GM เปิดตัว Chevrolet Miray Concept รถไฮบริดไฟฟ้าที่งาน 2011 Seoul Motor Show General Motors ประเทศเกาหลีใต้ ได้ทำการเปิดตัว Chevrolet Miray Concept รถไฮบริดไฟฟ้าสไตล์ Roadster ที่งาน 2011 Seoul Motor Show คำว่า Miray มาจากภาษาเกาหลีที่แปลว่า “อนาคต” และรถต้นแบบคันนี้ก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของ Chevrolet ในปีนี้ ระบบขับเคลื่อนของ Concept Car นี้เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้งด้านหน้ารถจำนวน 2 ตัว แต่ละตัวให้กำลัง 15 กิโลวัตต์หรือ 20 แรงม้า ส่งกำลังไปยังล้อหน้าโดยมีแหล่งจ่ายไฟเป็นชุดแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนขนาด 1.6 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่จะถูกชาร์จไฟผ่านพลังงานที่ได้จากการเบรค โดยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งสองจะทำงานควบคู่กับเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตรที่ติดตั้งที่ส่วนหลังของรถโดยส่งกำลังไปขับเคลื่อนล้อหลัง Miray สามารถใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นระบบขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียวได้ โดยเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินจะทำงานผ่านกล่องเกียร์ Dual-Clutch ในกรณีที่ผู้ขับต้องการกำลังรถเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม Chevrolet ยังไม่เปิดเผยตัวเลขด้านสมรรถนะของรถรุ่นนี้ออกมา ในด้านการออกแบบ Miray ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถคลาสสิคคือ Monza SS รุ่นปี 1963 และ Corvair Super Spyder รุ่นปี 1962 ตัวถังมีการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ในส่วนของสปอยเลอร์ต่างๆ ส่วนล้ออัลลอยเป็นขอบ 20 นิ้วสำหรับล้อคู่หน้า ส่วนล้อหลังเป็นขนาด 21 นิ้ว ภายในห้องโดยสารมีการออกแบบตามแนวคิดชื่อรุ่นคือ “อนาคต” ด้วยการติดตั้งปุ่มสตาร์ทไว้ที่คอนโซลกลาง ติดตั้งไฟแอมเบียนท์ โดยมีค็อกพิทคู่สำหรับผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้าครับ   Create Date : 04 เมษายน 2554     3 comment Last Update : 4 เมษายน 2554 23:27:40 น.     Counter : 1135 Pageviews.   Share Tweet

งานนี้ไม่มีโกหก! BMW M3 Pickup Truck กระบะสุดหรู เครื่องยนต์ V8 420 แรงม้า BMW เลือกวัน April Fool’s Day ในการเผยภาพกระบะปิกอัพที่เคยมีข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วว่าเป็นเรื่องสนุกๆของ บริษัทฯที่ทำออกมาเล่นๆ แต่บริษัทฯกลับมีแผนที่จะสร้างขึ้นมาจริงๆ มันคือ BMW M3 Pickup Truck ที่มีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร ที่มีใช้กับ M3 รุ่นอื่นๆ(Coupe, Convertible และ Sedan) โดยสามารถบรรทุกสัมภาระท้ายได้ถึง 450 กิโลกรัมหรือสามารถใส่ถุงกอล์ฟขนาดมาตรฐาน 46 นิ้วได้ถึง 20 ใบ ซึ่งกระบะท้ายของ M3 เวอร์ชั่นนี้ทำด้วยอลูมิเนียมคุณภาพสูง BMW เพิ่มเติมว่า น้ำหนักรถเปล่ารุ่นนี้เบากว่าของ M3 Convertible ถึง 50 กิโลกรัม นอกจากนั้นยังใช้หลังคาแบบ Targa ที่ช่วยลดน้ำหนักไปอีก 20 กิโลกรัม ในขณะที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลงด้วย