ข้อมูล Man of Steel บุรุษเหล็กผู้ไม่ตาย แห่ง Dc comic ไหนๆ ช่วงนี้กระแส Man of Steel ก็มาแรงซะเหลือเกิน วันนี้แอดมินจึงขอนำประวัติคร่าวๆ ของ บุรุษเหล็กตัว S หรือ (ซุปเปอร์แมน Superman) มาเล่าสู่กันฟังนะครับ โดยจุดต้นเหตุของเรื่องนั้นเริ่มจากแกนของดวงดาวคริปตันที่เริ่มเสื่อมสภาพ (บ้างก็บอกว่าโดนอุกกาบาตเข้าทำลาย) ทำให้เหลือเวลาอันน้อยนิดก่อนที่จะเกิดการระเบิดสูญสิ้นของเหล่าชีวิตทั้ง มวล จอร์-เอล นักวิทยาศาตร์ผู้ปราดเปรื่องแห่งดาวคริปตัน ผู้เป็นพ่อของ ทารกน้อย  คาล-เอล หรือ ซูปเปอร์แมน ไม่มีทางเลือกจำต้องส่งทารกน้อยลี้ภัยมากับยานอวกาศที่เค้าสร้างขึ้นเมื่อวันสุดท้ายมาถึง และแล้วยานลำน้อยนี้ก็พุ่งตรงมายังโลกมนุษย์และได้ตกลงที่ เมือง  “Smallville” และถูกค้นพบช่วยเหลือโดยสามีภรรยาชาวไร่ชาวนาคู่หนึ่ง ที่ได้เก็บเด็กน้อยคริปตันมาเลี้ยงและตั้งชื่อใหม่ว่า คลาร์ก เคนท์  (Clark Kent) นั่นเอง พวกเขาใส่ใจเลี้ยงดู คลาร์ก จนเติบโตและเป็นคนดี จน กระทั่งเขาค่อยๆ เรียนรู้การใช้และควบคุมพลังที่เหนือมนุษย์แฝงตัวคอยช่วยเหลือผู้คนอย่าง ลับๆ และได้กำหนดโชคชะตาตนเองด้วยการเลือกเป็น Superman จากนั้น คลาร์ก เคนท์  (Clark Kent)  จึงมุ่งหน้าเข้าสู่เมือง และเลือกที่จะแฝงตัวเองเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ของสำนักพิมพ์ “Daily Planet” (ที่ๆ อันตรายคือที่ๆ ปลอดภัยที่สุด) เพื่อที่จะได้ติดตามข่าวสารความเป็นไปของโลกได้ง่ายขึ้นด้วย เอาละทีนี้เรามารู้ถึงพลังความสามารถเหนือมนุษย์ของ “ซุปเปอร์แมน”กันบ้าง“ซุปเปอร์แมน” มีเซลล์ที่สามารถเข้ากับพลังงานจากดวงอาทิตย์ (สีเหลือง) ของโลก ทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งเกินมนุษย์ มีพละกำลังมหาศาล ซึ่งผิดกับตอนที่อยู่บนดาวคริปตันที่มีดวงอาทิตย์เป็นสีแดง นอกจากนี้“ซุปเปอร์แมน”ยังสามารถบินได้และเคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่ากระสุนปืน,ปล่อยเลเซอร์ความร้อนสูงจากดวงตาได้ รวมไปถึงลมหายใจที่เย็นยะเยือกจนสามารถแช่เเข็งพายุหรือไฟให้หยุดชะงักได้ภายในพริบตา ดวงตาเอ็กเรย์ ที่สามารถมองทะลุร่างกายเสื้อผ้าได้แบบทะลุปรุโปร่ง และประสาทสัมผัสที่ดีเยี่ยม (แบบในภาพยนต์เลยครับได้ยินเสียงเกือบทั้งโลก) ซึ่งพลังงานหลักๆ ของเขามาจากดวงอาทิตย์สีเหลือง ซุปเปอร์แมนจึงแทบไม่ต้องการกินอาหารหรือการพักผ่อนใดๆ เลยก็ยังได้ ซุปเปอร์แมนยัง เป็นฮีโร่ที่มีความเป็นผู้นำสูง พร้อมทั้งเก่งกาจในศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าและทักษะชั้นสูงอันชาญฉลาดที่ ได้รับการเรียนรู้ถ่ายทอดมาจากแบทแมนและวันเดอร์วูแมน รวมไปถึงพลังใจพลังกายที่ยอดเยี่ยมไม่ยอมแพ้ให้ใครอีกด้วย เมื่อมีจุดแข็งก็ต้องมีจุดอ่อนวันยังค่ำครับ ไม่มีใครดีพร้อม Perfect เสมอไป (แม้แต่ซุปเปอร์แมนผู้มาจากนอกโลก) ซึ่งหลายๆ คนคงจะรู้กันอยู่แล้ว ใช่แล้วครับ มันคือ คริปโตไนท์สีเขียว แร่จากดาวคริปตัน ที่ เป็นปรปักษ์ปั่นทอนพละกำลังทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแออย่างเฉียบพลันเยี่ยง มนุษย์ รู้สึกเจ็บปวด วิงเวียน ยิ่งถ้าโดนในปริมาณมากๆ อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ และนอกจากนี้ที่หลายคนยังไม่รู้ ซุปเปอร์แมนยังพ่ายแพ้ให้แก่เวทมนต์ รวมไปถึงจุดบอดของดวงตาเอ็กเรย์ที่ไม่สามารถมองทะลุตะกั่วได้ นอกจากนี้ในการ์ตูน New 52 ยัง ได้มีการตีความหมายของสัญลักษณ์อักษร “S” ใหม่ ว่ามันมีความหมายถึง สัญลักษณ์ตัวอักษรประจำตระกูล และตรานั้นยังเอาไว้ใช้เรียกชุดของซุปเปอร์แมนที่มีลักษณะเป็นชุดเกราะอีกด้วย ซึ่งไม่ได้เป็นชุดกางเกงในแดงแบบหนังสมัยก่อนที่แม่มานั่งเย็บปักให้เอาเอง (โดนยิงเป็นชุด ชุดยังไม่เป็นไรเลยเวอร์สุดๆ 55) //cartoon.mthai.com/character/37511.html   Create Date : 20 มิถุนายน 2556     0 comment Last Update : 20 มิถุนายน 2556 22:45:36 น.     Counter : 3048 Pageviews.   Share Tweet

