DIY #37 : ทำขายึดผนังแขวน LCD ปรับทิศทางได้รอบทิศ ด้วยงบจิ๊บๆ (I-TYPE)
มี LCD SS 32" กับเค้าอยู่เครื่องนึง กำลังจะเอาไปใช้ที่บ้านแม่ซะหน่อย แต่ก็จำกัดเรื่องจุดวาง เพราะบ้านแม่เป็นห้องแถวคูหาเดียว ขาแขวนทีวี เป็นสิ่งที่เหมาะสมสำหรับงานนี้ แต่ไปดูที่ห้าง แบบ FULL OPTION ก็ โห หลายพันมากก็ลองออกแบบเอง ทำเองซะเลยดีกว่าเริ่มจาก ออกแบบร่างชิ้นส่วนสำคัญๆ บนกระดาษซะก่อน ใช้จินตนาการล้วนๆ ศึกษาจากแบบแขวน LCD หลายๆ แบบ โดยหลักๆ ก็ใช้วัสดุเป็นเหล็ก เพื่อความแข็งแรง เราตัดชิ้นส่วนต้นแบบจากกระดาษกล่อง ที่ลองประกอบดูแล้ว ใช้งานได้ ก็ไปที่ใต้ทางด่วนถนนพระราม 4 แถวหัวลำโพง ร้านเกี่ยวกับเหล็กตรึม เพื่อตัดต้นแบบบนเหล็กแผ่น 3 มม ใช้ทั้งหมด 3 ชิ้น ราคา 200 บาทช่างที่ร้านก็เก่งซ๊า ต้นแบบโค้ง มีรูตรงไหน เค้าก็เจาะได้ตรงกับต้นแบบกระดาษแข็งเราซะทุกชิ้น โดยใช้แก๊ส จึงทำให้ขอบแผ่นเหล็กเรียบกริ๊บได้เหล็กแผ่นตามรูปเรียบร้อย ก็จัดหา วัสดุอื่นที่จำเป็น อีกหลายชิ้น แล้วก็นำไปเชื่อม ก็มี บูทเหล็ก 2 ตัว กับเศษเหล็กแผ่น เหล็กกล่อง หาได้ที่บ้านตอนแรกสุด ก็เอาไปเชื่อมด้วยตัวเอง แต่ผลงานที่ออกมา จ๊อดคงไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ เพราะว่าเชื่อมชิ้นงานเสร็จ ช่างตัวจริงมาตรวจงานให้ เคาะที หลุดเป็นชิ้นซะช่างเชื่อมตัวจริง ก็เลยต้องมาเชื่อมชิ้นงานให้เอง ทั้งหมด เลยต้องมีติ๊บสำหรับค่าวิชา ค่าฝีมือช่างไป 200หลังจากนำไปทำสีให้ดูดีขึ้นแล้ว ก็มาดูการทำงานของชิ้นส่วนกันชิ้นส่วน A : จะเป็นชิ้นส่วนที่จะนำไปยึดติดผนังA1: จะใช้บูทเหล็กตัวล่าง เชื่อมติดกับแกนกลาง สำหรับสร้างจุดหมุนซ้าย-ขวาA2: จะเป็นน๊อตตัวเมียที่ เชื่อมติดกับแกนกลาง พร้อมด้วย น๊อตตัวผู้ตัวเมีย อีกชุด สำหรับใช้กดหัวบูทเหล็กตัวบนที่จะนำมาสวม กันบูทเหล็กตัวบนหลุดA3: รูยึดแผงกับกำแพงชิ้นส่วน B : จะเป็นชิ้นส่วนสำหรับประกอบกับชิ้นส่วน A เพื่อสร้างการหมุนซ้าย-ขวา และเป็นจุดสร้างมุมก้มเงยB1: เป็นบูทเหล็กตัวบน ใช้ประกบกับ A1 หลังจากนั้น จะถูกกดหัวด้วย A2 กันหลุดจากการโยกไปมาB2: จุดยึดชิ้นส่วนหลัก จะเป็นตัวรับน้ำหนักของการแขวน LCD ใช้น๊อตตัวใหญ่ขนาดนี้ ไหวชัวร์B3: จุดสร้างมุมก้มเงย จะมีน๊อตวิ่งอยู่บนรางโค้ง