ไปเที่ยวกันดีกว่าค่ะ .. ^^
Group Blog
 
All Blogs
 
เที่ยวโฮจิมินห์ “ไซง่อน เมืองในจินตนาการ” ของฉัน

ช่วงหยุดยาว 3 วันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557
เราได้ไปเที่ยวโฮจิมินห์กับเพื่อน
เพราะว่าได้ตั๋วราคาถูกมาจากเว็บไซต์แอร์เอเชีย
ตอนแรกก็จองไปกันสองคนกับเพื่อนสาว
ราคาตั๋ว = 3,525 THB
Ticket 2,500 + baggage 525 (20 kg)


ไปๆ มาๆ มีเพื่อนร่วมแจมด้วยอีก 2 คน
ก็จองตั๋วเพิ่มภายหลัง ได้อีกราคาหนึ่ง
Ticket 6,250 x 2 PAX (+ baggage20 kg)
= 12,500 THB


โปรแกรมท่องเที่ยว

ตามนี้


เขียนเป็นภาษาอังกฤษ เพราะมีเพื่อนชาวต่างชาติไปด้วย

Vacation Plan as follows,
13 Feb : Flight FD 2798 ,Arrival to SGN 21.05 AM
Check-In at Aston Hotel Saigon
14 Feb : Half day tour to Cu Chi Tunnels (Afternoon)
(Stay at Liberty Saigon Greenview
2 nights , from 14-16 feb 2014)
15 Feb : Full Day Tour to Cai Be - Vinh Long [Mekhong Delta]
16 Feb : Half day Ho Chi Minh city tour (Morning)
Taxi pick up from Liberty Saigon Greenview
(Pham Ngu Lao Road) to airport
Depart from hotel 15.00 Am


การเล่าเรื่องทั้งหมดต่อไปนี้ ก็จะเล่าเท่าที่จำได้
แบบว่ารายละเอียดไม่ค่อยลึกเท่าไหร่
เพราะไม่ได้จดอะไรมาเลย แถมยังถ่ายภาพน้อย
ถ่ายภาพแบบขี้เกียจ ไม่อยากถ่ายภาพก็ไม่ถ่ายเอาซะงั้น
ตกๆ หล่นๆ ไป เยอะ

ก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ ใช้มินิแท็บเล็ตถ่ายทั้งหมด
ไม่ได้พกกล้องถ่ายรูปไปด้วยเลย
ถือว่าเป็นบันทึกความทรงจำฉบับย่อ ๆของทริปนี้
ก็แล้วกันนะคะ






วันแรก


คณะของเราออกไฟลท์ค่ำ ไปถึงก็ดึกเลยค่ะ
ถึงโรงแรมตอนสี่ทุ่ม โดยได้ติดต่อทางอีเมล์
กับโรงแรม Liberty Saigon Greenview
ให้จัดรถมารับที่สนามบิน ในราคา 10 USD
ไปส่งให้ที่โรงแรม Aston ที่พักคืนแรก

ทำไมถึงไม่ให้โรงแรม Aston จัดรถมารับ ?

ตืดต่อแล้วค่ะ แต่โรงแรมไม่ตอบอีเมล์กลับมาเลยสักคำ
จึงได้ติดต่อ Liberty Saigon Greenview
ซึ่งเราจะพักคืนต่อไป
ดำเนินการให้แทน

รถที่มารับสนามบินในราคา 10 USD (ประมาณสามร้อยบาทนิดๆ)
เป็นอย่างไรบ้าง ดีมั้ย ?

