ไปเที่ยว ไปกินกันนะคะ ขอบคุณสำหรับเพื่อนๆทุกท่านที่แวะชมค่ะ
 

แนะนำร้านอาหารเกาหลี "บ้านกิมจิ" ซอยสามัคคี(นิชดาธานี)

เมื่อคืนไปกินอาหารเกาหลี "บ้านกิมจิ "มาอีกแล้ว
ว่าไปก็กินมาประมาณ 5 ครั้งเอง แล้วก็ไม่ได้เอากล้องไป
เที่ยวนี้ตั้งใจเอากล้องไปถ่ายภายในร้านและพิกัดหน้าตาสถานที่
เราไปกันประมาณทุ่มหนึ่งแล้วค่ะ ท้องฟ้ามืดมิด
บรรยากาศเลยมืดๆ แต่ก็จะเห็น OASIS อยู่ตรงซอยสามัคคี
ไม่ไกลจากทางเข้าหมู่บ้านนิชดาธานีและร้าน 7-11 ที่อยู่ติดทางเข้า
เป็นศูนย์การค้าขนาดย่อมๆในซอยสามัคคี





ป้าซิ่งอยู่ย่านแจ้งวัฒนะ จะหาร้านอาหารเกาหลียากนิดเดียว
อย่างในเมืองทองธานีก็จะมี
ตามห้างอย่างเซ็นทรัล และ เดอะ มอลล์ ก็มี
จะหาของกินที่เป็นเกาหลียากกว่าอยู่ในกรุงเทพฯ
อย่างสุขุมวิท 12 และทองหล่อ
นี่ก็ต้องขับรถไปไกลกว่าจะได้กินเกาหลีอร่อยๆ
แต่ที่บ้านกิมจิอยู่ใกล้บ้านมาก ขับรถมาแค่ 5 นาทีเองค่ะ

ส่วนบ้านกิมจิที่จะแนะนำนี้
รสชาติก็อร่อยกว่าร้านอาหารเกาหลีตามห้างฯซะอีกค่ะ
แต่ก็ไม่ได้อร่อยกว่าในกรุงเทพฯ

ร้านอาหารบ้านกิมจิ เจ้าของร้านเป็นสาวใหญ่เกาหลี
ต้อนรับลูกค้าด้วยความยินดีค่ะ

ภายในร้านบรรยากาศก็ดี สะอาดไปทุกที่



โซนโต๊ะนั่งพื้นไม้มี 2 ที่ นี่ก็เป็นที่หนึ่งที่ป้าซิ่งชอบนั่งประจำค่ะ











โซนโต๊ะ เก้าอี้ นั่งสะดวก



เมนูอาหารมีเยอะเหมือนกัน แต่ป้าซิ่งถ่ายมาแค่บางส่วนเท่านั้นนะคะ







เครื่องเคียงล้อมเตาถ่าน ปิ้งๆย่างๆ





เครื่องดื่มมีก็เยอะ แอลกอฮอล์และเบียร์ ก็มี
แต่ไปทีไรสั่งแต่ น้ำซินนามอลเย็นๆ 2 แก้ว ดื่มแล้วชื่นใจ
ส่วนแก้วสีเหลืองซินนามอลร้อนๆของเจ้านายที่บ้าน



เมื่อคืนเราสั่งแค่ไม่กี่อย่าง





เนื้อโรลหมักซอส



หมูสามชั้นอย่างดี



ซุปเห็ดเผ็ดสไตร์เกาหลี



บริการฟรีประจำที่ร้านนี้คือ น้ำซินนามอล ค่ะ



มื้อนี้เช็คบิลไป 950 บาท






 

Create Date : 20 พฤศจิกายน 2555    
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2555 18:45:21 น.
Counter : 13189 Pageviews.  