โดยจะบังคับให้ตัวยึด LCD เปลี่ยนองศาการมองได้ชิ้นส่วน C : จะเป็นแกนสำหรับสร้างมุมก้มเงยกับตัวแผง LCDC1: บูทเหล็กตัวล่างชุดที่สอง ยึดบนแกน สร้างจุดหมุนซ้าย-ขวา อีกชุด สำหรับการหันคืนของตัวจอC2: จะเป็นตัวกดหัวบูทเหล็ก ชุดที่สอง ทำหน้าที่เหมือนชิ้นส่วน A2C3: เป็นจุดยึด เมื่อประกอบเข้ากับ PART B3 สร้างองศาการก้มเงยของตัวจอC4: เป็นจุดยึด รับน้ำหนักของตัวจอ ยึดกับ PART B2Ps. มีรองฉากเหล็กเพื่อเพิ่มพื้นที่การเชื่อม กันบูทเหล็กหลุดด้วยชิ้นส่วน D : จะเป็นแผงชุดยึดติดกับตัวจอ LCDD1: เป็นบูทเหล็กตัวบน ใช้สวมเข้ากับ C1 ทำให้หมุนซ้าย-ขวาได้D2: เป็นจุดยึดกับตัวจอ LCD พอดีว่า LCD SS 32" ของที่บ้าน มีจุดยึดเป็น สี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ 20 ซมเรามาประกอบชิ้นส่วน A+B เข้าด้วยกัน พร้อมทั้งขันน๊อต A2 ลงมากดหัวบูทเหล็ก แล้วขันน๊อตตัวเมียข้างล่างย้ำอีกที ยังงัยก็ไม่หลุดนำชิ้นส่วน C เข้าไปประกบ พร้อมทั้งยึดน๊อต B2 B3นำชิ้นส่วน D ชิ้นสุดท้ายเข้าไปสวมที่บูท พร้อมทั้งย้ำน๊อต C2 ไม่ให้บูทเหล็กหลุดเสร็จแล้ว สำหรับชุดแขวน LCD รอบทิศ สำหรับการลงทุนจิ๊บๆ-ค่าตัดแผ่นเพลทเหล็ก 3 ชิ้น 200 บาท-ค่าบูทเหล็กประตู 2 ชุด HW ขาย 8X แต่ร้านฮาร์ดแวร์ข้างนอกขาย 45 บาท เหมือนกันเดี๊ยะ-ค่าติ๊ปช่างเชื่อม 200-ค่าชิ้นส่วนประกอบอื่นๆ ที่ไม่ได้ลงทุนซื้อพอประกอบเสร็จ ลองเอาไปกดเอาไปยืนดู แข็งมากขอบอก ไม่มีปัญหาสำหรับ LCD หนักสิบโล+-แถมหน่อย ถ้าเห็นว่าชุดเต็ม A+B+C+D มันเกะกะเกินไป ไม่จำเป็นต้องปรับซ้าย-ขวา ไม่จำเป็นตัองปรับก้มเงยมากนักเราก็ใช้ ชิ้นส่วน A+D เราก็จะได้ชุดแขวน LCD แบบประหยัดเนื้อที่แนบกำแพงแทน ปรับซ้าย-ขวาได้นิดๆ เสร็จแล้วก็มามองๆ ขาแขวน LCD Version 1 มันเทอะทะนิดหน่อย คงต้องมีการปรับปรุงให้กระทัดรัดอีกนิดท่าจะดี ใ่ช่มั้ยครับพี่น้อง
DIY #36 : ชุบชีวิตพัดลมมือถือ เติมเต็มรอยยิ้มให้เด็กน้อย
