One Bite Choux CreaM หวัดดีทุกคนค่า วันนี้วันจันทร์แล้ว เย เย ไม่ได้ทำขนมมาหลายวันละ เดี๋ยวพรุ่งนี้มีนัดจะไปดูหนังกะเพื่อนๆค่ะ ก็เลยลุกขึ้นมาทำขนมไปฝากสาวๆดีกว่า และแล้วก็ไปเจอสูตร Mini Choux Cream นี้ จากหนังสือ One Bite ของคุณ สีวลี เจ้าของ CookKool Studio ค่ะ ส่วนตัวเราชอบอาหารที่เป็นลักษณะแบบ One Bite หรือ พวก Finger food อยู่แล้ว เพราะมันมักจะเป็นชิ้นๆเล็กๆน่ารัก หม่ำคำเดียวก็หมด รูปไม่ชัดนะคะ ขอโทดจิงๆ กล้องดิจิตอลที่บ้านโดนพี่น้องแฮ้บไปหมดเลยค่ะ เลยต้องใช้กล้องมือถือเฉพาะกิจช่วยไปก่อน ส่วนวิธีทำอาจยุ่งยากและมีหลายขั้นตอนซักหน่อย แต่ทำออกมาแล้วรับรองรสชาติค่ะ ตัวแป้ง Choux จะกรอบๆ แล้วครีมข้างในจะหวานๆเบาๆ คล้ายๆของ Beard PaPa เลยล่ะค่ะ มาลงมือกันเลยดีกว่านะคะ ส่วนผสม (ประมาณ 24 ลูกเล็กค่ะ) ตัวแป้ง แป้งอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วยตวง แป้งขนมปัง 1/2 ถ้วยตวง เนยจืด 1/4 ถ้วยตวง นมจืด 1/4 ถ้วยตวง น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1/4 ช้อนชา กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา ไข่ไก่ 2 ฟอง มาทำแป้งกันก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวเรามาทำไส้กันต่อ เริ่มจาก Warm เตาอบไว้ที่ 200 C นะคะ แล้วก็เอาเนยทาถาด ปูด้วยกระดาษไข แล้วทาเนยบางๆทับอีกทีค่ะ แล้วก็ร่อนแป้งซัก 2 รอบก่อนค่ะ จากนั้นก็ผสม นม น้ำเปล่า เนย เกลือ และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกันเลยค่ะ แล้วยกไปตั้งไฟอ่อนๆ ต้มให้เดือดเลยนะคะ เนยรูปร่างแปลกๆใช่มั๊ยคะ?? อิอิ วันนี้ทำหรูค่ะ ใช้เนยจืดของ President แต่ว่ามันลดราคาจากป้ายไป 50 บาทค่ะ เห็นแล้วรีบคว้ามาก่อนเลย ฮะฮ่า เหมือนเต้าหู้เลยเนอะ ... อิอิ หลังจากเอาส่วนผสมไปตั้งไปจนเดือดแล้ว ก็ยกลงค่ะ แล้วเติมแป้งลงไป คนเร็วๆให้เข้ากันนะคะ แล้วเอากลับไปตั้งไฟอ่อนๆต่อ คนจนแป้งร่อนออกจากหม้อนะคะ แล้วมันก็จะรวมกันเป็นก้อนกลมๆแบบนี้ จากนั้นเอาก้อนแป้งนี้ใส่ลงไปในเครื่องตี ตีให้คลายความร้อนจนแป้งมันเย็นสนิทค่ะ ถ้าไม่มีเครื่องตี ใช้พายไม้คนๆๆ จนมันเย็นลงก็ได้นะคะ แต่จะเมื่อยหน่อย ไอ้เราก็ขยันมากๆซะด้วย ส่งเข้าเครื่องตีโลดเลยค่ะ ฮุๆๆๆ ตามด้วยกลิ่นวานิลลาค่ะ แล้วก็ใส่ไข่ไก่ทีละฟองจนหมด ออกมาเป็นครีมแบบนี้ค่ะ ตักใส่ถุงบีบ แล้วจัดการบีบออกมาเป็นลูกเล็กๆเลยค่ะ (ขนาดตามใจชอบจ้า) จะได้ประมาณ 24 ลูกค่ะ แต่เตาอบเราเล็ก ก็เลยต้องอบหลายรอบหน่อย เหนื่อยจิงๆ ส่งเข้าเตาอบที่ 220 C ประมาณ 10 นาที แล้วลดอุณหภูมิเป็น 170 C อบต่ออีก 7- 8 นาทีค่ะ เส็ดแร้วออกมาเป็นแบบนี้จ้า