ไปเที่ยว ไปกินกันนะคะ ขอบคุณสำหรับเพื่อนๆทุกท่านที่แวะชมค่ะ
 

แบกเป้ไป>>สะบายดีประเทดลาว(วังเวียง)7-10 Oct.2009

เมืองวังเวียง เป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ
ด้วยบรรยากาศของภูเขาน้อยใหญ่ เรียบริมแม่น้ำซอง
ผู้ใดได้มาเยือนแล้วต้องหลงเสน่ห์แห่งธรรมชาติแทบทุกคน
นักท่องเที่ยวต่างให้สมญานามวังเวียงว่า คือ "กุ้ยหลินเมืองลาว"

วันที่ 8 ตุลาคม 2009

หลังออกจากที่พักโรงแรมรามายานะ เตรียมซื้อตั๋วไปวังเวียงตั้งแต่เมื่อวานเย็น ด้วยราคา 300 บาทต่อหัว
หลังจากที่เราได้มานั่งบนรถบัสที่จะไปวังเวียง
ป้าซิ่งก็ได้เรียนรู้เพื่อนำมาบอกกล่าว ให้อ่านกันว่า
เราสามารถซื้อได้ที่คนขับรถบัสที่จะไปวังเวียงได้เลย
ควรมาก่อน 09:30 น.เวลารถออก 10:00 น.ซื้อได้ด้วยราคา 250 ต่อหัว
ถ้าหากมาหลายคน สามารถต่อลองได้ อีกอย่างทุ่นค่ารถที่จะมาลงที่
ร้านอาหารสันติสุข และ สนามกีฬาเก่าเจ้าอนุวงศ์ บอกตุ๊ก ตุ๊ก จัมโบ้ ใครๆก็รู้จัก
คนขับรถ ก็ให้เบอร์โทร 7614130



ส่วนตัวป้าซิ่งก็โดนพนักงานที่โรงแรมรามายานะ เสียค่าโง่ไปหัวละ 50 บาท
แต่ก็มีรถตู้บริการส่งถึงรถบัสที่จะไปวังเวียง
ถ้ามาคราวหน้าอีก ป้าก็จะมาเองตรงที่ท่ารถบัสเลยดีกว่า
หรือสอบถามตามเบอร์โทรคนขับอีกที เพื่อความมั่นใจว่ารถไม่เต็ม
ภายในรถส่วนใหญ่เป็นฝรั่งต่างชาติ กันเยอะมาก








จากเวียงจันทน์ ถ้าจะไปหลวงพระบาง เมืองวังเวียงก็จะเป็นทางผ่าน
ด้วยระยะเวลาจาก เวียงจันทน์ไปวังเวียง 4 ชั่วโมง
ป้าซิ่งเลยมีโปรแกรมตั้งแต่แรกคิดที่จะมาลาวแล้วว่า
ควรพักตากอากาศที่นี่ซักคืน
ก่อนที่คุณรัตน์และป้าซิ่ง จะเดินทางต่อไปหลวงพระบางในวันรุ่งขึ้น
ด้วยระยะทางจากวังเวียง ไป หลวงพระบาง อีก 6 ชั่วโมง
ซึ่งระยะทางและถนนจากวังเวียงถึงหลวงพระบาง คดเคึ้ยวยิ่งกว่าไปอำเภอปายซะอีก
การเดินทางแบบนี้น่ากลัวทั้งถนน และ สุขภาพของตัวเอง ท้องไส้ต้องเมาแน่
พวกเราเลยต้องจอดพักผ่อนนอนเล่นชิลล์บรรยากาศที่วังเวียงกันก่อนดีกว่า

ก่อนที่จะมาที่วังเวียง เราก็ศึกษาข้อมูลที่พักแล้ว
เราตกลงพักที่ Riverside Bungalows ซึ่งอยู่ติดลำน้ำซอง
พอดีว่าที่บังกาโลปรับปรุงใหม่ คนขายบอกราคาอยู่ที่ 900 บาท
เราต่อรองราคาได้ 700 บาท (175,000 กีบ) แต่ไม่มีอาหารเช้าให้
ก็ตกลงตามนั้นก็ได้ค่ะ