ช่วงเวลาอาหารเที่ยงของวันทำงานวันนึง คุณนายฯ ก็ออกไปทานอาหารที่ศูนย์อาหารตามปกติ ก็มีเด็กหญิงลูกแม่ค้าที่ถูกชะตา มานั่งคุยด้วย คุณนายฯ ก็เลยนึกถึงพัดลมมือถือลายการ์ตูน ที่มีในห้องเก็บของ แต่ไม่ได้ใช้ซะตั้งนานแล้ว จะเอามาให้เด็กหญิงซะหน่อยเมื่อถึงบ้านไปหยิบพัดลมมือถือออกมาจากห้องเก็บของ ยังอยู่ในแพคเก็จซะดิบดี คาดว่าเด็กหญิงคงเป็นปลื้มอย่างมาก กับพัดลมสุดแสนจะน่ารักก่อนจะเอาไปให้เด็กหญิงเค้า ก็เลยจะเอาพัดลมมาลองเปิดดู ทำไม มันไม่ทำงานหว่าก็ลองแกะดู โห ถ่าน Made in China เล่นซะสนิมเขรอะ อย่างนี้ คุณนายฯ ก็งานเข้าละครับ อุตสาห์ไปหยอดเด็กหญิงไว้ ให้มีความหวังไหนๆ ก็ไหนๆ ก็เลยลองแกะชิ้นส่วนออกมาดูที่สาเหตุกัน เจอสาเหตุว่า สนิมกินส่วนที่เป็นขั้วโลหะด้านนึงซะเกลี้ยงแล้ว ดีที่ตัวสวิตท์ยังดีอยู่ มีรางถ่านพลาสติกกันให้อยู่ เลยยังปลอดภัยขั้วที่ไม่โดนสนิมกิน เราก็นำมาทำความสะอาดก็ใช้ได้แล้ว ส่วนขั้วที่โดนสนิทกินจนเป็นผง แตะเป็นกรอบ คงต้องใช้วัสดุนำไฟอื่นมาใช้ทดแทน หันรีหันขวาง ก็เอากิ๊ฟเดินไฟมาพับ-ดัด ให้เข้ารูป จับดัดได้ง่ายดีด้วยเสร็จแล้ว เราก็เชื่อมวงจร แล้วประกอบเครื่อง ลองเปิดดูซิอีะห้า พัดลมมือถือลายกบเขียวเราก็กลับมามีชีวิตเหมือนเดิมแล้วเรียบร้อย คุณนายฯ ก็ได้ พัดลมมือถือลายกบการ์ตูน ไปฝากเด็กหญิงตามที่ว่าไว้ เด็กหญิงที่เฝ้ารอ ก็ได้พัดลมสมใจ ส่วนผม ก็ได้จำหน่ายพัดลมในห้องเก็บของออกไปได้หนึ่งตัว ดีกว่าให้เป็นของที่ค้างไม่ได้ใช้ประโยชน์Win-Win กันหมดละครับ
DIY #35 : ใช้เวลาวันหยุด ล้างแอร์เองก็ได้ ไม่ยากเท่าไหร่
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า มีอยู่คืนนึง ตัวพัดลมในแอร์ มิตซู เฮฟวี่ดูตี้ ที่ใช้อยู่สิบกว่าปี มีเสียงดัง แต๊กๆ ต้องสดุ้งตื่นมาหลายรอบ ไม่ใช่ปัญหาการสั่นของหน้ากาก แต่เป็นปัญหาของตัวใบพัดลม ก็เลยคิดว่าถึงเวลาแล้ว-มั้ง- ที่ต้องล้างแอร์ซะหน่อย พอดีว่า ใต้แอร์ จะเป็นโต๊ะวางของของคุณนายฯ ซะด้วย จะย้ายก่อนล้างก็คงเรื่องใหญ่ เก็บของกันบานทุกทีตอนเรียกช่างมาล้าง เค้าจะมีถาดแสตนเลส มารองน้ำล้างไปปล่อยออกข้างนอก น้ำก็จะไม่เลอะเทอะห้องยังงัยก็ต้องเดินหน้า เริ่มวางแผนล้างแอร์ โดยเริ่มถอดหน้ากากชิ้นหน้า ชิ้นหลัง ออก ก็เพราะแอร์ตัวนี้ใช้มาก็สิบกว่าปีแล้ว ชิ้นส่วนก็เริ่มกรอบบ้าง ก็ต้องระวังกันหน่อยหลังจากนั้น ก็ถอดมอเตอร์คุมแผงทิศทางลมออก แล้วก็จะถอดแผงคุมทิศทางลมออก ได้จะบอกว่า สกปรกอย่างหนัก ทั้งครีบ ทั้งแผง หลังจากนั้น ก็จัดหาถุงพลาสติกใหญ่ซักหน่อย พอที่จะกันน้ำกระเด็น เอาด้านปากถุงขึ้น