วิวัฒนาการอาหารดีขึ้น แต่ทำไมภูมิคุ้มกันน้อยลง
ด้วยสภาวะทางสังคมในปัจจุบันบังคับให้เราต้องดำเนินชีวิตแข่งกับเวลา จึงไม่แปลกหากเราจะต้องการไลฟ์สไตล์ที่สะดวกสบายและรวดเร็วเพื่อตอบโจทย์ในหลาย ๆ สถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นอาหารสำเร็จรูป อร่อย ง่าย และทันใจ อาหารที่ปรุงแต่งเพื่อเพิ่มรสชาติ ความสวยงาม รวมไปถึงการรักษาคุณภาพอาหารให้อยู่ได้นานขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์
แต่รู้หรือไม่ว่าอาหารที่ผ่านกระบวนการผลิตหลายขั้นตอน รวมทั้งการแปรรูปต่าง ๆ จะทำให้เหลือสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายลดน้อยลง ทว่าในทางกลับกัน อาหารเหล่านี้จะเป็นอาหารชั้นเลิศที่คอยหล่อเลี้ยงจุลินทรีย์ชนิดไม่ดีที่อาศัยอยู่ในร่างกายของเราแทน
ในลำไส้ของเรามีจุลินทรีย์ทั้งที่ดีและไม่ดีอาศัยอยู่ด้วยกัน หากมีจุลินทรีย์ชนิดไม่ดีมากกว่า จะทำให้ลำไส้ของเราเสียสมดุล และส่งผลให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง ก่อให้เกิดความอ่อนแอและเกิดโรคต่าง ๆ ตามมาโดยที่เราไม่ทันคาดคิด ดร.ชามีล่า ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโพรไบโอติก ได้ให้ความเห็นว่า "คนส่วนใหญ่มักคิดว่าระบบภูมิคุ้มกันและระบบทางเดินอาหารไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แต่ที่จริงแล้วทั้งสองระบบนี้มีความใกล้ชิดและสัมพันธ์กัน เพราะภายใต้ระบบทางเดินอาหารนั้นมีอวัยวะในระบบภูมิคุ้มกันซ่อนอยู่ถึง 70% ของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย โดยในระบบทางเดินอาหารของคนเรามีจุลินทรีย์อาศัยอยู่มากกว่า 400 สายพันธุ์ มีทั้งจุลินทรีย์ที่ดีและไม่ดี อัตราส่วนของจุลินทรีย์ "ดีต่อร่างกาย" และ "ไม่ดีต่อร่างกาย"นั้นอยู่ที่ประมาณ 80% ต่อ 20% แต่อัตราส่วนนี้ไม่ได้คงที่เสมอไป ซึ่งจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารมีผลโดยตรงต่อระบบภูมิคุ้มกันที่อยู่บริเวณนี้" แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ! ถ้าสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้เสียไป? เมื่อใดก็ตามที่ลำไส้ของเรามีจุลินทรีย์ไม่ดีมากกว่าจุลินทรีย์ดี นั่นหมายความว่าลำไส้ของเราเสียสมดุล ซึ่งจุลินทรีย์ชนิดไม่ดีโดยส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่สามารถย่อยโปรตีนเพื่อใช้ในการเจริญเติบโต แล้วทำให้ได้สารที่มีกลิ่นเหม็นเน่า เช่น แก๊สไฮโดรเจนซัลไฟด์หรือแก๊สไข่เน่า แก๊สมีเทน แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นเหม็น ทั้งที่ปนมากับอุจจาระ หรือออกมาทางลมหายใจ และทางผิวหนังอีกด้วย
นอกจากนี้ยังได้สารพิษ เช่น แอมโมเนีย (ammonia), เอมีน (amine), ฟีนอล (phenol), อินโดล (indole), พาราครีซอล (P-cresol) และสแกโทล (skatol) ซึ่งสารเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพและความเสื่อมของร่างกาย หรืออาจส่งผลให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
แต่โพรไบโอติกเป็นจุลินทรีย์ที่ดี มีประโยชน์ ทั้งยังช่วยรักษาสมดุลของระบบทางเดินอาหารของเราให้มีสุขภาพดี โดยการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่ไม่ดีต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยขับสารพิษ ช่วยย่อยอาหาร และช่วยเรื่องการดูดซึมสารอาหาร
จากที่ได้ทราบแล้วว่า 70% ของระบบภูมิคุ้มกันอยู่ที่ทางเดินอาหาร ดังนั้น ถ้าทางเดินอาหารของเรามีสุขภาพดีและอยู่ในสภาวะสมดุล ย่อมส่งผลให้ร่างกายของเราแข็งแรง มีสุขภาพดีไปด้วย
เห็นได้ชัดเลยว่าโพรไบโอติกไม่เพียงแต่เป็นส่วนประกอบที่จำเป็นในการรักษาสุขภาพที่ดีของระบบทางเดินอาหารเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงและมีประสิทธิภาพโพรไบโอติกจึงเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อการรักษาสุขภาพที่ดีของเราเอาไว้ นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่เจ็บป่วยเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันทำงานลดน้อยลงด้วยนะคะ
Create Date : 09 กรกฎาคม 2559 |
Last Update : 9 กรกฎาคม 2559 6:06:06 น. |
|
1 comments
|
Counter : 926 Pageviews. |
|
|
|
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