3วัน2คืนที่ Marrakesh Resort&Spa Hua hin(มาราเกช รีสอร์ท แอนด์ สปา หัวหิน (16-18 Nov.2012)

เมื่อวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมาไปเที่ยวหัวหินที่จังหวัดประจวบคีรีขันท์มา
ครอบครัวเราพักที่มาราเกช รีสอร์ท แอนด์ สปา
ที่ตั้งอยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกลจากห้างฯ Market Village



วันศุกร์หลังจากรับลูกโรบินก็ไปทั้งคราบชุดนักเรียน
ขับรถไปถึงหัวหินประมาณหกโมงเย็น อากาศช่วงนี้มืดเร็วด้วย
เช็คอินกันก่อน











Welcome Drink เป็นน้ำพั้นซ์ปั่น



Key Card



WIFI Password



มาสำรวจภายในห้องและบรรยากาศกันค่ะ





ที่นี่ปลั๊กไฟเยอะมาก ซะใจดีค่ะ รูปบนแบบอยู่ข้างเตียง สะดวกดี





ห้องเก็บสัมภาระและแต่งตัว



ห้องบรรเทาทุกข์



อ่างล้างมือหรือจะล้างหน้า มี 2 อ่างดีจังค่ะ





ไฮไลท์ของเราคืออ่างจากุชชี่ และ เห็นทะเล
ระเบียงส่วนจากุชชี่นี้ ห้องขนาดพอๆกับห้องนอนเลยทีเดียว




มีม่านม้วนแบบอัตโนมัติ







ห้องอาบน้ำ มีม่านอยู่ภายในใช้มือดึงขึ้นลงค่ะ




ชอบตรงส่วนพื้นของที่นี่มาก เป็นโมเสซชิ้นเล็กๆสีออกน้ำตาลส้ม
มันมีสิ่งแว๊บๆมันวาว สวยดี



ห้องฟิตเนส





ตื่นเช้ามาออกมาเดินเล่นเลียบหาด















ห้องนั่งเล่นของสวนรวมอยู่บริเวณหน้าหาดของโรงแรม



บริเวณห้องอาหารและมื้อเช้าเป็นบุฟเฟ่ย์
เราไปคืนวันศุกร์ ตอนเช้าวันเสาร์อาหารไม่เยอะเท่าของเช้าวันอาทิตย์
คงมีลูกค้าเยอะในวันเสาร์เพราะคนเข้าพักแล้ว
พอตอนเช้าอาทิตย์เลยมีอาหารมากกว่าเช้าวันเสาร์
และมีคนเป่าแซกโซโฟน บรรเลงยามเช้าด้วย
แถมมีสปาร์คกิ้ง ไวน์ และ ไวน์ขาว เสิร์ฟฟรี







ที่นั่งทานอาหาร มีทั้งโซนโล่งหรือOpen air และ ภายในห้อง



อยากขยายความและภาพประกอบให้เห็นว่าเช้าวันเสาร์กับเช้าวันอาทิตย์
มีอาหารมากน้อยแค่ไหนบ้าง

เช้าของวันเสาร์ ที่นี่เสิร์ฟน้ำปั่นให้เลยโดยไม่ต้องสั่ง
เพราะเขาบริการให้ทุกโต๊ะ วันนี้เราได้น้ำส้มปั่น
รสชาติปั่นแบบนุ่มนวลมาก
แต่ปรกติก็มีน้ำบริการด้วยตัวคุณเอง
จะมีน้ำส้ม, น้ำสัปรด ,น้ำฝรั่ง, น้ำนมและน้ำเปล่า อยู่ในมุมเครื่องดื่ม
ส่วนกาแฟนั้น คุณสั่งได้เลยว่าจะเป็น ลาเต้, เอสเปรสโซ่ หรือ คาปูชิโน่


















เครื่องเคียงข้าวต้ม



แพนเค้ก



มะเขือเทศย่างสไตร์อิตาเลี่ยน หอมอร่อยดีมาก



อาหารไทย
มีพวกไส้กรอกด้วยแต่ไม่ได้ถ่าย
เพราะเห็นอยู่ประจำเวลาทานอาหารบุฟเฟ่ย์ที่โรงแรม



ข้าวผัดอเมริกัน



ปรกติป้าซิ่งจะไม่ค่อยกินอาหารมื้อเช้า จะดื่มแต่กาแฟเท่านั้น
แต่เมื่อเสียตังค์ค่าอาหารเช้าในโรงแรมก็จะยอมท้องบวมค่ะ





ตบด้วยลาเต้ร้อน กับ ขนมปังอีกสองชิ้น



พอมาถึงเช้าวันอาทิตย์
มีเหมือนวันเสาร์ทุกอย่างแต่เพิ่มอีกหลายอย่างเหมือนกันนะ

ตู้ก๋วยเตี๋ยว โจ๊ก และ ข้าวมันไก่



ข้าวมันไก่เขาออกสีเหลืองๆ



มีทอดปลาท่องโก๋ ให้เห็นกันจะๆ








อย่างที่บอกไว้แต่แรก มีเสิร์ฟ spraking wine และ white wine



วันนี้เสิร์ฟเป็นน้ำฝรั่งปั่นอยู่ด้านหลังแก้วไวน์ ส่วนน้ำส้มเราไปเอามาเอง





กินอาหารก็มีเพลงบรรเลงจากแซกโซโฟน ว่ายน้ำก็รื่นเริงดีด้วยค่ะ



เช็คเอ๊าท์กันตอน 11:00 น.