ขึ้นภู ดูฝน นับดาวหล่น ที่ ภูสอยดาว เราเคย ย่ำเมืองอุตรดิตถ์เมื่อปลายฝนต้นหนาวคราวก่อน ด้วยการทำตัวเป็นคนหลงทางกลางเมืองลับแล ไปกินอยู่กับชาวบ้านที่ยึดเอาความเรียบง่ายเป็นหลักในการใช้ชีวิต จนคิดจะฝังรากไปกับชาวเมืองลับแลเพื่อหลีกหนีความวุ่นวายในโลกแห่งความเป็นจริง แต่ก็ต้องทิ้งความทรงจำดีๆ ไว้ที่เมืองลับแลก่อนกลับเมืองกรุง วันปีข้ามผ่านไป เหมือนมีอะไรดลใจให้เราได้กลับมายังอุตรดิตถ์อีกครั้ง คราวนี้ประสบการณ์จากเมืองลับแลที่น่าลุ่มหลงยังคงอยู่ในความถวิลหา แต่อุตรดิตถ์ ยังมีความงดงามล้ำค่าของธรรมชาติให้เข้าไปเชยชมอีกมาก และถ้าอยากเปลี่ยนมุมมองของฤดูฝนที่เคยอึมครึมให้เป็นฤดูที่สวยที่สุดแล้ว เราได้รับคำแนะนำว่าครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาที่นี่ให้ได้ ฝนพรำปีนี้เราจึงแวะมาเยือน “ อุทยานแห่งชาติ ภูสอยดาว ” ที่เขาร่ำลือกันว่ามีป่าฝนธรรมชาติที่สวยที่สุด ดุจดังสวรรค์กลางดิน กินพื้นที่ครอบคลุมป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ซึ่งอยู่ในพื้นที่สองจังหวัดคือ พิษณุโลก และอุตรดิตถ์ และเป็นบ้านของน้ำตกภูสอยดาวอันงดงามนัก ฉะนั้นก็อย่าได้ชักช้า ต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าภูสอยดาวในวันนี้จะยังมีดาวเด่นให้สอยมาชื่นชมไว้ใน ใจเหมือนในอดีตอยู่หรือไม่ พื้นที่วนอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ซึ่งตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ และเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรีป่าภูสอยดาว ท้องที่อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ในวันนี้ยังคงสภาพป่าที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เสน่ห์ของธรรมชาติบนพื้นที่สูงชันอย่างน้ำตก ยังคง “ขายได้” สำหรับใครที่ยังไม่เคยเยี่ยมเยียนมาก่อน กับกลุ่มที่รักธรรมชาติแบบเรียบง่ายเสพได้ทันที เรามาเยี่ยมภูสอยดาวช่วงต้นของหน้าฝนเดือนมิถุนายน ซึ่งยังไม่ถือว่าเป็นช่วงที่สวยที่สุดของการขึ้นภูดูน้ำตก และดอกไม้ จังหวะที่ดีที่สุดของการมาเที่ยวภูสอยดาวจะอยู่ในช่วงเข้าฤดูฝนเต็มตัวราว เดือนสิงหาคม-กันยายน จะเป็นช่วงที่การเดินป่าพิชิตภูสอยดาวสนุกตื่นเต้นและท้าทายที่สุด แต่หากจุดหมายคือการได้มาสัมผัสความงามของธรรมชาติแบบใกล้ๆ ไม่ว่าจะมาฤดูไหน ภูสอยดาวก็สวยไม่เปลี่ยนเสมอ แต่ถ้าคิดว่าร่างกายฟิตพร้อมมากพอ เราลองไปเดินขึ้นภูด้วยกันดีกว่า เส้นทางเดินป่า ภูสอยดาว นั้นไม่มีอะไรที่เป็นอันตราย แต่ความโหดและความท้าทายคือความสูงชันที่ทุกคนก็หวังจะพิชิตให้ได้เพื่อไป ยังลานสนสามใบ ด้วยความสูงที่ต้องไต่ไปให้ถึงในระดับกว่า 1,600 เมตร มีจุดให้หยุดพักไปเป็นชั้นๆ วัดใจและวัดสังขารของร่างกายว่าพร้อมจะไปต่อหรือจะขอยอมแพ้ เคล็ดลับที่หลายคนแนะนำให้ใช้ คืออย่าไปสนใจว่าเรากำลังไต่อยู่ ณ พื้นที่เหนือระดับน้ำทะเลที่เท่าไหร่ แต่ขอให้เพิลดเพลินกับป่าฝนรอบๆ ตัวไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็ยังมีของดีอย่างน้ำตกภูสอยดาว น้ำตก 5 ชั้นที่จะสวยสดหมดจดในหน้าฝน เพราะถือเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญสู่แม่น้ำปาด ในชั้นแรกๆ ของการเดินขึ้นภู จึงยังคงมีสภาพเป็นป่าดิบเสียเป็นส่วนใหญ่ หากถอดใจไต่ลงเพราะรอไม่ไหวว่าเมื่อไหร่จะถึงชั้นบนที่เห็นทิวทัศน์สวยๆ เมื่อมองลงมายังเบื้องล่าง ก็ต้องบอกว่าน่าเสียดายแทน เนินช่วงแรกด้านล่างนี้มีชื่อเรียกตามป้ายว่า “เนินส่งญาติ” อยู่ที่ระดับความสูงจากน้ำทะเล 650 เมตร หากใครท้อขอให้หยุดที่จุดนี้ โดยเฉพาะหากสภาพร่างกายไม่ฟิตพอหรือโดนทีมงานยัดเยียดให้เป็นฝ่ายเสบียง เพราะหากแบกของหนัก หรือเริ่มเกิดอาการไม่ดี ก็อาจมีอันตราย เพราะระยะทางในชั้นต่อไป สูงและชันกว่าที่คิดไว้หลายเท่า “เนินปราบเซียน” เป็นเนินที่ชันที่สุด ความสูงนั้นมากกว่าเนินชั้นล่างราว 780 เมตร แม้จะมีบันไดให้ไต่พอไว้พักขา แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากเท่าไหร่ อาศัย “ใจ” ล้วนๆ ชวนสองขาให้พาไปยังเนินต่อไปที่เรียกว่า “เนินป่าก่อ” ถึงชั้นนี้ด้วยความทรหดของร่างกายบวกด้วยความรู้สึกของกำลังขาที่เริ่มชิน จะรู้สึกว่า เดินได้สบายขึ้น เมื่อบวกกับความชอุ่มเขียวขจีของป่ารายล้อมที่สมบูรณ์อยู่มาก จากที่เหนื่อยแทบขาดใจก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง ถึงจุดนี้ไปยังจุดต่อไปจะเป็นเสมือนกับการไต่ภูเพื่อการศึกษาไปในตัว เพราะบางเนินต่อไปจะขึ้นต่อไปอย่างเช่น “เนินเสือโคร่ง” ก็ตั้งชื่อตามกอของต้นกำลังพญาเสือโคร่งที่ขึ้นรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ ทางตำราแพทย์แผนโบราณเขาจัดให้เป็นพืชสมุนไพรทรงคุณค่า แต่ทุกวันนี้หากไปถึงเนินพญาเสือโคร่งคงพบแต่ความไม่งามตา เพราะแก่นของเปลือกต้นที่เขาว่าหอมและเป็นยาถูกควั่นถากจากนักท่องเที่ยวและ คนเก็บของป่านำลงไปเป็นจำนวนมาก หากจะถามถึงความไม่ขลังของภูสอยดาว จุดนี้ก็น่าจะเป็นจุดเล็กๆ จุดหนึ่งที่ทำให้ดาวดูหมองและโรยราไปพอสมควร ผ่านเนิน แต่ละเนินมาจนถึงเนินสุดท้าย แม้ชื่อจะน่ากลัวแต่ก็คุ้มค่ามากหากพิชิตได้ นั่นคือ “เนินมรณะ” อยู่ที่ความสูง 1,410 เมตรจากระดับน้ำทะเล ความสูงชันและคดเคี้ยวชวนให้หวาดเสียว แต่เลยไปหน่อยเดียวคือรางวัลแห่งชีวิต “ผู้พิชิตลานสอยดาว” ไม่มีใครมาถึงจุดนี้แล้วไปถ่ายรูปสวยๆ กลับไปอวดคนที่ยังไม่เคยมา จุดนี้คือจุดที่จะมองเห็นทัศนียภาพรอบๆ และด้านล่างได้สุดลูกหูลูกตา โดยทั่วไปรอบๆ ลานจะเป็นป่าสน ได้อารมณ์โรแมนติกไปอีกแบบ แต่หากเป็นช่วงหน้าฝนที่ชุ่มชื่น กอหญ้าป่าสนจะเปลี่ยนเป็นดงดอกหญ้าหลากสีที่แซมด้วยเสน่ห์อันหลากหลาย เช่นดอกหงอนนาคสีม่วงกลีบบางเบานั่นก็ถือเป็นสัญลักษณ์ของภูสอยดาว และหากโชคดีก็จะได้ชื่นชมกับกล้วยไม้รองเท้านารีและสีใบเมเปิ้ลเปลี่ยนจาก เหลืองเป็นแดงให้ชม ไม่ว่า จะเดินทางมาจากฝั่งพิษณุโลกหรืออุตรดิตถ์ก็สามารถต่อมาถึง อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ได้เช่นกัน หากมาจากทางพิษณุโลก ขับรถไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 แล้วแยกเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1246 ถึงบ้านแพะแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1143 ผ่านอำเภอชาติตระการ แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1237 ผ่านบ้านบ่อภาคไปบรรจบกับเส้นทางแผ่นดินหมายเลข 1268 ถึงน้ำตกภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว รวมระยะทางประมาณ 188 กิโลเมตร และหากมาจากทางอุตรดิตถ์ ใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1047 (อุตรดิตถ์-น้ำปาด) จนถึงอำเภอน้ำปาดแล้วเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1239 ไปอีก 47 กิโลเมตร จึงเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1268 ไปอีก 18 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ รวมระยะทางประมาณ 133 กิโลเมตร ภูสอยดาว ยังคงให้บริการนักท่องเที่ยวแบบเปิด-ปิดตามเวลา คือ 8.00 – 14.00 น. หากมาเลยกำหนดก็สามารถสำรองที่พักกางเตนท์ได้ เพื่อรักษาสภาพป่าไม่ให้ถูกทำลายจากการค้างแรมแบบสถานที่เปิด หากฝนนี้ยัง ไม่มีไอเดียบรรเจิด ลองเปิดประตูสู่โลกใบใหม่ๆ รับธรรมชาติเขียวขจีใส่ตัวบ้าง น่าจะล้างความเครียดและความขุ่นใจ ในช่วงชาร์จแบตเล็กๆ กลางปีให้มีพลังใช้ชีวิตกันต่อไปยาวๆ บทความน่าอ่านจาก //www.emaginfo.com ร่วมกับ travel.mthai.com   Create Date : 20 มิถุนายน 2556     1 comment Last Update : 20 มิถุนายน 2556 22:44:32 น.     Counter : 1707 Pageviews.   Share Tweet

ลือ Oppo Find 7 มาพร้อมแบตเยอะกว่า S4 เกือบ 2 เท่า, CPU Snap 800!? Oppo Find 7 ติดตามข่าวล่าสุดกับ Tech.MThai สำหรับใครที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนสไตล์ Asian จาก Oppo ล่าสุดมีข่าวเกี่ยวกับสเปคของมือถือรุ่นเรือธงตัวใหม่ออกมาแล้วครับ แต่จะไม่ใช้ชื่อว่า Find 6 ต่อจากรุ่น Find 5 ตัวปัจจุบัน แต่จะใช้ชื่อรุ่นว่า Oppo Find 7 ครับ โดยได้มีสเปคหลุดออกมาจากทาง RBMen ออกมาดังนี้เลย สเปค Oppo Find 7 - CPU Qualcomm Snapdragon 800 (ไม่ระบุความเร็ว) - หน้าจอ 5 นิ้ว ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล - RAM 2GB - กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล - กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล - รองรับ NFC - แบตเตอรี่ 4000mAh จุดที่น่าสนใจที่สุดคงเป็นเรื่องของแบตเตอรี่ที่มีความจุมากถึง 