และแม้ว่าจะมีการถอดส่วนของที่นั่งด้านหลังออก แต่จากการทดสอบในอุโมงค์ลมที่ Aerodynamic Test Concet ของ BMW Group พบว่า กระบะคันนี้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงฉุดเท่ากับของ M3 Coupe ในด้านสมรรถนะยังไม่มีการทดสอบอะไรมากมาย BMW เพียงแต่เผยว่า ความเร็วสูงสุดสามารถทำได้ถึง 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง สิ่งที่น่าเสียดายอย่างเดียวก็คือ BMW จะผลิต M3 Pickup Truck ขึ้นมาเพียงคันเดียวเท่านั้นเพื่อใช้งานขนส่งเกี่ยวกับงานเวิร์คช็อปที่ BMW M GmbH ที่มา: BMW //www.autospinn.com/2011/04/%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B0-%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%9E-bmw-m3-pickup-truck/   Create Date : 02 เมษายน 2554     0 comment Last Update : 2 เมษายน 2554 12:00:34 น.     Counter : 1655 Pageviews.   Share Tweet

PORSCHE 918 Hybrid เปิดรับจองแล้วที่เยอรมัน จำกัดแค่ 918 คัน ส่งมอบปี 2013 ปอร์เช่ เอจี เปิดจองเป็นทางการแล้วกับรุ่น 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) สปอร์ตชั้นนำที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฮบริด จากการตอบสนองอย่างดีของลูกค้าตั้งแต่เปิดตัวในเจนีวามอเตอร์โชว์ 2010 ทำให้ปอร์เช่ตัดสินใจเร่งการผลิตอย่างรวดเร็ว ต้องยกนิ้วให้กับเทคโนโลยีไฮบริดที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก ด้วยอัตราบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแค่เพียง 3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (ตามรูปแบบการขับขี่ของ NEDC) เครื่องยนต์ V8 มีกำลังกว่า 500 แรงม้า ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวได้ช่วยเพิ่มพลังกว่า 218 แรงม้า และในตอนนี้รถสปอร์ตชั้นนำ 918 สไปเดอร์ พร้อมให้สั่งจอง เพื่อเป็นเจ้าของนวัตกรรมยานยนต์รุ่นนี้แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่า 918 สไปเดอร์มีความพิเศษและมีเอกลักษณ์เฉพาะเหนือใคร จึงจำกัดจำนวนการผลิต (Limited Edition) แค่ 918 คันเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าลูกค้าสั่งซื้อเร็วเท่าไหร่ก็จะได้รับรถเร็วขึ้นเท่านั้น เนื่องจากการผลิตจะขึ้นอยู่กับลำดับการสั่งซื้อ และ 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) จะเริ่มผลิตตั้งแต่ 18 กันยายน 2013 ที่โรงงานในมือง Stuttgart-Zuffenhausen ส่งมอบจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2013 ดีเอ็นเอ (DNA) ของการออกแบบได้รับจากรุ่นคาร์เรร่า จีที (Carrera GT) และรุ่น 917 รวมไปถึงรุ่นอาร์เอส สไปเดอร์ (RS Spyder) และคล้ายกับรถต้นแบบที่ออกมาในปี 2010 อีกด้วย ในความคล้ายนั้นมีความแตกต่าง คือ รถในสายการผลิตจะใช้คาร์บอนไฟเบอร์พลาสติกเสริมด้วยโมโนคล๊อค (monocoque) พร้อมระบบหลังคาเปิดปิดแบบ Manual มาพร้อมกับแผ่นหลังคาที่สามารถถอดออกและนำไปเก็บไว้ที่ช่องเก็บสัมภาระด้านหน้าได้ด้วย 918 สไปเดอร์เคลื่อนด้วยระบบไฮบริด ประกอบด้วยเครื่องยนต์ V8 แบบรอบสูงและมีความจุเกินกว่า 4 ลิตร มีกำลังกว่า 500 แรงม้า เครื่องยนต์วางกลางนี้ถูกสร้างมาจากพื้นฐานความสำเร็จจากรุ่นอาร์เอส