Riverside Bungalows ทางเข้าที่พัก สังเกตุจะเห็นวัดมะขามทาด































พักผ่อนตามอัธยาศัย พอสมควร พวกเราก็หากิจกรรมในลำน้ำซองกันดีกว่า
ด้วยว่า เราแกร่กันทั้งคู่ เราพอจะนั่งเรือชมทิวทัศน์ตามลำน้ำซองก็พอแล้วค่ะ
ก็ให้พนักงานที่บังกาโลที่เราพักจัดหาเรือให้ ในราคา 90,000 กีบ
ประมาณ ชั่วโมงกว่า ทั้งไปและกลับที่พัก ก็เฉลี่ยคนละประมาณ เกือบ 200 บาท

หลังจากป้าซิ่งและคุณรัตน์เที่ยวชมตามลำน้ำ ก็สามารถบอกได้ว่า
กิจการมตามลำน้ำพอๆกับเมืองไทย ที่จังหวัด กาญจนบุรี เลยค่ะ
มีพายคายัค ,สไลเดอร์ ,ลิงค์ทิ้งตัวลงน้ำ, นั่งห่วงยางลอยตามน้ำ
มีบาร์ตามริมน้ำ ฝรั่งเพียบ ตอนกลางคืนแถบถ้ำล่ม คงหนวกหูน่าดูเหมือนกัน
ถ้าหากคุณมีเวลาพอจะทำกิจกรรมได้ทั้งหมด ก็เล่นหมดเป็นวันเลยทีเดียว
เพราะทัวร์จะพาคุณไปเที่ยวตามถ้ำสำคัญ และน้ำตกต่างๆ แถบบริเวณ
แต่พวกเราทำได้แต่นั่งเรือชมเล่นวิวเพลินยามเย็น สบายๆ
ระยะนั่งเมื่อสวนกับคนอื่นๆที่เป็นนั่งท่องเที่ยวเช่นกันตามลำน้ำ
ก็โบกไม้ โบกมือ และ กล่าวคำว่า "สะบายดี"แปลว่า สวัสดี ของชาติลาวกันหมดเลย


























































บรรยากาศถนนหนทางของเมืองวังเวียง และ ร้านต่างๆที่อยู่ข้างถนน















============ร้านตัดผมข้างทาง============



==========ร้านจิ้มจุ่ม โต๊ะที่เห็นเป็นรูกลม ไว้ใส่หม้อน้ำแจ่ว====



=======เนื้อย่างไม้ละ 1,000 กีบ=========



=======ร้านขายของชำ ที่อยู่ปากทางเข้าที่พักริเวอร์ไซด์บังกาโล===



วันพรุ่งนี้จะเดินทางไปหลวงพระบาง
เลยเตรียมไปท่ารถวังเวียงเพื่อซื้อตั๋วล่วงหน้าไว้ก่อน
เลือกรถมินิบัสหรือรถตู้คนละ 90,000 กีบ เลือกเดินทางออก เก้าโมงเช้า
ถ้าเป็นรถบัสมีหลายที่นั่งก็อีกราคา ดูได้ตามรูปค่ะ







ตกดึกไปกินอาหารที่ร้านนกแก้ว







เอาล่ะ หยุดไว้แค่คืนนี้ที่วังเวียง ไว้พรุ่งนี้พบกันใหม่ที่หลวงพระบาง นะคะ






 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2552 10:53:50 น.
Counter : 4281 Pageviews.  