4000mAh ครับ ที่จะทำให้มือถือหน้าจอ 5 นิ้วสามารถใช้งานได้นานขึ้น ถ้าเทียบกับมือถือรุ่นอื่นๆ ที่มีหน้าจอ 5 นิ้วเหมือนกันอย่าง Samsung Galaxy S4 ที่มีแบตเตอรี่เพียง 2600mAh เท่านั้น เชื่อว่า Find 7 จะใช้งานได้นานกว่าแน่นอน ส่วน CPU ที่ใช้ Snapdragon 800 ตัวนี้ก็ถือว่าแรงอยู่แล้วไม่ต้องห่วง นอกจากนี้เรื่องกล้องก็ถือว่าพัฒนาจาก Find 5 อยู่ครับ ตรงที่เป็นกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ส่วนอื่นก็ดูจะไม่เปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ ยกเว้นตัวเครื่องที่คาดว่าจะหนาขึ้นเล็กน้อย Oppo Find 7 คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ครับ ใครชอบถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าบ่อยๆ รอติดตามตัวนี้ให้ดีครับ เพราะ Oppo มักมีลูกเล่นกล้องมาให้เล่นเยอะเหมือนกัน ^^ source: androidauthority   Create Date : 20 มิถุนายน 2556     0 comment Last Update : 20 มิถุนายน 2556 22:43:36 น.     Counter : 1913 Pageviews.   Share Tweet

เมืองจำลอง (MINI SIAM) บางละมุง จังหวัด ชลบุรี กลับมาพบกับ MThai พาชิม..พาเที่ยว กันอีกครั้งครับ ซึ่งวันนี้ทีมงานก็ขอพามาเที่ยวเปลี่ยนจากบรรยากาศทะเลจ๋ามากันที่ เมืองจำลอง (MINI SIAM) บางละมุง จังหวัด ชลบุรี ละกันครับ  ยังไงก็แนะนำสำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพหรือชอบถูกถ่าย หุหุ) เพราะภายในเมืองจำลองนี้ต่างก็ได้รวบรวมโบราณสถาน และสถานที่สำคัญเช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม,อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย,สะพานข้ามแม่น้ำแคว,สะพานพระราม 9,ปราสาทหินพิมายฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีมินิยุโรป ซึ่งจำลองสถาปัตยกรรม ที่มีชื่อเสียง ของประเทศต่างๆ ทั่วภาคพื้นทวีปยุโรป และอเมริกา เช่น หอไอเฟล,เทพี สันติภาพ,แกรนแคนยอน ฯลฯ เรียกได้ว่าไปที่เดียวเหมือนได้เที่ยวรอบโลกเลยนะเนี่ย..ไปกันเลย เมืองจำลอง ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่ 143 เลยสี่แยก ตลาดนาเกลือ ประมาณ 500 เมตร (หาไม่ยากครับ) สองพิธีกรคู่ซ่า พาชิม..พาเที่ยว เมื่อมาถึงแล้วก็ไปซื้อบัตรกันก่อนซึ่ง อัตราค่าเข้าชมเมืองจำลอง ก็ถือว่าไม่แพงครับ อยู่ที่ราคา (คนไทย) 150   บาท ราคา (ต่างชาติ) 250   บาทเด็กไทย (อายุตั้งแต่ 4 – 10 ปี) 50   บาท เด็กต่างชาติ 120 บาท เด็กความสูงไม่เกิน 120 ซม. ราคาไม่คิดเงิน เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-21.00น. สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร 038 727 333 ,038 727 666 จ้า ความเป็นมา เมืองจำลอง เกิดขึ้นภายใต้แนวความคิดของ คุณเกษม เกษมเกียรติสกุล ซึ่งมีความสนใจ งานศิลปกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรมได้มีโอกาสเดินทาง ไปทำธุรกิจ และทำท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ ในหลายประเทศจนกระทั่งได้มีโอกาสไปเที่ยวชมที่ Madurodum ประเทศเนเธอแลนด์ และ Window on China ประเทศ ไต้หวัน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้จำลองสถานที่ และสถาปัตยกรรมที่สำคัญของโลกมารวบ รวมไว้ในอัตราส่วน1:25 เพื่อแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชม จึงได้เกิดความคิดว่าในเมืองไทยก็มีศิลปะที่มีความ สวยงามไม่แพ้กันรวมทั้ง สถาปัตยกรรม และโบราณสถานทางประวัติศาสตร์อยู่หลายแห่งคุณเกษม เกษมเกียรติสกุล ได้ใช้เวลากว่า 5 ปีใน การเดินทางไปสำรวจและศึกษาสถานที่ สำคัญต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย ตลอดจนยังต้องเดินทางไปยังต่างประเทศ เพื่อศึกษา และรวบรวมงานศิลปกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรม ที่มีความโดดเด่น เพื่อนำสิ่งเหล่านั้นมา ถ่ายทอดผ่านผลงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์จนกระทั่งปี พ.