แซะออก แล้วพักไว้ในตะแกรง รอให้เย็นค่ะ ต่อไปเราก็มาทำไส้กันดีกว่า ไส้จะใช้ครีม 2 อย่างมาผสมกันค่ะ อย่าเพิ่งเหนื่อยนะคะ อร่อยค่ะ รับรองๆ ไส้ส่วนที่ 1 (Creme Chantilly) ส่วนผสม วิปปิ้งครีมแช่เย็น 1 ถ้วยตวง น้ำตาลไอซิ่ง 2-4ช้อนโต๊ะ กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา หรือ เติมเหล้าที่ชอบ เช่น บรั่นดี 1 ช้อนโต๊ะค่ะ P.S. โถที่ใช้ตีครีมควรเป็นโถแสตนเลส หรือโถแก้วนะคะ แล้วเอาไปแช่เย็น พร้อมหัวตี รอไว้เลยค่ะ ลงมือทำครีมส่วนแรกกันเลยดีกว่า เอาวิปครีมใส่ลงในโถแช่เย็น แล้วตี จนครีมที่เหลวๆข้นขึ้นจนเห็นเป็นสายค่ะ วันนี้ใช้วิปครีมของ Anchor ค่ะ ข้นยังหว่า? ...... ฮึบ ฮึบ ฮึบ จากนั้นระหว่างตี ก็เติมน้ำตาลไอซิ่งลงไปค่ะ เราใช้แค่ 2 ช้อนโต๊ะค่ะ กลัวหวานไป พอครีมเริ่มตั้งยอดแล้วก็หยุดตีค่ะ ใส่กลิ่นวานิลลาลงไป แล้วก็ค่อยๆใช้พายยางตะล่อมให้เข้ากันอย่างเบามือค่ะ แล้วก็เอาพลาสติกคลุมไว้แล้วเอาไปแช่ตู้เย็นค่ะ เดี๋ยวเราไปทำครีมส่วนที่ 2 ต่อกัน ลุย !!! ไส้ส่วนที่ 2 (Pastry Cream) ส่วนผสม นมจืดส่วนที่ 1 3/4 ถ้วยตวง น้ำตาลทรายส่วนที่ 1 2 ช้อนโต๊ะ นมจืดส่วนที่ 2 1/4 ถ้วย น้ำตาลทรายส่วนที่ 2 2 ช้อนโต๊ะ ไข่แดง 2 ฟอง แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ เนยจืดหั่นเป็นลูกเต๋า 2 ช้อนโต๊ะ กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา วิธีทำ เริ่มจากการนำนมและน้ำตาลส่วนที่ 1 ไปตั้งไฟจนเดือดเบาๆค่ะ ในชามอีกใบนะคะ ผสมนม น้ำตาล ส่วนที่2 และไข่แดงกับแป้งข้าวโพดเข้าด้วยกันค่ะ เอานมร้อนส่วนแรกมาเทลงในส่วนผสมไข่แดงค่ะ แล้วก็คนๆๆตลอดเวลาเลยนะคะ เสร็จแล้วเอากลับไปขึ้นตั้งไฟอ่อนจนส่วนผสมข้นและเดือด (ประมาณ 2-3นาที) แล้วยกลงจากเตาค่ะ จากนั้นก็เติมเนยและวานิลลาลงไป คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วก็เอาน้ำใส่น้ำแข็งเตรียมไว้ค่ะ ... เอ เอามาทามมายหว่า? เฉลย....เอามาอังหม้อคัสตาร์ดจ้า คนๆให้คัสตาร์ดเย็นตัวลงค่ะ แล้วก็กลับไปเอาครีมส่วนแรกออกมาจากตู้เย็นโลด ก่อนใช้เอาพายยางมาตะล่อมเบาๆให้มันเนียนก่อนเน้อ และแล้วก็เอาครีม 2 ส่วนอย่างละ 1 ถ้วยตวงมาผสมกันเลยจ้า เสร็จแล้ว ตัวแป้งก็เย็นพอดี เอาตัวแป้ง Choux มาตัดหัวจุกออก แล้วบีบไส้ใส่ลงไป เอาหัวจุกแปะกลับเข้าไปค่ะ โรยหน้าด้วยไอซิ่งนิดหน่อย แล้วก็จัดใส่กระปุก เตรียมไปยัดเยียดให้เพื่อนๆชิมค่ะ เส็ดเรียบร้อย อร่อยเชียว   Create Date : 13 พฤศจิกายน 2549     4 comment Last Update : 14 พฤศจิกายน 2549 20:53:06 น.     Counter : 1330 Pageviews.   Share Tweet

