Group Blog
 
All blogs
 
The Last Station (2009): รักเธอตราบจนสถานีสุดท้าย

The Last Station (2009) :
หนังดราม่าที่เกี่ยวกับนักเขียนชื่อขลังชาวรัสเซีย Leo Tolstoy เรื่องนี้ส่งให้ป้า Helen Mirren (The Queen [2006]) ได้เข้าชิงออสก้าร์ครั้งล่าสุดในสาขานำหญิงอีกครั้ง(ในฐานะหนึ่งในตัวเก็ง ก่อนจะถูกยายอยู่อย่าง Sandra Bullock คว้ารางวัลไปนอนกอดได้แบบหักปากกาเซียน) ซึ่งถึงแม้ว่าป้าจะต้องรับประทานแห้วกระป๋องไป แต่ก็นับว่าได้มอบการแสดงระดับสุดยอดไว้ให้คอหนังได้ชื่นชมกันอีกครั้งหนึ่งแล้วนะจะบอกให้


ป้าแกดูดีในชุดย้อนยุคแบบนี้จริงๆ
หนังพาย้อนไปรัสเซียช่วงปี 1910 เพื่อเสนอเรื่องราวชีวิตในวัยชราของปู่ Tolstoy (Christopher Plummer จาก The Imaginarium of Doctor Parnassus [2009]) และศรีภรรยาสุดที่เลิฟ Countess Sofya Tolstaya (Mirren) ที่ถึงแม้จะยังรักกันหวานชื่นกันดีอยู่ แต่ก็ต้องมีปากเสียงกันเมื่อฝ่ายสามีเตรียมจะยกผลงานของตนทั้งหมดให้เป็นสมบัติของชาติ จากการคอยเป่ากระหม่อมจากเพื่อนซี้ของเขาอย่าง Vladimir Chertkov (Paul Giamatti จาก Sideways [2004])


พ่อหนุ่ม James McAvoy ต้องปะฝีมือกับเหล่านักแสดงเจ้าบทบาท
ซึ่งนั่นก็หมายถึงทางครอบครัวจะไม่ได้ค่าลิขสิทธิ์จากการตีพิมพ์ผลงานของเขาสักแดง ดังนั้นมีหรือที่ฝ่ายภรรยาจะยอม ดังนั้นเมื่อผู้ช่วยหนุ่มคนใหม่ที่เชิดชู Tolstoy โคตรๆ อย่าง Valentin Bulgakov (James McAvoy จาก Wanted [2008]) เผอิญหลุดเข้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างสองฝ่าย เขาเลยถูกแต่ละฝ่ายดึงให้เป็นพวก ซึ่งทำให้เขาต้องตัดสินใจอย่างยากลำบากว่าจะเข้าข้างใครดีหนอ เรื่องราวเมโลดราม่าแสนซาบซึ้งผ่านการแสดงระดับสุดยอดของเหล่านักแสดงคุณภาพจึงเกิดขึ้น ณ บัดเดี๋ยวนั้นเอย

ถึงจะแก่แค่ไหนแต่สองคนนี้ก็ยังกุ๊กกิ๊กกันไหวอยู่
ผกก.ที่ถนัดในการทำหนังดราม่าชวนประทับใจอย่าง Michael Hoffman (One Fine Day [1996]) ทำหน้าที่ได้อย่างดี หนังพยายามมาในอารมณ์ที่ผ่อนคลายแต่บทจะกระชากอารมณ์ก็ทำได้ถึง ซึ่งอันนี้ก็ต้องชมเหล่านักแสดงยอดฝีมือทั้งหลายที่มอบการแสดงอันยอดเยี่ยมที่สร้างอารมณ์ร่วมให้แก่ตัวหนังได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะป้า Mirren ที่ช่างโดดเด่นในทุกสถานการณ์จริงๆ เมื่อผนวกเข้ากับดนตรีประกอบสุดเพราะของ Sergey Yevtushenko คอมโพเซอร์ชาวรัสเซียเข้าไปอีก งานนี้คงจะเรียกน้ำตาจากบรรดาคอหนังกันได้บ้างล่ะน่า


ป้าเขามอบการแสดงอันสุดยอดให้ได้เชยชมกันอีกครั้งหนึ่ง
ถึงแม้เรื่องราวจะดูเมโลดราม่าเรียกน้ำตาไปบ้าง แต่ก็ถือว่าทำได้ถึงชนิดที่ไม่ล้นจนเกินไป การที่นักแสดงพากันพูดภาษาอังกฤษสำเนียงอังกฤษและอเมริกันแบบนี้ เลยดูไม่ค่อยรัสเซียเท่าไหร่ แต่ก็หยวนๆ ให้ละกัน เพราะมีแต่นักแสดงทำหน้าที่ได้ดีทั้งนั้น หนังเหมาะสำหรับคอหนังดราม่าเน้นการแสดง และคอหนังสือที่คุ้นเคยกับผลงานของ Tolstoy แล้วอยากเห็นแง่มุมในชีวิตของเขาเพิ่มขึ้น ป้า Mirren เขารับประกันคุณภาพเลยจ้า
  • น่าดูเพราะ: หนังดี การแสดงเด่น ผู้ที่อยากรู้จัก Leo Tolstoy ในอีกแง่มุมก็ไม่ควรพลาดจ้า
  • ไม่น่าดูเพราะ: อาจดูเมโลดราม่าไปบ้าง และหนังที่มีคู่รักแก่ๆ เหี่ยวๆ เป็นตัวนำคงไม่ดึงดูดความสนใจให้ดูเท่าไหร่นักหรอกมั้ง