ศ.2529 เมืองจำลองจึงเกิด ขึ้นภายใต้แนวคิดดังกล่าวที่ต้องการให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการในพื้นที่ 30 ไร่ โซน MINI Siam เมื่อพ้นประตูทางเข้ามาก็ต้องเจอะเจอกับ ทศกัณฐ์ ตัวละครเอกตัวหนึ่งในเรื่องรามเกียรติ์ ตัวสูงใหญ่ น่าเกรงขาม (สีสันสดใสดีครับ)   สหัสเดชะ (แปลว่า มีกำลังนับพัน) เป็นยักษ์กายสีขาว เจ้าเมืองปางตาล มี 1000 หน้า 2000 มือ ร่างกายสูงใหญ่ดั่งเขาอัศกรรม มีกระบองวิเศษที่พระพรหมประทานให้มีฤทธิ์คือต้นชี้ตายปลายชี้เป็น หนึ่งในยักษ์ทวารบาลสองตน ที่ยืนเฝ้าประตูทางเข้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามคู่กับทศกัณฐ์ เพราะถือว่าเป็น ยักษ์ที่มีฤทธิ์มากดุจเดียวกับทศกัณฐ์ ช้างจำลองเหมือนมาก ตอนแรกมองผ่านๆ นึกว่าของจริง อิอิ ประติมากรรม พระอภัยมณี นางยักษ์ผีเสื้อสมุทร ราชรถ วรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์ สะพานแขวน พระราม 9 ที่เราๆ ต่างก็รู้จกกันดีครับ เป็นสะพานข้ามแม่น่ำเจ้าพระยาที่สร้างเชื่อมต่อระหว่างทางด่วนสายท่าเรือ-ดาวคะนอง แถมยังได้ชื่อว่า เป็นสะพานขึงสายเคเบิลระนาบเดียวที่ยาวที่สุดและยังเป็นสะพานที่สูงที่สุดในประเทศไทยเราอีกด้วย เชื่อมต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี ยาวกว่า 2,716 กิโลเมตร กว้าง 33 เมตร มีเสากระโดงสูง 79 เมตร 2 เสา อีกทั้งเสายึดสายเคเบิ้ลซึ่งโยงยึดสะพานไว้รวมมูลค่าก่อสร้างประมาณ 1,600 ล้านบาท สถานีรถไฟหัวลำโพง เป็นสถานีรถไฟหลักของประเทศไทย และเป็นสถานีที่เก่าแก่ที่สุด สร้างในสมัย รัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2453 สร้างเสร็จและเริ่มใช้งาน วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2459 ในปัจจุบันสถานีรถไฟหัวลำโพง มีทางเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานครหรือรถไฟฟ้าใต้ดินบริเวณถนนพระรามที่ 4 บ้านเรือนไทย 4 ภาคงานสถาปัตยกรรม ท่าอากาศยานดอนเมือง(ชื่อเดิมคือ ท่าอากาศยานกรุงเทพ) หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า สนามบินดอนเมือง ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสีกัน เขตดอนเมือง ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เปิดดำเนินการครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2457 ปิดตัวลงวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 วันเดียวกับที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเปิดใช้งาน โดยสนามบินดอนเมืองถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่ซ่อมเครื่องบิน ฝึกบิน และสำหรับจอดเครื่องบินส่วนตัวของบุคคลสำคัญ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2550 มีการนำเที่ยวบิน ภายในประเทศบางเที่ยวบินมาลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หลังจากพบปัญหาหลายอย่างที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ   สวนหลวง ร.9 เป็นสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ อยู่ในแขวงหนองบอน เขตประเวศ ทางตะวันออกของกรุงเทพมหานคร จัดสร้างเพื่อสร้างเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัว ในศุภมงคลสมัยเจริญพระชนมพรรษาครบรอบ 60 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2530 วัดธรรมมงคล กรุงเทพมหานคร เป็นเจดีย์ที่สูงสุดในประเทศไทย ชั้นบนสุดบรรจุพระเกศา พระอุรังคธาตุ พระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้รับจากประเทศบังคลาเทศ ฐานเจดีย์ เป็นทรง 4 เหลี่ยม สูง 94.78 เมตร มี 14 ชั้น ประกอบด้วยห้องแสดงพิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ วิทยาลัยราชภัฏฯ ส่วนฐานเจดีย์เป็นโรงเรียน ครูสอนสมาธิ (สถาบันพลังจิตตานุภาพ) มองไปไกลๆ อีกฝั่งเราก็สามารถเห็น พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม ได้อีกด้วย พักเหนื่อยแป๊ป หาไรเย็นๆ กินให้ชื่นใจก่อนไปลุย โซน MINI Europe กันต่อ (กว้างดีจริงๆ เดินไม่ทั่วสักที) โซน MINI Europe ประตูชัยปารีส ฝรั่งเศส (สัญลักษณ์แห่งชัยชนะ) ของจริงตั้งอยู่ใจกลางเมืองปารีส ฝรั่งเศสสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1835 มีความสูงประมาณ 50 เมตร กว้าง 45 เมตร ได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมแบบคอนสแตนติน ของกรุงโรม ประเทศ อิตาลี (โดยทั้งสองฝั่งของประตูชัยจะมีรูปประติมากรรมแสดงถึงชัยชนะของกษัตริย์นโปเลียนทั้งในด้านการทหารและสนธิสัญญา อีกด้วย) เทียบขนาดส่วนสูงกับพี่ทีมงานของเราครับ หอไอเฟล ปารีส ฝรั่งเศส  จำลองได้เหมือนดูอลังการดีครับ (แต่แตกต่างกันที่สีรึป่าว) โดยของจริงมีขนาดความ สูงประมาณอยู่ที่ประมาณ 300 เมตร และใช้เหล็กกว่า 7,000 ตัน ออกแบบโดยอเล็กซ์ ซานเดอร์ กุสตาฟ เอฟเฟล เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี ในการปฏิวัติฝรั่งเศสและงานปารีสเวิลด์แฟร์ ใน ปี ค.ศ.1889 มหาวิหารอบูชิมเบล อียิปต์ สร้างในสมัยฟาโรห์รามเลส ที่ 2 เพื่อเป็นการอุทิศ ให้แก่เทพเจ้าทั้งสามองค์ แก่ เฮลิโอโปลิส,เมมฟิซ และ ธีบีส โดยด้านหน้าของวิหารมีรูปปั้นขนาดใหญ่ ที่มีความสูงถึง 20 เมตรส่วนรูปปั้นรอบๆ พระบาทเป็นรูปปั้นของมเหสีและลูกๆหลานๆของพระองค์ วิหารนี้ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1812 โวลกากราดอนุสาวรีย์นี้ สร้างเพื่อระลึกถึงช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 เมื่อเยอรมันบุกรัสเซีย สมรภูมิรบที่โวลโกกราดเป็นการรบเพื่อปกป้องประเทศจากกองทัพฮิตเลอร์ เมื่อสิ้นสุดสงครามประชากรครึ่งเมืองเสียชีวิตโดยรัสเซียเป็นฝ่ายชนะ โวลโกกราด เดิมชื่อเมืองสตาลินกราด หลังจากสตาลินหมดอำนาจลง จึงได้เปลี่ยนชื่อเมือง อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เป็นของขวัญที่ประเทศฝรั่งเศสได้มอบให้กับสหรัฐเพื่อเป็นการสร้างสัมพันธไมตรีและส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตย ในปี ค.ศ. 1886 นั่นเองละครับ โดยของจริง มีความสูงประมาณ 302 ฟูต (นับรวมคบเพลิงด้วย อิอิ) ผิวทำด้วยแผ่นทองแดงหนา จำนวน 300 แผ่นเลยทีเดียว มหาวิหารโคโลญ ประเทศเยอรมัน เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 1248 แต่มีปัญหาให้ต้องหยุดพักการก่อสร้างไปบ้าง จึงต้องใช้เวลากว่าหกร้อยปีจึงสร้างเสร็จสมบูรณ์มหาวิหารโคโลญเป็นศาสนสถานของคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก นับเป็นวิหารที่ใหญ่และสูงที่สุดในโลกในสมัยนั้นลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโกธิก เป็นหอคอยแฝดสูง 157 เมตร กว้าง 86 เมตร ยาว 144 เมตร สร้างเพื่ออุทิศให้นักบุญปีเตอร์และพระแม่มารี บอกได้คำ เดียวว่าทำได้ละเอียดยิบๆ เลย สุดยอด เท่าที่ดูเหมือนจะทำยากที่สุดในเมืองจำลองนี้แล้วแหละผมว่า น้ำพุเทรวี่ ตั้งอยู่ที่เทรวี ริโอเนในกรุงโรมในประเทศอิตาลี เป็นน้ำพุที่มีความสูง 25.9 เมตร กว้าง 19.8 เมตร เป็นน้ำพุแบบบาโรกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโรม ส่วนกลางของน้ำพุ มีรูปปั้นของเทพเจ้าเนปจูน (Neptune) ขี่รถม้าติดปีก แสดงถึงความมีสุขภาพที่แข็งแรง และความอุดมสมบูรณ์ของอาณาจักร พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์อโทเมียม ประเทศเบลเยี่ยมโครงเหล็กจำลองโครงสร้างอะตอม สัญลักษณ์ประจำเมืองบรัสเซล สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1958 เพื่องานแสดง EXPO 1958  เม้าท์รัชมอร์ เซาท์ดาโกด้า ตั้งอยู่ในรัฐเซาท์ดาโคตา มีรูปสลักหน้าประธานาธิบดีอเมริกันสี่คนบนหน้าผาหินแกรนิตสูง 18 เมตร โดยแต่ละคนจะเป็นตัวแทนของอุดมการณ์ในแต่ละด้านของประเทศ จอร์จ วอชิงตัน ด้านการสร้างชาติ โธมัส เจฟเฟอร์สัน ด้านปรัชญาการเมือง ธีโอดอร์ รูสเวลต์ ด้านการแผ่ขยายและอนุรักษ์ อับราฮัม ลิงคอล์น ด้านการสงวนรักษา โดยรูปเหมือนทั้งสี่ได้แกะสลักเมื่อปี ค.