Toyota รอดตัว NHTSA ปิดคดีพวงมาลัยพาวเวอร์บกพร่อง
ค่ายสามห่วงรอดตัวหวุดหวิดอีกครั้ง หลังเจ้าพ่อรีคอลออกประกาศยุติสอบสวนปัญหาพวงมาลัยบังคับในคอมแพ็คคาร์ของค่าย เมื่อเร็วๆนี้ NHTSA หรือ หน่วยงานความปลอดภัยทางถนนในสหรัฐ ออกแถลงการณ์ล่าสุดในการยุติการสอบสวน ปัญหาการบังคับเลี้ยวโดยพวงมาลัยบกพร่องใน รถยนต์โตโยต้า Corolla รุ่นปี 2009 -2010 หลังจากที่ได้มีการลงทำการตรวจสอบเมื่อไม่นานมานี้ โดยระบุว่าไม่พบข้อบกพร่องใดๆ ในระบบดังกล่าว โตโยต้า โคโรลล่า ที่วางจำหน่ายในอเมริกา ทั้งนี้การตรวจสอบพวงมาลัยในรถคอมแพ็คคาร์ของค่ายรถยนต์โตโยต้านี้ เป็นกรณีสอบสวนที่ 2 หลังจากก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเรื่องปัญหาคันเร่งที่เกิดขึ้นในรถหลาย รุ่น จนกระทั่งมีการตรวจสอบร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากองค์การบินอวกาศสหรัฐหรือ NASA แต่สุดท้ายก็ไม่พบความบกพร่องในตัวระบบเช่นกัน อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ สำนักงานความปลอดภัยทางถนนของสหรัฐได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการ ทำงานของพวงมาลัยพาวเวอร์กว่า 83 ราย ตั้งแต่เมื่อช่วงปี 2008 โดยมีผู้ร้องเรียนจำนวน 76 ราย จากผู้ร้องเรียนทั้งหมดได้ระบุเพิ่มเติมว่า เมื่อรถมีความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป จะมีอาการเปลี่ยนทิศทางซ้ายหรือขวาได้เอง ก็รอดตัวไปอีกกรณีสำหรับโตโยต้า ที่เก๋งคอมแพ็คยอดนิยมถูกร้องเรียนว่า มันมีปัญหาในเรื่องการบังคับเลี้ยวตั้งแต่เมื่อช่วงปี 2008 ก่อนที่ องค์กรความปลอดภัยทางถนนของสหรัฐจะรับลูกลงสอบสวนเมื่อช่วง เดือนกุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้การรอดตัวอีกครั้งของค่ายสามห่วงนับเป็นความโชคดีและสามารถเรียกความ เชื่อมั่นจากลูกค้าคืนมาได้ หลังจากมรสุมรีคอลตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา
Create Date : 24 พฤษภาคม 2554 |
| |
|
Last Update : 24 พฤษภาคม 2554 18:48:42 น. |
| |
Counter : 1297 Pageviews. |
| |
|
|
|
Bentley Continental GTC สปอร์ตเปิดประทุน
Prior Design เปิดตัวชุดแต่ง High Society สำหรับ Bentley Continental GTC ที่เน้นการแต่งภายนอกมากกว่าภายใน และให้ดูดุดันมากกว่ารุ่นมาตรฐานด้วยชุดกันชนหน้า-หลังชุดใหม่ สเกิร์ตข้างขนาดใหญ่ ฝากระโปรงหน้าที่มีช่องระบายอากาศ บั้นท้ายมีดิฟฟิวเซอร์ชุดใหม่ สปอยเลอร์ท้าย และชุดท่อไอเสียสไตล์สปอร์ตที่ช่วยเพิ่มกำลังแรงม้าขึ้นมาได้บ้าง จากเดิมที่ Bentley Continental GT Cabriolet รุ่นมาตรฐาน มีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ไบเทอร์โบ ความจุกระบอกสูบ 5,998 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 560 แรงม้า(PS) แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตรที่ 1,600 รอบ/นาที ขับเคลื่อนแบบ All-Wheel Drive ส่วนภายในห้องโดยสารไม่มีอะไรเป็นพิเศษนอกจากการตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟ เบอร์
Prior Design ยังไม่เปิดเผยราคาของชุดแต่ง High Society นี้ แม้ว่าจะเพิ่งเปิดตัวในงาน Tuning World ประเทศเยอรมันนี เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ขอบคุณเนื้อหาจาก
Create Date : 23 พฤษภาคม 2554 |
| |
|
Last Update : 23 พฤษภาคม 2554 16:43:57 น. |
| |
Counter : 1501 Pageviews. |
| |
|
|
|
Delta E4 Coupe สปอร์ตคาร์พลังไฟฟ้า...ทุบสถิติ 240 กม./ช.ม.
