใจให้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความรู้เท่าทัน แล้วปัญหาที่มีอยู่ย่อมมีทางคลี่คลายลงได้ในสักวัน



การสอนให้ผู้อื่นให้ทำตาม ไม่ควรสอนในขณะที่ตัวเองมีความโกรธและเต็มไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ควรสอนในขณะที่สติปัญญามีอยู่อย่างบริบูรณ์ และควรสอนด้วยความปรารถนาดีที่มาจากใจ เพราะหากสอนโดยการใช้อารมณ์ ผู้ถูกสอนจะไม่จำคำสอนที่ถูกว่ากล่าวตักเตือน แต่เขาจะจดจำใบหน้าที่ดุร้ายและกิริยาที่แสดงความเกรี้ยวกราดของผู้สอน นั่นถือว่าเป็นความทรงจำที่เลวร้ายของผู้ถูกสอนตราบนานเท่านาน



คำพูดที่คนเราเปล่งออกมาแต่ละครั้ง ถือว่าเป็นพลังงานของการเปลี่ยนแปลงไปสู่ภาวะใหม่เสมอ อาจเป็นไปในทางที่ดีหรือเลวร้ายก็อยู่ที่เราผู้ออกคำสั่งเป็นหลัก ด้วยเหตุที่คำพูดล้วนมาจากใจเป็นผู้กรองข้อมูลของถ้อยคำ ปราชญ์จึงเตือนให้รู้จักคิดเสียก่อนแล้วจึงค่อยพูด เพราะเมื่อเปล่งวาจาออกไปแล้ว นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่เราไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรก็ตามมา สุนทรภู่ กวีเอกแห่งแผ่นดินสยามจึงกล่าวให้ข้อคิดเกี่ยวกับการพูดไว้ว่า

“ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์ มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
แม้พูดชั่วตัวตายทำลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา”



การค้นพบว่าตัวเองชอบอะไรนั้นชื่อว่าเป็นคุณค่าอย่างหนึ่งของการได้เกิดมา แต่การค้นพบความเป็นอิสระที่มีอยู่ในตัวเองแล้วนำไปสู่การดำรงชีวิตอยู่ด้วยความสงบมีค่ายิ่งกว่า เพราะทำให้เรารู้จักจัดระเบียบชีวิตของตัวเองได้ง่ายขึ้น แม้ว่าจะไม่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของคนอื่น แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ตัวเราค้นพบความสุขที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งถือว่าเป็นความสุขที่เรียบง่ายแต่งดงามในความทรงจำของการได้ชีวิตมา



คนที่ไม่รู้จักการดำเนินชีวิตอย่างผู้มีปัญญา ชื่อว่าเป็นชีวิตที่มืดบอดจากความดีงามทั้งหลาย เพราะเมื่อสติปัญญาถูกปิดบัง การเห็นสิ่งต่างๆย่อมกลับกลายเป็นความพร่ามัวไปในที่สุด แม้นว่าเราจะชื่อว่ามีตาที่มองเห็น แต่หากไร้ปัญญาในการทำความเข้าใจ เราก็เป็นได้แค่คนตาดีที่ไม่สามารถแสวงหาความดีงามมาประดับชีวิตได้เช่นเคย



โปรดทำความเข้าใจไว้เสมอว่า ไม่มีอะไรที่เราไม่รู้เสียเลย และก็ไม่มีอะไรที่เรารู้ไปเสียทุกอย่าง ถ้าเราทำความเข้าใจอย่างนี้อยู่เสมอ เราจะรู้ว่า ควรจะปัดปัญหาที่เปรียบเสมือนเส้นผมที่บังตาไม่ให้เราเห็นภูเขา คือ ความจริงที่อยู่เบื้องหน้าได้อย่างไร



