พลัดถิ่น กิน เที่ยว ช้อปฯ ไปกับรักครั้งสุดท้าย
Group Blog
 
All blogs
 
วันครึ่งกับ 3 ร้านอาหาร 3 สัญชาติในเสิ่นหยาง

คืนวันเสาร์ เหล่าหนุ่มๆ ที่เค้าทำงานกันเหนื่อยก็พาสาวหนึ่งเดียวในกลุ่มออกไปเที่ยว (รึเปล่านะ) ด้วยการไปร้านบาร์บีคิวสไตล์บราซิล (เป็นบุฟเฟ่ต์เหมือน Rio grill ที่โรงแรมเอเชีย) ที่ชื่อ Latina ชื่อเดียวกับที่ ซินเทียนตี้และ Xujiahui ในเซี่ยงไฮ้แหละค่ะ แต่ร้านใหญ่กว่ากันเยอะเลย มีดนตรีสด เบียร์สด และอาหารตรงสลัดบาร์ก็หลากหลายกว่า

เพื่อนคนจีนที่ไปด้วยดูจะสนุกสุดกับการทานบาร์บีคิวครั้งนี้มาก


Live band ของแท้ต้องผิวสีนี้ค้าบท่านผู้ชม


ค่าเสียหายสำหรับ 6 คน มีเบียร์สด โค้ก และจิงเจอร์เอล (ไม่รวมในบุฟเฟ่ต์) ประมาณ หกร้อยกว่าหยวน ตกคนละ ไม่เกินร้อยหยวนค่ะ

ทานกันจนเหนื่อยก็กลับมานอนพักที่โรงแรมเพราะพรุ่งนี้เราต้องไปลุยช้อปปิ้งกัน เก็บแรงไว้ก่อนดีกว่าเนาะ

เก้าโมงเช้าหลังอาหารเช้าที่โรงแรม พลพรรคก็พร้อมจะเสียตังช้อปปิ้งที่ตลาดขายส่งชื่อว่า Wu ai market (บล็อกหน้าจะเอามาให้ชมกันค่ะ)

ช่วงเที่ยงมีเพื่อนฝรั่งเศสนัดไปทานอาหารไทยกันที่ร้านชื่อ ร้าน Sawasdeeka หรือ สวัสดีค่ะ ได้คุยกับพ่อครัวไทย เค้าบอกว่า ในเสิ่นหยางมีร้านไทยอยู่ 3 ร้านค่ะ มีร้านนี้ร้านเดียวที่มีพ่อครัวไทย ตัวพ่อครัวเองก่อนจะมาเสิ่นหยางก็ย้ายมาจากกวางเจา ฮาร์บิน และล่าสุดที่เซี่ยงไฮ้ เคยอยู่ที่ร้านทั้งฝั่งผู่ชีและผู่ตง ก่อนมาที่เสิ่นหยางนี่เคยอยู่ร้านชื่อ สวัสดิราช ตรง Xujiahui ซึ่งปิดไปแล้ว (เอ...จะสั่งอาหารดีมั้ยนะ ชักหวาดๆ แฮะ)

แต่เท่าที่ชิมอาหารไป ต้มยำกุ้ง ไก่ย่าง เปาะเปี๊ยะทอด ข้าวตังหน้าตั้ง ส้มตำ ผัดผักไฟแดง ทอดมันกุ้ง ก็รสชาติใช้ได้ พอให้หายคิดถึงบ้านค่ะ แม้ว่าจะรสอ่อนไปหน่อย เพราะมีทั้งฝรั่งเศสและจีนทานด้วยกัน

อาหารแต่ละจานราคาก็ประมาณ 28-45 หยวนค่ะ จัดว่าไม่แพงเพราะปริมาณที่ให้มามากกว่าที่เซี่ยงไฮ้เยอะค่ะ แถมยังมีอาหารนอกเมนูที่สามารถสั่งได้ด้วยนะคะ

แต่ที่แปลกคือ พ่อครัวเค้าเดินกลับเข้ามาคุยในห้องว่า เค้ารู้สึกคุ้นหน้าเราสองคนมาก มาเพื่อถามว่าเราอยู่แถวไหนกัน พอบอกว่าอยู่ไหนเค้าก็บอกว่า เค้าเคยเป็นวินมอเตอร์ไซค์อยู่แถวนั้นแหละ ใกล้ๆ ร้านที่เราไปซื้ออาหารบ่อยๆ เลย โลกมันช่างกลมจริงๆ

ส่วนมื้อเย็นตกลงกับคุณฝาละมีไว้ว่าจะไปทาน Hotpot กัน (สุดท้ายเค้าก็ต้องลาศีลแปดเพราะมาต่างประเทศนี่ล่ะค่ะ น่าสงสารเค้าเหมือนกันต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่หมดเลย) อยากจะเปรียบเทียบว่าระหว่างที่เซี่ยงไฮ้กับเสิ่นหยางซึ่งอยู่ทางเหนือนี่ จะต่างกันมากมั้ย

ระหว่างทางไปเจอมอเตอร์ไซค์ดีไซน์เก๋ค่ะ มีปลอกแขนให้สวมเวลาขี่ด้วย



ร้านนี้ชื่อ Cheng huo guo (เฉิงหั่วกัว) ค่ะ



อุตส่าห์ไปตั้งแต่ห้าโมงเย็น มองข้างนอกเหมือนไม่มีคนเท่าไหร่เลยค่ะ



พอเข้ามาเท่านั้นแหละ


ที่เห็นน่ะแค่ส่วนหนึ่งของคิวนะคะ

ระหว่างรอ มาป้ายร้านกันดีกว่า


รอไปได้ครึ่งชั่วโมง คุณฝาละมีเห็นว่าจะได้โต๊ะแล้ว เลยไปสั่งอาหารรอไว้เลย ไม่งั้นเดี๋ยวจะช้า (จริงๆ กลัวจะช้าเพราะคุยกันไม่รู้เรื่องมากกว่าค่ะ
)

หม้อและอุปกรณ์พร้อมน้ำจิ้ม มาก่อนเลยค่ะ


ถ้วยหน้าสุดเป็นถั่วค่ะ ถ้วยที่สองเป็นน้ำจิ้มถั่ว รสออกเค็มๆ แต่ไม่เผ็ดเลย ถ้วยที่สามเป็นน้ำมันงาผัดกระเทียม หอมมาก (แต่ต้องมีพริกด้วยแน่ๆ เพราะมันแอบมีเผ็ดๆ ค่ะ แต่เรามองไม่เห็น) ถ้วยสุดท้ายเป็นพริกผัด (แบบพริกเซี่ยงไฮ้ทั่วๆ ไป รสออกเค็มเด่ เผ็ดโด่ง)

ลองสังเกตที่หม้อทางด้านขวาที่เป็นน้ำมันพริกนะคะ มาแบบยังเป็นไขแข็งๆ อยู่เลยค่ะ (ถ้าไปจับที่เส้นเลือดเรา... ไม่อยากจะจินตนาการเล้ยยย Supralip ก็ละลายไม่ไหวแน่ๆ)

ส่วนข้างซ้ายนั้น น้ำซุปไม่ยักเหมือนที่เซี่ยงไฮ้ค่ะ มันใสๆ ไม่ข้าวขุ่นข้นและหวานหอมแบบทางใต้ (เลยทานได้คล่องคอกว่าค่ะ)

น้ำเริ่มเดือดแล้วค่ะ ปุดๆ


อันนี้ผักอะไรก็ไม่ทราบค่ะ ชี้ๆ เอาจากโต๊ะข้างๆ ใครทราบว่ามันเรียกว่าอะไร รบกวนช่วยบอกด้วยค่ะ ส่วนรสชาติก็ธรรมดาค่ะ ไม่มีกลิ่นอะไรน่ากลัว



ที่สั่งไปก็มี ลูกชิ้นปลา เนื้อปลา เนื้อแกะ เนื้อหมู เต้าหู้ก้อนๆ (เรียกว่า Dong tofu) แผ่นฟองเต้าหู้ แล้วก็เห็ดหอมสด แต่ละจานก็ใหญ่ไม่ใช่เล่นค่ะ



จริงๆ แล้วคุณฝาละมีสั่งปลามาอีกจานหนึ่ง ซึ่งไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เค้าสั่งมาเพราะเห็นทีแรกนึกว่าเป็นผักราดด้วยเต้าหู้ยี้ แต่จริงๆ แล้วเป็นปลาไหลค่ะ คาดว่าจะสดมาก เพราะเนื้อที่เค้าแล่มาวางที่โต๊ะยังกระดกหางชูขึ้นมาได้ ทั้งๆ ที่โดนแล่มาแล้ว

มันทำให้สาวไทยคนหนึ่งกรี๊ดสนั่นร้าน และเกือบกระโดดขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ (ร้านที่มีแต่คนจีนซึ่งขึ้นชื่อว่าเสียงดังล้งเล้งที่สุดในโลก กลับเงียบสงัดในพริบตา) และอาหารมื้อนี้เกือบจะต้องทิ้งทั้งหมด ลองนึกดูสิคะ ว่านั่งๆ อยู่ดีๆ ก็มีหางปลาที่แล่แล้วชูเด่นขึ้นมาจากจานเหมือนหัวงูกำลังเลื้อยเป๊ะเลย จะรู้สึกยังไงกันบ้าง.....