SupEr Easy Tea tiMe ScOnes และแล้วผีแม่บ้าน (หรือผีบ้า? อิอิ) ก็ยังคงไม่ยอมออกจากร่างค่ะ หลังจากวันนี้ไปชอปปิ้งมาทั้งวัน บวกกับโดนแฟนเบี้ยวนัด กลับมาบ้านก็เลยคันไม้คันมือ หาขนมอะไรทำฝึกฝีมือ(และแก้เซ็ง) ดีกว่า ก็เลย JacKpOt มาตกที่นี่ค่ะ Scone แบบธรรมดาและดั้งเดิม เอาไว้กินแกล้มกับน้ำชาตอนบ่ายๆก็อิ่มและสบายพุงดีนะคะ (ที่สำคัญทำง่าย แล้วใช้เวลาแป๊ปเดียวด้วยต่างหาก) ส่วนผสม 1. เนยสดหั่นเย็นๆเป็นลูกเต๋าเล็กๆ 80 ก. (ถ้าชอบเนยเพิ่มได้ค่ะ) 2. แป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วยตวง 3. เกลือหยิบนิ้ว 4. น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ 5.ไข่ 1 ฟอง 6. นมสด เศษหนึ่งส่วนสี่ถ้วยตวง 7. ลูกเกด หรือผลไม้แห้ง 3 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่ชอบเปลี่ยนได้ หรือไม่ใส่เลยก็ได้ค่ะ) ลงมือกันเลยดีกว่า ! ร่อนแป้งไว้นะคะ แล้วก็เอาเนยสดมาหั่นๆให้เป็นลูกเต๋าเล็กๆ และเนยต้องยังเย็นอยู่นะคะ ใส่ลงไปแบบนี้เลยค่ะ ใส่เกลือลงไปประมาณหยิบนิ้วนะคะ แล้วก็ตามด้วยน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะค่ะ จากนั้นก็ลงมือค่ะ เอาที่สับเนย หรือถ้าไม่มีก็นิ้วนี่แหล่ะค่ะ บีบๆ แล้วก็ผสมๆให้เข้ากัน อย่าใช้อุ้งมือนะคะ ผสมไปซักประมาณ 5 นาทีค่ะ เริ่มลงมือล่ะน้า ... ฮึบ ฮึบ ฮึบ ผสมจนมันเป็นเม็ดร่วนๆคล้ายเกล็ดขนมปังแบบนี้นะคะ แล้วก็เอาหมูลงไปชุบ เตียมทอดจ้า ล้อเล่นละ แหะ แหะ แหะ ต่อจากนั้นก็ตีไข่ให้พอแตก แล้วก็ใส่ลงไป ตามด้วยนม แล้วก็ลงมือละเลงอีกรอบ คราวนี้ไม่มีตัวช่วยแล้วค่ะ มืออย่างเดียว นวด นวด นวด ให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันเป็นอันใช้ได้ ตุ้บตั้บ ตุ้บตั้บ ....ฟิ้ว...เหนื่อย ออกมาเป็นก้อนนี้ค่ะ จากนั้นก็เตรียมคลึงออกมาเป็นแผ่นนะคะ เอาพลาสติกมารอง แล้วโรยแป้งนิดหน่อยค่ะ จากนั้นก็เอาพลาสติกอีกแผ่นปิดทับ มันจะได้ไม่เลอะมากค่ะ ฮึบ เตรียมตัวออกแรงรอบ 3 ให้ออกมาหนาขนาดประมาณ 2 ซ.ม. นะคะ แต่ของเราคลึงบางไปหน่อย แบบว่ายังกะแรงไม่ถูก (ทั้งๆที่แรงยังกะช้าง..งุงิงุงิ) แล้วก็ใช้พิมพ์กลมกดออกมาค่ะ แต่ให้ตาย...บ้านดิฉันมีแต่พิมพ์ดาว กับหัวใจ พิมพ์กลมธรรมดาแบบเบสิกดันไม่มีติดบ้าน...ฮ่วย ช่วยไม่ได้ วันนี้ขอแหกกฎ Classic ของScone ตัดเป็นรูปหัวใจ กับดาวละกันนะคะ นี่ ซื้อมาชาตินึงละค่ะ เพิ่งนึกออกว่ามี เลยไปคุ้ยมา อิอิ ป้ายราคายังอยู่เลย ตัดออกมา แล้วก็จัดการใส่ถาด เตรียมอบเลยค่ะ ลืมบอกไปค่ะ ก่อนเอาเข้าอบ ให้เอานมนิดหน่อยทาหน้าขนมนะคะ หน้าจะได้ออกมาสีสวยๆ อบไฟ 220 C ประมาณ 10 นาทีค่ะ คอยดูด้วยนะคะ ระวังหน้ามันจะไหม้ เส็ดแร้ว.ว.ว.