ช่วงนี้เรื่องราวของรถยนต์ที่ขับ เคลื่อนด้วยพลังงานทดแทนอย่างไฟฟ้า ดูจะเป็นอะไรที่เป็นกระแสอย่างมาก โดยเฉพาะ อย่างยิ่งนี่คือหนทางใหม่พิชิตราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ที่นอกจากการนำเสนอรถใช้งานแล้วรถสปอร์ตยังให้ความสนใจในแนวทางใหม่นี้ด้วย แม้ปัจจุบันจะยังมีไม่มากนักสำหรับสปอร์ตคาร์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า นอกจากคอนเซปต์คาร์จากเหล่าค่ายรถยนต์ที่ชวนฝันเฟื่องแต่ล่าสุดค่ายรถยนต์ น้องใหม่ล่าสุดภายใต้เบรนด์ Delta ได้ทำให้จากแค่ภาพนั้นกลายเป็นจริง ด้วยการแนะนำสปอร์ตคาร์ไฟฟ้าทั้งคันที่พิเศษด้วยสถิติที่เหนือชั้นด้วยการ ทุบสถิติความเร็วที่ทำได้เทียบเท่าน้ำมัน Delta E-4 Coupe นั้นถือเป็นสปอร์ตคาร์ลำใหม่ที่อาจเป็นต้นแบบที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ในอนาคต เมื่อนี่คือสปอร์ตคาร์ไฟฟ้าตัวจริง ที่ Delta motorsport พร้อมที่วางจำหน่ายภายใต้วิสัยทัศน์ของไซม่อน ดอว์สัน และ นิค คาร์เพนเตอร์ ที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2005 ในสนามซิลเวอร์สโตนอันเลื่องชื่อบนเกาะอังกฤษ รูปทรงที่ดูผิวเผินมันก็คือรถสปอร์ตคูเป้ที่อาจจะหาได้ตามท้องถนนทั่วไป ทว่า Delta E-4 Coupe นี้มาพร้อมแชสซีที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมดที่หนักเพียง 85 กิโลกรัม ก่อนสวมหัวใจไฟฟ้าที่ได้เลือกเอามอเตอร์ขนาด 90 กิโลวัตต์ หรือเทียบเท่าเครื่องยนต์ 120 แรงม้ามาใช้ ที่หนักเพียง 23 กิโลกรัม แต่ให้แรงบิดมากถึง 600 นิวตันเมตร ให้ความสนุกในการขับขี่.. สิ่งที่น่าแปลกใจเกี่ยวกับเจ้าสปอร์ตไฟฟ้าพลังแรงนี้อยู่ที่ระยะการเดิน ทางที่ได้รับการกล่าวอ้างว่ามันสามารถไปได้ไกลถึงกว่า 322 กิโลเมตร ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากโครงสร้างที่เบาหวิวของมัน ที่ยังทุบสถิติอัตราเร่งได้ด้วย0-90 กม. โดยใช้เวลาต่ำกว่า 5 วินาที ทั้งนี้ Delta E-4 Coupe เป็น สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่แห่งยุคที่น่าสนใจด้วยการนำเสนอในแบบรถไฟฟ้าในขณะที่การ วางจำหน่ายจริงนั้นยังไม่มีการระบุออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ที่แน่ๆในปลายปีนี้รถสปอร์ตคันนี้จะร่วมในการแข่งขัน PAC Future Car Challenge ที่จะเป็นการลงสนามครั้งแรก.. รถสปอร์ตไฟฟ้าคันนี้ถือว่าน่าสนใจด้วย การออกแบบโครงสร้างด้วยเทคโนโลยีน้ำหนักเบาเช่นเดียวกับชุดมอเตอร์ที่พัฒนา ให้ตอบสนองได้ดีขึ้นจากมหาวิทยาลัย oxford ซึ่งด้วยระยะทางและสถิติต่างๆถือว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง แต่แน่นอนว่ามันจะจำหน่ายเมื่อไหร่.