สไปเดอร์ (RS Spyder) แสดงศักยภาพของเครื่องยนต์ที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพให้ได้เห็นกันมาแล้ว ด้วยการคว้าชัยชนะในการแข่งขัน Michelin Green X Challenge ในรายการแข่งขัน American Le Mans และการแข่งขัน Le Mans Series แบบ 24 ชั่วโมง ขุมพลังของเครื่องยนต์จะถูกส่งผ่านไปยังล้อหลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Porsche-Doppelkupplungsgetriebe (PDK) ระบบเกียร์แบบคลัทซ์คู่ของปอร์เช่นั่นเอง ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวถูกติดตั้งอยู่ที่เพลาด้านหน้าและเพลาด้านหลังอย่างละตัว ส่งพลังเพิ่ม 218 แรงม้า ส่งผลให้เกิดนวัตกรรมเครื่องยนต์ที่เหนือชั้นด้วยระบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ แบตเตอรี่แบบ liquid-cooled lithinum-ion เป็นแหล่งเก็บพลังงาน และสามารถชาร์จได้จากที่ชาร์จภายใน สามารถวิ่งไฟฟ้าล้านได้ 25 กิโลเมตร ใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 3 ชั่วโมง อัตราบริโภคน้ำมันตามรูปแบบการขับของ NEDC (ECE-R 101) อยู่ที่ 3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพียง 70 กรัม/กิโลเมตร และเป็นสปอร์ตที่มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุดกว่า 320 กิโลเมตร/ชั่วโมง หมายความว่าสไปเดอร์คันนี้สามารถทำเวลาบนสนาม Nürburgring Nordschleife ได้ในเวลา 7 นาที 30 วินาที ซึ่งเป็นเวลาที่ดีกว่าคาร์เรร่า จีที (Carrera GT) โดยใช้เวลา 7 นาที 32 วินาที ความเร็วสูงสุดหากวิ่งด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวอยู๋ที่ 150 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพื่อลดระยะเวลาของลูกค้าที่ต้องรอ 918 สไปเดอร์ ปอร์เช่จึงยื่นข้อเสนอพิเศษให้ลูกค้า เปิดรับจองปอร์เช่ 911 เทอร์โบ เอส (911 Turbo S) รุ่น “Edition 918 Spyder” จำนวนจำกัด 918 คัน เช่นเดียวกับ 918 สไปเดอร์ การออกแบบภายในและภายนอกที่มองเห็น ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่น 918 สไปเดอร์ เพื่อสร้างความโดดเด่นไม่ว่าเป็นการนำลายเส้นสีเขียวแบบฉบับของปอร์เช่มาใช้บนโลโก้ ลายตะเข็บ เข็มหน้าปัด หน้อจอ PCM และฝาครอบขอบประตู ฝาที่เก็บสัมภาระบนรถด้านหน้ายังได้รับการประดับด้วยหมายเลขที่ลูกค้าเลือกเพื่อความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งอุปกรณ์และเทคโนโลยีขั้นพื้นฐานของ 911 Turbo S "Edition 918 Spyder" จะมาจากรุ่น 911 เทอร์โบ เอส ซึ่งมีกำลัง 530 แรงม้า สำหรับรุ่นพิเศษจะมีอุปกรณ์มาตรฐานเหล่านี้ติดตั้งมาให้ครบถ้วน โดยเฉพาะภายในที่มีการเสริมชิ้นส่วนของหนังเพิ่มเติม รวมถึงอุปกรณ์พิเศษและองค์ประกอบของคาร์บอนที่เพิ่มเติมเข้าไปทั้งภายในและภายนอกด้วยเช่นกัน   Create Date : 01 เมษายน 2554     0 comment Last Update : 1 เมษายน 2554 8:53:50 น.     Counter : 1703 Pageviews.   Share Tweet