*ช่วงอันเนื่องมาจากหนัง*

ภาพถ่ายสีตัวเป็นๆ เพียงรูปเดียวของ Tolstoy
สำหรับคนที่ไม่ใช่หนอนหนังสือคงจะไม่ค่อยรู้จัก Leo Tolstoy กันสักเท่าไหร่(โดยเฉพาะเรา อิอิ) เลยอาจจะพาลงงๆ ยามดูหนังเรื่องนี้ว่า คุณปู่เคราเฟื้อยคนนี้เป็นใครหนอทำไมถึงมีแต่คนยกย่องเชิดชูท่านเช่นนี้? ดังนั้นเราจึงมีเรื่องราวของท่านเล็กๆ น้อยๆ มาให้อ่านพอเป็นการทำความรู้จักกันจ้า

Lev Nikolayevich Tolstoy (1828-1910) คือนักประพันธ์, นักปรัชญาชาวรัสเซียในตำนาน ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดแห่งสุดยอดนักประพันธ์ ผลงานมาสเตอร์พีซของท่านก็มีอาทิเช่น War and Peace และ Anna Karenina

นอกจากนั้นท่านยังเป็น นักปฏิรูปการศึกษา, นักเขียนบทละคร, นักเขียนเรื่องร้อยแก้ว และการตีความจริยธรรมของพระเยซู จาก "การเทศนาบนภูเขา" ทำให้ต่อมาท่านกลายเป็นผู้พัฒนาแนวคิดทางคริสต์ศาสนารูปแบบใหม่ คือ "Christian anarchism"และ "Pacifist" โดยเฉพาะแนวคิด "การต่อสู้โดยสันติวิธี" ที่ต่อมาได้มีอิทธิพลต่อทั้ง มหาตมะ คานธี และ Martin Luther King, Jr.
เชียวนะ

ท่านเสียชีวิตด้วยโรคนิวโมเนีย (ปอดอักเสบ)ที่สถานีรถไฟ Astapovo ในรัสเซียปี 1910 ขณะที่อายุได้ 82 หลังจากเพิ่งตัดสินใจทิ้งบ้าน ครอบครัวและความมั่งคั่งไว้เบื้องหลัง เพื่อกลายเป็นนักพรตพเนจรชนิดเต็มขั้น แต่ดันเกิดป่วยซะก่อนหลังจากขึ้นรถไฟจากบ้านไปได้ไม่นาน จนต้องแวะพักรักษาตัวที่ Astapovo ซึ่งก็ได้กลายเป็นสถานีสุดท้ายของชีวิตท่านไปในที่สุด


*คัดข้อมูลมาแปลแบบมั่วๆ จาก wikipedia จ้า*




Create Date : 04 กรกฎาคม 2553
Last Update : 4 กรกฎาคม 2553 17:11:43 น. 6 comments
Counter : 5933 Pageviews.

 
จดลงรายการหามาดูล่ะครับ หนังสือของตอลสตอยที่พูดมานั้นมีเกือบทุกเล่ม แต่อ่านไม่จบสักเล่ม แหะ ๆ


โดย: ศล วันที่: 5 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:06:57 น.  

 
เชื่อว่าต้องเป็นเซียนหนังแน่เลย

ขอตามติดข้อมูลด้วยคนค่ะ


โดย: Maekapomkha วันที่: 8 กรกฎาคม 2553 เวลา:12:10:36 น.  

 
แหม ชมกันเกินไปแล้วครับ
แต่ก็ยินดีเลยที่คุณจะแวะมาเยี่ยมบ่อยๆ
ผมก็ขออนุญาตแอดคุณเป็นเพื่อนเช่นกันนะครับ



โดย: Nanatakara วันที่: 9 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:20:54 น.  

 
เพิ่งได้ดูจาก Bd เมื่อวานซืนเองครับ ต้องยอมรับเรื่องการแสดงจากนักแสดงทุกท่านที่เชือดเฉือนบทกันอย่างไม่ยอมใครเลยครับ การดำเนินเรื่องอย่างเข้มข้นทีเดียวครับ ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะชอบครับ ดนตรีประกอบให้ความรู้สึกรัสเซียจริงๆ ถึงแม้นักแสดงจะพูดภาษาอังกฤษแบบคนอังกฤษก็ตาม คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์เล่นหนังมาตั้งนานเพิ่งถูกเสนอชื่อชิงออสการ์เป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งอาจจะถือได้ว่าเป็นชัยชนะของท่านแล้วครับ


โดย: Inception วันที่: 12 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:37:05 น.  

 
เราได้ดูแล้ว แต่หนังไม่มีซับไทยให้นะ บางประโยคแปลไม่ได้เลยังไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์ของตัวละครเท่าไร แต่ลุงกับป้าแก ขั้นเทพจริง ๆ เรื่องเหี่ยว ๆ อะไรไม่สคัญเลย ตัวละครเหมาะกับบท มั๊ก ๆ ถ้าอยากจะดูเนื้อตึง ๆ ละก็ ไปดูละครหลังข่าวดีกว่าไม๊ คุณแม่อายุ 20 อะไรยังงี้งะ


โดย: แอน IP: 117.47.41.246 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:29:10 น.  

 
อยากดู Anna Karenina


โดย: VELEZ วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:20:11:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nanatakara
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




  • Friends' blogs
    [Add Nanatakara's blog to your web]
    Links
     

     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.