สถาปัตยกรรม ทั่วทุกมุมโลก สวยงามดีไซน์สุดเเนว ที่มา: kapook.com   Create Date : 12 มกราคม 2556     0 comment Last Update : 12 มกราคม 2556 23:02:03 น.     Counter : 1833 Pageviews.   Share Tweet

PES 2013 Patch 2.7 แพทอัพเดทย้ายตัวล่าสุด ชุดแข่งใหม่ มีข่าวมากฝากคอเกมฟุตบอลขวัญใจมหาชนอย่าง PES 2013 มาฝากครับ เมื่อล่าสุดทีมงาน PESEdit ได้ออกแพทช์เวอร์ชั่นใหม่ออกมา หรือ PESEdit 2013 Patch 2.7 ซึ่ง ในรอบนี้ได้มีการปรับปรุงข้อมูลผู้เล่นที่ย้ายตัวล็อตใหม่ล่าสุด พร้อมกับปรับปรุงใบหน้านักเตะ และชุดแข่งใหม่ให้สมจริงยิ่งขึ้น ใครที่เล่นเกมนี้อยู่ก็ตามไปดาวน์โหลดกันได้เลยครับ ที่มา – pes2008editing New Features: Updated squads with winter transfers (150+ transfers made in all leagues) Fixed online switch (no longer fake kits for Barcelona, PSG, etc.) 30+ new faces (incl. Biglia, Munua, Rojo etc., in total 660+ faces) New kits: Academica, Arsenal, Atlético de Madrid, Beira-Mar, Benfica, Braga, Classic England, Estoril-Praia, Gil Vicente, Malaysia, Maritimo, Moreirense, Nacional Funchal, Newcastle, Olhanense, Pacos Ferreira, Porto, Rio Ave, Sporting, Vitoria Guimaraes, Vitoria Setubal New boots: Nike Tiempo Legend IV Black / Lime, Nike Total 90 Laser IV Lime, Nike CTR360 Maestri III Citrus / Black New balls: adidas Cafusa & Katlego, Puma Powercat 2.12 Serie bwin Created 70+ missing players (incl. Dier (Sporting), Rekik (Manchester City), Montenegro (Independiente), Roussillon (Toulouse) etc.) General Features: Added Bundesliga, Primera Division Argentina, Russian Premier League, 2. Bundesliga, Liga Adelante, Npower Championship, Serie B, Ligue 2, Brasileirão Série B Added other teams (Viktoria Plzen, BATE Borisov, Metalist Kharkiv, Rubin Kazan, Anzhi, and more) Correct kits for all Premier League, Liga ZON Sagres + all National & Classic Teams Corrected names for fake players in unlicensed National teams and ML unlockable players Faces: More than 660 new faces (all fixed by PESEDIT) Fixed kits for a lot teams including Barcelona, Manchester United and Sevilla Includes DLC 2.0 Scoreboard and stadium switch in selector (download stadiums here) Removed blur ติดตามข่าวเกี่ยวกับ PES ล่าสุดได้ที่ >> //www.9tana.com/node/tag/pes/ ดาวน์โหลด PES 2013 Patch 2.6 (PESEdit) สนับสนุนเนื้อหา โดย Tana   Create Date : 12 มกราคม 2556     0 comment Last Update : 12 มกราคม 2556 22:58:32 น.     Counter : 6834 Pageviews.   Share Tweet