Create Date : 21 พฤษภาคม 2554 |
| |
|
Last Update : 21 พฤษภาคม 2554 11:36:45 น. |
| |
Counter : 1077 Pageviews. |
| |
|
|
|
Honda Civic : ลุยตลาดกับหลากทางเลือก
ถือว่าเร็วเหมือนกันสำหรับฮอนด้า ซีวิคใหม่ เพราะหลังจากที่เปิดตัวต้นแบบในงานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2011 ได้ไม่นาน 3 เดือนหลังจากนั้น คันจริงก็เผยโฉม และพร้อมลงสู่โชว์รูมแล้ว โดยซีวิคใหม่จะมากับเครื่องยนต์ R18 เหมือนเดิม แต่มีรุ่นที่เน้นความประหยัดน้ำมัน ขณะที่รุ่น Si ตัวแรงเปลี่ยนขุมพลังใหม่ จากแบบ 4 สูบ 2,000 ซีซีมาเป็น 2,400 ซีซี
| สำหรับซีวิคใหม่นี้เป็นเจนเนอเรชันที่ 9 ซึ่งจะเข้ามาทำตลาดแทนที่รหัส FA/FD ที่เริ่มขายมาตั้งแต่ปีปลายปี 2005 โดยรุ่นใหม่จะมาพร้อมกับตัวถังซีดาน และคูเป้สำหรับตลาดอเมริกาเหนือ ส่วนเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งตามปกติแล้ว ซีวิคที่วางขายในแต่ละภูมิภาคจะมีหน้าตาแตกต่างกันออกไปนั้น ถึงตอนนี้ฮอนด้าก็ยังไม่ให้ข้อสรุปว่า ในรุ่นใหม่จะคงแนวคิดนี้เอาไว้เหมือนเดิมหรือไม่ หรือว่าจะเปลี่ยนมาใช้แนวทางโฉมเดียวขายทั่วโลก เพราะก่อนช่วงเปิดตัวก็มีข่าวว่าฮอนด้าอาจจะไม่ทำตลาดซีวิคในญี่ปุ่นอีกต่อ ไป ก็เลยทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องพัฒนาหน้าตาให้แตกต่างเหมือนกับรุ่น FA/FD ในตอนนี้ตัวถังมีขาย 2 แบบ แต่ทว่าในสหรัฐอเมริกามีขายมากถึง 4 รุ่นย่อย คือ ซีวิครุ่นปกติ ตามด้วยรุ่น HF หรือรุ่นประหยัดน้ำมัน ซึ่ง HF ย่อมาจาก High fuel-Efficient, รุ่นไฮบริด, รุ่นใช้ก๊าซธรรมชาติ หรือ CNG ที่จะขายด้วยชื่อซีวิค GX และตัวแรงเร้าใจในตระกูล Si
| สำหรับรุ่นปกติ, HF และ GX ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 1,800 ซีซีในรหัส R18 เหมือนกับ FA/FD แต่มีการปรับสเป็กให้สอดคล้องกับบุคลิกของตัวรถ โดยเครื่องยนต์บล็อกนี้เป็นแบบแคมเดี่ยว SOHC พร้อม i-VTEC และชุดเพลาลูกเบี้ยวคุมวาล์วไอดีแบบ 2 สเตจ มีกำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 17.7 กก.-ม. ที่ 4,300 รอบ/นาที ทั้งรุ่นปกติ และ HF แรงม้าแรงบิดเท่ากัน แต่ต่างกันตรงนี้อัตราความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งในรุ่น HF มีตัวเลขในเมือง/นอกเมือง/เฉลี่ยอยู่ที่ 11.7/16.6/13.4 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนรุ่นปกติอยู่ที่ 11.3/14.6/12.6 กิโลเมตร/ลิตร ขณะที่รุ่น GX กำลังของเครื่องยนต์จะถูกลดลงมาอยู่ที่ 110 แรงม้า ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.6 กก.