กรีดปากถุงออกซะหน่อย เพื่อเพิ่มพื้นที่ปากถุง แล้วใช้สายไฟเส้นใหญ่แขวนตัวถุงพลาสติกไว้ ที่ใช้สายไฟเส้นใหญ่ก็เพราะว่า มันแข็ง ดัดให้ถุงพลาสติกแขวนในตำแน่งที่ต้องการได้ส่วนก้นถุงก็เจาะรู ให้ระบายน้ำออกจากตัวถุงได้ รองด้วยถังสักใบปกติแล้ว แอร์ตัวในบ้าน ส่วนที่จะสกปรกหลักๆ ก็จะเป็น รังผึ้งแอร์ กับ ใบพัดลม ซึ่งก็จริง ฮาฮา แอร์ของที่บ้าน เต็มไปด้วยฝุ่น เต็มซะเคยเห็นช่างแอร์ตอนมาล้างที่บ้าน เค้าจะถอดใบพัดลมออกไปล้าง แต่ก็ต้องถอดน๊อต ยกแผงรังผึ้ง ถึงจะถอดใบพัดออกมาได้ ซึ่งถ้าไม่ใช่ช่างจริง ผมว่าไม่น่าจะเสี่ยง เคยลองจะถอดดูครั้งก่อนโน้น แต่ไม่สำเร็จ เสียวแผงรังผึ้งจะหักซะก่อน เสียตังค์หลายพันละครับสาเหตุที่ทำให้เกิดเสียงดังของตัวใบพัดลม คงเพราะใบมันสกปรกมากอย่างนี้เอง ทำให้การหมุนอาจผิดจังหวะ เลยเกิดเสียงละครับจะเริ่มทำความสะอาดแล้ว ก็เตรียมน้ำยาทำความสะอาดแผงรังผึ้ง ซื้อจากห้างตอนลดราคา ร้อยปลายๆ กับ กระบอกฉีดน้ำอัดลมเริ่มจากฉีดน้ำยาทำความสะอาดแผงรังผึ้ง จะมีเสียง ฟู่ พร้อมทั้งเริ่มมีน้ำสีดำๆ หยด เราก็เลยเอาให้แน่ใจ ฉีดไปซะสองรอบพอเสียง ฟู่ เริ่มค่อยลง ก็เอาน้ำฉีดล้างซะหน่อย จริงๆ แล้วข้างกระป๋องอธิบายด้วยรูปว่า หลังจากฉีดน้ำยาแล้ว น้ำสกปรกจะไหลออกไปทางท่อน้ำแอร์เอง แต่ว่าผม ไม่อยากให้มันตกค้างตามครีบ ก็เลยฉีดน้ำล้างด้วยซะเลยระหว่างฉีดน้ำ ก็คอยเช็คทิศทางการไหล-หยดของน้ำล้างด้วย คุมการไหลของน้ำให้อยู่ในถุงพลาสติกให้ดี จะได้ไม่ต้องเหนื่อยไปเช็ดพื้น เช็ดโต๊ะกันอีกรอบเสร็จจากทำความสะอาดแผงรังผึ้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ใช้กระบอกฉีดน้ำ ไล่ฉีดทำความสะอาดใบพัดลม ทีละครีบๆ น้ำก็จะล้างฝุ่นที่ติดตามร่องใบพัด ออกมาเป็นก้อน ล้างคอมแอร์ตัวในเสร็จแล้ว ก็มาตรวจผลงานจากการล้างกันซะหน่อย โห น้ำรึนี่ ดำมากมายหลังจากนั้น เราก็นำชิ้นส่วนภายนอกที่ถอด ออกไปล้างทำความสะอาด พร้อมทั้งเป่าไล่ลมซะหน่อย เสร็จแล้วก็ประกอบเครื่องกลับ ยังงัยก็ระวังเรื่องการใส่รางน้ำทิ้งซะหน่อย อย่างของผม ตอนกำลังใส่ เห็นมีฟองน้ำยางรอง ก้อนนึง ผมไปใส่ผิดไปใส่หนุนด้าน น้ำออก ทำให้องศาการติดแผงมันเพี้ยน น้ำเลยไหลย้อนหยดเข้ามาในบ้าน เลยต้องรื้อหน้ากากแอร์เอาฟองน้ำมารอง ให้อีกด้านสูงขึ้นกว่ารูน้ำทิ้ง ทำงานสองรอบซะงั้นเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ คงต้องบอกคุณนายฯ ว่าให้เตรียมเสื้อหนาวตอนนอนด้วย คาดว่าคงหนาวมาก อิอิ