แล้วพบกันใหม่นะคะ




 

Create Date : 20 พฤศจิกายน 2555    
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2555 8:10:51 น.
Counter : 5143 Pageviews.  

ร้านอาหารเป็ดโฟร์ซีซันส์(Four Seasons@Bangkok) SIAM PARAGON

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2012 มีความจำเป็นต้องไปห้างฯสยามพารากอน

ได้เวลาเที่ยงพอดี ลูกโรบินอยากกินเป็ดปักกิ่ง ไม่รู้ชอบจริงรึเปล่า?
ที่รู้เขาชอบใช้มือห่ออาหาร เรียกว่าสนุกกับการกิน
แต่ที่แน่ๆพ่อกับแม่ของโรบินก็ไม่ได้กินมานานครึ่งปีแล้ว
จำได้ครั้งสุดท้ายที่กินเป็ดปักกิ่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
กินที่เชียงการีล่า สาขาสีลม

คราวนี้มาลองกินเป็ดปักกิ่งที่ร้านอาหาร โฟร์ซีซั่นส์ ที่สยามพารากอนดูบ้าง







เราไม่ได้จองที่ เลยต้องรอหน้าร้าน มีบริเวณที่นั่งรอเป็นเก้าอี้สีแดง
รอเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง กว่าจะได้เข้าไปนั่งภายในร้าน



ช่วงที่เรารออยู่นอกร้าน มีเมนูอยู่หน้าร้านได้ถ่ายรูปไว้นิดหน่อยค่ะ

ถ้าจะกินเป็ดปักกิ่งที่นี่ เขาใช้เมนูว่าเป็ดอโรเมติก
ไว้คราวหน้าค่อยมากินเป็ดย่างโฟร์ซีซั่นส์แล้วกัน
เพราะครั้งนี้อยากกินแป้งห่อ ไม่อยากกินข้าวเท่าไหร่ค่ะ







เราสั่งน้ำเก๊กฮวย ,พ่อบ้านสั่งน้ำชาร้อน, ส่วนโรบินสั่งโค๊ก



บนโต๊ะอาหารมีถ้วยน้ำจิ้มอยู่ 3 ถ้วย
น้ำพริกเผา ,น้ำส้มสายชูใส่พริกชี้ฟ้าหั่น และ น้ำส้มพริกสด



อาหารก็มี ผัดผักปวยเล้งน้ำมันหอย



บะหมี่เกี้ยวกุ้งน้ำ



และเป็ดปักกิ่ง เราสั่งแค่ครึ่งตัว พอแล้วสำหรับ 3 คน
แป้งกลม และ น้ำซอส
แป้งกลมมาแบบอุ่นๆ แป้งบางมากค่ะ



ส่วนชิ้นเนื้อเป็ด ตอนแรกเสิร์ฟมาเป็นชิ้นแบบแห้งๆ (เราถ่ายให้ดูไม่ทัน)
เพราะช่วงเสิร์ฟพนักงานเขาเข้ามาฉีกเนื้อเป็ดเป็นเส้นๆ
ให้โดยใช้ช้อนซ้อมแค่ไม่กี่นาทีก็เป็นเส้นๆเต็มจาน

จึงรู้ว่าบริการเป็ดปักกิ่งที่นี่ เขากินกันแบบนี้ ไม่ได้เป็นหนังกรอบ
หรือถ้ากินเป็ดปักกิ่งที่เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน
จะเสิร์ฟมาเป็นชิ้นทั้งหนังและเนื้อจะอยู่ด้วยกัน เรียงเป็นชิ้นๆมาเลย




จากนั้นเราก็ห่อแป้ง มีเนื้อ มีแตงกวาเส้น มีต้นหอมเส้น พร้อมราดซอส
รสชาติก็อร่อยพอสมควร แต่กินไม่เลี่ยนเลยค่ะ มันก็อร่อยไปอีกแบบ





อาหารรวมน้ำดื่มทั้งหมด เช็คบิลไป 1,565 บาท








 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2555    
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2555 7:14:27 น.
Counter : 12886 Pageviews.  