วว. เราแผ่ออกมาบางไปค่ะ มันก็เลยไม่หนาๆเหมือน Scone ทั่วไป หม่ำเลยดีกว่าค่ะ เอาตัวช่วยออกมาก่อน เนื่องจากวันนี้อยู่ดีๆก็คิดจะทำ Scone ก็เลยไม่ได้เตรียมครีม กับ แยมแบบดีๆไว้ หันไปเจอ2 ตัวนี้ ก็คว้ามาก่อนค่ะ อิอิ ถูไถๆ จัดการ !! อ้อ... เกล็ดความรู้ก่อนทาน Scone นะคะ การกิน Scone มี 2 แบบค่ะ 1. แบบ Devon จะทาครีม (เนย)ก่อน แล้วตามด้วยแยม วิธีนี้ขนมจะชุ่มเนื้อเนยมากกว่าค่ะ 2. แบบ Cornwall จะหยอดแยมก่อน แล้วตามด้วยครีม สำหรับเราแล้วเราชอบแบบเดวอนมากกว่าค่ะ ส่วนเหตุผลก็เพราะว่าถ้าหยอดแยมก่อน ก็จะทำให้ที่ปาดเนยก็เลอะอะดิคะ ไม่ค่อยน่าดูชมเท่าไหร่ อิอิ แต่ไม่ซีเรียสหรอกค่ะ กินแบบไหนก็อร่อยเหมือนกันแหล่ะ อิอิ Twinkle Twinkle little stars เรียบร้อยจ้า   Create Date : 09 พฤศจิกายน 2549     5 comment Last Update : 9 พฤศจิกายน 2549 20:45:52 น.     Counter : 1809 Pageviews.   Share Tweet

BrowNies On CoOkies Crust ความดันทุรังในการทำขนมของเราช่วงนี้กำลังมาแรงค่ะ ได้สูตรอะไรมาจากไหน ก็ทำๆๆๆมันซะให้สะใจ หาเรื่องเดือดร้อนให้ชาวบ้านชาวช่องกันเป็นแถว จนคนที่บ้านเริ่มหนีออกจากบ้านไปทีละคน เมื่อเห็นเราเริ่มเตรียมอุปกรณ์ทำขนม อิอิ สืบเนื่องจากคราวที่แล้ว สูตร Raspberry Swirl Cheesecake Cupcake ของคุณ ปริศนา บุญสินสุข ได้กู้หน้าให้เรามากมายค่ะ คนที่เคยสบประมาทไว้ ต่างก็พากันอึ้งกับฝีมือของเรา เย เย อาจเป็นเพราะสูตรขนมของคุณปริศนานั้น อ่านง่าย เข้าใจง่าย และแน่นอนทีสุด ทำง่ายค่ะ ! (นี่...ให้เครดิต) ก็เลยกลับไปค้นหนังสือของคุณปริศนาที่เคยซื้อเอาไว้ แล้วก็แจ๊คพอตมาลงที่สูตรนี้ค่ะ Brownies on cookie crust เป็นบราวนี่ลูกผสมระหว่าง บราวนี่ กับ คุกกี้เนยค่ะ ทำในถาดสี่เหลี่ยมขนาด แปดนิ้ว แล้วตัดแบ่งออกมาเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ขนาดพอดีหยิบกินค่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่าจ้า ส่วนผสมสำหรับถาด 8 นิ้ว จัตุรัส สัดส่วนฐาน 1. แป้งอเนกประสงค์ 140 ก. 2. ผงฟู เศษหนึ่งส่วนสี่ช้อนชา 3. เกลือ เศษหนึ่งส่วนสี่ช้อนชา 4. เนยจืด ทิ้งให้นิ่ม 75 ก. 5. น้ำตาล 100 ก. 6. ไข่ครึ่งฟอง (ตอกใส่ถ้วย ตีให้แตก ใช้เพียงครึ่งเดียว) 7. วานิลลา เศษหนึ่งส่วนสี่ช้อนชา สัดส่วนบราวนี่ 1. เนยจืด 75 ก. 2. ชอคโกแลต 150 ก. 3. น้ำตาลทรายแดง 135 ก. 4. ไข่ ตีพอแตก 2 ฟอง 5. วานิลลา เศษหนึ่งส่วนสองช้อนชา 6. แป้งอเนกประสงค์ 50 ก. 7. ผงโกโก้ 10 ก. + 1 ช้อนโต๊ะ 8. เกลือ เศษหนึ่งส่วนสองช้อนชา 9. วอลนัท คั่วพอหอม สับ มาเริ่มลงมือกันเลยดีกว่าเน้อ ! Go Go Go เริ่มแรกก็ Warm เตาอบเอาไว้ที่ 