ปีที่สอง... ปีทองของหนู กร๊ากกกกกก
ที่เรียกว่าปีนี้เป็นปีทองของโมอายก็เพราะว่า... ปีนี้โมอายทำอะไรๆได้ด้วยตัวเองตั้งหลายอย่างแน่ะครับผม เริ่มตั้งแต่สองขวบเต็มใหม่ๆ โมอายก็เริ่มพูดเป็นคำๆแล้วค่ะ ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วโมอายจะเริ่มเปล่งเสียงพูดเป็นคำได้ตั้งแต่ประมาณ 4-5 เดือน โมอายพูดคำแรกคือคำว่า "ปา" น่าจะหมายถึง "ปลา" ที่อยู่ในบ่อหน้าบ้าน แต่โมอายก็พูดอยู่คำเดียวและค่อยๆหายไปกลายเป็นเด็กไม่พูดจนมา 2 ขวบนี่แหละค่ะ ถึงได้เริ่มเป็นคำๆแต่ก็ไม่เยอะนะคะ มีอยู่คำนึงที่โมอายพูดชัดมากๆก่อนไปโรงเรียนอีกนั่นก็คือคำว่า "โทมัส" ออกเสียงสอเสือตรงคำว่ามัสชัดแจ๋วเลย ยิ่งไปกว่านั้น โมอายจำชื่อเพื่อนของโทมัสได้ทุกตัวด้วยค่ะ แม้ว่าตัวไหนที่สีเหมือนกันที่เป้ไม่สามารถบอกได้ว่าตัวนี้ชื่ออะไร แต่โมอายบอกได้ทุกตัวเลย เด็กๆเนี่ยยสมองดีกว่าพวกเราอีกนะคะ ปีนี้โมอายเดินเหินคล่องแคล่ว วิ่งได้ปร๋อแล้วค่ะ แต่ก็ไม่มีวี่แววของความซนเท่าไหร่ โมอายชอบเล่นต่อบล๊อก ชอบดูหนังสือรถไฟ และที่สำคัญก็ชอบดูการ์ตูนโทมัสนี่แหละค่ะ (สาเหตุหนึ่งของการพูดช้า) การเล่นของโมอายที่คิดว่าผาดโผนที่สุดก็คงเป็นรถโทมัสที่ใช้ขาไถๆไปข้างหน้าอ่ะค่ะ 55555 โมอายชอบวิ่งเล่นนะคะ แต่ไม่ค่อยมีใครพาไปวิ่งเท่าไหร่จนหลังๆโมอายไม่ค่อยชอบไปวิ่งแระ ชวนไปก็บอกอยากอยุ่ในบ้านดูโทมัสมากกว่า เฮ้อออออออออออ เรื่องกินของโมอายเริ่มมีปัญหามากๆก็เข้าขวบปีที่2นี่แหละค่ะ ที่ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์เลย เรื่องผักไม่ต้องพูดถึงไม่เอามาตั้งแต่ขวบนึงแล้วอ่า ตอนเด็กๆยังกินหมูสะเต๊ะบ้าง ยิ่งตอนเข้าครึ่งปีหลังเนี่ยะไข่ก็ไม่เอา กินแต่ข้าวกับแม๊กกี้ นานๆทีจะขอเต้าหู้บ้าง ไม่รู้จะทำไงดีปรึกษาคุณหมอ คุณหมอก็บอกน้ำหนักส่วนสูงน้องโมอายเค้าเท่าเด็ก 3 ขวบเลยค่ะคุณแม่ นั่นก็ใช่ค่ะ แต่ไม่กินอะไรแบบนี้ท่าจะเท่านี้ไปตลอดจน 4 - 5 ขวบนะคะ คุณหมอเลยแนะนำพรีเดียชัวร์ให้ จะได้สารอาหารครบๆหน่อย ตอนอายุได้ 2 ขวบกับอีก 7 เดือน พ่อกับแม่ก็พาโมอายไปเข้าโรงเรียนค่ะ โรงเรียนที่เราเลือกก็คือโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราชค่ะ ในนครเป้ว่าก็ดีที่สุดแล้วนะคะ เป้หาข้อมูลเรื่องโรงเรียนลูกมานานเป็นปีในนครไม่มีที่ถูกใจเลยสักที่ จนแทบจะย้ายไปอยู่กรุงเทพเพื่อให้ลูกได้เรียนโรงเรียนที่เตรียมความพร้อมจริงๆไม่เน้นแต่วิชาการ ที่นครนี่หายากจริงๆเลยค่ะ จนมาเจอที่โรงเรียนสาธิตเนี่ยแหละค่ะ วันไปสมัครที่โรงเรียนมีการทดสอบด้วยค่ะ น่าจะเป็นทดสอบเพื่อแยกชั้นบริบาล1หรือบริบาล2 ครูให้โมอายเตะบอล ถามโมอายว่านี่สีอะไร โมอายไม่ตอบ ไม่เตะ ถามอะไรก้ไม่พูด ทั้งๆที่ตอนนั้นที่บ้านโมอายบอกสีได้หมดทุกสีแล้วนะคะ เฮ้ออออออออออลูกเอ๊ย ครูแนะนำให้แม่พบผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาเด็กเลยนะคะ แม่นะเครียดเลยค่ะ ลูกฉ้านนนนนนนนนนนน ไม่พูด ครูบอกว่าเด็กๆ2ขวบครึ่งเค้าจะพูดแล้วนะคะคุณแม่ แต่ก็ไม่ได้พบค่ะ ผู้เชี่ยวชาญไม่อยู่ 5555555555555555 จนมาถึงเปิดเทอมจริงๆ วันแรกที่ไปโรงเรียนโมอายไม่ร้องเลยค่ะเพราะมีแม่กับพ่อไปอยู่ด้วยทั้ง 2 วันเลย จนวันแรกที่ต้องปล่อยไว้จริงๆโมอายก็ไม่ร้องนะคะ สร้างความแปลกประหลาดใจมาก โมอายไม่ร้องไห้เลยตอนไปส่งที่โรงเรียนวันแรกๆ มาเริ่มร้องก็ช่วงที่ไม่สบายแล้วได้หยุดโรงเรียนหลายวัน แล้วต้องไปใหม่เนี่ยล่ะค่ะ ช่วงนี้จะร้องทุกวันเลย ร้องแต่ก็เดินไปหาครูนะคะ เดือนแรกๆครูบอกว่าน้องโมอายไม่ชอบเล่นกลางแจ้งเลย ไม่ชอบออกกำลังกาย ไม่กล้าเล่นกระดานลื่นด้วย โมอายจะกลัวค่ะ แหะแหะ ใช่แล้วค่ะ โมอายขี้กลัวค่ะ ช่วงนั้นโมอายกลัวทุกอย่างเลย คำพูดติดปากก็คือคำว่า "กลัว" ถ้าไม่ชอบอะไรก็ใช้คำว่ากลัว ไม่อยากกินข้าวจะ กลัวข้าว ไม่อยากให้ยิ้มก็จะ กลัวยิ้ม .... ผ่านไปสัก 2 เดือนโมอายเริ่มกล้าแล้วค่ะ กล้าเล่นกระดานลื่นแล้ว แถมชิงช้าอีกตังหากแต่เป็นกระดานลื่นเล็กๆนะคะ จนจะปิดเทอมนั้นล่ะค่ะ โมอายถึงได้กล้าเล่นอันใหญ่แบบเด็กโตเค้าเล่นกัน คราวนี้ล่ะค่ะ เล่นไม่ยอมกลับบ้านเลย ภาคเรียนที่ 1 จบลงไปโมอายได้ร่วมกิจกรรมหลายอย่างกับทางโรงเรียน ทั้งการแสดงวันแม่ เป็นดรัมเมเยอร์ในวันกีฬาสี เป็นนักวิ่ง20เมตรชาย ที่ได้เหรียญทองมาด้วยนะคะ โมอายช่วยตัวเองได้หลายอย่างเลยจากการไปโรงเรียนที่เป้คิดว่าถ้าโมอายอยู่บ้านคงไม่ได้แบบนี้แน่นอน เพราะเป้และพี่ก้อยก็ทำงานกันทั้งคู่ อยู่กับพี่เลี้ยงที่บ้านก็คงไม่พ้นดูแต่ทีวีอีก