แบกเป้ไป>>สะบายดีประเทดลาว (เวียงจันทน์) 7-10 Oct.2009

ว้าวๆๆ
ไปประเทศลาวคราวนี้สำเร็จลงได้เป็นที่เรียบร้อย ไปหลายสัปดาห์แล้ว
เพิ่งมีเวลาถ่ายเทประสบการณ์
คราวที่แล้วเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2009 ไปลาวไม่สำเร็จ เพราะเจอะพายุมรกต
ฝนตกไม่ได้เดินชมดูบ้านเมืองของเขาเลย
ได้แต่นั่งรถบัสนั่งเล่นไปเพลินๆในวันเดียวแล้วกลับฝั่งไทยดีกว่า
ไปไหนก็ไม่สนุกเสียแล้วค่ะ แต่ก็ทำให้รู้วิธีการเดินทางแบบคร่าวๆ
แต่ไม่ยากอะไรเลย หากมีเพื่อนไปด้วยซักคน ก็คงสนุกแน่
อีกอย่างได้ช่วยกันแชร์ค่าห้องพัก


และแล้ววันนี้ในบล๊อคก็มาถึง เมื่อมีอาสาสมัครใจเพื่อนในห้อง@Japan
นามแฝง R_may เรียกชื่อเล่นกันสั้นๆว่า คุณรัตน์
ไปด้วยหนึ่งคน อายุอานามไล่เลี่ยกัน เวลานอนไม่คล้ายกัน
แต่ที่สำคัญไม่ดื่ม แต่ กินเก่ง เหมือนกันเลย อิๆ



ป้าซิ่งเริ่มจองซื้อตั๋วรถบัสของ นครชัยแอร์ (NCA) เป็นรถ First Class เลือกเวลา 24:15
ขึ้นรถในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 6 ตุลาคม 2009
เพื่อไปถึงขอนแก่นตอนเช้าวันที่ 7 ตุลาคม 2009
นครชัยแอร์ ที่เป็นรถ First Class จากกรุงเทพฯ ขึ้นที่กำแพงเพชร 2
มีไปถึงแค่ขอนแก่น ถ้าอยากนั่งรถธรรมดา ก็มีไปหนองคาย
ซึ่งจังหวัดหนองคาย เป็นจุดเชื่อมต่อที่เดินทางเข้าเวียงจันทน์ได้สะดวกที่สุดค่ะ
แต่ป้าซิ่งและคุณรัตน์อยากนั่งและนอนสบายในรถ
จึงต้องพึ่งนครชัยแอร์
พอรถพาไปถึงขอนแก่น ต่อจากนั้น ก็จะมีรถจากขอนแก่น ไป นครเวียงจันทน์ ได้อีกทอดหนึ่ง
สิ่งสำคัญต้องมีพาสปรอตในการซื้อตั๋วเพื่อการเดินทางเข้าเวียงจันทน์ด้วย
รถบัสที่เริ่มจากขอนแก่น ไป เวียงจันทน์ เส้นทางขึ้นไปถึงหนองคายเช่นกัน
และก็ข้ามสะพาน ไทย - ลาว เหมือนคราวก่อนที่ป้าซิ่งเดินทางจาก
ท่ารถของจังหวัดหนองคาย เข้า เวียงจันทน์ ในราคา 55 บาท
ส่วนรถที่ออกจากขอนแก่น เข้า เวียงจันทน์ ราคา 180 บาท
สถานที่ลงในเวียงจันทน์ เป็นที่เดียวกัน คือ ตลาดเช้า
เวลารถจากขอนแก่นไปเวียงจันทน์ มีแค่ 2 เวลา คือ
07:45 น. กับ 15:15 น.
ส่วนที่หนองคาย มี 6 เวลา

เรามาเริ่มซื้อตั๋ว First Class ของนครชัยแอร์ กันก่อนดีกว่า
ราคาตั๋วต่อหัว 512 บาทต่อที่นั่ง
จองเที่ยว 24:45 น.ถึงขอนแก่นเช้าวันรุ่งขึ้น 06:24 น.
ระยะทางจากกรุงเทพฯ ไปขอนแก่น ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง
ระยะทางประมาณ 440 กิโลเมตร
รถ First Class ของนครชัยแอร์ที่จากกรุงเทพฯ ไป ขอนแก่น
หรือจาก ขอนแก่น ไป กรุงเทพฯ มีอยู่ 3 เที่ยว
มีเวลาดังต่อไปนี้ค่ะ