190 C ก่อนค่ะ จากนั้นก็หันไปเตรียมถาดอบ สี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 8 นิ้ว นะคะ แล้วก็เอากระดาษฟอยด์ปูถาดไว้ แล้วเอาเนยจืดธรรมดานี่แหล่ะค่ะ ทาให้ทั่วฟอยด์ ตีเนยกะน้ำตาลให้เข้ากันจนฟู แล้วก็ใส่ไข่กับวานิลลาลงไป ตีให้เข้ากัน ฟูอ๊ะยังหว่า ?? ฟูแล้วมั๊ง อิอิ จากนั้นก็ใส่แป้ง ผงฟู แล้วก็เกลือลงไปโลดจ้า ตีๆให้เข้ากัน เสร็จแล้วก็เอามาเทใส่ในถาด แล้วเกลี่ยให้ทั่วถาด จากนั้นก็เอาไปแช่ตู้เย็น 20 นาทีจ้า 20 นาทีผ่านไปไวเหมือนโกหก...แอปเปิ้ลจับเวลา(ได้อันใหม่แทนกุ๊กไก่ที่ไม่ขันเตือนแล้ว 55 )ก็ดังเตือน กริ๊ง.ง..เอาออกมาเข้าอบต่ออีก 20 นาที เสร็จแล้วก็พักไว้ให้เย็นจ้า ออกมาเป็นแบบนี้ จากนั้นก็หันมาจัดการส่วนผสมหน้าบราวนี่กันดีกว่าเน้อ เริ่มจากร่อนแป้ง โกโก้ และเกลือ ให้เข้ากันไว้ก่อนค่ะ คราวนี้ใช้ผงโกโก้ของ Hershey's ค่ะ ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ซื้อมานานแล้ว ก็เลยต้องจำใจใช้ให้หมด คราวหน้าจะเปลี่ยนไปใช้ของนางพยาบาลแล้วค่ะ ชอคโกแลตที่ใช้คราวนี้เป็นชอคโกแลตเม็ดกระดุม แบบ Dark ค่ะ ซื้อแบบที่แบ่งขายที่วิลล่า 90 กรัม 40 กว่าบาท ซื้อมา 2 ถุง ให้ดูช๊อคโกแลตค่ะ นี่ ต่อไปนะคะ เอาเนย ช๊อคโกแลต แล้วก็น้ำตาลทรายแดงไปละลายในไมโครเวฟค่ะ ใช้ไฟแรงสูงสุด 2 นาที แล้วก็เอามาคนให้เข้ากันค่ะ ระหว่างนี้ลองจิ้มชิมดู ตอนแรกนึกว่าจะขม ปรากฎว่าหวานแฮะ...อืม..ม. ขั้นตอนต่อมานะคะ เอาไข่ วานิลลา ลงไป แล้วก็ตีให้เข้ากันค่ะ ตามด้วยแป้งที่ร่อนผสมผงโกโก้ไว้แล้วค่ะ ตีให้เข้ากัน จากนั้นก็หันมาคั่ววอลนัทค่ะ ซื้อมาจากวิลล่าอีกเช่นกัน แพงบาดใจ... แต่ทำไงได้อะเนอะ....อย่าคิดมากๆ ของแพงคือของคุณภาพดี 555 เอาไปคั่วโลด จากนั้นก็เอามาสับๆๆๆ แล้วจัดการใส่ลงไปในส่วนผสมชอคโกแลต แล้วก็คนๆให้เข้ากันค่ะ เส็ดแร้ว....เอามาเทใส่ฐาน แล้วเกลี่ยให้ทั่วโลด โยนเข้าเตาอบ 15 - 20 นาที แต่คราวนี้เราเอาเข้าอบแค่ 17 นาที ขาดๆเกินๆ 555 เพราะว่าคราวก่อนเคยทำบราวนี่แล้วมันแห้งเกินไป เพื่อนบอกว่าบราวนี่ไม่ต้องอบสุกมาก ให้เอาไม้จิ้มดูแล้วถ้ามีเศษติดมาหน่อยเป็นอันว่าใช้ได้....นี่ค่ะ แบบนี้ ระหว่างอบเด้อ...โชว์โบราณวัตถุให้ดู 555 และนี่ คัมภีร์เทวดา ขอบคุณ คุณปริสนามากๆเลยค่ะ จะพยายามจองคิวไปเรียนกับร่วมโต๊ะให้ทันนะคะ 17 นาทีผานไป ติ๊ง....แอปเปิ้ลน้อยจับเวลาก็ดังเตือน วิ่งไปเอาขนมออกจากเตา ออกมาเป็นแบบนี้ จากนั้นก็พักไว้ให้เย็นนะคะ แล้วเอาไปเข้าตู้เย็นจนเย็นสนิทค่ะ ระหว่างนั้นเราก็ออกไปหลั่นล้า หาข้าวหม่ำนอกบ้านค่ะ ก็เลยถือโอกาสนั่งรอพ่อทำธุระ อัพบล๊อกมันซะเรย...