ศ. 1927-1941 รูปปั้นหิน อ่อนเดวิด ประเทศอิตาลีผลงานของ ไมเคิลแอนเจโล สลักขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1501 ถึง 1504 เป็นงานชิ้นเอกของรูปสลักยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาหรือยุคเรอเนสซองซ์ เป็นหนึ่งในสองชิ้นงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของไมเคิลแอนเจโล ร่วมกับปีเอต้า เป็นรูปสลักกษัตริย์เดวิดแห่งอิสราเอลในวัยหนุ่ม สลักหินที่เป็นที่จดจำได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ศิลปะ ได้รับการนับถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความสวยงามของพละกำลังและความหนุ่มสาว ของมนุษย์ รูปปั้นของพระเยซู เมือง ริโอ เดอ จาเนโร พระเยซูที่โปรดให้พ้นบาป ยืนสูง 30 เมตร (98 ฟุต) และกำลังมองข้ามเมือง Rio de Janeiro หนึ่งในรูปปั้นสูงที่สุด ในโลก. รูปปั้นแสดง พระเยซูเยืนยื่นแขนออกมาต้อนรับ และเป็นหนึ่งของสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงมากของเมืองนี้ สะพานทาวเวอร์บริดจ์ ประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ข้างหอคอยลอนดอนสร้างขึ้นระหว่างปี ค. ศ. 1886 – 1894 ใช้เวลาสร้าง 8 ปี เพื่อการสัญจรข้ามแม่น้ำเทมส์ ออกแบบสไตล์วิกตอเรียนโกธิก เป็นสะพานแบบเปิดปิดได้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศอังกฤษ ปราสาทเชอนองโซ เป็นปราสาทเก่าแก่ มีอายุมากกว่า 400 ปี อยู่ในแคว้นนอร์มังดี ของฝรั่งเศส วังเดิมสร้างบนโรงป่นแป้งเก่า อาณาบริเวณโดยรอบเป็นทุ่งหญ้า และป่าเขา ตัวปราสาทออกแบบก่อสร้างผสมผสานระหว่างศิลปเรเนอซองส์กับศิลปะแบบคลาสสิคสมัยใหม่เข้าด้วยกัน โดยมีการสร้างต่อเติมหลายครั้ง ปราสาทหลังใหญ่ตั้งอยู่ริมน้ำและมีการต่อเติมส่วนแกลลอลี่คล่อมลงบนแม่น้ำ แชร์ จนทำให้ตัวปราสาททั้งหมดขวางอยู่กลางลำน้ำ แต่ไม่ขวางกระแสน้ำ โบสถ์เซนต์ บาซิล ประเทศ รัสเซีย ตั้งอยู่บริเวณจตุรัสแดง ภายนอกพระราชวังเครมลิน โดยสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับการที่รัสเซีย รบชนะจากการคุกคามของทหารมองโกล เป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์นิกายรัสเซียนออโทด๊อกซ์ เป็นอาคารสถาปัตยกรรมที่สวยที่สุดในกรุงมอสโคว์ ประกอบด้วยยอดโดมทั้งหมด 9 ยอด มียอดกลางสูงเด่นและล้อมรอบไปด้วยยอดอีก 8 ยอด ซึ่งแต่ละยอดจะเป็นตัวแทนของ ดวงดาว 8 ดวง หรือ 8 วัน ตามปฏิทินของยิวโบราณ หมายถึงดินแดนที่เป็นสรวงสวรรค์ ปราสาทน้อยวันส์สไตล์ ประเทศเยอรมันเป็นปราสาทที่งดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก และเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา สร้างโดยพระประสงค์ของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย หมู่บ้านไวกิ้ง ประเทศเดนมาร์ก  อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ซากเรือไวกิ้ง (Vikingeskibshallen ) ซึ่งเป็นที่เก็บรักษาซากเรือไวกิ้งซึ่งมีอายุมากกว่า 1000 ปี จำนวน 5 ซาก ที่ได้ขุดพบอยู่ที่ท่าเรือเมืองรอสคิวเด่ (Roskilde) บริเวณนอกพิพิธภัณฑ์ ได้จัดให้เป็นหมู่บ้านจำลองชาวไวกิ้งในสมัยโบราณ มีการจัดแสดงให้ชมการต่อเรือไวกิ้ง The stone heads of EasterIsland พิพิธภัณฑ์กองทัพเรือ ปาเร่ย์ เดอร์ ไซโย เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเป็นพิพิธภัณฑ์กองทัพเรือ ถูกสร้างขึ้นในปี 1937  เป็นที่รวบรวมสิ่งของต่างๆ เกี่ยวกับกองทัพเรือมากมายที่น่าสนใจคือ มีเรือของโคลัมบัส ชื่อซานตามาเรียอยู่ด้วย ตัวอาคารออกแบบโค้งรับกับหอไอเฟลที่อยู่ตรงกันข้าม ตรงช่วงกลางมีน้ำพุใหญ่ และงดงามมาก เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ใน ค.ศ. 1937 วิหารพาเธนอน คือวิหารโบราณบนเนินอะโครโพลิสในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ สร้างเพื่อเป็นศาสนสถานบูชาเทพีเอเธนาหรือเทพีแห่งปัญญาความรอบรู้ ในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสต์ศักราช เป็นสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมกรีกโบราณที่มีชื่อเสียงที่สุดแสดงให้เห็นถึงความเฉลียวฉลาดของสถาปนิกในสมัยนั้น ประติมากรรมจากไม้แกะสลักขนาดใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมพื้นเมืองที่ปรากฎอยู่ในชนเผ่าอินเดียนแดง เราสามารถพบเห็นเสาโทเทมได้ในชุมชนชนเผ่าพื้นเมืองในแคนาดาและสหรัฐอเมริกา ลักษณะของเสาโทเทมจะแกะสลักขึ้นมาจากลำต้นไม้ขนาดใหญ่เพียงต้นเดียวส่วนใหญ่ไม้ที่นำมาแกะสลักนั้นคือ ไม้จากต้นซีดาร์ ซึ่งเป็นไม้ที่มีอยู่อย่างชุกชุมในป่าไม้ชายฝั่งทะเลตะวันตก หอฟ้าเทียนถาน จีน สร้างขึ้นในราชวงศ์หมิง ที่เมืองปักกิ่ง ปัจจุบันจัดเป็น สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ โดยห้องที่ถือว่าเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ก็คือ ห้อง Qinian เป็นห้องสวดมนต์ เพื่อฤดูการเก็บเกี่ยวที่ดี นครวัด กัมพูชา ได้ยกฐานะขึ้นเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเขมรและได้เริ่มทำการก่อสร้างเป็นปราสาทนครวัด เพื่อใช้เป็นสถาที่ฝังพระศพของพระเจ้าสุริยะวรมันที่ 2 โดยใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 37 ปีเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังสามารถนับรวม งานแกะสลักจากหินทั้งสิ้นได้กว่า 1,635 ตัว และใช้แรงงานคนกว่า 1,000,000 คน รวมไปถึงช้างอีก 5,000 เชือก ต่างก็เต็มไปด้วยเหล่าทหารองครักษ์มากมาย ข้อมูล เมืองจำลอง บางละมุง ชลบุรี ที่อยู่   เมืองจำลองตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่ 143 เลยสี่แยก ตลาดนาเกลือ ประมาณ 500 เมตร อัตราค่าเข้าชมเมืองจำลอง เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-21.00น. ราคา  (คนไทย) 150   บาท ราคา (ต่างชาติ) 250   บาท เด็กไทย (อายุตั้งแต่ 4 – 10 ปี) 50   บาท เด็กต่างชาติ 120 บาท เด็กความสูงไม่เกิน 120 ซม.ไม่คิดเงิน สอบถามโทร 038 727 333 ,038 727 666 การแสดง มีการแสดงนาฏศิลป์ ทุกวัน เวลา 18.00 – 21.30 น. นอกจากนี้ทางเมืองจำลองรับจัดงานเลี้ยงงานแต่งงาน งานพิธีต่าง ๆ งานประชุมสัมมนา หรืออาหารกลางวันและ อาหารเย็น สำหรับกรุ๊ปทัวร์ราคากันเอง . เมืองจำลอง (MINI SIAM) บางละมุง จังหวัด ชลบุรี   Create Date : 17 มิถุนายน 2556     2 comment Last Update : 17 มิถุนายน 2556 22:30:23 น.     Counter : 2389 Pageviews.   Share Tweet

Google Glass เวอร์ชั่นขายจริง อาจมีราคาแค่ 6,000 บาท!? สำหรับในวงการไอที หรือผู้ที่ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเทคโนโลยีคงจะไม่มีใครไม่รู้จัก Google Glass แว่นตาอัจฉริยะที่สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง เหมือนกับคุณสวมใส่สมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์สุดล้ำตลอดเวลา ล่าสุดมีบทวิเคราะห์ของทาง Forbes ออกมาว่า Google Glass เวอร์ชั่นที่จะวางขายเนี่ย อาจจะไม่ได้มีราคาสูงลิบเฉียด 50,000 บาทเหมือนที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ แต่อาจมีราคาแค่ ประมาณ 6,000 บาทเท่านั้น! จากข่าวก่อนหน้านี้รายงานว่า Google จะตั้งราคา Google Glass ไว้ที่ $1,500 หรือคิดเป็นไงไทยขำๆ ก็แค่ 45,000 บาทเท่านั้น! ซึ่งราคานี้บอกตรงๆ ว่าคนที่ทำงานหาเข้ากินค่ำอย่างเราๆ อาจจะตัดใจเป็นเจ้าของได้ยากแน่นอน แต่มีบทวิเคราะห์ของ Forbes บอกเอาไว้ว่า Google อาจจะทำ Google Glass Consumer Version ซึ่งเป็นรุ่นราคาประหยัดออกมาขายบุคคลทั่วไปในราคาประมาณ $199-$400 (ประมาณ 6,000-12,000 บาท) ซึ่งดูจะมีความเป็นไปได้อยู่ โดยวิเคราะห์ด้านราคาเอาไว้ดังนี้ครับ Forbes เปรียบเทียบ Glass ว่าเป็นสมาร์ทโฟนสเปคต่ำๆ 1 เครื่อง โดยยกตัวอย่างเป็นมือถือของ Samsung รุ่นล่างๆ ตัวหนึ่งราคาประมาณ $85.60 (2,500 บาท), ต้นทุนราคาของ micro display หรือหน้าจอของ Glass ก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ $30 (1,200 บาท), ส่วนที่เหลือก็จะเป็นค่าสายไฟ, พอร์ตเชื่อต่อ, ค่ากล่อง, แพ็คเกจจิ้ง, และอื่นๆ รวมแล้วก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ $200 หรือประมาณ 6,000 บาทเท่านั้น และถ้ารวมค่าการตลาด ค่าโฆษณาหรืออื่นๆ ก็น่าจะตกที่ไม่เกิน $349 หรือประมาณ 10,500 บาท นอกจากนี้ Forbes เชื่อว่า Google จะขาย Google Glass เวอร์ชั่น Consumer Version ในราคาไม่น่าจะเกินจากสมาร์มโฟนไปมาก ส่วนตัวผมเองก็เชื่อนะครับว่า ถ้าหาก Google ขาย Glass ในราคาเกือบ 50,000 จริงๆ คงจะมีไม่กี่คนที่ซื้อมาเล่นแน่นอน (แน่นอนว่าผมเป็นหนึ่งในนั้นที่จะไม่ซื้อแน่นอน) เพื่อนๆ ล่ะครับ คิดว่า Google Glass จะขายจริงราคาเท่าไหร่ ^^ source: androidauthority //tech.mthai.com/gadget/28086.html   Create Date : 17 มิถุนายน 2556     0 comment Last Update : 17 มิถุนายน 2556 22:28:51 น.     Counter : 1861 Pageviews.   Share Tweet