เปิดสเปคเครื่องยนต์ Mazda BT-50 ตัวใหม่ รุ่นปี 2012 บล็อคใหม่แรงกว่าเดิมเห็นๆ แม้ว่าจะเป็นการเผยรายละเอียดเครื่องยนต์โดย Mazda ประเทศออสเตรเลีย แต่ข้อมูลพื้นฐานทั่วไปก็คงไม่แตกต่างจาก BT-50 ตัวใหม่ที่คาดว่าจะเผยโฉมในไทยภายในปีนี้เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับกระบะใน เครือคนละแบรนด์อย่าง Ford Ranger ซึ่งได้เปิดตัวที่ออสเตรเลียก่อนแล้วจึงมาต่อที่ไทยในงานมอเตอร์โชว์ครั้ง ที่ 32 ช่วงนี้ และเช่นเดียวกับ Ranger กระบะหน้าตาโฉบเฉี่ยวอย่าง BT-50 รุ่นนี้จะมีการผลิตขึ้นในเมืองไทยแต่ส่งขายทั่วโลกเช่นกัน (All-New Ranger จะเริ่มมีจำหน่ายในไทยปลายปีนี้) สำหรับเครื่องยนต์ของ All-New BT-50 รุ่นนี้จะเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล MZ-CD 5 สูบ 3.2 ลิตร กำลังแรงม้า 200 ตัว แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร โดยตัวเลขของกำลังสูงสุดเพิ่มขึ้น 28% ในขณะที่แรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ที่ใช้กับ BT-50 เจนเนอเรชั่นปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม Mazda ยังไม่เปิดตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแต่ให้ความมั่นใจว่าประหยัด น้ำมันกว่าเครื่องยนต์รุ่นปัจจุบันแน่นอน ทั้งนี้ก็เพราะมีการใช้ระบบเชื้อเพลิงแรงดันสูงรุ่นใหม่และเทคโนโลยี เทอร์โบชาร์จที่ทันสมัยมากขึ้นนั่นเอง อีกรุ่นเครื่องยนต์ที่มีใช้กับ Ford Ranger ตัวใหม่ด้วยเช่นกันก็คือ เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 2.2 ลิตร บล็อคใหม่ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร โดยกำลังม้าและแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้น 5% และ 14% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตรที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ตัวเลขด้านสมรรถนะทั้งหมดนี้เป็นตัวเลขเดียวกันกับของ All-New Ranger ที่เพิ่งแถลงข่าวในเมืองไทยไปเมื่อวันก่อน โดย Ranger ของไทยยังมีเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ แรงบิด 226 นิวตันเมตร กำลังสูงสุด 166 แรงม้าให้เลือกอีกหนึ่งรุ่น ซึ่งบอกเป็นนัยว่าเครื่องยนต์เบนซินของ BT-50 จะมีสเปคออกมาประมาณไหน จากการเปิดเผยของ Mazda ออสเตรเลีย BT-50 รุ่นใหม่นี้ได้ถูกพัฒนาโดยมุ่งเน้นในด้านการเพิ่มสมรรถนะในการลากจูงทั้งที่ ใช้ระบบเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ โดยรุ่นเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร สามารถลากจูงน้ำหนักได้สูงสุดถึง 3,350 กิโลกรัม (ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกับ Ranger ตัวใหม่ของไทยอีกเช่นกัน) มากกว่ารุ่นเดิมถึง 350 กิโลกรัมส่วนรุ่นเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร สามารถลากจูงน้ำหนักได้ที่ 2,500 กิโลกรัม มากกว่ารุ่นเดิม 250 กิโลกรัม All-New Mazda BT-50 ที่ต่างประเทศมีข่าวมาเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง แต่ของไทยยังเงียบกริบอยู่เช่นเดิม แต่คาดว่าในอีกไม่นานเราจะได้เห็นความเคลื่อนไหวของรถรุ่นนี้ในเมือง ไทยอย่างแน่นอน สำหรับสาวกกระบะต้องคอยจับตาดูการเปิดตัวกระบะปิกอัพตัวใหม่ 3 รุ่นจาก Mazda, Ford และ Chevrolet ในปลายปีนี้ครับ!   Create Date : 30 มีนาคม 2554     0 comment Last Update : 30 มีนาคม 2554 11:22:21 น.     Counter : 1898 Pageviews.   Share Tweet