นี่ ขออวดหน่อย Laptop เครื่องแรกในชีวิต เก็บตังค์ซื้อเอง รอจนงาน Commart มา แล้วก็รีบวิ่งไปถอยเลยค่ะ อิอิ ต่อค่ะ ต่อ....กลับมาจากข้างนอก น้องบราวนี่ที่แช่ไว้ในตู้เย็นก็เย็นอยู่ตัวพอดี เอาออกมาตัดเลยดีกว่า ตอนตัดให้เอามีดจุ่มในน้ำร้อน แล้วเช็ดให้แห้งนะคะ ตอนตัดจะได้ง่ายๆหน่อย และแล้วก็คว่ำออกมาจากถาดค่ะ...ใจเต้น ตึง ตึง ตึง วู้...ค่อยยังชั่ว ใช้ได้ ตอนแรกนึกว่าจะก้นไหม้ ลงมือตัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยมเล็กๆขนาด 1 นิ้วค่ะ จะได้หยิบกินพอดีคำ ออกมาเป็นแบบนี้ บราวนี่เนื้อหนืดๆ เจอกับคุกกี้และวอลนัทกรอบๆจ้า และแล้วก็จัดการแพคลงถ้วยเล็กๆค่ะ...แต่ดันเล็กไป ใส่ได้แค่ 2 ชิ้นเอง... จัดการตกแต่งถ้วยให้สวยงามค่ะ เบี่ยงเบนความสนใจจากรสชาติ อิอิ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอาไปให้เพื่อนๆชิม เรียบร้อยแล้วจ้า Brownies on Cookie crust หรือ ลูกครึ่งคุกกี้บราวนี่ ละเลงฝีมือโดย PuppADoOwaB เจ้าข้า>   Create Date : 07 พฤศจิกายน 2549     6 comment Last Update : 7 พฤศจิกายน 2549 22:52:45 น.     Counter : 2061 Pageviews.   Share Tweet

Raspberry Swirl Cheesecake Cupcake หวัดดีจ้า ตอนนี้เรากำลังบ้าหัดทำขนมแบบ nOn-StoP อยู่อ่ะค่ะ ก็เลยมาอัพบล๊อคบ่อยหน่อย (เห่อด้วย คนเพิ่งมีบล๊อคกะเค้าก็เงี๊ยะ !!) อย่าเพิ่งรำคาญกันน้า ทั้งนี้ก็สืบเนื่องจากเมื่ออาทิตย์ก่อนเราทำบราวนี่ไปให้เพื่อนๆชิม แล้วเราก็โดนเพื่อนๆสบประมาทอย่างแรง ก็เลยหอบบราวนี่เคล้าน้ำตากลับมานอนซึมที่บ้าน แง แง ผิดพลาดตรงหนายฟะ?? ก็คนมันชอบแต่ฝีมือมันไม่ถึงนี่นา และแล้วก็เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งอีกรอบ ไปงอแงให้คนข้างเคียงปลอบ ก็โดนตอกกลับว่าสมควรแร้ว เพราะเห็นมีโปรเจ็คนู่นนี่ตลอด แต่ไม่เคยเห็นตั้งใจทำอะไรจิงซักกะอย่าง !! เฮ้ ! อย่างงี้ก็มีด้วย .....หนอยแน่ะ ไอ้เรามันก็บ้าพลังซะด้วย มาตอกย้ำกันแบบนี้ได้ไง(ฟะ) และแล้วก็เลยแปรความเสียใจมาเป็นแรงฮึด (และความตะกละ ) ลุกขึ้นมาหัดทำขนมมันซะทุกวันให้รู้แล้วรู้รอด ! จนเกิดเป็นเมนูแรกจากความฮึดด้วยประการละฉะนี้จ้า เกริ่นมาซะตั้งนาน มาเข้าสูตรกันเลยดีกว่าจ้า ขอโทษที่ทำให้เสียเวลาเน้อ สูตร Raspberry Swirl Cheesecake Cupcakes นี้ ได้มาจากหนังสือ 10 Best Cupcakes >& Muffins ของ คุณปริศนา บุญสินสุขค่ะ ลองทำดูแล้ว ขนาดคนไม่มีฝีมืออย่างเรายังทำได้เลย แถมยังอร่อย (รึป่าว??) ด้วยนะคะ มาลงมือกันเลยดีกว่า ส่วนผสม (12 ชิ้น) 1. ขนมปังไดเจสตีฟบดละเอียด 70 กรัม 2. เนยสด รสจืด ละลาย 15 กรัม 3. น้ำตาล 175 กรัม 4.