ช่วงปิดเทอมโมอายพูดเก่งขึ้นมากๆ พูดตลอดเวลา และโมอายชอบที่จะเจอคนใหม่ๆ ไม่กลัวคนแปลกหน้า จนเพื่อนๆที่กรุงเทพงงมากๆว่าทำไมโมอายแปล๊กไป๋ โมอายคุยกับทุกคนไม่มีกลัวเลยค่ะ ก่อนขึ้นขวบปีที่3 อารมณ์แปรปรวนของโมอายที่เป็นมากๆช่วงไปโรงเรียนใหม่ๆก็ค่อยๆหายไปนะคะ จะมีบ้างถ้าเค้าง่วงนอน ถ้าเป็นอาการปกติไม่เป็นแล้วค่ะ ช่วงที่เป็นเนี่ยโหยยยยยยยย... เป้เข้าใจเลยค่ะว่าพ่อแม่วัยรุ่นที่โมโหแล้วตีลูกจนบาดเจ็บเนี่ยเป็นแบบไหน เพราะเด็กจะแปรปรวนเดี๋ยวเอาเดี๋ยวไม่เอา พูดจาไม่รู้เรื่อง ทำเอาเป้โมโหร้องไห้อยู่หลายครั้งเลยค่ะ ไปหาข้อมูลตามเนตก็มักจะบอกว่าเป้นเรื่องธรรมดาของเด็กๆวัยนี้ เฮ้ออออออออออออ แต่ทำไมบางคนไม่เป็นล่ะค๊า ตายายก็หาว่าเพราะพ่อแม่ตามใจน่านแหละถึงได้เป็นแบบนี้ เราก็ไม่รู้จะพุดอะไร ช่วงนั้นเครียดมากๆ ลูกก็นะ แถมยังโดนพ่อแม่ซ้ำเติมอีก ลูกใครไม่เป็นเนี่ยยยขอแสดงความยินดีด้วยอย่างสุดๆเลยนะคะ คุณโชคดีมากๆค่ะ แต่ตอนนี้เมื่อผ่านมาได้ก็ตลกดีนะคะ เก็บเอาไปเล่าให้เค้าฟังตอนโต ไม่แน่ใจว่ามีถ่ายวีดีโอไว้รึป่าว จะได้เอามาเปิดให้ดูตอนโต 55555555 ว่าดูสิ ทำไปได้ยังไง โมอายมีทำแกล้งล้มแล้วร้องเจ็บๆๆๆๆๆๆ ด้วยนะคะ พระเอกมากๆต่อหน้าต่อตาเลยค่ะ วิ่งๆเล่นอยู่ก็ทำเป็นล้มลงไปร้องเจ็บๆให้แม่ช่วยด้วย แม่เป่าทีเดียวก็หายเจ็บแล้วค่ะ เฮ้อออออออออออออ พ่อพระเอกของแม่ ก่อนจะเปิดเทอมภาคเรียนที่ 2 โมอายก็มีอายุครบ 3 ขวบเต็มแล้วค่ะ จะมีอะไรมาให้พ่อกับแม่เซอร์ไพรส์อีกน๊า....
วันเกิดตอนอายุ 2 ขวบเต็มๆเลยคร้าบบบบ 2 ขวบกับ 2 เดือน 2 ขวบ กับ 3 เดือน 2 ขวบ กับ 4 เดือน 2 ขวบกับ 5 เดือนค่ะ ช่วงนี้ 2 ขวบครึ่งนะคะ ช่วงครึ่งปีหลัง 2 ขวบ กับ 8 เดือนค่ะ 2 ขวบ 9 เดือน 2 ขวบ 10 เดือนแล้วคร้าบบบบ 2 ขวบกับ 11 เดือน เป็นดรัมเมเยอร์กีฬาสีโรงเรียน กับขนมปังที่แม่เป้ทำเอง... ภูมิใจ๊ ภูมิใจ นานๆลูกจะยอมกินขนมที่แม่เป้ทำ 5555 ใกล้จะ 3 ขวบเต็มแล้ว และในที่สุดก็เป็นเด็ก 3 ขวบ งานวันเกิดถ่ายกับเค้กโทมัสที่แม่เป้ทำให้คร้าบบผม
Free TextEditor
Free TextEditor
Create Date : 01 ตุลาคม 2551 |
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2551 10:35:03 น. |
|
0 comments
|
Counter : 503 Pageviews. |
|
|