รถดีมากๆ ค่ะ เป็นรถแวน SUV สภาพใหม่ คันโต นั่งสบาย
คนขับสุภาพมาก ออกมาจากทางออก
ก็จะเจอคนขับชูป้ายชื่อต้อนรับเราอยู่ที่สนามบิน
คุ้มราคา ยิ่งหารกันสี่คน ยิ่งคุ้ม
การจ่ายเงิน เราไม่ได้จ่ายโดยตรงให้กับคนขับ
แต่จะไปจ่ายที่โรงแรมที่ติดต่อรถให้ ในตอนเช็คอิน





โรงแรม Aston เป็นโรงแรมที่ดีมาก สะอาด เอี่ยมอ่อง สวยงาม
เตียง ผ้าห่มนุ่ม ห้องน้ำดี ไม่มีอ่างอาบน้ำ พนักงานบริการดีเลิศ
เหตุที่เลือกที่นี่ เพราะรีวิวในอโกด้า มีแต่คำชมทั้งนั้น
เราจองผ่าน orbitz มีเพื่อนใจดีให้โค้ดส่วนลดมาค่ะ
เรารีวิวเพิ่มเติมไว้ในบล็อกนี้ หมวดโรงแรม ที่พัก ต่างแดนนะคะ
ตามไปอ่านเพิ่มเติมกันได้เล้ยย


เก็บข้าวของแล้วก็หิว อย่างแรง เดินออกไปหาของกิน
ลัดเลาะตามสวนสาธารณะไป ก็เจอ Chill Skybar
อยู่ที่ตึก A Tower อ่านรีวิวมาคร่าวๆ จำได้ว่า
เป็นบาร์ ที่มองทิวทัศน์ไซง่อนได้สวยงาม
แต่เข้าไม่ได้ เพราะว่า ถ้าเป็นผู้หญิง ต้องแต่งเดรส
ห้ามใส่รองเท้าแตะ กระเซอะกระเซิงไปอย่างเรานี่เข้าไม่ได้จ้า
อด....


เดินข้ามถนนไป ก็ไปเจอร้านอาหารอีกร้าน
คนเวียดนามนั่งกันเยอะ
ท่าทางก็น่าจะอร่อย ปรี่เข้าไปทันดี ด้วยความหิว




โต๊ะเก้าอี้ที่นั่งธรรมดา
แต่บริการนั้นเป็นเลิศ
อาหารก็อร่อยมาก (ขอโต๊ด//อร่อยโคตรๆ สุดๆ )
ฟินกับมื้อแรก มื้อนี้ จุงเบย
ราคาก็ไม่แพงนะ คิดเป็นเงินไทยเท่าไหร่ ก็จำไม่ได้แระ (แล้ว)








กลับไปถึงโรงแรมก็ดึกโฮก
เจอน้องพนักงานที่ฟร้อนท์ ต่อรองราคาทัวร์ช่วงเช้า
ไม่รู้ว่าจะต่อทำไม เพราะราคาทัวร์ก็จัดว่าไม่แพงอยู่แล้ว
ไม่กี่ร้อยบาท สามร้อย ต่อคนเองมั้ง แต่ได้ลดนิดหน่อยก็ดีใจแล้ว

ราคาทัวร์ไม่ต่างจากเดินตระเวนไปหาซื้อทัวร์เองข้างนอก
ฉะนั้น ซื้อทัวร์จากโรงแรมนี่แหละค่ะ สะดวกที่สุดแล้ว
ทางโรงแรมก็ดูแลเราด้วย
คอยดูให้ว่าทัวร์จะมารับกี่โมง อะไร ยังไง จะมาเลทมั้ย ฯลฯ



วันที่สอง


ตื่นเต่เช้ามารับประทานอาหารเช้ากันที่โรงแรม
อาหารเช้าร่วมอยู่ในราคาห้องพักแล้วไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม
มัทั้งส่วนที่เป็นบุฟเฟต์และแบบจานหลัก
ที่สั่งจากเมนูได้จนกว่าจะอิ่ม

ชอบมากก็คือ ผลิตภัณฑ์นม นมสด โยเกิร์ต
เพราะอร่อย

บะหมี่ ที่สั่ง นึกว่าจะเป็นบะหมี่แบบเวียดนาม
แต่ก็เป็นต้มมาม่าใส่หมูยอธรรมดา




อิ่มแล้วก็นั่งรอที่ล็อบบี้
บริษัททัวร์ที่ใช้บริการวันนี้ชื่อบริษัท Kin Travel อยู่ใกล้ๆ
เยื้องๆ กับโรงแรม Aston แบบเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว


นั่งรถแบบหลับๆ ตื่นๆ เพราะตามกฏจราจร
รถจะขับได้ช้าม๊ากกกก ได้แวะพักกลางทางเป็นศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการ
จุดหมายวันนี้ คือ อุโมงค์กู๋จี



ไกด์ก็จะบรรยาย ชวนคุยเป็นภาษาอังกฤษไป
ชอบไกด์คนนนี้มาก ภาษาคล่อง ฟังง่าย
ดูแลลูกทัวร์เป็นอย่างดี ถ้วนทั่วทุกคน

ข้อควรระวังในการซื้อทัวร์เส้นทางนี้
: เตรียมของกิน อาหารว่างไปด้วยจ้ะ
เพราะแม้ว่าจะเที่ยวตั้งแต่เช้าจนถึงกลับมาถึงโรงแรมช่วงบ่ายแก่ๆ
แต่ว่าไม่มีอาหารกลางวันให้ และจุดแวะพักก็ไม่ค่อยมีอะไรกิน








ไปรับกระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแรม Aston
จากนั้นก็เดินไปเช็คอินที่โรงแรม Liberty Saigon Greenview
หรือ Liberty3 จองไว้ผ่าน Expedia และ Orbitz
อยู่ไกลกันไม่ถึง 100 เมตร เดินไปนิดเดียวเท่านั้น
เพื่อนงงว่าถึงแล้วเหรอ
แล้วหลังจากนั้นเราก็เดินไป ๆ มาๆ
ในละแวกฟาม งู เหลา นั้นอยู่เนืองๆ




ห้องพักที่ Liberty3 นี่เทียบไม่ได้กับที่ Aston
แต่บริการก็ดีมากๆ เหมือนกัน
ที่สำคัญกว่า คือที่นี่ อาหารเช้าเป็นไลน์บุฟเฟต์จ้ะ

เช็คอิน เข้าห้องพักเรียบร้อย ก็มาซื้อทัวร์ที่เคานท์เตอร์โรงแรม
เพื่อไปเที่ยวย่านสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
ราคาเท่ากับซื้อข้างนอก บอกเลย
เพราะเราหยิบโบรชัวร์ที่หยิบจากบริษัททัวร์ข้างนอกมาเทียบกัน
ทัวร์วันเดียวทริปนี้ คนละ 10 USD มั้ง
(ไม่แน่ใจนะ..ที่ชัวร์คืออยู่ที่ 300-400 บาทค่ะ ไม่แพง)
ถ้าจำคลาดเคลื่อนก็ขออภัย

หิวแล้ว ไปกินรองท้องที่ร้านอาหารตึกแถวถัดจากโรงแรมไปไม่กี่ห้อง
แต่ว่าไม่ได้ถ่ายภาพหน้าร้านและเมนูมา
จำชื่อร้านไม่ได้แล้ว
"เฝอเนื้อ" เป็นอาหารร้านนี้ที่ไปแล้วไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ด้วยความอร่อย ทริปนี้ ไปกินเฝอร้านนี้ 4 รอบเห็นจะได้นะ




จากนั้นมิตรรักนักช้อป ก็ พากันเดินไปที่ตลาดเบนถัน
เพื่อไปซื้อสินค้า ของฝาก ประดามี
เรานั้น เล็งไว้แล้ว ว่าจะมาซื้อเป้ ก็ซื้อๆๆๆ จนหิ้วเกือบไม่ไหว
ได้เป้เล็ก และเป้ขนาดกลางๆ มาหลายใบ
แหะๆ ไม่ได้ถ่ายภาพมาเลยจ้า


กลับมาเอาของมาเก็บที่โรงแรม
แล้วก็ไปกินมื้อดึกกันต่อ
ที่ร้านอาหารร้านเดิมในคืนแรก
เพราะว่า อยากกินหอยแครงแสนอร่อย
ก็สั่งๆๆนั่นนี่มาแกล้มเบียร์
จนอิ่มแล้ว ดึกแล้วด้วย สาวๆ ลงมติกันอยากกินอะไรร้อนๆ
สักถ้วยก่อนเช็คบิลกลับ

ปรากฏว่า อะไรร้อนๆ สักถ้วย มาเป็นหม้อไฟขนาดมหึมาเช่นนี้
ดับอนาคตกันเลยทีเดียว ยิ้ม มองหน้ากันไปมา และก็เกี่ยงกันชิม
แต่ว่าอร่อยค่ะ ค่อยๆ ละเลียดกินกันไป
เราเรียกว่า เมนูปราบเซียน






วันที่สาม


ตื่นแต่เช้าอีกแล้ว มากินอาหารเช้าของโรงแรม
ได้ภาพเท่านี้ เพราะเจ้าหน้าที่เดินมาบอกว่าไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพจ้ะ




นั่งรถจนเมื่อยก็ถึงซะทีน่ะนะ
ระยะทางไม่่ไกล แต่รถกว่าจะวนไปรับคน
และขับช้าม๊ากกกกก ตามกฏจราจร





ตลาดน้ำที่เป็นวิถีชีวิตจริงของชาวบ้าน
ขายกันบนเรือเลย ส่วนมากก็จะขายส่ง และมีขายปลีกด้วย
เสาเรือแขวนอะไรไว้ ในเรือก็จะขายสินค้านั้น
มีฟักทอง มันแกว ฯลฯ





ต่อจากนี้ไปก็ได้อารมณ์ประมาณ
ไปเที่ยวเมืองดินดอนปากแม่น้ำแถวบ้านเรา
เขาพาไปเดิน ย่านบ้านสวน ไปบ้านที่เลี้ยงผึ้ง
เอาผลิตภัณฑ์จากผึ้งมาให้ชิม ไม่บังคับซื้อ

แล้วก็ไปที่บ้าน ที่ทำขนมขาย





อ้อ ลืมเล่าไปว่าทัวร์นี้มีอาหารกลางวันให้
แต่ก็จะเป็นอาหารจานเดียว ข้าวหมูทอด ไม่รวมน้ำดื่ม
มีหมูแปะมานิดเดียว ไม่อิ่มหรอก
อยากจะสั่งเพิ่ม แต่ว่าเมนูเป็นภาษาเวียดนาม ไม่มีราคากำกับ
สั่งหมูทอดเปล่าๆ มาเป็นจานรวมแบ่งๆ กันกิน


นั่งเรือกันต่อไป ไปบ้านอีกหลัง
เพื่อชมศิลปะการแสดง และชิมผลไม้สดๆ จากสวน (ฟรี)
ทางเราก็มีทิปให้นักแสดง








ไปกันต่อ เพือ่ไปนั่งเรือแจว หรือเรือพาย
ไม่รู้เรียกอะไรอ่ะนะ
ลัดเลาะไปตามคลองเล็กคลองน้อย
มีชาวบ้านมารอพายเรือให้ ชมสวน ดูชุมชน
ดูบ้านเรือน ชีวิตผู้คนชาวสวนกันไป




กลับมาถึงโรงแรมก็มืดค่ำแล้วค่ะ
เมื่อยมาก เราขอเดินแยกไปนวดที่โรงแรม Liberty4 ไม่ไกลกัน
จากนั้นเราก็มากินเฝอเนื้อร้านเดิม

นั่งไปนั่งมา เพื่อนที่เดินมาจากช้อปปิ้งก็ตามมาสมทบ
ชวนกันไปช้อปปิ้ง ถนนคนเดิน ข้างตลาดเบนถัน
ไฮไลท์ อยู่ที่ ร้านหอย สารพัดหอย
ของคุณยายท่านหนึ่ง เป็นเชฟและเจ้าของร้าน
ร้านนี้มีคนเต็มร้าน ได้สั่งสารพัดหอย
ประกอบอาหารทั้งแบบเวียดนาม แบบยุโรป
สั่งแล้ว สั่งอีก สั่งมาเรื่อยๆ เรื่อยๆ และเรื่อยๆ
อร่อยมากๆๆๆ อีกแล้ว และไม่แพงเลย อีกแล้ว
อิ่มหนำ สำราญใจ ฟิน!!!
ไม่มีภาพประกอบ