ราสเบอรี่แช่แข็ง ทิ้งให้นิ่ม 75 กรัม 5. ครีมชีส ทิ้งให้นิ่ม 400 กรัม 6. วานิลลาครึ่งช้อนชา 7. เกลือหยิบนิ้ว 8. ไข่ 1 ฟอง ลงมือกันเลยจ้า 1.ขั้นแรกก็เตรียมวอร์มเตาอบไว้ที่ 160 C แล้วก็เรียงถ้วยกระดาษใส่ถาดมัฟฟินไว้ 12 ถ้วยค่ะ 2. เอาแครกเกอร์มาบดให้ละเอียด คราวนี้เราใช้แบบตัวหนังสืออะค่ะ ซื้อเป็นปี๊ปเล็กๆมาจาก Tops มันจะมีรสเค็มนิดๆ เราชอบอะค่ะ 3. เอาเนยละลายมาผสมกับแครกเกอร์ 4. แล้วก็ตักแครกเกอร์ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะลงไปในพิมพ์ แล้วก็เอานิ้วกดๆ ให้ฐานแน่นค่ะ 5. เอาเข้าอบประมาณ 5 นาทีให้มันอยู่ตัวค่ะ แล้วก็เอาออกมาพักไว้ข้างนอก ระหว่างนั้นก็เอาราสเบอรี่ออกมาค่ะ อันนี้ซื้อแบบแช่แข็งที่ วิลล่า กล่องละ 265 บาทแน่ะ แต่คราวนี้ใช้นิดเดียวค่ะ เก็บไว้ใช้ได้อีก 6. เอามาปั่นให้ละเอียดค่ะ เพราะเราจะเอาน้ำมันมาราดหน้าชีสเค้ก (ปั่นแล้วไม่น่าดูเร้ยย) 7. แล้วก็เอาออกมากรองเอาแต่น้ำค่ะ ทิ้งกากไป เสร็จแล้วก็เติมน้ำตาลลงไป 2 ช้อนโต๊ะ แล้วคนให้เข้ากัน 8. แล้วก็หันมาตีครีมชีสค่ะ เราใช้ของ Philadephia ตีให้เนียน แล้วก็ใส่น้ำตาลลงไปค่ะ 9. ตอกไข่ ใส่วานิลลา แล้วก็เกลือรวมกัน จากนั้นก็ใส่ลงไปในส่วนผสมครีมชีสค่ะ 10. แล้วก็ตักหยอดใส่ถ้วยมัฟฟินให้เท่าๆกันค่ะ จะได้อ้วนเท่าเทียมกัน 11. ตักราสเบอรี่ประมาณ 1-2 ช้อนชา ใส่ลงไป แล้วก็เอาไม่จิ้มฟันวาดลายค่ะ อื้อหือ....วาดเก่งอะไรอย่างนี้ แม่เดินมาดูถามว่า แม่ : ตัวอะไรของเธอเนี่ยะ? เรา : อันนี้มันวาดแบบ impressionism แม่ดูไม่เข้าใจร้อก 12. พอเถอะๆ เอาเข้าอบดีกว่าค่ะ วาดไปมากกว่านี้จะยิ่งเละไปเปล่าๆ 55 13. ในหนังสือคุณปริศนาบอกไว้ว่า ขนมนี้จะดูสวยที่สุดตอนอบ เพราะจะขึ้นฟูสวยงาม แต่พอเอาออกมาแล้วหน้าจะยุบลงไปหมด ซึ่งเป็นลักษณะโดยธรรมชาติของเค้กชนิดนี้ค่ะ ...อู้ว (ไฟ) สวยจิงๆด้วย อิอิ 14. อบที่ไฟ 160 C นาน 15-20 นาทีค่ะ แล้วก็เอาออกมาพักให้เย็น แล้วก็เอาไปแช่ตู้เย็นอีก 1 ชั่วโมง ถึงจะพร้อมเสริ์ฟ อืม...หน้ายุบไปจิงซะด้วยแฮะ แสดงว่าเราทำไม่ผิดพลาด เฮ้อ.อ.. 15. โอ๊ะ โอ ลายขนมนี่ปิกัสโซ่ยังอาย 55555 ครบ 1 ชั่วโมงแล้ว เอาออกมาหม่ำกันดีกว่าจ้า 16. รูปร่างไม่สวย แต่รสชาติสุดยอดนะค้า ซักคำมั๊ยจ๊ะ?....หอมครีมชีสมากๆเลยค่ะ หวานอมเปรี้ยวหน่อยๆด้วย ส่วนฐานล่างเค็มๆค่ะ เราชอบ เส็ดแร้วจ้า....มือใหม่บ้าทำขนม อิอิอิ ใครมีเคล็ดลับ แนะนำกันด้วยน้า....   Create Date : 31 ตุลาคม 2549     4 comment Last Update : 31 ตุลาคม 2549 22:05:18 น.     Counter : 1286 Pageviews.   Share Tweet