มาแว๊ว DIY #34 : มาชุบชีวิตโคมไฟปีกค้างคาว สำหรับสวนหลังบ้าน
โคมไฟลายคลาสสิค ถูกวางอยู่ที่ตลาดมือสอง ตุณนายเค้าถูกใจม๊ากมาก เลยสอยกลับบ้านมา เล็งๆ เอาไว้ว่าจะเตรียมเอาไว้ไปเป็นโคมไฟกลางสวนลอยฟ้า ซะหน่อยตอนกลางคืน มืดๆ ก็ไม่เห็นร่องรอยอะไรชัดเจนนัก พอมากลางวัน โห โคมนี่มันอย่างเยินมั่ก ยังงัยซะ ถ้าตัวกระจกไม่แตก อะไรๆ ก็พอแก้ไขได้เริ่มจาก ต้องลอกสีเก่าทึ่ติดตัวโคมออกมาซะก่อน และแล้วก็ไปซื้อ น้ำยาลอกสีจากห้าง HP ราคา 140 แต่พอไป HW เปิดใหม่ที่ราชพฤกษ์ ขายแค่ 100 -แต่ตอนนี้ 120 แล้ว- เซร็งเยย ซื้อแพงซะได้แล้วก็ใช้แปรงไม่ต้องดีมากนัก ทาๆ ให้ทั่ว ระวังตอนทาหน่อยละกัน แค่ไอก็แสบๆ คันๆ ได้แล้วพอป้ายน้ำยาลอกสี เป็นครีมข้นๆ เหนียวๆ ไปสักพัก น้ำยาก็เริ่มทำงาน กัดสี ร่อนออกเป็นแผ่นๆทิ้งไว้ให้น้ำยาทำงานของมันไป เสร็จแล้วก็ล้างออกด้วยผงซักฟอก สักสองสามรอบก่อนใช้มือจับ ปลอดภัยไว้ก่อน แล้วก็เริ่มใช้เกรียงขูดๆ สีเดิมที่ติดอยู่ ก็จะหลุดออกมาอย่างง่ายเลย-มั้ง- เปลี่ยนน้ำบ่อยหน่อยก็ดี น้ำจะดำเร็วมั่กพอชิ้นส่วนเริ่มสะอาด สะอ้าน พอแล้ว ก็เอามาขัดกระดาษทรายอีกนิด เพื่อความเนี้ยบหลังจากผ่านขั้นตอนทำความสะอาดอันแสนทุลักทุเลไปแล้ว คราวนี้ ก็มาเริ่มงานสีจริงซะที เริ่มจากทาสีรองพื้นกันสนิมก่อน สีแดงๆพอแห้งดีแล้วก็ทาสีจริง เป็นสีเงินประกาย เอาสักสองรอบ พอรอบแรกแห้งดี ก็ขูดๆ ขัดๆ ออกซะหน่อย แล้วค่อยทารอบสองพอสีพื้นแห้งดีแล้ว ก็ย้อมทับด้วยสีดำสูตรน้ำอีกที ไหนๆ ก็ไหนๆ ก็ลองเอากระดาษทรายขูดเหล็ก ถูๆ ขัดๆ ให้เป็นลาย ดูๆ ไปก็โอเชย์ก็เลยขัดกระดาษทราย ทุกชิ้นไปซะ พอขัดๆ ถูๆ พอให้เป็นลายดีแล้ว ก็อาร์ตค่อตดีอยู่ประกอบชิ้นส่วนกลับเข้าที่ ใช้สายไฟ VCT 2X0.5 เป็นตัวห้อยโคมซะ เช็คความเรียบร้อยสายไฟ แล้วอย่าลืมรองยางกันน้ำ กับอุดรูน้ำเข้าโคมก่อนด้วยละครับโคมไฟปีกค้างคาว เราก็เสร็จแล้วก็พร้อมใช้งาน แต่สวนที่จะเอาไปติด ยังไม่เสร็จดี ก็ต้องรอไปก่อน ซะงั้น อิอิ
มาแว๊ว DIY #33 : มาจัดการเช็ค-เช็ด-ถู โคมไฟไม้เลื้อยมือสอง ก่อนนำไปใช้งานในบ้านอย่างมั่นใจ