ดังนั้น ขอเตือนไว้ล่วงหน้าว่า ใครก็ตามที่ไม่อยากฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมาเป็นอาหารโดยไม่ได้ตั้งใจ กรุณาอย่าสั่งปลาที่เมืองจีนทานเด็ดขาดค่ะ เพราะเค้าจะเอาปลาเป็นๆ มาทำซะเป็นส่วนใหญ่ ศีลที่ถือกันมาขาดกระจุยในคืนเดียว

หลังจากนั่งหอบ และเสียใจกับการสั่งปลาตัวนั้นอยู่ครึ่งชั่วโมง พนักงานก็เข้ามาปลอบเป็นภาษาจีนค่ะ เค้าคงไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็พยายามมาก จะไม่ทานก็กลัวเค้ารู้สึกไม่ดี แถมฝาละมีก็คงจะต้องอดมื้อเย็นไปด้วย เลยต้องเริ่มค่อยๆ ทานจากเต้าหู้และเห็ดค่ะ

เต้าหู้แบบนี้ที่เรียกว่า Dong tofu ค่ะ อร่อยมากกกก มันจะดูดน้ำซุปเอาไว้ เวลากัดเข้าไปตอนร้อนๆ ล่ะ อื้มมมมม.....


ปากพองงงงงงงงงงง



หม่ำด้วยกันนะคะ เนื้อแกะค่ะ อะ....อ้ำ...


ค่าเสียหาย Hotpot มื้อนี้ แค่ 68 RMB. ค่ะ ถูกกว่าที่เซี่ยงไฮ้ประมาณ 3 เท่า (แค่นั้นเอ๊งงงง) แต่รสชาติซุปพริกที่นี่เผ็ดกว่าที่เซี่ยงไฮ้เยอะมากค่ะ ทั้งที่มีพริกกับเมล็ดหมาล่าลอยมาให้เห็นน้อยมาก (หลอกตานิ) ตอนเช้าตื่นขึ้นมาพร้อมกับท้องที่ยังร้อนอยู่ เลยต้องรีบลุกไปทานอาหารเช้าตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมงดีเลยค่ะ



Create Date : 06 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 29 มีนาคม 2550 16:36:52 น. 3 comments
Counter : 742 Pageviews.

 
เห็นแล้วหิว


โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2549 เวลา:11:53:18 น.  

 
โอย....รอคิวขนาดนั้น หายหิวไปเลยค่ะ


โดย: Htervo วันที่: 6 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:20:00 น.  

 
มาอีกแล้วค่ะ ตามมาเที่ยวแน่นอนไม่พลาดแน่ค่ะ ตามฉายา กิน ๆ เที่ยว ๆ (ทำงานเบื่อแล้ว)


โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ วันที่: 6 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:23:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

L@st love
Location :
Shenyang China

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




ที่ว่า พลัดถิ่น กิน เที่ยว ช้อปฯ ไปกับรักครั้งสุดท้าย เพราะรักครั้งนี้พาระหกระเหินไปโน่นมานี่ อยู่ตรงโน้นนิด ตรงนี้หน่อยไปเรื่อยเปื่อยค่ะ

จึงพอจะเข้าใจความรู้สึกของคนที่ต้องพลัดจากบ้านไปอยู่ถิ่นที่ไม่คุ้นเคย อาหารที่ชอบก็หาไม่ค่อยได้ ของที่เคยใช้ก็ไม่ค่อยอยากจะมีให้ซื้อ ฯลฯ

บล็อกนี้เลยถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2549 เพราะคิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์กับคนที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกันบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องทางจีนๆ ก็แหม...ทางตะวันตกน่ะ หาอะไรก็ง่ายอยู่แล้วนี่คะ รู้ภาษาอังกฤษซะอย่างไปไหนก็เอาตัวรอดได้

หลังจากแว่บไปเก็บความรู้ตามบล็อกตกแต่งต่างๆ แล้ว ปริมาณเทคโนโลยีในสายเลือดก็ค่อยเพิ่มขึ้นมาในระดับหนึ่ง ตอนนี้จึงมีบล็อกที่ทำสำเร็จหลายบล็อกเลยค่ะ (ขอบคุณป้ามดและอีกหลายท่านค่ะ)

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามา เชิญไปเที่ยว ชม ช้อปฯ และชิมด้วยกันเลยค่ะ มีคำแนะนำ ติ ชมอย่างไร ฝากข้อความมาได้เลยนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักและรับทุกความเห็นค่ะ





สงวนลิขสิทธิ์ ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537

ภาพและบทความบนเวบไซต์แห่งนี้ จัดทำเพื่อเผยแพร่บนเวบ bloggang.com และ pantip.com เท่านั้น

"ห้ามนำภาพ ข้อความ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของภาพ และ/หรือ ข้อความในเวบไซต์แห่งนี้ไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากละเมิดจะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด"
Friends' blogs
[Add L@st love's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.