11:15 , 23:15 , 24:15

ต้องการทราบละเอียด ดูเว็ปนี้ค่ะ //www.nca.co.th
Tel.0-2936-0009
ลูกค้าสัมพันธ์ 0-2936-0800 ต่อ 127










ภายในรถเป็นที่นั่งรับรองความสะอาด รถปรับเอนได้อย่างสบายเพราะมี 24 ที่นั่ง พร้อมด้วยระบบปรับปุ่มนวดทุกที่นั่ง,
ผ้าห่ม, ห้องน้ำ ,มีเกมส์ ,มีหนังสือ,มีห้องน้ำในตัว , บริการด้วยผักสลัดไก่ และ น้ำดื่มสะอาด










รถบัส First Class มาจากกรุงเทพฯ ถึงจังหวัดขอนแก่น
ประมาณ 06:30 น. มีเวลาพักอีก 1 ชั่วโมงก่อนการเดินทางเข้าเวียงจันทน์
ทั้งคุณรัตน์และป้าซิ่ง ก็เข้าห้องน้ำล้างหน้า ,แปรงฟัน กันอยู่ท่ารถขอนแก่น
นั่นเอง
ก็ประจวบกับเวลาที่พวกเราจะรอซื้อตั๋วระหว่างประเทศ
จากขอนแก่นไป เวียงจันทน์ ในเวลา 07:45 น.
เมื่อเวลาบู๊ธขายตั๋วเปิด เราก็เตรียมพาสปรอต และ เงินค่าตั๋ว 180 บาท
เป็นรถบัสธรรมดาๆ













เมื่อข้ามสะพานมิตรภาพ ไทย - ลาว เราก็ทำตามระเบียบหาดูได้ใน
บล๊อคล่างๆที่ป้าซิ่งได้ทำเอาไว้เมื่อ 2 เดือนก่อน
ระหว่างที่เราเข้าฝั่งลาว ทำเรื่องขาเข้าลาวเป็นที่เรียบร้อย
คนอื่นยังทำไม่เสร็จ เราก็หาที่แลกเงินอยู่แถวนั้น
และแล้วพวกเราก็รวยเละ หลายร้อยล้าน เฮๆๆๆ ( กีบ )









รถบัสมาถึงเวียงจันทน์ ลงที่ตลาดเช้า
พวกเราก็หาที่พัก ได้ที่ โรงแรมรามายานะ ซึ่งอยู่ใกล้ประตูชัย บนถนนล้านช้าง
แว๊บดูรายละเอียดของโรงแรมได้ในบล๊อคล่างๆ อีกนะคะ













ตอนเข้าตลาดเช้า ยังไม่ได้เช็คอินโรงแรม
พวกเราก็ตกลงกันซื้ออาหารเข้าไปกินในโรงแรมด้วย
โรงแรมรามายะนะ แค่เดินไม่ถึงกับเหนื่อยมากเท่าไหร่
แต่พวกเราก็กะว่าจะกิน แล้ว อาบน้ำนอนเล่นสักพัก
ก่อนที่จะออกมาท่องเที่ยวสถานที่สำคัญในประเทดลาว
อาหารของเราง่ายๆ ห่อใบตองกิ๊ปเก๋มาก





หลังจากนอนเล่นไปชั่วโมงกว่าๆ ได้เวลาบ่าย
เราทั้งสองก็ออกมาเดินชมสถานที่สำคัญของเวียงจันทน์
เริ่มสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเราก่อนเพื่อนเลย คือ ประตูชัย (ปะตูไชย)
อยู่ใกล้กับโรงแรมที่เราพักอยู่ เดินไปแค่ 3- 5 นาทีก็ถึงแล้ว


















ถัดมาคือ "วัดธาตุฝุ่น" ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงแรมรามายานะที่พักของเราค่ะ
เป็นวัดที่พึ่งก่อสร้างใหม่เมื่อปี 2538 ป้าซิ่งชอบตรงซุ้มประตูมากๆเลย