วิธีทำลูกชิ้นไก่ ลง มือทำกันเลยนะคะ ล้างไก่ให้สะอาดก่อนนะคะ เนื้ออกไก่ที่เราใช้จะไม่เอาหนังเลยนะคะ ลอกออกไปเลย ถ้าชิ้นไหนมีมันไก่หลงติดอยู่ก็เฉือนทิ้งไปให้หมดเลยนะคะ เอาแต่เนื้อล้วนๆค่ะ แต่โดยปรกติเนื้อหน้าอกก็ไม่ค่อยมีมันติดหรอกค่ะ พอล้างน้ำสะอาดแล้วก็หั่นเป็นชิ้น ไม่ต้องเล็กมากหรอกค่ะ เพราะเดี๋ยวต้องเอาไปปั่นอีก เอาไก่ไปปั่นให้ละเอียดเลยนะคะ เนื้อไก่ยุ่ยกว่าเนื้อวัว ปั่นง่ายค่ะ เดี๋ยวเดียวก็แหลกแล้ว แหลกประมาณนี้นะคะ เอาปลายนิ้วลองเขี่ยดู ให้เนื้อไก่แตกออกไม่ติดกันเป็นชิ้นเลยนะคะถึงจะใช้ได้ พอ ปั่นไก่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มาทำน้ำหมักกันค่ะ ใช้ชามใบโตๆเลยนะคะ จะได้คลุกสะดวก ใส่น้ำ น้ำมันพืช แป้งข้าวโพด เกลือ น้ำตาล ผงฟู และน้ำปลา ผสมให้น้ำตาล เกลือ ละลายเข้ากันนะคะ จะได้น้ำหมักสีขุ่นๆแบบนี้ค่ะ จากนั้นก็เอาไก่บดลงไปผสมค่ะ แล้วก็เอามือนวดให้ไก่กับน้ำหมักเข้ากันดี ขั้นตอนนี้เลอะเทอะหน่อยนะคะ ใส่ถุงมือก็ดีนะ จะได้ไม่หยำแหยะ นวดง่าย ตอนผสมครั้งแรกจะเห็นว่าไก่ยังไม่ดูดน้ำเท่าไหร่ น้ำหมักยังเหลืออยู่เยอะ ไม่ต้องตกใจนะคะ แบบนี้เป็นเรื่องปรกติค่ะ พอนวดไปเรื่อยๆ น้ำจะเริ่มงวดลงเรื่อยๆค่ะ ไก่ก็จะเริ่มเหนียวขึ้น เริ่มรู้สึกถึงความเป็นลูกชิ้นแล้ว ยิ่ง นวดก็ยิ่งเหนียว ยิ่งนวดก็ยิ่งหนักมือ ตอนนี้ใกล้จะได้ที่แล้วนะคะ น้ำแห้งหมดแล้ว แต่เดี๋ยวขยำต่ออีกหน่อย ให้แน่ใจว่าจะได้ลูกชิ้นแน่ ไม่ใช่แค่ไก่ต้ม เพราะถ้าไม่นวดให้ดี ลูกชิ้นจะไม่เหนียวค่ะ ตอนนี้เหนียวได้ที่แล้วค่ะ จัดการปาดเกลี่ยให้เรียบร้อย แล้วคลุมด้วยพลาสติกให้มิดนะคะ แล้วก็เอาไปแช่ช่องแข็งไว้ประมาณ ๓๐ นาที ลูกชิ้นจะได้เย็นและเหนียวมากขึ้น พอครบเวลาแล้วก็เอาออกมาเลยค่ะ ลูกชิ้นไก่จะเย็นและจะหนืดขึ้นมาอีกค่ะ ส่วน ผสมอย่างสุดท้ายคือพริกไทยค่ะ ตามสูตรบอกให้ใส่ ๒ ช้อนโต๊ะ แต่เอาเข้าจริง หมูแดงใส่ไปเยอะกว่านั้นอีกค่ะ เพราะชอบกินลูกชิ้นที่มีรสมีกลิ่นของพริกไทยตอนกัดด้วย เลยใส่เยอะ พริกไทยบดเองอีกด้วย หอมเชียว ใส่ลงไปแล้วเอามือขยำคลุกให้เข้ากันนะคะ ขั้นตอนนี้จะทรมานหน่อยเพราะลูกชิ้นมันเย็น คลุกไปมือเย็นไป หมูแดงคลุกไม่ไหว ต้องใส่ถุงมือยางช่วยค่ะ ที นี้ก็มาถึงขั้นตอนการต้มลูกชิ้นค่ะ ใช้หม้อหรือกระทะใบใหญ่ๆหน่อย ต้มน้ำให้ร้อนแต่ไม่ต้องให้เดือดพล่านหรอกนะคะ เอาแค่เกือบเดือดก็พอ จาก นั้นก็ปั้นลูกชิ้นแล้วเอาลงต้มเลยค่ะ คนอื่นทำยังไงไม่รู้นะคะ แต่หมูแดงใช้มือซ้ายขยำลูกชิ้นแล้วบีบให้ลูกชิ้นปลิ้นออกมาตรงง่ามนิ้ว ระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วโป้งน่ะค่ะ เวลาขยำลูกชิ้นขึ้นมา ต้องขยำให้เต็มมือเต็มไม้หน่อยนะคะ จะได้ช่วยส่งแรงบีบให้ลูกชิ้นเนื้อแน่นๆ ทำให้ลูกชิ้นเหนียวดีค่ะ บีบมือครั้งแรกลูกชิ้นอาจจะไม่กลมนะคะ ไม่ต้องตกใจ วิธี แก้ก็คือเราบีบมืออีกซัก ๑-๒ ครั้ง จะค่อยๆตะล่อมให้ลูกชิ้นกลมขึ้นแบบนี้ค่ะ แต่หมูแดงว่าลูกชิ้นทำเองไม่จำเป็นต้องให้กลมดิ๊กเหมือนลูกชิ้นโรงงานหรอก ค่ะ บิดๆ เบี้ยวๆ บ้างก็ได้ ได้อารมณ์ของโฮมเมดดีด้วยค่ะ พอปั้นได้กลมสมใจแล้ว ก็ใช้ช้อนกาแฟตักออก แล้วใส่ลงในหม้อน้ำร้อนได้เลยค่ะ ก็ปั้นแล้วต้มไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดนะคะ น้ำไม่ต้องให้เดือดนะคะ พอปั้นหมดแล้วก็ค่อยเร่งไฟขึ้น ให้น้ำต้มเดือด ลูกชิ้นที่สุกแล้วจะลอยขึ้นมาค่ะ พอปั้นจนหมดแล้วก็เร่งไฟให้แรงขึ้นนะคะ ให้น้ำเดือดซัก ๒-๓ นาทีลูกชิ้นก็จะสุกทั่วกัน เราก็ปิดไฟได้เลยค่ะ จากนั้นเราก็ใช้ตะแกรงช้อนลูกชิ้นขึ้นมาค่ะ แล้วเอาไปล้างด้วยน้ำเย็น เป็นการ stop cooking ค่ะ ใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำก่อนจะเอาไปปรุงอาหาร หรือจะเก็บใส่ตู้เย็นไว้สำหรับวันหน้าก็ได้ค่ะ ให้ ดูกันใกล้ๆ ลูกชิ้นนี่พร้อมรับประทานแล้วค่ะ เพราะสุกแล้ว ปั้นไม่กลมเหมือนลูกชิ้นโรงงาน แต่ความเหนียวใช่เลยค่ะ ลูกชิ้นไก่ทำง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่หัดปั้นค่ะ หมูแดงเอามายำค่ะ ไม่ได้ใส่เครื่องมาก เหมือนที่เขายำขายกันตามห้างไงคะ ชาม นี้เป็นก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นไก่ค่ะ แต่เป็นลูกชิ้นไก่งวงนะคะ ทำคนละเที่ยวกับชุดข้างบนค่ะ แต่ดูไม่ออกเลยใช่มั้ยล่ะ เหมือนกันเปี๊ยบ ช่วงไหนไก่ถูกหมูแดงชอบซื้อมาทำลูกชิ้นค่ะ เพราะแถวนี้ไม่มีลูกชิ้นขาย ถ้าไม่เข้าไปซื้อในลอนดอนก็ต้องทำกินเองแบบนี้แหละค่ะ ชุด นี้เอาเสียบไม้แล้วใส่เตาอบ สมมุติว่าเป็นลูกชิ้นปิ้ง น้ำจิ้มไม่ได้ทำค่ะ ใช้น้ำจิ้มไก่ เอาไปเคี่ยวให้เหนียวและร้อน แล้วราดลงบนลูกชิ้นเลยค่ะ ทำไปปาร์ตี้งาน Feasty Friday ของแผนกค่ะ กินกันเรียบเหมือนเคย ส่ง ท้ายด้วยก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อเปื่อยค่ะ นี่เป็นการทำลูกชิ้นเนื้อครั้งที่ ๒ ค่ะ เพราะครั้งแรกล้มเหลวไม่เป็นท่าเลย ต้องเททิ้งหมด มันไม่เหนียวให้เลยค่ะ เป็นเพราะปั่นเนื้อไม่ละเอียด นวดเนื้อไม่ได้ที่ เลยแหยะๆ ร่วนๆ ไม่เหมือนลูกชิ้นเลยซักนิด แต่ชุดที่ ๒ นี่เหมือนเปี๊ยบเลยค่ะ เป็นลูกชิ้นเนื้อที่เหนียวหนึบเหมือนลูกชิ้นโรงงานเลย แต่ปั่นเนื้อยากมากค่ะ เครื่องปั่นเราไม่ค่อยดีด้วย ปั่นนานกว่าจะละเอียด //women.postjung.com/651302.html   Create Date : 12 มกราคม 2556     2 comment Last Update : 12 มกราคม 2556 22:55:25 น.     Counter : 5633 Pageviews.   Share Tweet

บ้านครึ่งบกครึ่งน้ำ เพื่อรับมือน้ำท่วม สำหรับผู้มีรายได้น้อย ในทุกๆ ปีประเทศบังคลาเทศจะมีประชากรจำนวนนับล้านๆ คนที่ต้องได้รับความสูญเสียจากภัยน้ำท่วม ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นคนยากจน โครงการ LIFT House จึงถูกคิดค้นขึ้น โดยชื่อของ LIFT House นั้นย่อมาจาก Low Income Flood-proof Technology หรือ เทคโนโลยีเพื่อป้องกันภัยจากน้ำท่วมสำหรับผู้มีรายได้น้อย ผลงานทั้งหมดได้รับการออกแบบและควบคุมงานสร้างโดยสถาปนิกสาวนาม Prithula Prosun LIFT House บ้านครึ่งบกครึ่งน้ำ  LIFT House บ้านครึ่งบกครึ่งน้ำ สถาปัตยกรรมลักษณะ ‘ครึ่งบกครึ่งน้ำ’ กลายเป็นคำตอบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานชิ้นนี้ ตัวอาคารได้รับการออกแบบให้มีการปรับตัวไปตามระดับน้ำขึ้น-ลง สามารถลอยน้ำได้เวลาที่เกิดน้ำท่วมและกลับมาตั้งอยู่บนพื้นดินได้ตามเดิมเมื่อน้ำลดลง บ้านหลังนี้ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนแกนกลางที่ได้รับการออกแบบมาให้ตั้งอยู่กับที่ และจะทำหน้าที่เป็นแกนหลักที่ยึดหน่วยพักอาศัยทั้ง 2 หน่วยที่สามารถลอยน้ำได้เข้าไว้ด้วยกัน ในส่วนที่เป็นหน่วยพักอาศัยมีโครงสร้างทำจากไม้ไผ่ และยึดกับส่วนแกนกลางด้วยข้อต่อลักษณะพิเศษที่ออกแบบมาให้สามารถเคลื่อนที่ในแนวขึ้น-ลงได้ดี บริเวณฐานรากของแต่ละหน่วยพักอาศัยจะใช้ขวดพลาสติกรีไซเคิลจำนวน 8,500 ใบ มาเป็นส่วนประกอบ ทำให้ฐานรากในส่วนนี้มีลักษณะคล้ายทุ่นลอยน้ำสามารถลอยขึ้น-ลงตามระดับน้ำที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ไว้บนหลังคา ทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้าในยามที่น้ำท่วมและไฟฟ้าต้องถูกตัด LIFT House บ้านครึ่งบกครึ่งน้ำ  LIFT House บ้านครึ่งบกครึ่งน้ำ  LIFT House บ้านครึ่งบกครึ่งน้ำ LIFT House เกิดขึ้นจากการหลอมรวมงานออกแบบ วัสดุ และเทคโนโลยีก่อสร้างที่เหมาะสม ตลอดจนปัจจัยทางด้านที่ตั้ง ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ รวมทั้งผู้ใช้งานและสภาพสังคมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว จนเกิดเป็นงานสถาปัตยกรรมที่ดีบนพื้นฐานของความยากจน และการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืนภายในท้องถิ่น เป็นภาพสะท้อนของการพยายามเอาตัวรอดเพื่อดำรงอยู่บนโลกใบนี้ในอนาคตของคนระดับรากหญ้าหรือชาวบ้านธรรมดาๆ ที่ถือเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ที่สุด ซึ่งในปัจจุบันมักไม่ได้รับการเหลียวแลเท่าที่ควร LIFT House บ้านครึ่งบกครึ่งน้ำ  LIFT House บ้านครึ่งบกครึ่งน้ำ  LIFT House บ้านครึ่งบกครึ่งน้ำ  LIFT House บ้านครึ่งบกครึ่งน้ำ  LIFT House บ้านครึ่งบกครึ่งน้ำ  LIFT House บ้านครึ่งบกครึ่งน้ำ  LIFT House บ้านครึ่งบกครึ่งน้ำ  LIFT House บ้านครึ่งบกครึ่งน้ำ  LIFT House บ้านครึ่งบกครึ่งน้ำ  ที่มา: //webboard.sanook.com/forum/?topic=3686308   Create Date : 11 มกราคม 2556     0 comment Last Update : 11 มกราคม 2556 20:54:20 น.     Counter : 2170 Pageviews.   Share Tweet

10 ถนน ทั่วโลกที่มีชื่อเสียงยอดนิยม (เมืองไทยติดอันดับ!!!) แน่นอนว่าถนนแต่ละที่ก็มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป และมักจะสะท้อนเรื่องราวความเป็นอยู่ของท้องถิ่นนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะมีถนนมากมายกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม จากเสน่ห์ความสวยงามของมัน ซึ่งวันนี้กระปุกท่องเที่ยวก็ได้รวบรวม 10 ถนน ที่มีชื่อเสียงจากทั่วมุมโลกมาฝากกันแล้ว ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้น ลองไปดูกันเลยค่ะ ภาพจาก Andy Lidstone / Shutterstock.com 