ได้ไปเดินตลาดกับคุณนาย แล้วก็เห็นพ่อค้าคนนึงวางโชว์โคมไฟรูปร่างแปลกๆ อยู่ชุดนึง ตัวโคมคู่เป็นแก้วลายเหมือนกลีบดอกไม้ ตัวโคมเป็นท่อเหล็กดัดเป็นก้านโค้ง ตัวฐานเป็นเหล็กหล่อทรงกลม ตัวก้านประดับด้วยไม้เลื้อยกับใบเป็นเหล็กปั้มรูปใบไม้ถูกใจนัก ก็เลยสอยมาติดบ้านซะลองเปิดไฟดู เรียกบรรยากาศโรแมนติกซะหน่อย ให้รู้ว่ายังใช้งานได้ลองดูมุมมองด้านหลัง ก็สวยดี แสงเหลืองๆ ช่วยสร้างบรรยากาศ ช๊อบชอบแต่เครื่องไฟฟ้ามือสองทุกอย่าง ก่อนนำไปใช้งานจริง ควรจะตรวจสภาพสักนิด เพื่อความมั่นใจอย่างตัวโคมชุดนี้ ตัวก้านเหล็ก กับตัวฐาน มันหลวมๆ ชอบกล ก็เลยเห็นรอยแตกด้านหลังนิดๆอย่ากระนั้นเลย ไหนๆ ต้องถอดมาเช็คสายไฟ อยู่แล้ว ก็เลยเปิดฝาด้านล่าง ที่ถูกปิดไว้ด้วยแผ่นไม้ปิดกาวเพ่งให้ดีก็จะเห็นสาเหตุของอาการหลวมๆ ตัวก้านเหล็ก กับตัวฐาน มันคงแตกแล้ว ถูกทำให้แน่นด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์อัด มันจะไปอยู่ได้ยังงัยเนี่ยะก็เลยแกะก้อนหนังสือพิมพ์ที่อัดรูไว้ แล้วหันรีหันขวาง มีปูนกาวอยู่ใกล้ตัว ก็เลยเอามาผสมเทอัดร่องให้แน่นแทน แล้วรอให้ตัวปูนแห้ง แน่นปึ๊กหลังจากจัดการช่วงล่างเรียบร้อย ก็มาเช็คส่วนสายไฟช่องบน ในขั้วหลอดไฟเคยเป็นที่อยู่ของแมลงซะด้วย ก็จัดการทำความสะอาดซะหลังจากนั้น ก็มาถอดขั้วหลอดไฟ มาทำความสะอาดพร้อมพับ เช็คที่ขั้วสายไฟ ว่าแน่นหนาดีรึยัง อย่าไว้ใจเรื่องไฟฟ้า แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ กับของมือสองหลังจากนั้น ก็ทำความสะอาดซะหน่อย ตอนแรก กะว่าจะทำสีใหม่ด้วยซะเลยแต่คิดไปคิดมา สีเก่าเนี้ยะ มันคลาสสิกดีอยู่แล้ว เป็นสีเขียวต้นไม้ มีประกายเล็กๆ ทั่วตัว ก็เลยคงสีเดิมไว้จะดูดีกว่าหลังจากนั้น ก็พันสายไฟใหม่ให้เรียบร้อย แล้วปิดส่วนปิดด้านล่างด้วย กาวยาง เสร็จแล้ว โคมไฟไม้เลื้อย ชุดเดิม ที่เวลาใช้มั่นใจมากกว่าเดิม มากมายแต่ยังงัยซะอย่าลืมใช้หลอดประหยัดไฟ ลดโลกร้อนน่ะครับ
อย่าลืมตามไปเจอกันใน Web Pladaodesign.com
สินค้า ของสะสม แมคโดนัลด์ McDonald คลิ๊กเลยจร้า
กระดาษ แน๊พกิ้นสำหรับงานเดคูพาจ Decoupage
ชิ้นงานดิบ ไม้-วัสดุสาน สำหรับงานเดคูพาจ Decoupage
สำหรับ Fan FB อย่าลืมแอดเป็นเพื่อนกัน จะได้ไม่พลาดข่าวสารกันละค่ะ