ไปเที่ยวกับเจ้าถิ่นเมืองชลบุรีกับคุณหน่อย(แม่หมูใจดีจริง)3 พฤศจิกายน 2555

เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว แม่หมูใจดีจริง ล๊อคอินเพื่อนสมาชิก
ที่น่ารัก ใจดีของห้องไร้สังกัด ใจดีสมชือจริงๆ แต่ตัวไม่อ้วนเท่านั้นเอง
หรือว่าเมื่อก่อนเธออ้วน อิๆ

สมาชิกเรานั่งรถคันเดียวกับป้าซิ่งคือ โดยป้าซิ่งเป็นพลขับขาไป
คุณแม่โอเล่ คนสูงวัยที่ชอบหอบแต่ก็ชอบเที่ยว
แถมอยู่ไม่ไกลจากบ้านป้าซิ่ง นิสัยตรงเวลา ไม่ขี้บ่น ไปไหน ไปกันค่ะ



ต่อมา คุณเปิ้ล (WANAJAA) สมาชิกไร้สังกัดอยู่ทางนวนคร ก็ขอไปด้วย

และน้องเกด ( สงบจิตสงบใจ ) สมาชิกห้อง@Japan ที่รู้จักที่ญี่ปุ่น
แต่ตอนนี้กลับมาอยู่เมืองไทย สิงสถิตย์ที่เมืองทองธานี
เสร็จป้าซิ่งเพราะอยู่ใกล้แจ้งวัฒนะ ดังนั้นเธออยากไป ก็ได้ไปสมดั่งใจค่ะ

สมาชิกอย่างคุณหน่อย แม่หมูฯนั้น ผิวขาวสุดๆ
พอไปถึงบ้านเจ้าถิ่นเมืองชลบุรี ป้าซิ่งก็ให้เธอเป็นคนขับเลยค่ะ
เพื่อความสะดวกบนท้องถนน
แม่หมูฯพาคณะกังนัม สไตร์ ไปสักการะศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ก่อน











ขึ้นไปบนวิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม ภายในวิหารห้ามถ่ายรูปนะคะ
แต่เราถ่ายรูปกันแถวๆระเบียงด้านนอก















มีหอระฆังและหอกลองอยู่กันคนละด้าน





สถาปัตยกรรม แกะสลักได้สวยงามมาก
และภาพวาดสีสวย ฝีมือเยี่ยมค่ะ คนต่างชาติยังเข้ามาชม















แม่หมูฯ พาไปกินร้านครัวเจ้อ่วย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าหน่าจาฯ
ป้ายร้านอยู่ริมถนน แต่ต้องขับรถเข้าไปอีกนิดนึงค่ะ
และที่นี่คือมื้อกลางวันของพวกเราจ้า





ทางร้านมีใบเช็ครายการอาหารยาวมาก แล้วเราก็สั่งแหลก




ภาพอาหารโดยสรุป



มีอะไรบ้างคะ
ยำไข่แมงดา



หอยนางรมทรงเครื่อง



ต้มส้มปลาทู



ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา



ผัดปลาหมึกไข่เค็ม



หอยแครงลวก



ปูม้านึ่ง



กุ้งใหญ่มาก ขนาดเท่าใบหน้า



ต่างคนเอามาเทียบขนาด




อาหารหวานที่ตามมาคือช๊อคฯ จาก ROYCE
ป้าซิ่งนำมาจากบ้านแพ็คน้ำแข็งแห้ง
เจลแพ็คแบบคนไม่สบายวางบนหัวเย็นๆจากบ้านมาเลย
เพราะมันเป็นช๊อคโกแล๊ตสด กลัวละลาย
ปรากฏแกะกินเจ้าช๊อคฯชาเขียว อาการเกือบเละ
แต่ ช๊อคโกแล๊ต Au lait ยังแข็งพร้อมละลายได้ในปาก


เช็คบิลไป 2,200 บาท

จากนั้นไปดูลิงที่เขาสามมุข พร้อมให้ไข่สดแก่ลิง
ความรู้นี้จากคุณเปิ้ล เพราะป้าซิ่งไม่เคยรู้เลยว่าลิงแถวนี้กินไข่แดง
ลิงที่นี่น่ารัก เป็นระเบียบ ไม่ละลานผู้คน ใครๆก็อยากไปเที่ยวค่ะ