บางครั้งปัญหาของชีวิตก็เกิดจากเรื่องเล็กๆที่เราไม่เคยมอง กระทั่งก่อตัวเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้นในเวลาต่อมา เศษผงเล็กๆที่เข้าตาคนอื่น เรามักจะช่วยเอาออกจากตาของเขาได้ แต่เมื่อปัญหาอันเปรียบเหมือนเป็นผงเล็กๆที่เข้าตาตัวเอง เรากลับมีความรู้สึกว่ามันช่างยากลำบากที่จะทำให้ออกไปจากตาได้ ดังนั้น เราจึงไม่ควรมองข้ามปัญหาเล็กๆที่อยู่ใกล้ชิด แต่ควรรู้จักมองปัญหาที่ใกล้ตัวด้วยใจที่มีวิจารณญาณ เพื่อไม่ให้สิ่งที่เกิดขึ้นกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่ยิงในโอกาสต่อไป



การปรับทัศนคติของชีวิตถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากรู้จักปรับความเห็นในมุมที่เป็นบวก เราย่อมรู้จักที่จะคัดเลือกสิ่งดีให้กับตัวเอง แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายก็ตาม แต่หากมีทัศนคติที่ติดลบ มองโลกแต่แง่ร้ายในฝ่ายเดียว เราย่อมเหมือนคนที่อยู่ในมุมที่คับแคบ ย่อมก่อให้เกิดความอึดอัดขัดเคือง แม้จะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นมากมาย แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ เพราะเรามองว่าทุกอย่างเป็นเรื่องเลวร้ายไปเสียหมด อนาคตที่ควรจะถูกต่อยอดเป็นความดีงามจึงยุติบทบาทลงในทันที


บางครั้งการพ่ายแพ้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ชีวิตรู้สึกแย่เสมอไป เพราะหากเคยได้รับแต่ชัยชนะเพียงอย่างเดียว เราย่อมไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกอีกด้านหนึ่งที่เป็นความผิดหวัง ด้วยเหตุที่ไม่เคยแพ้ เมื่อวันหนึ่งความผิดหวังเข้ามาเยือน ย่อมทำให้เราระทมตรมตรอมจากภาวะที่พ่ายแพ้นั้น แต่หากเรียนรู้ที่จะแพ้บ้างในบางโอกาสที่เหมาะสมเพื่อยอมรับที่จะแก้ไขสิ่งที่บกพร่องให้ดีขึ้น เมื่อชัยชนะใหม่มาครอบครอง เราย่อมรู้จักรสชาติชองความสมหวังอย่างรู้คุณ



การที่เราผิดพลาดแล้วได้รับการให้อภัยจากผู้อื่น ถือว่าเป็นความโชคดีอย่างมากของชีวิต เพราะเป็นการได้รับโอกาสที่จะแก้ไขสิ่งบกพร่องให้ดีขึ้น ขณะเดียวกัน เราก็ควรรู้จักที่จะพัฒนาตนเองให้ดีกว่าเดิม มิใช่ยินดีกับการได้รับการให้อภัยแล้วหยุดเรียนรู้ที่จะแก้ไข เพราะเมื่อวันหนึ่งที่ไม่มีใครเห็นใจ เราจะเดียวดายจากคนรอบข้างที่เคยเห็นคุณค่าในตัวเรา เพราะเราเป็นผู้ผลักไสให้เขามองเราว่าเป็นคนไร้ค่าด้วยตัวของเราเอง




An Improvisation On The Canon (Bonus Track) - Robin Spielberg












Create Date : 05 มิถุนายน 2551
Last Update : 5 มิถุนายน 2551 11:07:44 น. 21 comments
Counter : 1394 Pageviews.

 
เจิม


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:11:14:25 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณลุงกล้วย ดีใจจังที่กลับมาอัพบลอกซะที ปล่อยให้น้องๆ หลานๆ คิดถึงกันทั่วหน้า

ลุงกล้วยเอาเรื่องดีๆ ฝากอีกเช่นเคย ชอบข้อความตรงนี้มากเลยค่ะ

"คนที่ไม่รู้จักการดำเนินชีวิตอย่างผู้มีปัญญา ชื่อว่าเป็นชีวิตที่มืดบอดจากความดีงามทั้งหลาย เพราะเมื่อสติปัญญาถูกปิดบัง การเห็นสิ่งต่างๆย่อมกลับกลายเป็นความพร่ามัวไปในที่สุด แม้นว่าเราจะชื่อว่ามีตาที่มองเห็น แต่หากไร้ปัญญาในการทำความเข้าใจ เราก็เป็นได้แค่คนตาดีที่ไม่สามารถแสวงหาความดีงามมาประดับชีวิตได้เช่นเคย"

เพลงก็เพราะสุดๆ เลยค่ะลุงกล้วย


โดย: เนระพูสี วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:11:20:30 น.  