Rich Bread and Butter Pudding Cupcake ขอประเดิมสูตรแรกของ Blog ด้วยขนมเพียงอย่างเดียวที่สามารถกู้หน้าได้ค่ะ เพราะเป็นขนมประจำตระกูล (พูดให้เว่อร์เข้าไว้ อิ๊ๆ จิงๆแค่ทำมาตั้งแต่เด็กเท่านั้นเองค่ะ) สูตรนี้เป็นของคุณป้า ซึ่งเป็นชาวอังกฤษแท้ๆ เพราะฉะนั้นสูตรนี้ก็เลยเป็นแบบ Homemade ค่ะ แล้วส่วนผสมก็ไม่ Fix ตายตัว สามารถชิมและเติมได้ตามใจชอบระหว่างทำค่ะ สูตรนี้ทำง่าย เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มหัดทำค่ะ ไม่ต้องใช้เครื่องตี และไม่ต้องกังวลกับเตาอบมากมาย งั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่า ตามมาเลยจ้า ส่วนผสม 1. นมสด 275 ml. (Half a Pint) 2. Double Cream 70 ml. (ใช้วิปครีมธรรมดาได้ค่ะ) 3. น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม 4. ไข่แดง 3 ฟอง 5. ขนมปังทาเนยทั้ง 2 ด้าน ประมาณ 8 แผ่น แล้วหั่นเป็นลูกเต๋าค่ะ 6. เปลือกมะนาว Slice นิดหน่อยค่ะ 7. ลูกเกด (ถ้าไม่ชอบเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้) แล้วก็ Warm เตาอบไว้ที่ 350 F หรือ 180 C ค่ะ ลงมือกันเลยค่า 1. มาดูหน่วยจู่โจมของวันนี้กันก่อนจ้า 2. ลงมือทาเนยขนมปังทั้ง 2 ด้านเลยนะคะ (เนยอะไรก็ได้ค่ะ ไม่ว่ากัน หยวนๆ ) 3. เสร็จแล้วก็จัดการหั่นขนมปังเป็นลูกเต๋าค่ะ เพราะวันนี้เราจะทำเป็นคัพเค้กกัน ก็เลยต้องย่อส่วนหน่อย แต่ปกติแล้วจะทำใส่ชามกระเบื้องค่ะ ถ้ายังงั้นไม่ต้องหั่นขนมปังค่ะ เอามาอัดใส่พิมพ์ได้เลย 4. เส็ดแล้วก็เอามาใส่พิมพ์โลด 5. ต่อไปก็มาที่ส่วนผสมครีมค่ะ เริ่มที่นมสด 275 ml ค่ะ (ถ้าให้อร่อยต้องไม่กลัวอ้วนค่ะ นม Low Fat มันจะไม่ค่อยเข้มข้น) 6. เตรียมเติมครีมลงไปค่ะ แต่วันนี้เกิดข้อผิดพลาด ลืมซื้อวิปปครีมมา ก็เลยใช้อันนี้แทนค่ะ ไม่มีปัญหา 7. ลงมือผสมครีมลงไปในนมเลยค่า 8. ใส่น้ำตาลลงไปในส่วนผสมของนมค่ะ 9. เหยาะกลิ่นวานิลลาลงไปตามใจชอบค่ะ ใส่เยอะระวังขมน้า 10. น้ำผึ้งนิด (จะหอมๆค่ะ แล้วแต่คนชอบ) 11. Cinnamon หน่อย 12. ตามด้วยไข่แดง 13. จัดการคนๆๆๆ ให้เข้ากันค่ะ 14. โรยลูกเกดลงไปค่ะ แต่บังเอิญว่าวันนี้น้องสาวไม่ชอบลูกเกด ขอใส่โอรีโอแทน อ้วนนะ บิเป็นชิ้นเล็กๆแล้วโรยหน้าลงไปบนพุดดิ้งค่ะ แล้วก็ราดส่วนผสมนมลงไปให้ท่วมเลยค่ะ 15. เอาลงถาดเตรียมอบ แต่ว่าให้ใส่น้ำไว้ที่ถาดด้วยนะคะ แล้วขนมจะออกมาเป็นพุดดิ้งแบบดึ๋งๆค่ะ 16. เอาเข้าเตาอบที่ 180 C ประมาณ 30 นาทีค่ะ ออกมาเป็นแบบนี้ 17. ทานคู่กับ Custard Vanilla ของ Elle & Vire ค่ะ 18. เย้ เย้ เส็ดแร้ว.ว... รับซักชิ้นมั๊ยค่า   Create Date : 28 ตุลาคม 2549     4 comment Last Update : 28 ตุลาคม 2549 22:11:12 น.     Counter : 1565 Pageviews.   Share Tweet