True Grit (2010): ล่าดับแค้นอีหนูใจเด็ด
True Grit (2010) : คอหนังหลายคนที่เคยดู No Country for Old Men (2007) ผลงานเรื่องเด็ดของสองพี่น้อง Coen คงจะรู้สึกตะหงิดๆ ว่าลีลาท่าทางของหนังเรื่องนั้นช่างชวนให้นึกถึงหนังคาวบอยเสียนี่กระไร ว่าแล้ววันดีคืนดี ผกก.แพ็คคู่สุดคุ้มของเราก็เลยทำหนังคาวบอยเต็มคราบเรื่องนี้ออกมาซะเลย โดยพวกเขาออกมายืนยันว่านี่ไม่ได้เป็นการรีเมคหนังเวอร์ชั่นปี 1969 ของ John Wayne หรอกนะ แต่จะขอเดินตามตัวนิยายต้นฉบับของ Charles Portis ที่ตีพิมพ์ออกมาในปี 1968 ต่างหากล่ะจ้ะนายจ๋า
ลุง Bridges ในมาดคาวบอยตาเดียวสุดเก๋า
และเพื่อไม่ให้เสียชื่อ ผกก.ระดับนี้ หนังก็เลยมีดาราดังๆ มาร่วมสังฆกรรมเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Jeff Bridges เจ้าของออสก้าร์นำชายปีที่แล้ว, Matt Damon, Josh Brolin พ่วงด้วย Hailee Steinfeld นักแสดงสาวน้อย วัย 14 ขวบ ที่สามารถเอาชนะคู่แข่งกว่า 15,000 คนมารับบทนางเอกของเรื่อง แถมนี่ยังเป็นหนังโรงเรื่องแรกของเธอเสียด้วยสิ (หลังจากที่เคยแต่เล่นเป็นตัวประกอบอดทนในหนังทีวีมาสองสามเรื่อง) ป๊าด!
ลุงกำลังอิจฉาที่เฮีย Damon มีสาวๆ มาป้อนข้าวป้อนน้ำ
คอหนังที่ติดตามผลงานของสองพี่น้อง Coen มาตลอด คงจะเดาออกว่าหนังจะมาทางไหน เพราะหนังยังคงเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของพวกเขาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นฉากการสนทนายืดยาว ตลกร้าย หรือว่าจะความรุนแรง ซึ่งในเรื่องนี้ถึงจะเป็นหนังคาวบอยแต่ก็ไม่ได้เน้นฉากดวลปืนกันหูดับตับไหม้ ทว่าจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวละครนำซะมากกว่า ส่วนเรื่องฉากแรงๆ ก็แทบจะไม่มีเพราะหนังมาพร้อมกับเรท PG-13 เท่านั้น (ฉากแรงสุดก็ประมาณตัดนิ้วแค่นั้นมั้ง) งานด้านภาพและดนตรีก็ออกมาโดดเด่นดูดีส่งเสริมชาติตระกูลให้แก่ตัวหนังเป็นอย่างดี
อย่าไปแหยมกับสาวน้อยคนนี้เข้าเชียวล่ะ
เหล่านักแสดงในเรื่องก็ทำหน้าที่ได้ดีตามชื่อชั้นอยู่แล้ว แต่ที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือนางเอกเราที่เล่นได้อย่างโดดเด่นและเข้าตาสุดๆ ในบทที่แทบจะเป็นคนเดียวในเรื่องที่มีวุฒิภาวะที่สุดแล้วมั้ง เพราะขนาดลุง Bridges และเฮีย Damon ก็ยังเอาแต่กัดกันตลอดเวลาเหมือนเด็กๆ (ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็เกรียนไม่แพ้กัน) แม้ในแว่บแรกหนังเหมือนจะหย่อนความสนุกตื่นเต้นเมื่อเทียบกับ No Country for Old Men (2007) จนอาจจะรู้สึกว่าน่าเบื่อไปบ้าง แต่ก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาชนิดค่อนข้างผิดกลิ่นของสองพี่น้อง Coen นั่นก็คือฉากประเภทชวนซึ้ง เค้นอารมณ์ ซึ่งก็ทำได้ถึงเสียด้วยสิครับพี่น้อง จนทำให้หนังเรื่องนี้มีบทสรุปอันแสนเศร้าซึ้ง งดงาม ชวนประทับจิตขึ้นมาในท้ายที่สุดเอย
*เฮีย Barry Pepper หรือพลแม่นปืนผู้เชื่อมั่นในพระเจ้าจาก Saving Private Ryan (1998) ก็โผล่มารับบทโจรฟันดำซึ่งเป็นคู่ปรับตลอดกาลของลุง Bridges ด้วยนะเออ ขอบอก*
- จุดเด่น: สองพี่น้องโคเอนไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังอีกแล้วครับทั่น แถมนี่ยังจะเป็นหนังของพวกเขาที่มีฉากชวนซึ้งประทับใจที่สุด(เท่าที่เราเคยดูมา)แล้วด้วยมั้งเนี่ย
- จุดด้อย: เต็มไปด้วยบทสนทนา ขาดแคลนฉากแอ็คชั่น หรือฉากตื่นเต้น เมื่อเทียบกับ No Country for Old Men ดังนั้นอย่าเห็นว่าเป็นหนังคาวบอยแล้วจะต้องบู๊กระจายเสมอไปเน้อ
*ช่วงเพลงในหนัง*
Iris DeMent
Carter Burwell คอมโพเซอร์คู่บุญของสองพี่น้อง Coen กลับมาทำดนตรีประกอบให้เป็นเรื่องที่ 15 ซึ่งงานดนตรีในเรื่องนี้จะได้รับอิทธิพลมาจากเพลงคริสเตียน หรือเพลงสรรเสริญพระเจ้า ที่หากท่านเป็นคริสเตียนก็คงจะอ๋อโดยทันทีว่ามีเพลงอะไรถูกนำมาใช้บ้าง รวมทั้งเพลงในช่วงเอนด์เครดิตของ Iris DeMent นักร้องคันทรี่ชาวมะกัน (คนอาร์คันซอร์ซะด้วย) ที่นำเพลง "Leaning On the Everlasting Arms" ซึ่งเป็นเพลงคริสเตียนเก่าๆ มาร้องปิดท้ายส่งคนดูออกจากโรงได้อย่างไพเราะจับจิต และอีกเพลงที่ไม่อยู่ในหนังแต่อยู่ในเทรลเลอร์ก็คือเพลง"God's Gonna Cut You Down" ของ Johnny Cash ที่ให้อารมณ์ขึงขัง อันตราย เท่ดีไม่หยอก ว่าแล้วเรามาฟังสองเพลงนี้กันเถอะจ้า
Create Date : 06 มกราคม 2554 |
Last Update : 6 มกราคม 2554 20:35:12 น. |
|
5 comments
|
Counter : 4402 Pageviews. |
|
|
เรื่องนี้ถึงจะมาคนละแนวกับเรื่องที่แล้วแต่ก็คงจะไม่พลาดแน่นอน เพราะชอบลุง Jeff,เฮีย Matt (เห็นว่าเรื่องนี้เฮียแกมีสิทธิ์ลุ้นออสการ์ด้วย(แต่สงสัยคงต้องข้ามศพ Christian Bale จาก The Fighter ไปเสียก่อน)),และหนังคาวบอยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว