DIY by น้องปลาดาว #72 : เมื่อต้องมาซ่อมเครื่องซักผ้าฝาหน้า ปัญหาน้ำไหลเข้าเครื่องไม่ยอมหยุด
เครื่องซักผ้าฝาหน้า-ฝาบน เป็นเครื่องทุ่นแรงแม่บ้านในการทำความสะอาดเสื้อผ้า ที่มีประจำซะแทบทุกบ้าน
แต่เครื่องซักผ้าฝาหน้าที่บ้าน ใช้งานมาร่วมสิบกว่าปี ก็มีเหตุให้ทำงานผิดปกติ ไม่ใช่อื่นใด เป็นเพราะผมเอง ช๊อบชอบ...ไปปรับแต่งการทำงานของเครื่อง ให้ถูกใจผม รอบนี้ถึงกับช๊อตคามือเลย 555
ส่วนตัวแล้ว ผมจะชอบให้เครื่องซักผ้าฝาหน้าที่บ้าน ใช้น้ำมากๆ หน่อย เพราะเห็นเวลาทำงาน น้ำที่ใช้ซักเมื่อมองผ่านกระจกหน้าเครื่อง เห็นว่าน้อยเกิน ไม่เห็นน้ำสีดำๆ คล้ำๆ จะรู้ได้งัยว่าสิ่งสกปรกออกมาจากผ้าแล้ว ชิมิ
ผมก็ถอดๆ ปรับๆ ตัวตั้งความสวิตท์ความดันน้ำหลายต่อหลายครั้ง จนครั้งหลังสุด ตัวเครื่องมันดัง "ก๊อก" ขึ้นมา และแล้วผมก็ได้น้ำเยอะสมใจ น้ำจังหวะแรกที่จะทำงานขณะใช้ผงซักฟอก มันไหลเข้าไม่ยอมหยุด จนน้ำส่วนเกินต้องไหลล้นออกท่อย่นน้ำออกเลยทีเดียว
นึกในใจ..เอาแล้วงัย
ปัญหาคือ สวิทต์ความดันของเครื่องซักผ้าคงช๊อตซะแล้ว --ตัวสีเนื้อฝาดำ--
ปกติแล้ว ตัวสวิทต์จะมีสายยางอ่อนสีดำ --ตัวปลายสายเส้นสีเหลือง-- ต่อเข้ากับกันถังซักผ้า เมื่อน้ำไหลเข้าถัง ก็จะเกิดแรงดันผ่านสายยาง เข้าไปในสวิตท์เพื่อเปิด-ปิดวงจร ตามการทำงานของเครื่อง
ไหนๆ ก็ไหนๆ ระหว่างที่ยังไม่ได้ซื้ออะไหล่ชิ้นใหม่มาเปลี่ยน ก็เลยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในการซักผ้า แต่ละครั้ง เวลาเปิดการใช้งาน ก็ปล่อยให้น้ำไหลเข้าถังจนถึงระดับที่ต้องการ แล้วก็จะดึงสายไฟหมายเลข 12 ออก เพื่อตัดการควบคุมการทำงานของ โซลินอยล์น้ำเข้า เป็นการตัดต่อไฟแบบแมนวล ซะเลย
ตัวปล่อยน้ำเข้าถังของสายไฟหมายเลข 12 จะใช้แค่ช่วงแรกของการซัก
ถ้าเป็นการซักโหมดปกติ เราก็จะตั้งโปรแกรมไว้ที่เลข 3 ซึ่งการทำงานของโปรแกรมนี้ ก็จะเป็นการปล่อยน้ำลงถังพร้อมผงซักฟอก พอน้ำได้ระดับ ก็จะตัดน้ำแล้วก็หมุนถัง ผ้าในถังก็จะดูดน้ำไป น้ำก็จะลด น้ำก็จะไหลเข้าเครื่องใหม่ ทำ 2 จังหวะนี้ สลับกันไปจนกว่าผ้าจะดูดน้ำเต็มจนน้ำได้ระดับซัก
หลังจากนั้น ไฟฟ้าเรียกน้ำเข้าถังในจังหวะที่ 12 ก็จะไม่ใช้อีกแล้ว เครื่องก็จะหมุนถังไปเรื่อยจนถึงโปรแกรมที่ 6-7 เราก็ไปทำงานทำการอย่างอื่นได้ จนจบโปรแกรม
พอมีเวลาไปแวะอมร ก็เลยซื้อสวิทต์ความดันตัวใหม่มาเปลี่ยนซะ รุ่นที่ใช้ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไหล่ขายแน่นอนอยู่แล้ว ก็เก่าซะขนาดนั้น ก็ต้องไปซื้อของเทียบมาใช้แทน
ปกติแล้ว สวิทต์ความดัน ก็จะมีหมายเลขบอก สำหรับเสียบสายไฟ จะมีชุดสำหรับระดับน้ำความดันต่ำ (L) สำหรับการซักผงซักฟอก จะเป็นเลข 1X กับ ชุดระดับน้ำความดันสูง (H) สำหรับการล้างน้ำ จะเป็นเลข 2X หรือ 3X ปรับตั้งเองได้ด้วยการไขเร่ง-ผ่อนสปริงค์ที่ตัวกากบาท
คราวนี้มาผ่าดูการทำงานของตัวสวิตท์กัน เริ่มจากจะมีท่ออากาศสำหรับสวมเข้ากับสายยางใต้ถัง
เมื่อมีน้ำเข้าในถัง ลมก็จะถูกดันผ่านสายยางเข้ามาที่สวิทต์ เมื่อความดันลมมากพอ ก็จะถูกบีบให้ผ่านรูเล็กๆ ใต้ฝาให้เข้าไปดันเข็มแทงด้านใน
เมื่อเข็มแทงทำงาน ก็จะมากดที่ตัวขาพลาสติก แกนที่ปลายขาพลาสติก ก็จะค่อยๆ มีแรงกด จนไปกดตัวถัวยให้ต่ำลง จนเกิดการเปิด-ปิด ของกระแสไฟฟ้า ซึ่งก็จะสั่งให้เครื่องซักผ้าไปทำงานตามโปรแกรม
ขาไหนลงก่อน ก็จะเป็นระดับน้ำความดันต่ำ ส่วนขาไหนลงช้า ก็จะเป็นระดับน้ำความดันสูง
มองกันใกล้ๆ ถ้าตัวถ้วยพลาสติกถูกกด จะใช้หลักการของการดีดตัวของโลหะ โดยใช้สปริงค์ตั้งความอ่อน-แข็งของตัวถ้วย ดันอยู่ข้างใต้
ถ้าขันสปริงค์ไขเข้า แรงดันก็จะเยอะขึ้น น้ำก็จะถูกปล่อยเข้าเครื่องระดับสูงขึ้น แต่ถ้าสปริงค์ไขออก แรงดันก็จะลดลง น้ำก็จะถูกปล่อยเข้าเครื่องระดับต่ำลง
เมื่อไล่วงจรดูแล้ว ก็จะสรุปคร่าวๆ ได้ว่า --เมื่อเปิดเครื่อง ไฟฟ้าจะวิ่งเข้าที่สายไฟ หมายเลขที่ลงท้ายด้วย X1 -- 11, 21, 31 --โดยที่ไฟฟ้าจะถูกต่อกับวงจรของสายไฟ หมายเลขที่ลงท้ายด้วย X2 -12, 22, 32 ซึ่งก็จะเป็นการเปิดโซลินอยล์น้ำประปาเข้าเครื่อง --เมื่อน้ำไหลเข้าถัง จนลมถูกดันเข้าไปในสวิทต์ความดัน ดันจนถ้วยพลาสติกถูกกดลงจนตัดไฟฟ้าหมายเลข X2 ตัวแผ่นโลหะของ X1 ก็จะดีดตัวไปแตะกับ ขั้วไฟหมายเลข X3 - 13, 23, 33 แทน --วงจรสำหรับขั้วไฟฟ้าหมายเลข X3 ก็จะเป็นการหมุนถังซัก ตามเวลาที่ตั้งในกล่องควบคุม --ส่วนหมายเลข X4 - 24, 34 ก็จะเป็นระดับการกดที่ลึกขึ้นของ X3 จะใช้เปิดให้น้ำเข้ามากขึ้น โดยมากจะเป็นการล้างน้ำครั้งหลังๆ ก่อนการปั่นหมาด
หน้าที่ของสวิตท์ความดัน ก็คงแค่นี้ละครับ
ดังนั้น ถ้าสวิตท์ความดันของเครื่องซักผ้าเสีย ก็ซื้อของเทียบ แล้วก็เสียบสายไฟให้ตรงก็น่าจะใช้ได้ แต่เท่าที่ผมดู ถ้าเป็นการเสียบสายไฟเลขชุดแรก หมายเลข 11-12-13 ก็จะเสียบตามหมายเลขได้เลย แต่ถ้าเป็นการเสียบสายไฟเลขชุดหลัง เค้าจะไม่เสียบที่เลข 23, 33 ละครับ จะมีขั้วไฟเป็นหมายเลข 24, 34 ให้ใช้แทนเลย
สรุป ตอนนี้ เครื่องซักผ้าที่บ้าน ก็กลับมาซักได้เป็นปกติแล้วละครับ หลังจากมีปัญหาซะหลายอาทิตย์ เสียค่าสวิตท์ความดันตัวใหม่ไป 240 บาท ขอบคุณที่แวะมาชมละครับ
ปูลู. ถ้าเครื่องซักผ้าที่บ้านเพื่อนสมาชิกมีปัญหา ไม่มั่นใจที่จะแก้ไขด้วยตัวเอง ก็ให้เรียกช่างละครับ จะได้ไม่เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
Create Date : 27 เมษายน 2553 | | |
Last Update : 17 พฤษภาคม 2553 23:14:51 น. |
Counter : 6562 Pageviews. |
| |
|
|
|