1. ถนนแอบบี (Abbey Road) ถ้าจะบอกว่าถนนแอบบี เป็นถนนที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก็คงไม่ผิดนัก เพราะหลังจากที่วงดังในตำนานอย่าง The Beatles เจ้าของเพลงฮิต let it be อัดเสียงในสตูดิโอบริเวณถนนแห่งนี้ พร้อม ๆ กับใช้ทางม้าลายบนถนนเป็นสถานที่ถ่ายปกอัลบั้ม นักท่องเที่ยวจากทั่วมุมโลกก็แห่กันมาถ่ายรูปที่ทางม้าลายนี้กันบ้าง เพื่อจะได้ตามรอยวงโปรดของพวกเขาและสัมผัสความรู้สึกแบบซูเปอร์สตาร์ดูบ้างยังไงล่ะ ภาพจาก Andrew Zarivny / Shutterstock.com 2. ฮอลลีวูด วอล์ก ออฟ เฟม (Hollywood Walk of Fame) ในโลกนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก ฮอลลีวูด วอล์ก ออฟ เฟม กันอีกแล้วล่ะ เพราะมันออกจะเป็นจุดท่องเที่ยวสุดแสนจะโด่งดังซะขนาดนี้ ชนิดที่ว่าใครได้ไปเที่ยวลอสแอนเจลิสสักครั้ง แล้วไม่ได้แวะไปถ่ายรูป ถือว่ามาไม่ถึงเลยทีเดียว ซึ่งในปัจจุบัน ฮอลลีวูด วอล์ก ออฟ เฟม ก็มีรอยประทับของดาราชื่อดังกว่า 2,400 คนแล้ว โดยมีแต่ดาราดังระดับซุปเปอร์สตาร์ทั้งนั้น เรียกได้ว่าดาราคนไหนเป็นดาวค้างฟ้าจริงหรือไม่ ก็วัดกันตรงนี้นี่แหละ 3. ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs Elysees) รู้ ๆ กันอยู่ว่าเมืองแสนสวยอย่างกรุงปารีสนั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ความโรแมนติกขนาดไหน และถนนฌ็องเซลิเซ่ ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ซึ่งช่วยเสริมให้กรุงปารีสนั้นงดงามไม่แพ้ที่ไหน ๆ เลย จากการที่มีบรรยากาศสุดคลาสสิกย้อนยุคน่าหลงใหล ยิ่งไปกว่านั้นสาว ๆ ที่รักการช้อปเป็นชีวิตจิตใจยังไม่ควรพลาดอีกด้วย เพราะตลอดสองฝั่งถนนของที่นี่เต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งมากมายเลยล่ะ ภาพจาก littleny / Shutterstock.com 4. ลาสเวกัส สตริป (Las Vegas Strip) แน่นอนว่านักเสี่ยงโชคทั้งหลายจะต้องรู้จัก ลาสเวกัส สตริป ในเมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา กันเป็นอย่างดี เพราะที่นี่เต็มไปด้วยกาสิโนมากมาย ที่อาจจะเปลี่ยนคุณเป็นเศรษฐีหน้าใหม่ในชั่วข้ามคืน หรือกระเป๋าแห้งกลับบ้านโดยที่คุณไม่อาจรู้ตัวเลยก็ได้ นอกจากนี้ ยังเต็มไปด้วยสาวสวยมากมายอีกต่างหาก แบบนี้แล้วจะให้คนชอบเสี่ยงโชคอย่างเราอดใจได้ยังไงไหว 5. ถนนลอมบาร์ด (Lombard Street) ถนนที่ไม่เหมือนใคร ด้วยทางคดเคี้ยวอันเป็นเอกลักษณ์นี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างชื่อเสียงให้กับเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยนอกจากทางคดเคี้ยวนี้จะทำให้ ถนนลอมบาร์ด สวยแปลกตาแล้ว ยังมีบันไดคนเดิน 2 ข้างทาง และดอกไม้ที่ปลูกรอบ ๆ ทางยังช่วยเสริมให้บรรยากาศของที่นี่ ดูเหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายสักเรื่องอีกต่างหาก ภาพจาก SeanPavonePhoto / Shutterstock.com 6. วอลล์ สตรีท (Wall Street) จะว่าถนนวอลล์ สตรีท แห่งนี้เป็นหัวใจหลักทางด้านเศษฐกิจของสหรัฐอเมริกาก็คงไม่ผิดนัก