-ม. ที่ 4,200 รอบ/นาที เพื่อแลกกับการใช้พลังงานทางเลือกอย่างก๊าซธรรมชาติ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ส่วนรุ่นไฮบริดขับเคลื่อนด้วยเทคโนดลยี IMA-Integrated Motor Assist เป็นการจับคู่ระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 1,500 ซีซีบวกกับมอเตอร์ไฟฟ้า ผลิตกำลังออกมารวมกันได้ 110 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 17.5 กก.-ม. ที่ 1,000-3,500 รอบ/นาทีใช้เกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT ในการส่งกำลัง
| ปิดท้ายกับตัวแรงในรหัส Si ที่มีดีกรีเทียบเท่ากับ Type R คราวนี้เกิดความเปลี่ยนแปลงเพราะว่าทางฮอนด้าจัดการเปลี่ยนเครื่องยนต์จาก เดิมในรหัส K20A มาเป็น K24A แทน โดยเป็นบล็อก 4 สูบ 2,400 ซีซี มีกำลังสูงสุด 201 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 23.4 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ในเรื่องหน้าตาและรูปลักษณ์ภายนอก แม้จะมีเสียงบ่นถึงความคล้ายและกลิ่นอายที่ยังหลงเหลือติดอยู่บนตัวถังของซี วิคใหม่อยู่บ้าง แต่ทว่างานออกแบบทั้งหมดเป็นของใหม่ ขณะที่เรื่องการแชร์รายละเอียดรูปลักษณ์ระหว่างเวอร์ชันตามภูมิภาคต่างๆ ในตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนระหว่างซีวิคที่ขายในอเมริกาเหนือ และเวอร์ชันญี่ปุ่นกับบ้านเราว่าจะเป็นไปในทิศทางใด...ต้องรอดูกันต่อไป
| สำหรับมิติตัวถังในรุ่นใหม่นี้ที่เป็นเวอร์ชันที่ขายในอเมริกาเหนือ ตัวถังซีดานมาพร้อมกับความยาว4,503 มิลลิเมตร กว้าง 1,750 มิลลิเมตร สูง 1,435 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร ส่วนรุ่นคูเป้มีความยาว 4,457 มิลลิเมตร กว้างเท่ากัน แต่ความสูงลดลงมาอยู่ที่ 1,400 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,630 มิลลิเมตร โดยระบบกันสะเทือนหน้า-หลังเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และมัลติลิงก์ทั้งรุ่นซีดาน และคูเป้ ในสหรัฐอเมริกาพร้อมลุยตลาดแล้ว โดยฮอนด้าตั้งราคาเริ่มต้นเอาไว้ยั่วใจ เพียง 15,805 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 474,000 บาทเท่านั้น
|
|
| |
Create Date : 20 พฤษภาคม 2554 |
| |
|
Last Update : 20 พฤษภาคม 2554 9:05:31 น. |
| |
Counter : 1068 Pageviews. |
| |
|
|
|
| |