แล้วก็ชวนกันไปเดินเที่ยวดูชีวิตราตรีกันต่อ
ประมาณย่านข้าวสารบ้านเราอ่ะนะ
ภาพนี้ ชาวต่างชาตินั่งดื่มกัน โดยนั่งบนตั่งเตี้ยๆ
ริมถนนแถวๆ โรงแรม Aston





ทริปนี้ เราทุกคนเที่ยวกันแบบหารเฉลี่ย
แต่ปิดท้ายคืนนี้ เพื่อนชาวต่างชาติขอเลี้ยงค้อกเทล
ที่ผับตรงข้ามโรงแรมให้แก่สามสาวเพื่อนร่วมทริป
นั่งยาวไป... ก็เดินต๊อกๆ เข้าห้องพัก นอนยาว



วันที่สี่


วันนี้ตื่นกันสาย เพราะเพลียจากการเที่ยวและนอนดึก

เช็คเอาท์เอาไว้
แล้วพากันเดินไปซื้อหมูยอ เส้นก๋วยเตี๋ยว ที่ตลาดสด

ระหว่างทาง แวะสักหน่อยก่อน





แม่ค้า ลูกค้า พูดกันคนละภาษา
แต่กลับคุยกันรู้เรื่องแฮะ
ได้ของตามตั้งใจ




เช้านี้ เราว่าจะไปชมพิพิธภัณฑ์กัน
ตอนแรกจะนั่งรถเมล์ไป แต่มีปัญหาว่า
กระเป๋าและคนขับรถเมล์ไม่แน่ใจว่ารถจะผ่านสถานที่นั้นมั้ย
จึงได้โบกแท็กซี่มิเตอร์
ซึ่งราคาก็ดูเหมือนว่าจะถูกกว่าหรือพอๆกับบ้านเรา

ไปถึงแห่งแรก ปิดพักนอนกลางวันจ้า



ไม่รอแล้ว เวลาไม่พอ
ถ่ายภาพเอาไว้เป็นที่ระลึก




เดินไปแห่งที่สองกันต่อ ถามทางไปเรื่อยๆ เพราะงงแผนที่
เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับสงคราม

ทีแรกก็ยิ้มระรื่นกันดีน่ะนะ



พอได้เช้าชม
ก็ได้พบกับความจริงและประวัติศาสตร์ที่แสนโหดร้าย
เพื่อนมนุษย์ ต่างเชื้อชาติกระทำย่ำยีต่อกัน
เข้าไปห้องแรก ดูไม่จบค่ะ น้ำตาจะไหล มันรื้นๆ ขึ้นมาแล้ว
ทั้งภาพ ซากอาวุธ ฯลฯ สะเทือนใจจริงจัง

ทั้งสี่คนรีบออกมา แล้วเข้าไปดูห้องอื่นต่อไป
อีกห้อง เป็นห้องจัดแสดงการถูกโจมตีจากสงครามเคมี
ทำให้เด็กน้อย ที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันนี้ ร่างกายไม่สมบูรณ์
จากอาวุธเคมีเมื่อก่อน

ซึ่งตอนนี้ทางการเวียดนามและองค์กรต่างๆ ก็ได้ดูแลอยู่
ในด้านอาชีพและอื่นๆ
ซึ่งก็จะมีของที่ระลึกที่ทำจากพวกเขาเหล่านั้น
วางขายอยู่ชั้นล่างและมีตู้รับบริจาคด้วย