เพราะตั้งแต่มันถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1817 มันก็เป็นศูนย์รวมบริษัทยักษ์ใหญ่มากมาย รวมไปถึงแหล่งซื้อขายหุ้นด้วย ทำให้ถนนวอลล์ สตรีท ซึ่งถูกตั้งชื่อโดยชาวดัทช์ ตามกำแพงที่สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 นี้ เป็นหนึ่งในความภูมิใจของผู้คนที่นั่นเลยก็ว่าได้ 7. ถนนเวีย โดโลโรซา (Via Dolorosa) แม้ว่าถนนเวีย โดโลโรซา จะไม่ได้งดงามอลังการด้วยสีสันตระการตาอย่างถนนเส้นอื่น ๆ แต่ก็คงไม่มีใครปฏิเสธมนต์เสน่ห์ลึกลับของ ถนนเวีย โดโลโรซา จากกรุงเยรูซาเลม ประเทศอิสราเอลนี้ได้ โดยชื่อที่หมายถึงถนนแห่งความโศกเศร้า และมีตำนานเล่าขานกันว่ามันเป็นที่ซึ่งพระเยซูคริสต์ถูกพิพากษาให้ตรึงกางเขนบนถนนสายนี้ ทำให้ที่นี่มีทั้งความงดงามและความรู้สึกสลดหดหู่ด้วยในเวลาเดียวกัน 8. ถนนลา รามบลา (La Rambla) สีเขียวชอุ่มจากต้นไม้ตลอด 2 ข้างทาง ทำให้ถนนลา รามบลา ประเทศสเปน เป็นที่เดินพักผ่อนหย่อนใจในฝันของหลาย ๆ คน อีกทั้งยังมีศิลปินข้างถนนคอยให้ความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ อย่างไรก็ดี ด้วยความที่เต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งมากมาย จึงทำให้คนเดินกันขวักไขว่ พร้อมทั้งมีพวกมิจฉาชีพมากตามไปด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าคิดจะไปเดินชิล ๆ สักหน่อย ก็อย่าประมาทจนเกินไป ควรระวังกระเป๋าสตางค์กันไว้ด้วยนะคะ ภาพจาก 1000 Words / Shutterstock.com 9. ถนนข้าวสาร (Khao San Road) พูดถึงถนนสวย ๆ ต่างบ้านต่างเมืองกันมามากแล้ว ก็วกมาพูดถึงถนนชื่อดังในบ้านเราอย่าง ถนนข้าวสาร กันบ้าง ซึ่งถนนแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวเด่น ๆ ของประเทศไทย ที่ทำให้ชาวต่างชาติประทับใจกันมานักต่อนักแล้ว จากการที่มีของดีราคาย่อมเยาว์ให้เลือกซื้อเยอะแยะลายตาเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึก งานฝีมือ ไปจนถึงของกินอร่อย ๆ ขึ้นชื่ออย่างผัดไทยและข้าวไข่เจียว ในราคาแสนถูก ภาพจาก CHEN WS / Shutterstock.com 10. ถนนออร์ชาร์ด (Orchard Road) หนึ่งในถนนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในฝั่งตะวันออกอย่าง ถนนออร์ชาร์ด ประเทศสิงคโปร์นั้น มีครบพร้อมทุกอย่างสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง คาเฟ่ โรงแรม และไนท์คลับ อีกทั้งกฎระเบียบที่แสนจะเข้มงวดของที่นี่ ยังทำให้เรามั่นใจในเรื่องความสะอาดได้อีกต่างหาก เรียกได้ว่าแต่ละที่นั้นสวยจนกินกันไม่ลงเลย แถมยังมีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นของตัวเองอีกต่างหาก ส่วนที่ไหนจะสวยที่สุดนั้น ก็คงต้องขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนแหละเนอะ ^ ^ ที่มา: //travel.kapook.com/view54154.html   Create Date : 11 มกราคม 2556     0 comment Last Update : 11 มกราคม 2556 20:51:40 น.     Counter : 1845 Pageviews.   Share Tweet