ต่อจากนั้น เราก็มองหารถตุ๊ก ตุ๊ก จัมโบ้ เหมาไปเที่ยวกันต่ออีก 3 สถานที่
ให้ไปคนละ 100 บาท นั่งไปกับคุณรัตน์ คนขับรถก็ได้ 200 บาทแล้ว
(ตอนแรกคนขับบอกราคา 300 บาท ต่อรองได้ 200 บาท)
พาเราไปเที่ยวชมสถานที่เราระบุว่าอยากไป ซึ่งอยู่ไม่ไกลเพราะอยู่รอบๆเมืองเวียงจันทน์นั่นแหละ

========วัดธาตุหลวง(พะทาดหลวง )เสียค่าเข้าชม 5,000 กีบ(20บาท)
======

ชื่อเต็มของวัดธาตุหลวง คือ พระโลกาจุฬามณี เป็นมหาบูชาสถาน
อีกทั้งยังเป็นสัญญลักษณ์ของประเทศลาว มาเวียงจันทน์ไม่ควรพลาดค่ะ















==========หอพระแก้ว เสียค่าเข้าชม 5,000 กีบ=========

เป็นพระอารามหลวงที่ถูกเปลี่ยนจากวัดเป็นพิพิธภัณฑ์ มีพระพุทธรูปสำริด
โบราณโดยรอบ และ พระแท่นที่จารึกเป็นภาษาเขมร
นานมาแล้วเคยเป็นที่ประดิษฐาน " พระแก้วมรกต" นาน 186 ปี
หลังจากนั้นจึงถูกสยามขณะยกทัพมาตีเวียงจันทน์ จึงได้อัญเชิญไปประดิษฐานที่กรุงเทพฯ
ป้าซิ่ง มีความรู้สึกว่าชอบวัดนี้ค่ะ มองจากภายนอก รวมด้วยบรรยากาศ
ดูสงบร่มรื่น มีสิ่งต่างๆ ที่แกะสลัก ไม่ว่าจะเป็นปูน หรือ ประตูไม้ ฝีมือการแกะสลักดีมากเลย
หลงเสน่ห์วัดนี้มาก สีไม้ดูครึ้มเก่าแบบชวนหลงใหล
พระพักตร์พระพุทธรูปมองแล้วอบอุ่น
ต้นไม้สีเขียวรอบๆบริเวณมันพลิ้วงดงาม เหมือนนางอัปสรร่ายรำไปรอบๆบริเวณสถาน
























============วัดศรีเมือง (วัดสีเมือง)=========

เป็นวัดที่ศรัทธาของชาวบ้านท้องถิ่นมากราบไหว้บูชากันมากที่สุด
เป็นที่ตั้งของเสาหลักเมือง
ด้านหน้ามีสวนสาธารณะ เป็นที่ตั้งรูปหล่อของ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์









รูปสุดท้ายของบล๊อคเวียงจันทน์แล้วจ้า
ตุ๊ก ตุ๊ก จัมโบ้ ( Tuk Tuk Jumbo ) กับ ป้าซิ่ง ใส่ผ้าถุงเที่ยววัดค่ะ



จบแล้วค่ะ ไว้พบกับแบกเป้ไป>>สะบายดีประเทดลาว "วังเวียง" เป็นรายการต่อไปนะคะ






 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2552 23:04:02 น.
Counter : 5744 Pageviews.  

Ramayana Hotel โรงแรมรามายานะ ที่ เวียงจันทน์/ลาว

โรงแรมรามายานะ ในเวียงจันทน์ อยู่ใกล้กับประตูชัย ล้านช้าง
เดินไม่ไกลจากท่ารถที่ตลาดเช้า และ ใกล้ๆมีวัดพระทาดฝุน
ป้าซิ่งไปกับเพื่อน(ไม่สาวอายุไล่เลี่ยกัน )
เราเลยเลือกเตียงคู่ ค่าห้องหารกัน นี่คือจุดประสงค์
ในการมาเที่ยวลาวในครั้งนี้ ราคาค่าห้องรวมอาหารเช้า 1,200 บาทต่อคืน