ซูซูกิ ดีเดย์อีโคาร์ต้นปีหน้า มั่นใจกระจายรถทั่วถึง เสริมช่องทางขายโชว์รูมมอเตอร์ไซค์ "ซูซูกิ" ผนึกกำลังธุรกิจรถจักรยานยนต์ลุย "อีโคคาร์" ดึงขายร่วมในโชว์รูม พร้อมเปิดตัวมีนาคม 2555 มั่นใจเปิดสายการผลิตปีแรก 1 หมื่นคัน ขายในประเทศ 90% ส่วนปีนี้คาดยอดขายโตทะลุ "หมื่น" คัน หลังอัดงบฯ 350 ล้านลุยตลาดทั้งปี นายทาคายูคิ ซูกิยามา ประธาน บริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือเอสเอเอ็มที กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถยนต์นั่งขนาดเล็ก หรืออีโคคาร์ว่า ดำเนินการทุกอย่างตามแผนงานทุกประการ โดยกำหนดคลอดในเดือนมีนาคม 2555 จะเริ่มผลิตจำนวน 10,000 คันในปีแรก โดย 90% รองรับความต้องการในประเทศ และที่เหลืออีก 10% รองรับตลาดอื่น และภายในปีที่ 5 บริษัทจะสามารถผลิตรถอีโคคาร์ได้ที่ 100,000 คันอย่างแน่นอน แบ่งเป็นการผลิตเพื่อรองรับตลาดในประเทศ 50% และส่งออกอีก 50% ไปยังประเทศในแถบอาเซียน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยอีโคคาร์ของบริษัทนั้นจะใช้เครื่องยนต์ขนาดต่ำกว่า 1,300 ซีซี และจะทำตลาดในกลุ่มลูกค้าที่ต้องการดีไซน์โดดเด่น และสมรรถนะการขับขี่ที่เป็นเลิศ ซึ่งขณะนี้โรงงานมูลค่า 7,400 ล้านบาทอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และจะแล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้ ทั้งนี้บริษัทจะเดินหน้าแผนการตลาดเพื่อรองรับการเปิดตัวรถยนต์อีโคคาร์ อย่างเต็มรูปแบบต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ได้เจรจากับบริษัทไทยซูซูกิมอเตอร์ ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซูซูกิให้นำอีโคคาร์ซูซูกิมาจำหน่ายในโชว์ รูม บริษัทประเมินว่า กลุ่มลูกค้าของรถจักรยานยนต์และรถยนต์อีโคคาร์มีความใกล้เคียงกัน และน่าจะช่วยดึงดูดให้ลูกค้าจักรยานยนต์เข้ามาสัมผัสอีโคคาร์ได้มากขึ้นด้วย ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การร่วมมือการดำเนินธุรกิจของซูซูกิทั้ง 2 บริษัทในประเทศไทย "ที่ผ่านมาเรามีการร่วมมือทำกิจกรรมทางการตลาดร่วมกันในหลายส่วน เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ซูซูกิร่วมกัน ส่วนแนวโน้มการรวมบริษัทรถยนต์และมอเตอร์ไซค์เข้ามาไว้ด้วยกันนั้น วันนี้ต้องบอกว่าบริษัทยังไม่มีแนวคิดหรือนโยบายที่ชัดเจนแต่อย่างใด" นายซูกิยามากล่าว สำหรับปีนี้บริษัทได้เตรียมงบประมาณมูลค่ากว่า 380 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นงบฯการตลาด และส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเตรียมความพร้อมและรองรับรถอีโคคาร์ในอนาคต รวมถึงการเพิ่มจำนวนโชว์รูม 46 รายเป็น 60 รายในปีนี้ ขณะที่ยอดขายปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 5,500 คันในปีที่ผ่านมา และไม่น้อยกว่า 10,000 คันในปีนี้ โดยยอดที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากความมั่นใจของผู้บริโภคหลังจากที่บริษัทมีตัว แทนจำหน่ายเพิ่มตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา   Create Date : 28 มีนาคม 2554     1 comment Last Update : 28 มีนาคม 2554 19:30:46 น.     Counter : 2121 Pageviews.   Share Tweet