 
สวัสดีครับน้องโอเล่
ขอบคุณครับ


โดย: ลุงกล้วย วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:12:15:09 น.  

 
สวัสดีคะลุงกล้วย


โดย: แม่อ้วนคนสวย วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:12:22:21 น.  

 
สวัสดีค่ะลุงกล้วย

ดีใจจัง เปิดคอมเม้นต์ซะทีนะคะ

มีข้อคิดดีๆมาฝากด้วย

ขอบคุณนะคะ


โดย: พจมารร้าย วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:12:33:54 น.  

 
สวัสดีครับน้องนุช
ครับพี่ขอบคุณน้องมากๆนะครับ


โดย: ลุงกล้วย วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:12:36:19 น.  

 
มาแว้ววววววว มาฟังลุงกล้วยเล่านิทาน เล่าไปด้วยหาเทาไปด้วยนะคะ น้องพลอยเหาเต็มหัวแล้ว แง๊ๆๆ
จ๊วบๆๆลุงกล้วยด้วย อิอิ


โดย: เจ้าจ๋อ(ตูดแดง) IP: 58.147.40.112 วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:13:19:13 น.  

 
สวัสดีค่ะลุงกล้วย
หายไปนานเลยนะคะ
เอ...หรือว่าเปิ้นหายกันแน่น้า แหะๆ

ลุงกล้วยสบายดีนะคะ ลืมหลานแก้มป่องคนนี้ยังน้อ?

มาอ่านข้อคิดดีๆค่ะ
มีความสุขมากๆนะคะลุงกล้วย
คิดถึงค่ะ ^^


โดย: fonrin วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:15:23:35 น.  

 
สวัสดีค่ะ ลุงกล้วย สบายดีนะค่ะ
คิดถึงลุงกล้วยจังเลยคะ

มาอ่านข้อความดีๆกะลุงกล้วยค่ะ
มีความสุขมากๆนะค่ะ


โดย: whitelady วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:19:50:29 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะ

เช้าๆ อย่างนี้ขอมานั่งฟังเพลงบ้านลุงกล้วยหน่อย สบายใจจังเลยค่ะ


โดย: เนระพูสี วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:6:15:10 น.  

 

มาส่งความคิดถึงจ้าลุงกล้วย

ตอนนี้ยุ่งๆอยู่เล็กน้อยค่ะ
แต่ไม่มากเหมือนแต่ก่อนแล้ว

มีความสุขในทุวกันนะคะ


โดย: fonrin วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:20:12:53 น.  

 
สวัสดีค่ะลุงกล้วย


หายไปนานเลย แวะไปทักทายกันเลยวิ่งมาหาก่อนเลยค่ะ
นู๋เองไม่ค่อยได้เข้ามาหน้าบล็อกหลักเท่าไหร่
เลยไม่เห็นลุงกล้วยนะคะ แต่ว่าถ้ามีเพื่อนมา
ทักทายก็คลิกเอาจากชื่อกลับมานี่ล่ะคะ ...

หายไปนานเลยค่ะ สบายดีนะคะ ..

......

อ่านแล้วชอบตรงที่ว่า

"ไม่มีอะไรที่เราไม่รู้เสียเลย และก็ไม่มีอะไรที่เรารู้ไปเสียทุกอย่าง "

อันนี้เห็นด้วยล้านแปดเปอร์เซ็นต์เลยค่ะลุงกล้วย
อ่านแล้วคิดถึงเพื่อนเลยว่า มันชอบคิดว่าตัวเอง
รู้หมดทุกอย่าง .. เหอ เหอ แต่เราไม่อยากว่าอะไรอ่ะคะ
เพราะว่าทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นดีกว่า ปล่อยให้เค้า
รู้ด้วยตัวเองล่ะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 7 มิถุนายน 2551 เวลา:17:22:54 น.  