ห้องที่เห็นแล้ว รู้สึกดีใจไปด้วย
ก็คือ ห้องที่บอกเล่าเรื่องการฟื้นฟูประเทศหลังสงคราม
จะเก็นถึงความมุ่งมั่น ความเป็นหนึ่งเดียวของชาวเวียดนาม
ที่ได้ร่วมกับผ่านพ้นเหตุการณ์วิกฤตนั้นไปได้

เล่าแล้วก็เศร้านะคะ


จากนั้นก็รีบนั่งแท็กซี่กลับมากินก๋วยเตี๋ยวเฝอร้านเดิม
รับสัมภาระที่ฝากไว้โรงแรม
โรงแรมช่วยเรียกแท็กซี่ไปส่งที่สนามบินให้
ราคา 8 หรือ 9 USD จ่ายไป 10 USD รวมทริป
และเราทั้งสี่คนก็เดินทางกลับประเทศไทยกันโดยสวัสดิภาพ

...จบทริปประทับใจ เที่ยวโฮจิมินห์ในราคาเบาๆ




ไซ่ง่อน ที่ได้สัมผัสไม่เหมือนกับที่คิดในจินตนาการ
เพราะไซง่อน เจริญไปมากแล้ว มากกว่าเดิมที่คิดไว้
เรายังนึกภาพสาวเวียดนาม ใส่ชุดประจำชาติ
ขี่จักรยานสวยๆ เยื้องกรายผ่านหน้าประมาณนั้น
แต่ไซง่อนวันนี้ เป็นเมืองธุรกิจ ตึกสูง ถนนเต็มไปด้วยรถรา
แต่ก็ยังมีเสน่ห์ ในแบบของเขาเองอยู่หลายสิ่ง
ที่น่าไปค้นพบ และสัมผัส ในคราวต่อไป


ติดตามรีวิวมาใหม่ได้ที่เฟซบุ๊ค "ท่องเที่ยวไป by ชมจันทร์"
//www.facebook.com/moonwatcherBP


ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ


Create Date : 19 มิถุนายน 2557
Last Update : 19 มิถุนายน 2557 15:49:42 น. 4 comments
Counter : 7011 Pageviews.

 
มาติดตามไซ่ง่อนในจินตนาการ

ตอนไปครั้งแรกช่วงโรงเรียนเลิก ข้ามถนนใหญ่ไม่เป็น ยืนรอเกือบ 20 นาที รอเกาะคนท้องถิ่นข้าม ^^


โดย: แมวเซาผู้น่าสงสาร วันที่: 19 มิถุนายน 2557 เวลา:12:45:27 น.  

 
คุณแมวเซา ฯ เราก็ประมาณนั้นอ่ะ ทักษะการข้ามถนนเราไม่ค่อยมี ไปเวียดนามข้ามถนนลำบากจริงๆ กลัว !


โดย: ชมจันทร์ วันที่: 19 มิถุนายน 2557 เวลา:13:00:38 น.  

 
เข้ามาติดตามเรื่องราวจากไซ่ง่อนค่ะ
จองตั๋วไว้เดือนตุลาคมปีนี้ แต่เหมือนจะได้ฉายเดี่ยว 55
กำลังชั่งใจจะไปไม่ไปดี เลยเข้ามาหาข้อมูลค่ะ


โดย: Nepster วันที่: 20 มิถุนายน 2557 เวลา:11:12:47 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณ Nepster
เชียร์ให้...ลุยเลยค่ะ
ฉายเดี่ยวก็เที่ยวได้สบาย
ทัวร์อะไรต่างๆ ก็ซื้อง่าย สะดวก ไม่แพง
เดินทางร่วมกับนักท่องเที่ยวชาติต่าง ๆ
ขอแนะนำให้พักย่านฟามงูเหลา
ซื้อทัวร์+ไปทัวร์ง่ายดีค่ะ


โดย: ชมจันทร์ วันที่: 20 มิถุนายน 2557 เวลา:13:51:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชมจันทร์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เดินทางสู่โลกกว้าง เพื่อไปเรียนรู้โลก ผู้คน เพื่อประสบการณ์ชีวิต

Friends' blogs
[Add ชมจันทร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.