อย่าให้ไข่ไก่สดแก่ลิงเมื่อลิงมาเกาะที่หลังคาหรือกระจกรถเด็ดขาด
เพราะพอลิงได้ไข่แล้ว จะทำการตอกไข่ทันที
ถ้าคุณปิดกระจกรถไม่ทัน มีหวังไข่แตกเปรื้อนกระจก ดีไม่ดีเลอะเบาะรถ
ความจริงไปซื้อกล้วย ซื้อแตงกวา และ ข้าวโพด แถวนั้นก็ได้
จะมีคนขาย ขายอยู่ตามซุ้มก็ได้ค่ะ
ช่วยเหลือผู้คนที่เขาทำมาหากินในย่านนั้นด้วย
เพราะดูแล้วแม่ค้าเขาก็บริการดี
มีมารยาทในการค้าขาย และ พูดจาดีนะคะ



เจ้าตัวนี้กำไข่ทั้งขาหน้าและขาหลังเลย ดูแล้วตลกดี





วัดใกล้ๆบริเวณเขาสามมุข









ต่อจากนั้น คุณแม่หมูฯ พาไปซื้อของฝาก คือ ข้าวหลาม ขนมจาก ฯลฯ
ที่ร้านคุณป้านิยม







และขนมแห้ง อย่างอื่นก็มีด้วยเหมือนกัน รวมทั้งน้ำตาลสด









มีรถตู้พาคนมาซื้อถึงที่นี่ด้วย ทำให้แม่ค้ามีอยู่ 2 ร้าน ค้อนไปมา
แปลว่าร้านคุณป้านิยมนี้ อร่อยจริง
ป้าซิ่งกินข้าวหลามแล้ว อร่อยดี ไม่หวานมากคีะ



สิ่งสำคัญที่ป้าซิ่งอยากมาที่เมืองชลฯ ก็คือ มาดูครกกับสากที่ อ่างศิลา
เพราะไม่ได้มาเห็นย่านนี้มานานถึง 30 ปีกว่าแล้ว





เพิ่งเห็นว่าครกมีลวดลายดอกไม้สีสวยๆด้วย
ป้าซิ่งอยากได้ครกกับสากเป็นที่ระลึก
จึงเลือกครกลวดลายดอกไม้ พร้อมมีลายเซ็น ว่า "อ่างศิลา" ด้วย
แต่สีดั้งเดิมเขาก็ยังมีให้ขายด้วยเหมือนหลายชาติก่อนค่ะ
ป้าซิ่งอุดหนุนร้านเขา ก็เลยขอหยิบ ขอยก อยู่หน้าร้าน
คนขายก็ยินดีนะคะ แต่เลือกหยิบแบบครกเล็กหน่อย
แค่ใบเล็กๆแบบนี้ก็หนักมากแล้วล่ะค่ะ









ฉลองต้องชนครก กันหน่อยค่ะ





ตอนดูครกแดดร้อนมาก ได้ครกแล้ว ก็หาที่หลบแดดตามห้างฯของเมือง
ดื่มกาแฟและเม้าท์แตกกันต่อ



ขากลับประมาณซัก 3-4 โมงเย็น
แม่หมูฯขับรถเลียบชายหาด ผ่านมาทางท่าเรือพลี
เห็นอาหารทะเล ปิ้ง ย่าง อยู่เพียบ แวะลงหน่อย
เพื่อดู ในที่สุดก็ได้ของกินเป็นของฝากอีกแล้วค่ะ
ยังไงกระเพาะก็กินได้แถวนี้อีก ไม่รู้จักอิ่มจริงๆ
ก้อ.......แบบว่า เห็นแล้วมันน่ากินค่ะ















มีโต๊ะให้สั่งกินกันตรงนั้นเลย เหมือนแบบครอบครัวนี้ น่ากินๆ























ขับรถมาส่งแม่หมูฯถึงที่พำนักแล้วเราก็กลับบ้านกันตอนห้าโมงเย็น
ป้าซิ่งต้องขอขอบคุณแม่หมูฯหรือคุณหน่อยมากๆที่พาเพื่อนๆ
เที่ยวเมืองชลบุรีแบบเต็มอิ่มทั้งกายและใจ เป็นทริปที่สบายๆไม่เหนื่อย
ดีใจที่เราได้เจอะคุณหน่อยในเว็ปพันทิปของห้องไร้สังกัด
มิตรไมตรีนี้เราจะเก็บไว้ในใจ และ เก็บภาพไว้อย่างมีความสุข
และจะระลึกถึงวันนี้ตลอดไปค่ะ


แถมแม่หมูฯ ยังได้เตรียมขนมหวานอย่าง ฝอยทองและเม็ดขนุน
เตรียมไว้ให้เพื่อนๆทุกคนเลย ขอบคุณสำหรับของหวานค่ะ




แล้วเราจะได้พบกันอีกเร็วๆนี้นะคะ




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2555    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2555 11:15:30 น.
Counter : 6956 Pageviews.  

สนามบินสุวรรณภูมิขาออกระหว่างประเทศเปลี่ยนไป(19/Oct./2012)

เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม 2012 ได้มีโอกาสเดินทางไปญี่ปุ่นอีกครั้ง
ช่วงเช็คอินขาออกกองตรวจคนเข้าเมืองได้เปลี่ยนรูปแบบวิธีการ
เราก็ศึกษามาจากห้อง Blue planet อีกทีน่ะแหละ
ว่าเขามีการสแกนพาสปรอตคนไทย
เรื่องราวสรุปบอกว่าจะมีปัญหาตอนปลายทางของประเทศที่จะเดินทาง

ด้วยตัวเราก็ไม่ชอบอยู่แล้วแหละ หน้าพาสฯไม่มีตราประทับ
ทำให้เราอยากเช็ควันเดินทางย้อนหลังว่าเราไปไหนมาเมื่อไหร่
เราก็ไม่สามารถรู้ได้ แน่นอนปลายทางก็ไม่เห็นตราประทับขาออก
จากเมืองไทยเมื่อเข้าสู่อีกประเทศหนึ่ง
ปัญหามันไม่เกิดหรอกเมื่อคุณกลับเข้ามาประเทศไทย

คืนนั้นเลยคิดถ่ายภาพแบบว่องไว เอาแค่ภาพฉากต่อฉากพอ

เขามีเช็คอินสัมภาระด้วยตัวท่านเองด้วย
ก็ไม่ได้ทำหรอก เราแค่ถ่ายรูปมาให้ดูค่ะ





รูปจากหน้าจอทีวีระบบสัมผัส



คืนวันนั้นคนก็ไม่ค่อยมี
เราจึงไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ของสายการบินตามปรกติ
ไปก็เร็วอีก นึกว่ารถจะติดเพราะบ้านอยู่ปากเกร็ด
ไฟล์ทบินออกเวลา 22:10 น. TG 640
ออกจากบ้านตั้งแต่ หกโมงเย็นครึ่ง เพราะคืนวันศุกร์ส่วนใหญ่รถจะติด
เราก็เตรียมตัวก่อน 3 ชั่วโมงพอประมาณ
เมื่อเช็คอินเป็นที่เรียบร้อย เราก็จะเดินไปกองตรวจคนเข้าเมืองชั้นขาออก



โอ้วววว ...... แม่เจ้า เดี๋ยวนี้ต้องขึ้นบันไดเลื่อน ซึ่งไม่เหมือนทุกครั้ง
ที่จะอยู่ชั้นเดียวกันกับพื้นเช็คอินผู้โดยสารสายการบินต่างๆ
แต่ก็เดินให้บันไดเลื่อนตัวเราไปประมาณแค่ 1 นาทีเท่านั้น (ตามรูป)

พอพ้นบันไดเลื่อน ก็เป็นจุดสแกนกระเป๋าหรือสัมภาระที่คุณจะนำของ
ติดตัวขึ้นบนเครื่องบินไปด้วย
เดี๋ยวนี้ต้องสแกนของก่อนแล้ว ค่อยเดินไปกองตรวจคนเข้าเมือง
ไม่เหมือนเมื่อก่อน ตอนแรกต้องเช็คกับเจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมือง
เพื่อปั๊มตราประทับวันเดินทางออก
โอ้ นี่ก็สแกนกันไปค่ะ