 
แวะมาคิดถึงลุงกล้วยจ๊ะ
ใช้แนวคิดจากตัวอุ้มเองค่ะ
ว่าจะอะไรยังไงไม่ว่า
ขออย่างเดียวอย่าหลอกตัวเอง
เป็นปรัชญา
ใช้นำทางชีวิตให้กับตัวอุ้มเองเสมอ
หลับฝันดีเน๊าะลุงกล้วย


โดย: อุ้มสี วันที่: 7 มิถุนายน 2551 เวลา:23:02:56 น.  

 
เหมือนมีลางสังหรณ์ว่าลุงกล้วยกลับมาแล้ว

กลับมาจริงๆ

สวัสดีค่ะ


โดย: นางฟ้าอรชร วันที่: 8 มิถุนายน 2551 เวลา:19:35:11 น.  

 


ขอบคุณสำหรับข้อความดีดี


โดย: คนดอย IP: 222.123.209.42 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:8:29:26 น.  

 
สวัสดีค่ะลุงกล้วย
ไม่ได้มาทักทายซะนานเลยเพราะแม่ป่วย
สบายดีหรือป่าวคะ
ยังคิดถึงอยู่เหมือนเดิมนะคะ


โดย: โสนบ้านนา วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:16:56:54 น.  

 
สวัสดียามเช้าก่อนไปทำงานค่ะลุงกล้วย

ขอบคุณนะคะสำหรับข้อความหลังไมค์ที่อวยพรวันเกิดให้เปิ้น

ขอให้ลุงกล้วยมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงนะคะ

มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: fonrin วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:8:10:57 น.  

 
สวัสดีค่ะ ลุงกล้วย
ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมนานเลย คิดถึงนะค่ะ

สบายดีนะค่ะ ขอให้สุขภาพแข็งแรง
และนำเรื่องดี ๆ มาฝากกันอีกค่ะ


โดย: บ้านดินริมสวน วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:9:22:43 น.  

 
"การค้นพบว่าตัวเองชอบอะไรนั้นชื่อว่าเป็นคุณค่าอย่างหนึ่งของการได้เกิดมา แต่การค้นพบความเป็นอิสระที่มีอยู่ในตัวเองแล้วนำไปสู่การดำรงชีวิตอยู่ด้วยความสงบมีค่ายิ่งกว่า เพราะทำให้เรารู้จักจัดระเบียบชีวิตของตัวเองได้ง่ายขึ้น แม้ว่าจะไม่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของคนอื่น แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ตัวเราค้นพบความสุขที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งถือว่าเป็นความสุขที่เรียบง่ายแต่งดงามในความทรงจำของการได้ชีวิตมา"

โดนมากเลยค่ะข้อความนี้


โดย: เนระพูสี วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:12:36:38 น.  

 
หลานสาวแก้มป่องๆ
ลุงขอโทษนะครับที่เข้าบ้านหนูไม่ได้เลยต้องแวะไปหลังไมค์ สุขสันต์วันเกิดนะครับ

แปลกใจครับ ลุงกล้วยไปบ้านเพื่อนๆยากเหลือเกิน นี่ไปบ้านคุณบ้านดินริมสวน ก็เข้าไม่ได้อีก ขอโทษนะครับ ลุงกล้วยก็คิดถึงเสมอครับ


ขอบคุณน้องนุชมากครับ


โดย: ลุงกล้วย วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:20:05:27 น.  

 
สวัสดีค่ะ ลุงกล้วย
อ่านแล้วซึ้งจังค่ะ ชอบมาก
นี่แหละค่ะชีวิตของคนเราจะมีความสุขได้ต้องรู้จักเข้าใจชีวิต

ขอบคุณค่ะ


โดย: เด็กเคร็ง เมย์ IP: 118.175.161.73 วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:15:42:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลุงกล้วย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




Friends' blogs
[Add ลุงกล้วย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.