บริเวณล๊อปบี้






ทางเดินภายในอาคารของห้องพัก



ภายในห้องพักค่ะ







บริการอาหารเช้าของโรงแรม สถานที่อยู่ใกล้กับล๊อปบี้






















เกี่ยวกับที่พักรามายานะ ลงในบล๊อคนี้ไปก่อน
จวนได้เวลาเล่าเรื่องแบกเป้ไปลาว เร็วๆนี้แล้วค่ะ
ขอเวลาก่อนนะคะ

=============แล้วพบกันค่ะ==============




 

Create Date : 31 ตุลาคม 2552    
Last Update : 31 ตุลาคม 2552 18:53:45 น.
Counter : 2855 Pageviews.  

ร้าน " Iberry Homemade"ที่เชียงใหม่ ถนน นิมมานเหมินทร์ซอย 19

วันนี้เหมือนเช่นทุกปีไปลอยโคมยี่เป๊งที่ธุดงด์สถานล้านนา
ป้าซิ่งไปกับกลุ่มห้องไร้สังกัด ใช้เวลาเพียง 2 วัน คอนเฟิร์มคนที่จะไปด้วย
รวบหัวรวบหางไปกันทั้งหมด 13 คน
จากนั้นน้องกล้วย ก็พยายามหารถตู้สำเร็จ ขอบอกว่าช่วงเทศกาลวันหยุดปิยะมหาราช ติดกันหลายวันแบบนี้
ถ้าหากเราหารถแบบฉุกละหุกแบบนี้ มันหาไม่ค่อยได้เลยนะคะ
เย้ๆในที่สุดก็ได้รถตู้

ร้าน Iberry ไอศครีมแฟนของโน๊ต ที่มีอยู่ทั่วไปหลายสาขา
แต่สาขาที่เชียงใหม่มีการตกแต่งเด้นท์สุดๆ
ป้าซิ่งไม่ได้ไปวันนี้เป็นครั้งแรก เพียงแต่อยากเข้าไปใหม่ อีกสักครั้ง
เพราะไปเชียงใหม่หลายครั้ง ถ้าทริปยุ่งมากๆ ก็จะไม่ไปกินไอศครีมหรอกค่ะ
พอดีว่า ทริปนี้เป็นทริป ขี้เกียจ เลยอยากไปรีแล๊กซ์ในร้านไอศครีมไอเบอรี่
อีกอย่างพอดีอีกค่ะ ว่า ที่พักของเราชื่อ Mayflower อยู่ซอย 9
บนถนนนิมมานเหมินทร์ เส้นเดียวกัน แค่เดินไปหาร้านIberryได้อย่างสบาย
เลยแค่ 10 ซอยก็ถึงซอย 19 แล้วค่ะ

หลังจากที่วันเวลาผ่านไปเนิ่นนาน พอมาเห็นวันนี้ เนื้อที่เท่าเดิม
-แต่เปลี่ยนแปลงการจัดวางประติมากรรม"เหมาเจอตุง"ถูกเคลื่อนย้าย
(!!ป้าว่า นะ ทั่นเหมาจะย้ายไปไว้ตรงไหน ร้านก็มีเงินตุงกระเป๋าแร๊ะ!!)
-ต้นไม้ตรงทางเข้ายังประสานงาเป็นรูปประตู ยังอยู่เก๋และเท่ห์ เช่นเดิม

-มีเจ้าหมาฯสีเหลืองตัวใหญ่ มาวางแทนโล้ชิงช้าใต้ต้นไม้ใหญ่
-ต้นไทรใหญ่ ยังมีที่กรอกน้ำมันหลากสีติดตามกิ่งไม้เหมือนเดิม

-กระจกขนาดใหญ่มิคกี้เมาท์ ยังอยู่ (มันยังไม่แตก)
-มีร้านขายของที่ระลึกเพิ่มขึ้นมา ป้าซิ่งมีกระเป๋าอยู่มากมาย ยังต้องยอมควักกะตังค์ซื้อกระเป๋า หลุย ของโน๊ต มาครอบครอง ไอเดียโค ตะ ระ กวน มากเลยคร๊ะ สีจ๋มภู วับๆ
แต่ละอย่างในร้าน ราคาแพง เหมือนไปซื้อที่เมืองนอกเลย อ่ะ