สแกนเสร็จก็เดินลงบันไดเลื่อนลงมาอีก จะมีทางแยก
ซ้ายมือคนไทย ขวามือคนต่างชาติ



ถ่ายโซนด่านกองตรวจคนเข้าทางต่างชาติซักหน่อย โห๊ะ.... เพียบ



ย้ายมาถ่ายทางโซนกองตรวจคนเข้าเมืองของฝ่ายพี่ไทย
อ้าว มีผู้เดินทางออกนอกประเทศประมาณ 10 กว่าคนเอง
หนำซ้ำเคาน์เตอร์มีเจ้าหน้าที่แต่ไม่มีคิว ก็หวานเรา
เรากะว่าจะไม่สแกนพาสปรอตแน่นอน ยังไงมีคิวเยอะเราก็จะรอง่ะ



แต่ก็มีเจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมือง โบกมือมา มะ มาสแกนพาสปรอตทางนี้ค่ะ
แต่ก็มีคนเขาทำกันนะ หรือจะไม่รู้ปัญหาปลายทาง หรือ
ผู้โดยสารอยากเสียเวลาคุยกับเจ้าหน้าที่ตรงปลายทาง



ส่วนเราไม่อยากคุยกับเจ้าหน้าที่ทางปลายทางอยู่แล้ว...........
เคาน์เตอร์กองตรวจคนเข้าเมืองก็ว่างนี่! ทำไมอ่ะ!
พอถึงเคาน์เตอร์เราก็ "สวัสดีค่ะ ขอตรวจตรงนี่นะคะ
คืออยากได้ตราประทับน่ะค่ะ คุณเจ้าหน้าที่"
เจ้าหน้าที่สาวสูงอายุ ก็ยิ้มให้ ใจเราก็สบายขึ้นแล้ว
เจ้าหน้าที่เขาก็ตรวจตามปรกติ แล้วก็ส่งบอร์ดดิ้งและพาสฯคืนให้


หลังจากขอบคุณเจ้าหน้าที่ เราก็มาถึงตรงรูปปั้นตรงนี้ที่เราคุ้นเคย




ผ่านดิวตี้ฟรี ก็เดินดูอย่างช้าๆ เพราะมีเวลาอีกตั้ง 2 ชั่วโมงกว่าเครื่องจะออก
ซื้อแต่ครีมล้างหน้า กับ น้ำหอม แค่นั้น

ต่อจากนั้นก็เดินไปคิงส์พาวเวอร์เล้าจน์ เพื่อกินและนอน





เล่นอินเตอร์เน็ตฟรี



แล้วก็เดินมาทางตัน ที่นี่คือ ที่นอนประจำของเรา หากไปสนามบินเร็วเกินไป
เป็นเฟอร์ฯที่นั่งยาว อยู่ในมุมแสงสลัวๆ
จากนั้นเราก็ทำนาฬิกาปลุกไว้ก่อน 40 นาทีที่จะเรียกคนขึ้นเครื่อง
เพราะทางเข้าเครื่องบินก็อยู่ไม่ไกลจากเล้าจน์
สาเหตุที่ต้องทำนาฬิกาปลุกไว้ กลัวนอนเพลิน
หลับจริงๆเครื่องออกล่ะแย่แน่ เขาจะมีคนมาเรียกชื่อเรารึเปล่า?
หรืออาจจะมีคนง้อนใส่เราบ้าง
หากเราวิ่งมาที่นั่งเก้าอี้บนเครื่องเป็นคนสุดท้าย



ตื่นเสร็จก็ไหว้พระแถวๆนี้ล่ะค่ะ พนักงานเขาก็มาไหว้เช่นกัน



เครื่องแลกเงินตราต่างประเทศของธนาคารไทยพาณิชย์
ถ่ายมาแบบนั้นแหละ เพราะชอบมีคนถามว่า
มีเครื่อง A.T.M. ภายในสนามบินขาออกไหม?
คำตอบ มีเหมือนกันแต่ถอนเงินไทยไม่ได้
แต่สามารถเปลี่ยนสกุลเงินอื่นๆให้ได้ค่ะ




เครื่องออกทางประตูนี้ มีสายบินร่วมอยู่ด้วยกับการบินไทย
เพื่อมุ่งสู่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น



อาหารมื้อเช้า แอร์ฯเสริฟให้ก่อนเครื่องบินจะลงอีกชั่วโมงครึ่ง
เราเลือกข้าวต้มค่ะ




จบแล้วจ้า.................




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2555    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2555 8:42:27 น.
Counter : 6858 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  
 
 

ป้าซิ่ง Naomichan
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 70 คน [?]




........หลังไมค์ถึงป้าซิ่งค่ะ.........
[Add ป้าซิ่ง Naomichan's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com