-มีรูปวาดรถสองแถวแดง อีกต่างหาก ให้โพสรูปกันเล่นจนสนุกเพลิน

**สิ่งสำคัญการบริการให้ลูกค้า พนักงานพูดดีมีมารยาท เช่นเดิม
และก้อ ไอศครีมรสอร่อย แน่นอน ค่ะ

แขกหรือลูกค้า ก็มีน้ำใจในการถ่ายรูปของสถานที่ รู้สึกดีจริงๆค่ะ












==========+++โพสท่าถ่ายเล่นๆแล้วที่ไอเดียค่ะ++++=======



ราคาสินค้าบางอย่างที่ถ่ายมา
สังเกตุถุงใส่สินค้า พอดีว่าป้าซิ่งซื้อกระเป๋าสตางค์"หลุย"
ถุงที่ใส่ทำด้วยกระดาษของนิตยาสารกระดาษอาร์ททั่วไป
แล้วมาเย็บด้วยจักรประกบเป็นถุง ส่วนหูหิ้วเป็นผ้าสี แค่นี้ มันก็เก๋ได้ด้วยเด้อ
(อย่างฮา เลย )
























 

Create Date : 28 ตุลาคม 2552    
Last Update : 28 ตุลาคม 2552 9:51:07 น.
Counter : 11824 Pageviews.  

"คุ้มดำนางแล" ของ ดร.ถวัลย์ ดัชนี จ.เชียงราย(25Oct.2009)

"คุ้มดำนางแล" เป็นผลงานศิลปะอันภาคภูมิใจของ ดร.ถวัลย์ ดัชนี
เชิญอ่านประวัติท่านได้ในเว็ปนี้ขออนุญาติค่ะ

//www.abhakara.com/webboard/index.php?topic=48.0






เมื่อได้มีโอกาสไปลอยโคมยี่เป๊งที่เชียงใหม่
ป้าซิ่งก็ไม่รอช้า ที่จะขึ้นเชียงรายไปดูผลงานของอาจารย์ ถวัลย์ ดัชนี

สถานที่"คุ้มดำนางแล"ที่อยู่จังหวัดเชียงราย ไปทางแม่สาย ทางเดียวกันกับ
ทางไปมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ถ้าเราเดินทางมาจาก เชียงใหม่

"คุ้มดำนางแล" อยู่ทางซ้ายมือ เป็นซอยเข้าไปถึงจะเห็นบอร์ดของสถานที่
ด้านนอกถนน จะไม่มีบอร์ดอะไรที่เห็นโจ่งแจ้ง
ก่อนถึงมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงอีกไกลมาก แต่ให้สังเกตุจะมีโรงงานเป๊ปซี่
เลยจากโรงงานเป๊ปซี่ไปอีก 5-600 เมตรได้ ให้เลี้ยวเข้าซอย
เพราะด้วยว่า ยังไม่เปิดเป็นทางการดีนัก แต่ก็ให้เข้าชมได้ตามที่เสร็จแล้วบางส่วนเท่านั้น
เลยยังไม่เปิดเข้าชมเป็นทางการ ด้วยเนื้อที่หลายไร่ ต้องทำผลงานไปเรื่อยๆ
อีกอย่างเป็นเงินส่วนตัวของอาจารย์ ถวัลย์ ดัชนี เองด้วยค่ะ
























































มีอีกทางขวามือ ต่อจากรูปบน อีก20กว่าหลังแต่ไม่ได้เข้าไปดู
ไว้ต้องหาโอกาสมาที่นี่อีกเป็นระยะๆค่ะ




 

Create Date : 27 ตุลาคม 2552    
Last Update : 27 ตุลาคม 2552 10:12:27 น.
Counter : 3967 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  
 
 

ป้าซิ่ง Naomichan
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 70 คน [?]




........หลังไมค์ถึงป้าซิ่งค่ะ.........
[Add ป้าซิ่ง Naomichan's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com